วันเวลาปัจจุบัน 10 ส.ค. 2025, 04:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มี.ค. 2016, 17:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

เห็นแล้วเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก ธรรมะยากๆ ก็ได้พระสุปฏิปันโน มาย่อยธรรมให้เข้าใจง่ายขึ้น..

Nation TV - เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย

เมื่อเวลา 04.10 น. วันนี้ (16 มี.ค.) พระญาณวิศิษฏ์ (หลวงพ่อทอง จนฺทสิริ) เจ้าอาวาสวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ซึ่งล้มป่วยโรคมะเร็งในลำไส้ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชมานานหลายปี ได้มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 83 ปี 10 เดือน 16 วัน โดยบวชมานานกว่า 62 พรรษา การสูญเสียหลวงพ่อทองสร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับลูกศิษย์เป็นอย่างมาก โดยเวลา 13.30 น. ลูกศิษย์ได้เดินทางมาที่ตึกอดุลยเดชวิกรม โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรับศพกลับไปที่วัดอโศการาม เพื่อสวดพระอภิธรรมศพในเวลา 15.00 น. และจะพิธีอาบน้ำศพในเวลา 17.00 น. วันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเตรียมงานที่วัดอโศการาม ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงพระลูกวัดและชาวบ้านที่เคารพนับถือหลวงพ่อทอง เดินทางมาจัดเตรียมสถานที่ตั้งศพบนศาลาทรงธรรม ซึ่งจะมีการตั้งสวดพระอภิธรรมอย่างน้อย 100 วัน โดยขณะนี้คณะกรรมการวัดได้กางเต้นท์ และขึงผ้าใบเพื่อให้ประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานได้ใช้หลบแดดเป็นทางยาวทั้งนี้ สำหรับประวัติของหลวงพ่อทอง เกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2475 ครอบครัวเป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาด้วยกันทั้งหมด 9 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 6 ต่อมาครอบครัวย้ายมาอยู่ ณ ต.วังใหญ่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ในชีวิตวัยเยาว์ ท่านศึกษาจบเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ต้องเลิกเรียนกลางคันเพื่อมาช่วยเหลือทางบ้านทำนา ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ. 2494 ขณะมีอายุได้ 19 ปี ณ วัดป่าคลองกุ้ง ต.ตลาด อ.เมือง จ.จันทบุรี ต่อมาเมื่อมีอายุได้ 21 ปี ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ. 2496 ก่อนย้ายไปพักจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาแก้ว ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

หลวงพ่อทองได้ศึกษาธรรมะและการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงพ่อลี ธมฺมธโร ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาแท้ๆ ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2534 ท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปที่  3  ของวัดอโศการาม โดยได้รับตำแหน่งสืบต่อจากพระเทพโมลี (สำรอง คุณวุฑฺโฒ) มาจนถึงปัจจุบัน  หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2535 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ "พระญาณวิศิษฏ์"  

หลวงพ่อทองเป็นพระนักเทศน์รูปหนึ่ง ท่านมักจะเน้นเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน หลวงพ่อทองเคยกล่าวไว้ว่า "การฝึกธรรมมะ ต้องรู้จักการฝึกความอดทนไว้ก่อน และต้องมีสติด้วย เพราะมนุษย์ไม่มีจุดยืนในความคิด ชอบใช้สติปัญญาของตนไปตัดสินโดยการสังหารกิเลสของตนเอง เมื่อสมาธิเป็นสมถะจิตจะบังเกิดความสงบ อย่างบางคนบอกอะไรอนิจจัง อะไรไม่เที่ยง อะไรก็อยู่ไม่ได้ อะไรแตกดับ ทำไมไม่ถึงวิปัสสนา เพราะใจมันยังไม่มีสมถะ ใจมันไม่นิ่ง ใจมันส่ายไปมา พอใจหยุดนิ่ง สิ่งที่เห็นคือพระ สิ่งที่เห็นด้วยใจ ไม่ได้เห็นจากดวงตา สิ่งที่มันเกิดคือผู้รู้แท้ ถ้ารู้ใจเจ้าของคือผู้รู้ตน ใจก็อยู่ที่ใจ ไม่ใช่เอาใจไปไว้ที่หัวหรือบนผม รู้จักที่มาที่ไป ไม่ใช่ไปรู้ตามหนังสือที่เขียน แล้วก็หอบสังขารไป"

