วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 06:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2019, 08:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"วิธีล้างบาปในทางพุทธศาสนา"

....วิธีที่เราล้างบาปล้างกรรม จะล้างเหมือนคริสเตียนเขาไม่ได้ เราจะล้างบาปล้างกรรมไม่มีที่อื่น เราต้องรักษาศีล สมาธิ ภาวนา นี่แหละ

ล้างบาปล้างกรรม คือ รักษาศีล เราไม่ทำโทษน้อยใหญ่ทั้งหลาย ทั้งหมดแล้ว ไม่มีบาปไม่มีกรรม

นั่งสมาธิแล้ว จิตของเราไม่ได้ก่อภพก่อชาติ จิตของเรานิ่งอยู่มันก็ไม่ได้สร้างบาปสร้างกรรมอะไร มันวางเฉยอยู่ มันก็หมดบาปหมดกรรม หมดตรงนั่นแหละ ไม่ใช่หมดที่อื่น

คือจิตเราไม่มีกรรม กรรมทั้งหลายก็ไม่มี จิตของเราไม่มีความชั่ว ความชั่วทั้งหลายก็ไม่มี จิตของเราไม่ทุกข์ ความทุกข์ทั้งหลายก็ไม่มีจิตของเราไม่อยาก ความอยากทั้งหลายก็ไม่มี.

"หลวงปู่ฝั้น อาจาโร"



#มารดาบิดาเป็นผู้มีเมตตาจิตต่อบุตรธิดา

นับจะประมาณมิได้มรดกที่ท่านทำให้
กล่าวคือ รูปกายนี้แลเป็นมรดก ดั้งเดิม

ทรัพย์สินเงินทองอันเป็นของภายนอก
ก็ไปจากรูปกายนี้เองถ้ารูปกายนี้ ไม่มีแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ ชื่อว่าไม่มีอะไรเลย เพราะเหตุนั้น...

#ตัวของเราทั้งตัวนี้
#เป็นมูลมรดกของมารดาบิดาทั้งสิ้น
#จึงว่าคุณของท่านจะนับจะประมาณมิได้เลย..

โอวาทคติธรรมพ่อแม่ครูอาจารย์
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร




ให้พวกเรานี้สำเนียก ให้สงสารเมตตาตัวเองให้มากๆ เพราะฉะนั้น ท่านจึงยกเอาสูตรเมตตามาให้พวกเราสวดที่ว่า อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข นิททุกโข โหมิ อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าไม่มีทุกข์ ไม่มีเวรมีภัย อัพยาปัชโฌ โหมิ อะนีโฆ โหมิ สุขีอัตตานัง ปะริหะรามิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข ถ้าอยากมีความสุขก็ต้องให้ปฏิบัติก่อน ถ้าจะมากล่าวคำนี้เฉยๆมันเป็นไปไม่ได้ มันต้องหาเหตุผล ต้องรักษาก่อน รักษาอะไร? ก็รักษาศีลอันเดียวนี้ล่ะ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดปดมดเท็จ ไม่ดื่มสุรายาเมา รักษาร่างกายนี่ล่ะให้มันปกติ กายปกติ วาจาปกติ ใจปกติ เมื่อใจปกติแล้วมันจะหายจากความมืด ถ้าจิตใจมืดแล้ว "..สิ่งที่ควรรู้มันก็จะไม่รู้ สิ่งที่ควรเห็นมันก็จะไม่เห็น .."


คติธรรมหลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม






ไม่เสียดายอยากจะผูกเวรกับท่านผู้ใด โกรธอยู่แต่ไม่ถึงกับผูกเวร แปลว่าโกรธแบบเบา ถ้าหากว่ามีผู้มาทำให้ผิดใจ จนถึงร้องไห้หรือน้ำตาออกก็ตกลงในใจว่า ถ้าเคยทำเขาแต่ชาติก่อน ผลของกรรมตามมาก็ให้แล้วกันไปซะ ข้าพเจ้าจะไม่จองเวรเลย ถ้าเขามาก่อใหม่ในชาตินี้ก็ให้แล้วกันไปซะ จะไม่จองเวรใด ๆ ดังนี้เป็นต้น

เมื่อตกลงใจขนาดนี้ ดังกล่าวมาแล้วแต่ต้นก็ปิดประตูนรกแล้ว เพราะไม่มีนรกอยู่ในที่ใจ ปิดประตูเปรตอีกด้วย ปิดประตูสัตว์ดิรัจฉานอีกด้วย ก็มีคติเป็น ๒ ในอนาคตคือ ไม่มนุษย์ก็สวรรค์เท่านั้น

ซ้ำเข้าไปอีกว่า สิ่งใดไม่เสียดายอยากล่วงละเมิด สิ่งนั้นก็ไม่ลำบากหัวใจเลย นี่คือพรหมจรรย์เบื้องต้นของพระพุทธศาสนา คือพระโสดาบันเราดี ๆ นี้เอง ไม่นิยมชั้นวรรณะและเพศวัยใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าหากว่าเปิดประตูใจถึงพระโสดาบันแล้ว เรียกว่าดวงตาปัญญาเห็นธรรมเป็นทุนแล้ว เรียกว่าโลกุตตระทุนเป็นทรัพย์ภายใน ทรัพย์ภายนอกหากดึงดูดไปเอง และก็เปิดประตูสกทาคามีไปเองในตัวด้วย จะเร็วหรือช้าก็ไม่ถอยหลังด้วยดังกล่าวแล้วนั้น

หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 39 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร