วันเวลาปัจจุบัน 04 ส.ค. 2025, 05:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: เมื่อวานนี้, 08:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5364


 ข้อมูลส่วนตัว


"เขาพูดว่าเราดี เราก็ไม่ดีเหมือนคำเขาพูด
เขาพูดว่าเราชั่ว เราก็ไม่ชั่วเหมือนคำเขาพูด
ถ้าเราไม่ยึด เราไม่มี จะเอาอะไรไปดีไปชั่ว"
หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล





กรรมเก่า-กรรมใหม่-กรรมข้างหน้า

เราจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องต่อกรรมที่แยกเป็น 3 ส่วนคือ กรรมเก่า-กรรมใหม่-กรรมข้างหน้า

ขอสรุปวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องต่อกรรมทั้ง 3 ส่วนว่า

กรรมเก่า (ในอดีต) เป็นอันผ่านไปแล้ว เราทำไม่ได้ แต่เราควรรู้ เพื่อเอาความรู้จักมันนั้น มาใช้ประโยชน์ในการแก้ไข ปรับปรุงกรรมใหม่ให้ดียิ่งขึ้น

กรรมใหม่ (ในปัจจุบัน) คือกรรมที่เราทำได้
และจะต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด ตรงนี้เป็นจุดสำคัญ

กรรมข้างหน้า (ในอนาคต) เรายังทำไม่ได้
แต่เราสามารถเตรียม หรือวางแผนเพื่อจะไปทำกรรมที่ดีที่สุด ด้วยการทำกรรมปัจจุบัน ที่จะพัฒนาเราให้ดีงามและงอกงามยิ่งขึ้น
จนกระทั่ง เมื่อถึงเวลานั้น เราก็จะสามารถทำกรรมที่ดี สูงขึ้นไปตามลำดับ จนถึงขั้นเป็นกุศลอยางเยี่ยมยอด

นี่แหล่ะคือ คำอธิบายที่จะทำให้มองเห็นได้ว่า
ทำไมจึงว่า คนที่วางใจ ว่าจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่กรรม (เก่า) นั้นแล
กำลังทำกรรมใหม่ (ปัจจุบัน) ที่ผิด เป็นบาป คือ...ความประมาท

ได้แก่การปล่อยปละละเลย อันเกิดจาก...โมหะและมองเห็นเตุผลด้วยว่า ทำไมพุทธศาสนาจึงสอนให้หวังผลจากการกระทำ

ขอย้ำอีกครั้งว่า กรรมใหม่สำหรับ ...ทำ...
กรรมเก่าสำหรับ ...รู้... อย่ามัวรอกรรมเก่า ที่เราทำอะไรมันไม่ได้แล้ว แต่หาความรู้จากกรรมเก่านั้น เพื่อเอามาปรับปรุงการทำกรรมปัจจุบัน
จะได้พัฒนาตัวเราให้สามารถทำกรรมอย่างเลิศประเสริฐได้ในอนาคต

:: พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต)







หลวงพ่อชาท่านพูดไว้ดีว่า
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรามันถูกเสมอ
แต่ที่เราทุกข์เพราะเราวางใจไว้ผิด
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรามันถูกเสมอ
ก็คือว่า มันก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอย่างนั้น
ไม่ได้ผิดไปจากเหตุปัจจัยเลย
แต่ใจเราวางไว้ผิด
คือใจเราไม่ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น
พยายามปฏิเสธพยายามผลักไส
ถ้าเพียงแต่ยอมรับว่า มันมาแล้วก็ไป
มาแล้วก็ไป มันก็จบ อันนี้เรียกว่าวางใจไว้ถูก

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล







“เพียงแต่ให้มีศีล ๕ ครบถ้วนทุก ๆ คน
เท่านั้น ลองดูเถิด โลกนี้จะเปลี่ยนสภาพ
ไปหาความสุข ความเจริญทันที
โดยไม่ต้องสงสัยทีเดียว”
...
คำสอน หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย






#ใครจะประมาทมัวเมาก็ช่างเขา...เราไม่ประมาท
ใครจะหลับไหลลืมตื่นก็ช่างเขา...เราเป็นผู้ตื่นอยู่เสมอ...
...ผู้ฉลาดมีความเพียร ย่อมละทิ้งคนโง่และเกียจคร้านได้ เหมือนม้าฝีเท้าดีทิ้งม้าฝีเท้าเลวไว้เบื้องหลัง...

