วันเวลาปัจจุบัน 25 ก.ค. 2025, 05:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2017, 11:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


เราคงเห็นตัวอย่างมามากต่อมากถึงคำว่า อยากมีอยากได้

ยังมีตัวอย่างที่เป็นสาเหตุแห่งทุกข์ในแง่ความไม่อยากมีอยากได้

ความไม่อยากมีอยากได้นั้นจัดเป็นสมุทัย

ในชีวิตประจำวันนั้นจะประสบมากที่สุด

เนื่องจากกระแสของชีวิตนั้นคือดิ้นรนอยู่กับความเป็นฆราวาส

ไม่อยากเห็นรถบรรทุกมากมายบนถนน

ไม่อยากเห็นกิ่งไม้บ้านข้างๆโผล่เข้ามาบ้านเรา

ไม่อยากให้มีขี้ยา ไม่อยากให้มีนั่นมีนี่

มันเป็นความไม่อยาก

แต่การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก็มีทาง แต่เป็นทางที่ต้องเสียสละ เช่น เสียสละตัวเองเพื่อสังคม เสียสละเวลา

คำว่าเสียสละจึงเป็นธรรมะที่สำคัญ ที่สามารถแก้ไขทุกข์ได้ เพราะจัดเป็นทางแห่งกุศล

เสียสละจึงเป็นธรรมะที่เป็นมรรคโดยตรง

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2017, 14:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
เราคงเห็นตัวอย่างมามากต่อมากถึงคำว่า อยากมีอยากได้

ยังมีตัวอย่างที่เป็นสาเหตุแห่งทุกข์ในแง่ความไม่อยากมีอยากได้

ความไม่อยากมีอยากได้นั้นจัดเป็นสมุทัย

ในชีวิตประจำวันนั้นจะประสบมากที่สุด

เนื่องจากกระแสของชีวิตนั้นคือดิ้นรนอยู่กับความเป็นฆราวาส

ไม่อยากเห็นรถบรรทุกมากมายบนถนน

ไม่อยากเห็นกิ่งไม้บ้านข้างๆโผล่เข้ามาบ้านเรา

ไม่อยากให้มีขี้ยา ไม่อยากให้มีนั่นมีนี่

มันเป็นความไม่อยาก

แต่การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก็มีทาง แต่เป็นทางที่ต้องเสียสละ เช่น เสียสละตัวเองเพื่อสังคม เสียสละเวลา

คำว่าเสียสละจึงเป็นธรรมะที่สำคัญ ที่สามารถแก้ไขทุกข์ได้ เพราะจัดเป็นทางแห่งกุศล

เสียสละจึงเป็นธรรมะที่เป็นมรรคโดยตรง


เรามักจะรู้กันว่าความอยากหรือตัณหา คือ ตัวสมุทัยสัจจ์
แท้จริงแล้วความไม่อยากก็เป็นตัวตัณหา คือ ตัวสมุทัยสัจจ์ เช่นเดียวกัน
เช่น ไม่อยากเห็นกิ่งไม้บ้านข้างๆโผล่เข้ามาบ้านเรา แท้จริงก็ตัว อยาก อยากให้ไม่มีกิ่งไม้โผล่เข้ามาบ้านเรา

ไม่อยากให้มีขี้ยา นั่นก็หมายถึงเราอยากให้ไม่มีขี้ยา
ไม่อยากเห็นรถบรรทุกมากมายบนถนน นั้นก็หมายถึงความอยาก
ไม่ให้มีรถบรรทุกวิ่งบนถนนมากมาย วิ่งบนถนน

อยากหรือไม่อยากก็คือ ตัวอยาก หรือตัณหา เช่นเดียวกัน
ฉะนั้นจึงเป็นตัวสมุทัยสัจจ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2017, 18:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมมา เขียน:
student เขียน:
เราคงเห็นตัวอย่างมามากต่อมากถึงคำว่า อยากมีอยากได้

ยังมีตัวอย่างที่เป็นสาเหตุแห่งทุกข์ในแง่ความไม่อยากมีอยากได้

ความไม่อยากมีอยากได้นั้นจัดเป็นสมุทัย

ในชีวิตประจำวันนั้นจะประสบมากที่สุด

เนื่องจากกระแสของชีวิตนั้นคือดิ้นรนอยู่กับความเป็นฆราวาส

ไม่อยากเห็นรถบรรทุกมากมายบนถนน

ไม่อยากเห็นกิ่งไม้บ้านข้างๆโผล่เข้ามาบ้านเรา

ไม่อยากให้มีขี้ยา ไม่อยากให้มีนั่นมีนี่

มันเป็นความไม่อยาก

แต่การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก็มีทาง แต่เป็นทางที่ต้องเสียสละ เช่น เสียสละตัวเองเพื่อสังคม เสียสละเวลา

คำว่าเสียสละจึงเป็นธรรมะที่สำคัญ ที่สามารถแก้ไขทุกข์ได้ เพราะจัดเป็นทางแห่งกุศล

เสียสละจึงเป็นธรรมะที่เป็นมรรคโดยตรง


เรามักจะรู้กันว่าความอยากหรือตัณหา คือ ตัวสมุทัยสัจจ์
แท้จริงแล้วความไม่อยากก็เป็นตัวตัณหา คือ ตัวสมุทัยสัจจ์ เช่นเดียวกัน
เช่น ไม่อยากเห็นกิ่งไม้บ้านข้างๆโผล่เข้ามาบ้านเรา แท้จริงก็ตัว อยาก อยากให้ไม่มีกิ่งไม้โผล่เข้ามาบ้านเรา

ไม่อยากให้มีขี้ยา นั่นก็หมายถึงเราอยากให้ไม่มีขี้ยา
ไม่อยากเห็นรถบรรทุกมากมายบนถนน นั้นก็หมายถึงความอยาก
ไม่ให้มีรถบรรทุกวิ่งบนถนนมากมาย วิ่งบนถนน

อยากหรือไม่อยากก็คือ ตัวอยาก หรือตัณหา เช่นเดียวกัน
ฉะนั้นจึงเป็นตัวสมุทัยสัจจ์


สวัสดีครับคุณธรรมา
ยินดีครับได้สนทนาธรรม

เข้ามาเห็นเพื่อนๆทางธรรมรู้สึกดีใจครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2017, 07:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 3034

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัณหา ท่านแบ่งเป็นสาม ..

- กามตัณหา คือความอยาก ความชอบใจรักใคร่ในกาม(กามคุณห้า)
- ภวตัณหา คืออยากเป็น อยากได้ อยากมี เช่น อยากเป็นนายกฯ เป็นเศรษฐี อยากสวย อยากหล่อ ฯลฯ
- วิภวตัณหา คือไม่อยากเป็น ไม่อยากมี เช่น ไม่อยากเป็นคนพิการ เจ็บป่วย คนแก่เฒ่า คนจน ไม่อยากฟันหลอ :b13: :b32: ฯลฯ

ตัณหา คือสมุทัยเหตุให้เกิดทุกข์


:b1:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร