แต่ก่อนเราจะเห็นภาพการสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็นในทางธรรมกันในบอร์ดค่อนข้างคึกครื้น

แต่เดี๋ยวนี้ การแลกเปลี่ยนความเห็นทางธรรมผ่านช่องทางเว็บบอร์ดกลับน้อยลง

เพื่อน ๆ คิดว่าเพราะอะไรเป็นปัจจัย

เช่น เอกอนสังเกตเห็นการเกิดขึ้นของกลุ่มธรรมบนเฟชบุ๊ค
และก็เห็นคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางนั้น

ซึ่งเอกอนก็ได้ผ่านตาเข้าไปอ่านบ้าง
แต่...
เอกอนก็รู้สึกว่า การสนทนาธรรมบนช่องทางนั้นมันหลากหลายเกิน
มีความแผลง มีความล่อเป้า ... มีความกำกวม ฯลฯ

เอกอนยังคงรู้สึกว่า การสนทนาธรรมในลานธรรมแบบนี้
คุณภาพการสนทนา ok กว่า

เพื่อน ๆ มีความเห็นยังไงกันบ้าง
ว่าทำไม การสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางธรรมบนเว็บบอร์ดจึงเบาบางไป

จะเป็นไปได้มั๊ยที่เราจะทำให้ลานธรรมกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง



ขอเสียงสหายธรรมร่วมสมัยหน่อย
ใครยังอยู่บ้าง ส่งสัญญาณหน่อย คิดถึง

พอดีมาร่วมในบอร์ดนี้ ตอนปลายสมัย เรยเจอแต่สมาชิกรุ่นตายายรุ่นป้ารุ่นลุงค่ะ
หารุ่นๆเดียวกันไม่มีเรย
เวลาผ่านไป อะไรก็เปลี่ยน

การสนทนาธรรมในบอร์ดนี้ ช่วงนั้นก็ยังพอคึกคัก มีความเห็นหลากหลายนานา
ต่างยึดหลักความถูกต้องตรงจริง มากบ้างน้อยบ้าง ตามสภาวะ โดยมีพระธรรมเป็นหลักที่สามารถตรวจสอบและหาความรู้เพิ่มเติมได้

ในช่วงนั้น ก็เห็นมีหลายคน ได้แอบผันตนไปเป็นเจ้าสำนัก สร้างเวปไซด์ของตนเองขึ้นมา
เพื่อเผยแพร่ตามแนวถนัด ตามลัทธิและอุดมการณ์ ขายวัตถุมงคลบ้าง จัดทั้วร์บูญประเภทต่างๆบ้าง
อวดอุตริธรรมมากมาย หาเงินจากบริจาค พอใจแต่คำสรรเสริญเยินยอเฉพาะสมาชิกที่เอาใจ
แล้วก็แบนสมาชิกที่แสดงความเห็นต่าง มีปิดกั้นความเห็นต่างโดยคิดว่า ตนเองถูกเสมอ ถูกที่สุด

จนบางครั้ง มีการแอบตัดต่อเปลี่ยนข้อความในความเห็นสมาชิกอื่นๆ
ถือตนว่า เป็นเวปไซด์ตัวเอง
ต้องแสดงตามแนวทาง ลัทธิ และสโมสรแบบตน ตามที่ตนเองพอใจเท่านั้น
กุมอำนาจเป็นใหญ่ในเวปนั้นๆลบ จะแบน จะตัดต่อข้อความ จะทำอะไรกับใครก็ได้
ในฐานะเจ้าของเวป แอตมินเวป

ต่อมาก็มีหลายๆคน ได้ใช้วิธีแสดงธรรมออกตามสื่อต่างๆเช่นเฟสบุค ตามลัทธิ ตามอุดมการณ์
ก็ทำนองเดียวกัน กับพวกไปสร้างเวปส่วนตัว
เพราะถืออำนาจว่า เป็นเฟสบุคส่วนตัว สร้างหน้าม้ามาเชียร์ตนเองแสวงหาชื่อหาเงินทอง
ไม่ได้คำนึงว่าธรรมที่แสดงนั้น ถูกต้องตามหลักพระธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้จริงๆหรือไม่
และพวกนี้ ก็ไม่สนใจที่จะปรับปรุงตัวเองให้ถูกต้อง
สภาพจึงเป็นน้ำชาเต็มล้นถ้วย และกระจายความรู้ผิดๆออกไปทั่ว

หลังพุทธกาล ระดับธรรม และศีลธรรม ของผู้คน ก็จะตกต่ำไปเรื่อยๆ พวกนี้จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นๆ
ถ้าไม่นำพระธรรมที่ถูกต้องตามจริงในพระไตรปิฎก พระอภิธรรม พระสูตร พระวินัยและอื่นๆ มาน้อมไส่เศียรเกล้าตนแล้ว
ความเห็นผผิด ความตกต่ำจะมากขึ้นๆ จนสิ้นพุทธกาลไปค่ะ

ค่ะ จริงอย่างที่น้องเมกล่าว

เวลาที่เห็นการสนธนาธรรมบนเฟส
พี่เอกอนยังคิดอยู่ว่า
หากเข้าไปร่วมวงสนทนา จะได้ความสงบใจ
หรือจะได้ความหงุดหงิดสับสนใจ ความหลงผิดเป็นของแถมกันแน่

พอเห็น ก็ทำให้นึกถึงที่แห่งนี้
และสหายธรรมในที่แห่งนี้ทุกที่

ช่วงนี้พี่เอกอนค่อนข้างล้าจากการกรำศึกกับงานมากเกินไป
ก็นึกถึงที่นี่ล่ะ
ลานธรรมที่เข้ามาแล้ว รู้สึกดี

ความสงบอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่สิ่งแวดล้อมอื่นๆภายนอกค่ะ
งานหลักทำงานแต่ที่ใจ ไม่ได้ทำแต่ที่ทำงาน
แต่งานหลักต้องทำๆๆ ทำตลอดเวลา ทุกที่ทุกเวลา
ศึกสงครามที่หนักหนาสาหัสที่สุดในสามโลก คือ ศึกสงครามเพื่อสิ้นภพสิ้นชาติค่ะ

นึกย้อนกลับไปรู้สึกตลกตัวเองหรือจะสงสารดี
ที่เหมือนลงไปตลุมบอนกับชาวบ้าน โดนทั้งใบเหลือง ใบแดง


เวลาผ่านไปจริงจังกับชีวิตมากขึ้น
หมดสนุกแบบนั้นละ

ยังเข้ามาเรื่อยๆครับ ไม่ได้หายไปไหน ได้เรียนรู้ธรรมไปเรื่อยๆ ได้สังเกตุ ได้รู้บ้างตามสำควรแก่ธรรม ต้องขอบคุณสมาชิกทุกท่านในยุคนั้นที่เป็นแรงผักดันให้ตั้งมั่นในการศึกษา ในยุคนี้ มีช่องทางดูข่าวสารเยอะขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในกลุ่มตอนนั้น ป่านนี้ ตัวเราเองคงจะเชื่อในเรื่องทรงเจ้า เข้าทรง ผีสิง สารพัดข่าวสาร ต้องขอบคุณช่วงเวลานั้น ตัวเราแข็งแกร่งเกินกว่า ความเชื่อในสิ่งเหล่านี้จะเข้าครอบงำ ไม่ตกอกตกใจมีความมั่นใจในการใช้ชีวิต มีความแยกแยะกลุ่มคน ใครโกหกลวงโลก ใครจริงใจกับผู้ศึกษาธรรมะ ใครเผยตัวตน ตัวเราไม่ได้คิดว่าเป็นผู้รู้ไปเสียหมด แต่แยกแยะได้ใครที่หลอกลวงในโลกยูทูป ใครที่จริงใจ ใครเดินสายกลางมากที่สุด ขออนุโมทนากับยุคปัจจุบันที่พระเนื้อดียังมีอยู่ พระที่คิดว่าจะดี กลับอาจจะเป็นผู้ทำลายพุทธศาสนาเสียเอง พระที่ยัคนั้นเรายังไม่รู้จัก ได้ปรากฏออกมาให้เห็นที่สามารถจรรโลงพุทธศาสนาให้สืบสานต่อไปได้ ส่วนจะเป็นใครบ้างนั้น ไม่สามารถลงชื่อในที่นี้ เพราะอินทรีย์ต่างกัน แต่ขอเพียงเกร่นไว้ว่าในช่องยูทูปใครที่คิดว่ามีญานยั่งรู้ว่า มีผีปรากฏ มีเรื่องราวปรากฏ มีคนโดนของโดนคุณไสย์ต่างๆนาๆ ขอให้อย่าพึ่งปรักใจเชื่อ เขาเหล่านั้นเข้ากูเกลิ้นดูประวัติวัดต่างๆในประเทศไทยภายในไม่กี่วินาที วัดนั้นเป็นงั้น มีนั่นนี่ เขากูเกิ้ลรู้หมด ทำให้เราอ้าปากค้างเขารู้ได้ไง ก็กูเกิ้ลนี่แหละ เขาศึกษาก่อนออกรายการเพื่อมาหลอกคนดู อย่าพึ่งปรักใจเชื่อพวกนี้

ต๊ะเอ๋

เวลาเปลี่ยน รูปแบบก็เปลี่ยน 
เป็นดังนั้นจริงๆค่ะ

เพราะเมื่อมีกาลเวลา ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนไป ไม่คงทนถาวร 
ความหลงผิด ความไม่รู้ ความรู้ ตามเปอร์เซนต์ ก็เกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป

สังขาร วิญญาณ นามรูป และอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน น้ำหนัก ปริมาณ เปอร์เซนต์ ไม่เคยเท่ากัน 
สิ่งเหล่านั้น แถมยังถูกบรรจุด้วยรูปปรมาณู ที่หมุนวนรอบ นิวเคลียส แกนกลาง 

เรามัวนั่งดู พระอาทิตย์ตก พระอาทิตย์ขึ้น 
มองแต่นาฬิกา ว่าเวลานี้ บาตรเช้า เพล ทำวัตร สวดมนต์ ทำงาน พักกาแฟ และอื่นๆ
ตกอยู่ไต้อำนาจแห่งเวลาไม่จบสิ้น

แม้แต่เวลาปฎิบัติ ก็คอยมองว่า กี่นาที กี่ชั่วโมง
ก็ตกภายไต้อำนาจเวลา 
มีเวลาก็ทำ ไม่มีเวลาก็ทำ แต่ก็ต้องทำ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ และก็ทำตลอดเวลา 

ต่างๆเหล่านั้น ล้วนเป็นวิถีจิต ที่เกิดทั้งปัญจทวารและมโนทวาร
ที่หมุนวนไปเกิดดับ พร้อมปรมาณูและจิตหนึ่งวิถีจิต 

สังขารของภวังค์ก็ยังหมุนไปตามกาลเวลา แต่ระยะเวลา ไม่เคยเท่ากัน ดังพระอาทิตย์ขึ้นและตกไป 
เป็นมูลตันไตร มูลการดั้งเดิมแห่งสังสารวัฎ และที่สุดแห่งสังสารวัฎ

ไม่มีวิธีใดๆ ที่จะขจัดเสียซึ่งความปรุงแต่งเหล่านั้น 
นับว่า เป็นการประหยัดเวลา ที่จะหมุนต่ออย่างแรงของรูปปรมาณู 

เหมือนพัดลม เมื่อหมุนอย่างแรง เราก็ไม่เห็นใบพัด 
มีคนไม่รู้หลายคนมากมาย  เอานิ้วทดลองแหย่ใบพัดลม 
แต่เมื่อพัดลม หมุนช้าลง ความชัดเจนก็จะปรากฏ
โดยไม่ต้องเสียนิ้วไป