รูปภาพ
สรีระสังขารพระญาณวิศิษฏ์ (หลวงพ่อทอง จนฺทสิริ)


:b8: อ่านต่อที่ : http://www.nationtv.tv/main/content/social/378493953/

:: ประวัติ ปฏิปทา และคำสอน หลวงพ่อทอง จนฺทสิริ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20953

:: ประมวลภาพ “พระธุตังคเจดีย์-วัดอโศการาม”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=42731


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2016, 00:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2016, 01:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ขออนุญาต...จขกท.แนะนำทุกท่านขอขมากรรมค่ะ
ตั้งนะโม(3จบ)...แล้วขอขมาค่ะ
(แล้วกล่าว3จบ)
มหาเถเร ประมาเทนะ
ทะวาระตะเย นะกะตัง
สัพพังอัปราทัง ขะมะถะเมภันเต
(แล้วกราบ3ครั้ง)
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2016, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ขออนุญาต...จขกท.แนะนำทุกท่านขอขมากรรมค่ะ
ตั้งนะโม(3จบ)...แล้วขอขมาค่ะ
(แล้วกล่าว3จบ)
มหาเถเร ประมาเทนะ
ทะวาระตะเย นะกะตัง
สัพพังอัปราทัง ขะมะถะเมภันเต
(แล้วกราบ3ครั้ง)
:b8: :b8: :b8:


การขอขมานั้นก็เพื่อการอโหสิกรรม
การขอขมาต้องทำในขณะที่บุคคลที่เราต้องการขอขมายังมีชีวิต
นั้นก็เพื่อให้บุคคลนั้นกล่าวอโสิกรรมแกผู้ขอขมา
ถ้าบุคคลผู้ให้การอโหสิกรรม ไม่สามารถให้อโหสิกรรมได้ .....
การขอขมากับผู้ไม่มีชีวิตแล้วจึงเป็นเรื่องไร้สาระ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2016, 10:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ขออนุญาต...จขกท.แนะนำทุกท่านขอขมากรรมค่ะ
ตั้งนะโม(3จบ)...แล้วขอขมาค่ะ
(แล้วกล่าว3จบ)
มหาเถเร ประมาเทนะ
ทะวาระตะเย นะกะตัง
สัพพังอัปราทัง ขะมะถะเมภันเต
(แล้วกราบ3ครั้ง)


การขอขมานั้นก็เพื่อการอโหสิกรรม
การขอขมาต้องทำในขณะที่บุคคลที่เราต้องการขอขมายังมีชีวิต
นั้นก็เพื่อ ให้บุคคลนั้นกล่าวอโสิกรรมแกผู้ขอขมา
ถ้าบุคคลผู้ให้การอโหสิกรรม ไม่สามารถให้อโหสิกรรมได้ .....
การขอขมากับผู้ไม่มีชีวิตแล้วจึงเป็นเรื่องไร้สาระ


เป็นจิตวิทยา ทำเพื่อให้สบายใจ เขาตายไปแล้วก็ขออโหสิกรรมได้

ยกตัวอย่างให้เห็นชัดนะ สมมุติว่า โฮฮับตาย กรัชกายยังมีชีวิตอยู่ รู้ข่าว ก็คิดว่า เออนะ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เราสองคนเคยโต้เถียงกัน ฯลฯ อย่ากระนั้นเลย เพื่อให้สบายใจ ไหนๆโฮฮับก็ตายไปแล้ว ก็คิดนึกว่า อย่ามีเวรมีภัยต่อกันเลยโฮฮับ ที่แล้วมาให้แล้วๆไป จบๆขาดๆกันเสียแต่ชาตินี้แหละ อโหสิ จบ เห็นมะ ทำไมจะทำไม่ได้ :b1:

ไม่ใช่พูดเล่นนะ มีหลักฐานเทียบ การขอขมาพระรัตนตรัย ตัวอย่าง

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา
พุทเธ (ธัมเม สังเฆ) กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง
พุทโธ (ธัมโม สังโฆ) ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทธ (ธัมเม สังเฆ)

(หาคำแปลเอาเองเก่งนักนี่ คิกๆๆ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2016, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ขออนุญาต...จขกท.แนะนำทุกท่านขอขมากรรมค่ะ
ตั้งนะโม(3จบ)...แล้วขอขมาค่ะ
(แล้วกล่าว3จบ)
มหาเถเร ประมาเทนะ
ทะวาระตะเย นะกะตัง
สัพพังอัปราทัง ขะมะถะเมภันเต
(แล้วกราบ3ครั้ง)
:b8: :b8: :b8:

ต่างคนต่างใจ
ทำเนียมปฏิบัติ
ที่ครูบาอาจารย์
พระอริยะท่านนำ
พระสุปฏิปันโณท่าน
ละสังขารแล้วที่ดูภาพ
ล่วงเกินแล้วประมาทนัก
แม้ความน้อมจิตสัมมาคารโว
อยากทำแบบไหนคิดว่าทำได้รึ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2016, 11:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ขออนุญาต...จขกท.แนะนำทุกท่านขอขมากรรมค่ะ
ตั้งนะโม(3จบ)...แล้วขอขมาค่ะ
(แล้วกล่าว3จบ)
มหาเถเร ประมาเทนะ
ทะวาระตะเย นะกะตัง
สัพพังอัปราทัง ขะมะถะเมภันเต
(แล้วกราบ3ครั้ง)


การขอขมานั้นก็เพื่อการอโหสิกรรม
การขอขมาต้องทำในขณะที่บุคคลที่เราต้องการขอขมายังมีชีวิต
นั้นก็เพื่อ ให้บุคคลนั้นกล่าวอโสิกรรมแกผู้ขอขมา
ถ้าบุคคลผู้ให้การอโหสิกรรม ไม่สามารถให้อโหสิกรรมได้ .....
การขอขมากับผู้ไม่มีชีวิตแล้วจึงเป็นเรื่องไร้สาระ


เป็นจิตวิทยา ทำเพื่อให้สบายใจ เขาตายไปแล้วก็ขออโหสิกรรมได้

ยกตัวอย่างให้เห็นชัดนะ สมมุติว่า โฮฮับตาย กรัชกายยังมีชีวิตอยู่ รู้ข่าว ก็คิดว่า เออนะ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เราสองคนเคยโต้เถียงกัน ฯลฯ อย่ากระนั้นเลย เพื่อให้สบายใจ ไหนๆโฮฮับก็ตายไปแล้ว ก็คิดนึกว่า อย่ามีเวรมีภัยต่อกันเลยโฮฮับ ที่แล้วมาให้แล้วๆไป จบๆขาดๆกันเสียแต่ชาตินี้แหละ อโหสิ จบ เห็นมะ ทำไมจะทำไม่ได้ :b1:

ไม่ใช่พูดเล่นนะ มีหลักฐานเทียบ การขอขมาพระรัตนตรัย ตัวอย่าง

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา
พุทเธ (ธัมเม สังเฆ) กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง
พุทโธ (ธัมโม สังโฆ) ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทธ (ธัมเม สังเฆ)

(หาคำแปลเอาเองเก่งนักนี่ คิกๆๆ)

rolleyes
สำนึกดีอยู่ที่จิตไม่มีตัวตน
ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
เอาดีด้วยคิดเอง
ได้ตามที่คิดรึ
เอาดีใส่ตัว
ชั่วไปไหน
คิดดูสิ
ดีที่จิต
คิดดี
น๊า
:b16:
มีใครรองรับอารมณ์หยาบๆไหมใครรู้
:b44: :b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2016, 13:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:

การขอขมานั้นก็เพื่อการอโหสิกรรม
การขอขมาต้องทำในขณะที่บุคคลที่เราต้องการขอขมายังมีชีวิต
นั้นก็เพื่อ ให้บุคคลนั้นกล่าวอโสิกรรมแกผู้ขอขมา
ถ้าบุคคลผู้ให้การอโหสิกรรม ไม่สามารถให้อโหสิกรรมได้ .....
การขอขมากับผู้ไม่มีชีวิตแล้วจึงเป็นเรื่องไร้สาระ


เป็นจิตวิทยา ทำเพื่อให้สบายใจ เขาตายไปแล้วก็ขออโหสิกรรมได้

จิตวิทยาในทางพุทธถือเป็นความหลง พูดให้ชัดก็คือหลอกตนเอง
คนประเภทนี้ไม่มีวันเกิดปัญญา เพราะแทนที่จะพิจารณารู้เห็นธรรมไปตามความเป็นจริง

กรัชกาย เขียน:

ยกตัวอย่างให้เห็นชัดนะ สมมุติว่า โฮฮับตาย กรัชกายยังมีชีวิตอยู่ รู้ข่าว ก็คิดว่า เออนะ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เราสองคนเคยโต้เถียงกัน ฯลฯ อย่ากระนั้นเลย เพื่อให้สบายใจ ไหนๆโฮฮับก็ตายไปแล้ว ก็คิดนึกว่า อย่ามีเวรมีภัยต่อกันเลยโฮฮับ ที่แล้วมาให้แล้วๆไป จบๆขาดๆกันเสียแต่ชาตินี้แหละ อโหสิ จบ เห็นมะ ทำไมจะทำไม่ได้ :b1:


ไอ้เรื่องไม่เป็นเรื่องเก่งนัก :b32:


กรัชกาย เขียน:
ไม่ใช่พูดเล่นนะ มีหลักฐานเทียบ การขอขมาพระรัตนตรัย ตัวอย่าง

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา
พุทเธ (ธัมเม สังเฆ) กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง
พุทโธ (ธัมโม สังโฆ) ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทธ (ธัมเม สังเฆ)(หาคำแปลเอาเองเก่งนักนี่ คิกๆๆ)


ถามจริงมันขัดกับธรรมบทนี้หรือเปล่า

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2016, 18:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:

การขอขมานั้นก็เพื่อการอโหสิกรรม
การขอขมาต้องทำในขณะที่บุคคลที่เราต้องการขอขมายังมีชีวิต
นั้นก็เพื่อ ให้บุคคลนั้นกล่าวอโสิกรรมแกผู้ขอขมา
ถ้าบุคคลผู้ให้การอโหสิกรรม ไม่สามารถให้อโหสิกรรมได้ .....
การขอขมากับผู้ไม่มีชีวิตแล้วจึงเป็นเรื่องไร้สาระ


เป็นจิตวิทยา ทำเพื่อให้สบายใจ เขาตายไปแล้วก็ขออโหสิกรรมได้

จิตวิทยาในทางพุทธถือเป็นความหลง พูดให้ชัดก็คือหลอกตนเอง
คนประเภทนี้ไม่มีวันเกิดปัญญา เพราะแทนที่จะพิจารณารู้เห็นธรรมไปตามความเป็นจริง

กรัชกาย เขียน:

ยกตัวอย่างให้เห็นชัดนะ สมมุติว่า โฮฮับตาย กรัชกายยังมีชีวิตอยู่ รู้ข่าว ก็คิดว่า เออนะ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เราสองคนเคยโต้เถียงกัน ฯลฯ อย่ากระนั้นเลย เพื่อให้สบายใจ ไหนๆโฮฮับก็ตายไปแล้ว ก็คิดนึกว่า อย่ามีเวรมีภัยต่อกันเลยโฮฮับ ที่แล้วมาให้แล้วๆไป จบๆขาดๆกันเสียแต่ชาตินี้แหละ อโหสิ จบ เห็นมะ ทำไมจะทำไม่ได้ :b1:


ไอ้เรื่องไม่เป็นเรื่องเก่งนัก :b32:


กรัชกาย เขียน:
ไม่ใช่พูดเล่นนะ มีหลักฐานเทียบ การขอขมาพระรัตนตรัย ตัวอย่าง

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา
พุทเธ (ธัมเม สังเฆ) กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง
พุทโธ (ธัมโม สังโฆ) ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทธ (ธัมเม สังเฆ)(หาคำแปลเอาเองเก่งนักนี่ คิกๆๆ)


ถามจริงมันขัดกับธรรมบทนี้หรือเปล่า

รูปภาพ


โฮฮับ หมายถึงอะไร เป็นไปตามกรรมยังไง อธิบาย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร