คนเราจะมีความยุติธรรมได้...ต้องมีธรรมกับตัวพอสมควร

ดังนั้น..คนที่ว่าตัวเองมีธรรมะ..นะ...ก็ต้องยุติธรรมด้วย...เช่นกัน

จั่วหัวใว้แค่นี้แหละคับ...


แยกมาตั้งกระทู้...ให้คุณแสงฯ..เฉย ๆ..

แรกๆว่าจะไม่ตั้งหรอก..เกรงจะไปกันใหญ่...พอเห็นความเห็นคุณ student เลยมาตั้งซะเลย..

....................


....................

ทำได้เท่าที่ทำได้ ศาสนาพุทธให้เอาตัวรอดให้ได้ก่อนเมื่อรอดแล้ว. จะช่วยก็ช่วย ไม่ช่วยกก็ไม่เป็นไร

ความเห็นผมเกี่ยวกับ ศาสนาประจำชาตินั้น

ก็เหมือนนักรบที่ฝ่าฟัน มีอาวุธ มีเครื่องแบบ เมื่อเดินท่ามกลางหมู่ชน คนก็รู้ว่าเป็นนักรบ

นักรบคนนั้นไม่จำเป็นต้องบอกใครๆว่า ข้าคือนักรบ

เหมือนประเทศไทยเรา ทั่วโลกรู้หมดว่าประเทศไทยเราเป็นพุทธ

มีพระ มีวัด มีการสังคายนาพระไตรปิฎก4ครั้งที่ผ่านมา จนหลายประเทศต้องมาขอยืมเป็นต้นแบบ

ครั้งหลังสุดในปี2530

ทั่วโลกก็รู้แล้ว ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คนไทยทั้งหลายไม่อยากให้ขึ้นชื่อว่าเป็นศาสนาประจำชาติ

แต่อยู่ที่รัฐบาลไม่หยั่งเสียงประชาชนส่วนมาก มันเป็นปัญหาการเมือง คนไทยเราไม่ใช่เหตุของปัญหา

และการเมืองไทยเราก็กระท่อนกระแท่น จัดความสำคัญแบบแปลกๆ อะไรที่ไม่สำคัญก็เอาเป็นเรื่องใหญ่ แต่อะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ก็สามารถมองเป็นเรื่องเล็กน้อย

ในต่างประเทศ เช่นอเมริกา เขามีพรรคการเมืองที่ชี้จุดมุ่งหมายลงไปเลยว่า พรรคนี้รักษาแนวทางดั้งเดิมของอเมริกา เช่น รัฐนี้คนถืออาวุธปืนโดยถูกกฎหมาย เป็นแนวคิดดั้งเดิมตั้งแต่ก่อตั้งอเมริกา


อีกพรรคหนึ่งพยายาม ban และตั้งกฎหมายให้อาวุธปืนถูกควบคุมเพราะเป็นอันตรายต่อชาวบ้าน

แต่พรรคนี้ก็จะย้อนกลับมาว่า ไปอ่านบทบัญญัติการตั้งประเทศอเมริกา การควบคุม ผิดหลักการของเสรีภาพอะไรประมาณนั้น

และทุกๆปี ทุกเดือนพฤจิกายน จะมีการเลือกตั้ง การเลือกตั้ง ไม่ได้หมายถึงเลือกคนไปทำหน้าที่อย่างเดียว แต่ประชาชนยังได้ออกเสียงว่า ในเมืองของตนเองนั้น ต้องการหรือไม่ต้องการอะไร

เช่น สถานีตำรวจ ต้องการรถตำรวจเพิ่ม 100คัน งั้นต้องรอเดือน พฤจิกายน ฤดูเลือกตั้งให้คนในซาน ฟรานซิสโก ได้ออกเสียงว่า ตำรวจต้องการงบ 5ล้านดอลล่าห์สหรัฐ ไปซื้อรถตำรวจ กาลงในกระดาษว่า yes or no ผ่านคือyes ไม่ผ่านคือ no

ที่ยกมาคือการชี้ให้เห็นปัญหาของการเมืองไทย ที่กระจายไปถึงมือประชาชนไม่ได้ ประชาชนไม่ได้ข่าวสารว่าจะเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่อาศัยตนเอง เวลาจะสร้างเขื่อน ก็ตัดสินใจกันเอง ไม่ให้ประชาชน vote ออกเสียง ว่าประชาชนที่กระทบ กี่จังหวัดก็ว่าไป ยินยอมให้สร้างเขื่อนไหม

และอีกประเด็น เวลาเปลี่ยนนโยบายการปกครอง รัฐบาลก็เปลี่ยนซะงั้นๆ ไม่ผ่านขบวนการศาลปกครอง ที่รักษาแบบแผนความเป็นไทยเอาไว้

จึงกล่าวได้ว่า การเมืองไทยนั้นอ่อนแอมาก เหมือนจับมือเด็กป.1 เขียน ก เอ๋ย ก ไก่

ส่วนคนไทยเรา ได้แต่รออนาคต เวลาไม่พอใจแนวทาง ก็ออกมาเดินประท้วง ทำไม คนไทยเราเป็นประชาธิปไตย ต้องออกมาเดินประท้วง เพราะไม่มีโอกาสออกเสียงเลือกตั้ง เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบายให้เกิดการ vote เวลาจะทำอะไรก็ตามแต่
แม้กระทั่ง การที่จะเลือกว่า ให้เอา ศาสนาพุทธ เป็น ศาสนาประจำชาติ ถ้าให้ประชาชนออกเสียง มันผ่านไปตั้งนานแล้ว ทีนี้ทำไงล่ะ ก็ล่ารายชื่อคนให้ครบ 1ล้านคนก็ว่าไป
การล่ารายชื่อคน ไม่เป็นการแสดงให้เห็นว่าการเมืองพัฒนาแล้ว ถ้าการเมืองพัฒนา มันต้องไม่ล่ารายชื่อ ให้ประชาชน vote เลย ออกเสียงเลยว่า yes or no เหมือนอเมริกาที่ทำทุกๆปี

ที่เขาล่ารายชื่อ เขาล่ารายชื่อในรูปแบบอื่นเช่น ต้องการให้รัฐบาล ออกกฎหมายคุ้มครองปลาวาฬ หรือ อื่นๆที่กฎหมายยังไม่มี แต่ก่อนจะมีก็ต้องให้ศาลสูงพิจารณาว่า สมควรให้ประชาชนออกเสียงเลือกตั้งไหม ว่าเราจะออกเสียง yes or no ให้ผ่านกฎหมายคุ้มครองปลาวาฬ

ไม่ใช่แบบไทยเรา เวลามีปัญหา คนไทยหันหน้าไปพึ่งใครไม่ได้ ต้องรวมกันล่ารายชื่อ มันใช้ไม่ได้ แล้วจะเรียกประชาธิปไตยทำไม ในเมื่อ คนไทยออกเสียงได้เฉพาะเลือกตั้ง ส.ส.
อเมริกาเลือกตั้งให้คนไปนั่งเก้าอี้ทำหน้าที่ประสานงาน ไม่ใช่ให้ทำหน้าที่ตัดสินใจแทนประชาชน ให้อำนาจอยู่ที่ ส.ส. มันใช้ไม่ได้ อำนาจมันต้องอยู่ในมือคนไทย

ถ้าอำนาจอยู่ในมือคนไทย ต่อไปคนไทยก็ไม่ต้องไปตั้งโต๊ะล่ารายชื่อตามมีตามเกิดอีกต่อไป

ก็ให้มันรู้ไปว่า หากให้ประชาชน vote ออกเสียง yes or no ว่าสมควรให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ แล้วมีคนมายัดเงินแล้าบอกว่า vote no นะครับป้า vote no อย่าvote yes จะได้รู้กันว่าใครกันถึงไม่อยากให้ใส่พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ

ผมคิดว่าความคิดของคุณแสงฯ..ไม่ถูกต้อง...มองแบบเลือกมอง..เลือกนำเสนอ..

มองหน้าแล้วตีรันฟันแทงกัน..นั้นนะ...มันไม่รู้หรอกว่าอีกคนที่มันมองนั้นนับถือศาสนาอะไร

สนุกแต่นั่งคิดอยู่คนเดียว...มองมุมเดียว..เลือกมองเฉพาะมุมที่อยากมอง...นะคุณแสงฯ

คนมีธรรม...ก็ต้องยุติธรรมด้วย..

แม้แต่ความยุตธรรมก็ยังไม่มี....ก็ไม่ต้องไปพูดถึงว่ามีธรรมไม