พระครูภาวนาพิลาศ
หลวงตาวัชรชัย
วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)







#ทำศีลห้าให้บริสุทธิ์_เมื่อสมบูรณ์แล้วตาในจึงจะเกิดขึ้น

เป็นมนุษย์ต้องเป็นคนจริง ต้องซื่อสัตย์ ถ้าก้าวขึ้นศีลห้าแล้ว เลิศทันที ศีลห้านี้ถ้าบริสุทธิ์แล้วสมหวังหมด ทั้งรูปร่างกาย ทั้งสติปัญญา ท่านจึงกล่าวว่า สีเลนะสุคะติงยันติ ยังไม่ตายก็มีความสุข เพราะไม่มีเวรไม่มีภัย จิตดวงนี้ไม่ได้ทำกรรมทำเวรทั้งห้าเลย ไม่ทำอย่างเด็ดขาด จนศีลอยู่ในจิตนั้น

เบื้องต้นก็ต้องระวังระแวง เพราะจิตอันนี้เป็นอำนาจอันหนึ่ง บังคับสัตว์โลกทั้งหลายให้ทำทุกสิ่งทำอย่าง พอเอาศีลห้ามาเป็นพี่เลี้ยงของจิต จนอยู่ในจิต เป็นสมบัติของจิต เกิดในสวรรค์ก็มีความสุข กลับมาเป็นมนุษย์ก็เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยทรัพย์จนที่สุดคือเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จะนึกอะไรได้หมด จนจิตพอตัว มีการตามรู้เกิดขึ้น เกิดทิพเนตร มองเห็นร่างกายนี้เป็นร่างกระดูก

สมัยที่หลวงปู่ไปอยู่กับหลวงปู่หนองแซง เดินบิณบาตตามท่านไป ท่านไม่พูดนะ พระปฏิบัติท่านไม่พูดไม่คุย พระแต่ก่อนท่านเดินนิ่งภาวนาไป ตาในท่านมองเห็นพวกเราเป็นร่างกระดูกทั้งร่าง ไปถึงวัดท่านว่า โอ้ย คนมานี้ มีแต่ร่างกระดูก นี่คือตาใน ต้องสร้างตรงนี้ ทำศีลห้าให้บริสุทธิ์ เมื่อสมบูรณ์แล้วตาในจึงจะเกิดขึ้น ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชาย เราเป็นฆราวาส ห้าตัวนี้พอแล้ว ไม่ต้องไปขอกับพระ ให้สังวรณ์ระวัง สิ่งที่ทำผ่านไปแล้วก็ไม่ต้องคำนึง นับแต่วันนี้ต่อไปจะสังวรณ์ระวังให้สะอาด ไม่มีใครช่วยเราได้เวลาเราจะตาย มีเราตัวคนเดียว ผัวก็ไม่ได้ เมียก็ไม่ได้ ลูกก็ไม่ได้ ตนแลเป็นที่พึ่งของตน

แต่พระพุทธเจ้าไม่บังคับใครนะ ของดีไม่ต้องบังคับ พระพุทธเจ้าสอนความจริงล้วน ๆ ไม่บังคับใครให้นับถือ ใครอยากดีก็เอา ใครชอบขี้เกียจพระพุทธองค์ก็ไม่ได้ว่า เอาเลย เดี๋ยวเจอเอง กุศลนี่บริสุทธิ์สมบูรณ์ ให้นึกไว้เป็นประจำ จะชะล้างจิตใจ จิตใจจะผ่องใสฉาบล้างอยู่ตลอด กรรมห้าเวรห้า เราเป็นผู้ชำระเอง ไม่ต้องไปเขียนนะเจ้ากรรมนายเวร เจ้าของเป็นผู้ทำเอง ไม่มีใครทำให้หรอก หยุดทำซะ แค่นี้ก็พอ

#หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร








"..ถ้าใครกลัวตายเพราะความเด็ดเดี่ยวทางความเพียร ผู้นั้นจะต้องกลับมาตายอีกหลายภพหลายชาติไม่อาจนับได้ ส่วนผู้ใดไม่กลัวตายผู้นั้นจะตัดภพชาติให้น้อยลงถึงกับไม่มีภพชาติเหลืออยู่ และผู้นั้นแลจะเป็นผู้ไปไม่กลับหลังมาหาบทุกข์อีก ตัวผมเองสลบไปถึง ๓ หน เพราะความเพียรกล้าเวทนาทับถม ยังไม่เห็นตายและยังรอดมาเป็นอาจารย์สอนหมู่คณะอยู่ได้ หมู่เพื่อนทำความเพียรยังไม่ถึงขั้นสลบไสลเลย ทำไมจึงกลัวตายกันนักหนาเล่า ถ้าไม่ตายไปพักหนึ่งก่อนก็น่ากลัวไม่เห็นธรรมชาติอัศจรรย์.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร
(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)
วัดป่าสุทธาวาส
ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง
จ. สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)









ดูที่จิต วางอารมณ์ให้ดี กำหนดรู้อยู่ตลอดเวลา
อย่างอื่นไม่เอา เอาแต่ธรรม อย่าไปมองข้างนอกให้มองข้างในนี่ ดูที่จิต
พิจารณาให้เห็นเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

หลวงปู่สี ฉันทสิริ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร