วันเวลาปัจจุบัน 27 ต.ค. 2025, 08:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 22 ต.ค. 2025, 12:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5406


 ข้อมูลส่วนตัว


"..การดูกิเลสและแสวงธรรม ท่านทั้งหลายอย่ามองข้ามใจซึ่งเป็นที่อยู่ของกิเลสและเป็นที่สถิตอยู่แห่งธรรมทั้งหลาย กิเลสก็ดี ธรรมก็ดี มิได้อยู่กับกาลสถานที่ใดๆ ทั้งสิ้น แต่อยู่ที่ใจ คือเกิดขึ้นที่ใจ เจริญขึ้นที่ใจ และดับลงที่ใจดวงรู้ๆ นี้เท่านั้น การแก้กิเลสที่อื่นและแสวงธรรมที่อื่นแม้จนวันตายก็ไม่พบสิ่งดังกล่าว ตายแล้วเกิดเล่าก็จะพบแต่กิเลสที่เกิดจากใจซึ่งกำลังเสวยทุกข์เพราะมันนี้เท่านั้น แม้ธรรมถ้าแสวงหาที่ใจก็จะมีวันพบโดยลำดับของความพยายาม สถานที่ กาลเวลานั้นเป็นเพียงเครื่องส่งเสริมและเครื่องกดถ่วงกิเลสและธรรมให้เจริญขึ้นและเสื่อมไปเท่านั้น เช่น รูปเสียงเป็นต้น เป็นเครื่องส่งเสริมกิเลสที่มีอยู่ในใจให้เจริญยิ่งขึ้น.."

โอวาทธรรมคำสอน
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒) จากหนังสือชีวประวัติของหลวงปู่ขาว อนาลโย






....การอยู่ในป่าช้า การอยู่ในป่าชัฏ การอยู่ในถ้ำ ผมทำมาแล้วทุกอย่าง แต่ผลจริงๆ ที่ได้ทรงตัวก็คือ #ต้องเข้ามาต่อสู้กับกลุ่มคน นั่นเราอยู่คนเดียวมีอาการสงบสงัด ไม่มีอะไรมารบกวนใจ เราจะทรงอารมณ์อย่างไรก็ได้

พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร)







"บุญเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งของเรา ทั้งชาตินี้และชาติหน้า
การที่เราจะพึ่งใครซักคนหนึ่งนี่ มันก็พึ่งได้ไม่เท่าไหร่หรอก
หรือจะไปพึ่งคนโน้นพึ่งคนนี้ เขาก็ไม่ให้พึ่งเท่าไหร่
แล้วไปอยู่กับเขาไม่กี่วัน เขาก็อยากไล่หนีแล้ว
เพราะฉะนั้น บุญเท่านี้ที่จะเป็นที่พึ่ง เราจะไปเกิดในชาติใด
ภพใด บุญก็ตามช่วยเรา เหมือนกันกับเงาตามตัวฉั้นนั้น"

หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร






“ท่านทั้งหลาย ชีวิตของเรานั้น เป็นของมีค่า อย่างยิ่ง ท่านทั้งหลาย อย่าไปทำลาย ชีวิตของตน ให้ไปตกต่ำเลย

พยายามสร้างสรรค์ ปัญญา ของตนนั้น ให้เฉียบแหลม ด้วยการ มาทำสมาธิ

เพิ่มพูนปัญญา ของเรา เราก็จะได้ พบหนทาง สว่างไสว ต่อไปข้างหน้า”

ธรรมะรุ่งอรุณ เล่ม ๓ หน้า ๓๓

สมเด็จพระญาณวชิโรดม พุทธาคมวิศิษฐ์ จิตตานุภาพ พัฒนดิลก สาธกธรรมวิจิตร วิเทศศาสนกิจไพศาล วิปัสสนาญาณธุราทร ธรรมยุตติกคณิสสรบวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี​ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สถิต​ ณ วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร​ กรุงเทพมหานคร

#เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณวชิโรดม
#หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร





“การทำจริงดังพูด อาจยาก
สำหรับคนที่ชอบพูดอะไรลอย ๆ
แต่ไม่ยากสำหรับ คนที่ตริตรอง
แล้วจึงพูด”
...
พระคติธรรม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
กรมหลวงวชิรญาณสังวร







"..การดูกิเลสและแสวงธรรม ท่านทั้งหลายอย่ามองข้ามใจซึ่งเป็นที่อยู่ของกิเลสและเป็นที่สถิตอยู่แห่งธรรมทั้งหลาย กิเลสก็ดี ธรรมก็ดี มิได้อยู่กับกาลสถานที่ใดๆ ทั้งสิ้น แต่อยู่ที่ใจ คือเกิดขึ้นที่ใจ เจริญขึ้นที่ใจ และดับลงที่ใจดวงรู้ๆ นี้เท่านั้น การแก้กิเลสที่อื่นและแสวงธรรมที่อื่นแม้จนวันตายก็ไม่พบสิ่งดังกล่าว ตายแล้วเกิดเล่าก็จะพบแต่กิเลสที่เกิดจากใจซึ่งกำลังเสวยทุกข์เพราะมันนี้เท่านั้น แม้ธรรมถ้าแสวงหาที่ใจก็จะมีวันพบโดยลำดับของความพยายาม สถานที่ กาลเวลานั้นเป็นเพียงเครื่องส่งเสริมและเครื่องกดถ่วงกิเลสและธรรมให้เจริญขึ้นและเสื่อมไปเท่านั้น เช่น รูปเสียงเป็นต้น เป็นเครื่องส่งเสริมกิเลสที่มีอยู่ในใจให้เจริญยิ่งขึ้น.."

โอวาทธรรมคำสอน
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒) จากหนังสือชีวประวัติของหลวงปู่ขาว อนาลโย






"..การดูกิเลสและแสวงธรรม ท่านทั้งหลายอย่ามองข้ามใจซึ่งเป็นที่อยู่ของกิเลสและเป็นที่สถิตอยู่แห่งธรรมทั้งหลาย กิเลสก็ดี ธรรมก็ดี มิได้อยู่กับกาลสถานที่ใดๆ ทั้งสิ้น แต่อยู่ที่ใจ คือเกิดขึ้นที่ใจ เจริญขึ้นที่ใจ และดับลงที่ใจดวงรู้ๆ นี้เท่านั้น การแก้กิเลสที่อื่นและแสวงธรรมที่อื่นแม้จนวันตายก็ไม่พบสิ่งดังกล่าว ตายแล้วเกิดเล่าก็จะพบแต่กิเลสที่เกิดจากใจซึ่งกำลังเสวยทุกข์เพราะมันนี้เท่านั้น แม้ธรรมถ้าแสวงหาที่ใจก็จะมีวันพบโดยลำดับของความพยายาม สถานที่ กาลเวลานั้นเป็นเพียงเครื่องส่งเสริมและเครื่องกดถ่วงกิเลสและธรรมให้เจริญขึ้นและเสื่อมไปเท่านั้น เช่น รูปเสียงเป็นต้น เป็นเครื่องส่งเสริมกิเลสที่มีอยู่ในใจให้เจริญยิ่งขึ้น.."

โอวาทธรรมคำสอน
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒) จากหนังสือชีวประวัติของหลวงปู่ขาว อนาลโย







พ่อแม่ ผู้แสดงโลก
...
เราไม่ได้ปฏิบัติธรรม ไม่ได้พัฒนาตัวเอง
เพื่อเราคนเดียว หากชนะกิเลสได้บ้าง
ปล่อยวางกิเลสได้บ้าง และอยู่เหนือกิเลส
บางตัวได้ มันเป็นผลดีต่อลูกด้วย
ลูกก็มีตัวอย่างใกล้ชิดที่สุดว่า ถึงแม้จะ
มีสิ่งที่ชวนให้โลภ ไม่จำเป็นต้องโลภในสิ่งนั้น
ก็ได้ ไม่จำเป็นทีเดียว ที่จะต้องโกรธในสิ่งที่
ชวนให้โกรธ ไม่ต้องหลงในสิ่งที่ชวนให้หลง
มั่นใจได้เพราะเคยเห็นพ่อแม่ปฏิบัติต่อ
สิ่งเหล่านี้อย่างน่าประทับใจแล้ว อย่างเช่น
สมมุติว่าครั้งหนึ่งเคยมีคนมาเบียดเบียน
เอารัดเอาเปรียบคุณพ่อหรือคุณแม่
ลูกอาจคิดว่า แหม่ ... มันน่าโกรธมาก
น่าเกลียดเหลือเกิน ไม่รู้ว่าพ่อแม่ทนได้
อย่างไร แต่คุณพ่อหรือคุณแม่ทนได้
แก้ไขปัญหาอย่างสุขุมรอบคอบ
เด็กจะไม่มีวันลืม พ่อแม่มีคุณธรรมข้อใดอยู่
ในใจ ก็จะเป็นตัวแทน คุณธรรมข้อนั้นในใจ
ของลูก ตลอดไป ...
...
พระอาจารย์ชยสาโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร