วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 05:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 664 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 16, 17, 18, 19, 20, 21, 22 ... 45  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 21:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
สภาวะกลับไปเหมือนแรกๆที่เริ่มปฏิบัติค่ะ
กลับไปคิดๆๆๆๆๆ กำหนดพอง ยุบ บางวันชัดมาก ไม่คิดเลย
นิ่งดี นิมิตรมีนิดหน่อย บางวันตกวูบลงมาจับอะไรไม่ได้สักอย่าง
คิดๆๆๆ สลับกับนิมิต ปิติบาง โอภาสบ้าง สลับไปสลับมา :b41:




เรื่องของความคิดนี่ เป็นเรื่องธรรมดานะคะ มันจะเกิดๆดับๆหรือเป็นๆหายอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา
เพียงแต่บางครั้งจิตมันสงบ ความคิดก็จะหายไป แต่จะเกิดอาการอย่างอื่นขึ้นมาแทน
สภาวะวนๆนี่เรื่องปกติค่ะ แต่ถ้ามีเวลา ลองสังเกตุดูนะคะที่เราบอกว่าวนๆน่ะ
มันจะไม่วนเหมือนเดิมทุกๆครั้ง มันจะข้อปลีกย่อยเพิ่มขึ้นมา



taktay เขียน:

เดินทั้งหกระยะแล้วค่ะ เดินก็เหมือนกัน บางวันก็กำหนดอะไรๆ
ได้ชัด บางวันก็วุ่นวายไปหมด ไม่ค่อยทันจิตเลย
บางวันการเดินก็โอนเอนเหมือนจะล้ม





ปกติถ้าเดินจงกรมได้ถึง 6 ระยะจะไม่มีเซแล้วนะคะ เพราะระยะที่6 สติจะดี สมาธิจะดีน่ะค่ะ
คุณทักทายลดระยะมาเดินจากระยะที่1 ถึงระยะที่ 4 เดินแบบจำได้ขึ้นใจ โดยไม่ต้อง
ใช้การบริกรรมเข้าช่วยน่ะค่ะ แบบ จะยก จะย่าง จะเหยียบ จำได้เมื่อไหร่
ค่อยเพิ่มไปเป็นระยะที่ 5 และ 6 รับรองว่าไม่มีเซอย่างแน่นอนค่ะ



taktay เขียน:

หดหู่ เบื่อ บางวันก็ ฮึกเหิม เบิกบาน ตามทันบ้างไม่ทันบ้าง แต่อาการที่เหมือน
เราจะตกจากที่สูงคือครึ่งๆกลางๆ เหมือนเราง่วงก็ไม่ใช่ เหมือน
จะตกจากที่สูงก็ไม่ใช่ มันวูบๆ เป็นทั้งตอนอยู่ในบัลลังค์
และตอนที่กำลังทำงานตอนกลางวันค่ะ บางครั้งก็กำหนด
รู้หนอ บางครั้งก็ลืม ได้แต่สงสัยว่ามันคืออาการของอะไร?
คงเป็นเพราะบางวันก็เหนื่อย หรือบางวันอาจจะรับ
เอาเรื่องภายนอกมามากเกินไป เลยทำให้จิตวุ่นวาย
กำลังตามดูจิตตัวเองอยู่ค่ะ :b48:




สมาธิมากไป สติมันไม่ทันน่ะค่ะ
คุณทักทายเดินกี่นาที นั่งกี่นาทีคะ
แล้วเวลานั่งยังใช้บิรกรรมภาวนาพองหนอยุบหนอ อยู่หรือเปล่าคะ
หรือเอาจิตรู้อยู่กับอาการพองยุบของท้องหรือว่าดูลมหายใจสลับกับดูอาการพองยุบ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 22:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 11:20
โพสต์: 3


 ข้อมูลส่วนตัว


อูย....น้ำลายไหล :b19:


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 23:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ขอบคุณค่ะคุณน้ำ เพิ่งจะมาอ่านตอนเย็นนี้เองค่ะ
พออ่านแล้วรู้สึกดีขึ้นน่ะค่ะ
ก็คงจะจริงน่ะค่ะ เราทำเค้าไว้ เค้าต้องการที่จะต้องการเอาคืนบ้าง
ก็ใช้ๆเค้าไปน่ะค่ะ
อ่านคำตอบของคุณน้ำทุกประโยค รู้สึกว่ามีกำลังใจที่จะสู้
กับความเจ็บปวดในครั้งนี้แล้วน่ะค่ะ




โมทนาค่ะคุณเต้ คุณเริ่มเห็นตามความเป็นจริงแล้วค่ะ
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมที่กระทำกันมา :b8:
เรายอมเขาซะ ไม่ขัดขืน ใช้หนี้เขาไป ภพชาติเราย่อมสั้นลง



bbby เขียน:

วันนี้ทั้งวัน รู้สึกท้อแท้กับชีวิต รู้สึกเบื่อกับชีวิต
แต่ก่อนเคยสงสัยน่ะค่ะ ว่าทำไม!
คนจะต้องฆ่าตัวตาย ทำไมเค้าไม่สู้ต่อไป

วันนี้เราก็เลยนั่งคิดว่า ตอนนี้เราคงจะมาถึงจุดนั้นแล้วน่ะ
จะสู้ต่อหรือยอมแพ้กับความเจ็บปวดนี้




นึกถึงคืนผ่าน เหตุการณ์ที่มันร้ายร้าย ร้ายจนแผดเผาใจไหม้หมองเกรียม
ต้องเป็นคนผิด ด้วยการจำยอม กลั้นน้ำตานอง ขมขื่นสะอื้นอารมณ์
เมื่อก่อนน้ำเคยเป็นแบบนี้ค่ะ ขมขื่นใจทุกๆครั้ง แบบเราต้องยอมให้เขาทำ ทั้งๆที่เราไม่ผิด

เพราะความมีตัวตนของเรานี่แหละค่ะ ที่ทำให้ทำร้ายตัวเราเองไม่รู้จบ
ทำไปด้วยความไม่รู้ เพราะเรายอมไม่ได้ที่จะเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ข้างเดียว
ยอมมากเท่าไหร่ เรายิ่งไร้ตัวตนได้มากเท่านั้น
การไร้ตัวตนกับการสร้างภพชาติใหม่ให้เกิดขึ้นตลอดเวลา ขอเลือกไร้ตัวตนดีกว่ามีตัวตนค่ะ
เมื่อเรายอมไม่เป็น ย่อมเย็นไม่ได้ ภพชาติใหม่ย่อมเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ
ลองคิดดูง่ายๆค่ะ 1 การทะเลาะ คือ 1 ภพชาติ
เพราะใน 1 การทะเลาะ ย่อมมีโทสะเกิดขึ้น เมื่อมีโทสะเกิดขึ้น ย่อมมีความพยาบาทแฝงอยู่
เมื่อมีความพยาบาทแฝงอยู่ การผูกใจเจ็บย่อมเกิดขึ้น
เมื่อมีการผูกใจเจ็บเกิดขึ้น การจองเวรย่อมเกิดขึ้น เหตุเพราะไม่มีการให้อโหสิกรรมต่อกัน

แล้วคิดดูละกันนะคะ ว่าเราทะเลาะกับคนกี่คน ก่อนที่เรามาถึงจุดๆนี้
ฉะนั้น เมื่อเรายอมรับความจริงต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เราอโหสิกรรมให้กับเขาไป
เราเพียงตั้งสติ อดทน ยอมเขาซะ หนี้กรรมระหว่างเรากับเราย่อมจบลง

คุณเต้อ่านดูนะคะ คนนี้อายุ 19 ปี กำลังเรียนอยู่
มีคนในเน็ตแนะนำให้มารู้จักกับน้ำ แล้วเขามาฝึกเจริญสติ
น้ำเป็นพี่เลี้ยงให้กับเขา เขาทำมาได้สักระยะหนึ่งแล้วค่ะ ทำทุกวัน
ลองอ่านแนวความคิดของเขาดูนะคะ



.... พี่คะ การถูกเมินความสำคัญเนี่ย ทุกข์ดีเนอะ

.... ใช่ค่ะ ใหม่ๆเราจะรู้สึกแบบนั้น เพราะเรายังให้ค่าให้ความหมายในตัวของเราเอง
ความมีตัวตนไงคะ กิเลสตรงนี้แต่ละคนมีมากน้อยไม่เท่ากัน คนไหนมีมากจะออกอาการมาก

.... เราตรงนี้ เยอะกว่าคนอื่นอะเปล่าคะ

.... ไม่ค่ะ ที่พี่น้ำเจอมา บางคนมีมากกว่า บางคนพอเห็นไม่มีใครสนใจตัวเอง
ก็จะสร้างเรื่องเป็นจุดสนใจให้คนมองที่ตัวเอง อันนี้ผู้หญิงเป็นเยอะมากกว่าผู้ชายนะ

....อ้อ นั้นสินะคะ นั้นสิ เราอาจจะทำเป็น เรียกร้องความสนใจ ก็ได้ แต่ก็จะมีคนเกลียด ตามมา

.... นั่นแหละ ... เขาเรียกว่าเรียกร้องความสนใจ ไม่งั้นเขาจะมีตำราบริหารสเน่ห์
เทคนิคสารพัดเรียกร้องความสนใจหรือคะ เราน่ะยังไม่ได้ครึ่งคนอีกหลายๆคนเล๊ยย

..... โฮ่ .. ลืมไปสนิทเลย ว่ามีอะไรพวกนี้อยู่ อิอิ~~ 55555 ค้าาา เราอะ ตอนนี้ตรงไปตรงมาเร้ยแหะ

.... เราน่ะ ทั้งๆที่แต่งร่วมกะเขาแท้ๆ แต่พอตัวละครที่เป็นสัตว์เลี้ยงมา คนอ่านก็ส่งให้เขาหมด
เรารุ้สึกแย่น่ะ ก็เลยระบาย อย่างที่ให้พีน้ำไป เราผิดไหม ถ้าเราจะ โกรธ ถ้าเราจะรุ้สึก
ว่าถูกเมินความสำคัญ บางที เรื่องที่เราเล่าไป อาจเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ได้คะ เกิดจากเรื่องนี้อะ

.... ไม่ผิดนี่คะ ตราบใดที่คนทุกๆคนยังมีเจ้าตัวโทสะนี่อยู่ มีมากก็โกรธง่าย มีน้อยก็เป็นคนใจเย็น

.... คนอื่นเขาคิดแบบเราไหมคะ หรือมีแต่เรา ที่อัดอั้นใจ

.... มีบางคนเขายอมรับตัวตนหรือในสิ่งที่เขาเป็นยังไม่ได้มีเยอะแยะนะคะ
เรายังมองเห็นกิเลสของตัวเอง ยอมรับว่ามันมี และพยายามเรียนรู้ที่จะเข้าใจมัน เรียนรู้ว่า
ถ้ามีมันอยู่ด้วยเราจะแย่ การที่ไม่มีมัน เจ้าอัตตาตัวตนนี้ ถ้าไม่มีมัน เราจะไปอยู่ที่ไหนเราก็อยู่ได้
ใครๆเขาเถียงกัน เราจะไม่ไปเถียงกับเขา เมื่อใดที่อัตตาทำงานร่วมกับมานะกิเลสนั่นแหละ
จะกลายเป็นใหญ่ค้ำฟ้า ของเราแค่กลุ่มเด็กๆที่ยังเรียนอยู่ โลกคนคนโตมันยิ่งกว่านี้มากมาย
โลกของคนโตจึงต้องมีตำราเล่ห์กระเท่มากมาย เพราะเราไม่ได้เจริญสติกันนี่แหละค่ะ

.... อ่า เหรอ คะ อือ.. เราจะจำไว้ให้ขึ้นใจคะ เราก็พอรุ้นะ ว่ากิเลสเราอะ มันตัวมานะ กะอัตตา
สินะ เพราะฉะนั้น เราก็จะต้องเจอกับมัน บ่อยๆ.. สินะ.. ทรมานโคดๆๆๆ

.... ใช่ค่ะ พี่ถึงบอกว่า เราจะเจอแต่ทุกข์ เพราะมันจะมีคำแต่ว่า ยอมเขาๆๆๆๆ ยอมทั้งๆที่เราไม่ผิดเลย

.... คะพี่ สาธุ คะพี่ อือๆ แต่ว่า เรื่องยอมพวกแบบว่า ละเมิดสิทธิอะ
จริงๆแล้วเรายอมไม่ค่อยได้นะ แต่ ช่างมันเถอะคะ ^^

.... ยอมมากเท่าไหร่ เรายิ่งไร้ตัวตนได้มากเท่านั้น
การไร้ตัวตนกับการสร้างภพชาติใหม่ให้เกิดขึ้นตลอดเวลา เลือกเอาค่ะ
ยอมไม่เป็น เย็นไม่ได้ ภพชาติใหม่ย่อมเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ

....คะ พี่ งืมม คะ ถ้าไงขอตัวไปทำนะ.. แล้วเจอกันคะ



bbby เขียน:
แต่พอตอนเย็นออกไปนั่งที่ข้างนอก ไก่ที่เรานำมาปล่อย
เค้าเห็นเราออกมา พวกเค้าก็ดีใจ กะพือปีกจะให้เราอุ้ม
เราก็เลยบอกให้เค้าบินขึ้นมา เค้าก็เลยมาจิกที่เสื้อมานอนซบที่แขน
เราก็เลยรู้ว่าชีวิตเรายังมีค่าตากห่างล่ะ แล้วเราจะท้อไปทำไม




อ่านที่น้องเขาสนทนามา คุณเต้คิดว่าไงมั่งคะ
เห็นไหมคะ สิ่งดีๆในชีวิตที่เราสามารถทำได้มีอีกมากมาย
ชีวิตเรามีค่า อย่างน้อยยังเป็นที่พึ่งพิงของพวกเขาได้ ( ไก่ )
และคนที่เราไม่รู้จักอีกล่ะคะ ที่เราสามารถสงเคราะห์ได้



bbby เขียน:
คุณน้ำ ขอถามคำถามที่ออกจะแปลกหน่อยน่ะค่ะ คือสงสัยมานานแล้วค่ะคือ
เวลาเดินจงกลมนี่ เค้าเดินแล้วหลับตาหรือปล่าวค่ะ
แล้วเท้าล่ะค่ะ ค่อยๆก้าวช้าๆ หรือว่าแบบปกติค่ะ




เดินจงกรมลืมตาเดินค่ะ เหมือนเราเดินทำงานนี่แหละค่ะ
ส่วนมือจะเอากุมมือไว้หน้า หรือไขว้ไว้หลัง หรือปล่อยแกว่งตามสบาย ทำได้ทั้งนั้นค่ะ

คำว่า เดินจงกรม มันเป็นเพียงคำศัพท์เท่านั้นแหละค่ะ
การเดินจงกรม คือ การมีสติ สัมปชัญญะ รู้อยู่กับการเดิน

จริงๆ ในชีวิตของเรา ทุกลมหายใจของเรา ตั้งแต่เราลืมตาตื่นขึ้นมา จนกระทั่งเข้านอน
มันก็คือการปฏิบัติน่ะค่ะ เพียงแต่เราอาจจะไปยึดติดในรูปแบบว่า
การปฏิบัติคือการเดินจงกรมกับการนั่งสมาธิ เท่านั้น

การเดินจงกรมก็เช่นเดียวกัน ขณะที่เราทำงานหรือทำอะไรอยู่ก็ตาม
ในอริยาบทเดิน ขอให้เรามีสติรู้อยู่กับทุกย่างก้าวที่เดิน
เมื่อเราสามารถรู้ลงไปทุกย่างก้าวที่เดินได้ สติ สัมปชัญญะเราย่อมเกิดมากขึ้น

เพียงแต่รูปแบบในการเดินจงกรมที่มีเกิดขึ้นมานั้น เพื่อให้เหมาะสมแต่ละคน
คนแต่ละคนล้วนมีสติ สัมปชัญญะไม่เท่ากัน ตามแต่เหตุที่กระทำกันมา
ทำไมต้องใช้หนอ ทำไมต้องใช้จิตรู้ ทำไมต้องใช้ตัวเลข
ทุกอย่างล้วนเป็นอุบายในการแนะนำหรือการสอน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติเลือกรูปแบบเอาเอง
ตามที่ตัวเองทำแล้วถนัด ทำแล้วสะดวก ทำแล้ว ทำให้รู้อยู่กับเท้าทุกก้าวย่างได้

ลองอ่านดูนะคะ นี่อีกคนที่มาปรึกษา บางคนจะติดศัพท์ ติดคำเรียก
เลยทำให้ไม่ยอมเดินก่อนที่จะนั่ง จริงๆแล้วควรจะเดินก่อนที่จะนั่ง
เพื่อสติจะได้ดีขึ้น ทำให้ความคิดน้อยลง สมาธิตั้งมั่นได้ง่ายขึ้น
ยิ่งเดินมากยิ่งดี เดินหลายๆชม.ได้ยิ่งดี
น้ำน่ะเดินที 3 ชม. ก่อนที่จะนั่ง เพราะกำลังปรับตัวเองอยู่




หรอ says: ทำไมเวลานั่งสมาธิไป สักพัก มันก็คล้ายกับอยู่ในห้องว่างๆ ไม่มีอะไร
แต่จู่ๆ มันดันคิกดเรื่องโน้นเรื่องนี้ขึ้นมาเองอ่ะพี่ พอเริ่มรุ้สึกว่ามันคิด มันก็หยุดคิดเอง
แต่ถ้ารุ้สึกไม่ทัน มันก็จะคิดๆไป แล้วมีอาการเหมอนวุบด้วย ทำไมอ่ะพี่

สุขที่แท้จริง says: เดินจงกรมก่อนนั่งป่ะ

หรอ says: ป่าว นั่งอย่างเดียว ไม่ได้เดินเลย

สุขที่แท้จริง says: ควรจะเดินจงกรมก่อนที่จะนั่ง

หรอ says: ยังไม่ถนัด ยังบอกอาการยากเวลา เดิน

สุขที่แท้จริง says: แค่เดินๆนี่นะ ทุกคนมีใครมั่งที่ไม่เดิน ไปทำงานก็ต้องเดิน

หรอ says: เดินครับ

สุขที่แท้จริง says: แล้วถ้าจะต้องนั่งสมาธิ แค่เราเดินเหมือนเราทำงานนี่แหละ แต่ต้องตั้งเวลาไว้ว่า
จะเดินสักกี่นาที มันแตกต่างจากกันตรงไหน มันก็แค่คำเรียกน่ะ เดินจงกรม แค่ศัพท์

หรอ says:ก็จะลองพยายามก่อนนะพี่ คราวหน้าคงมีไรมาพูดคุยสอบถามบ้าง ว่าแต่ไออาการที่ผมบอกน่ะคือไรอ่ะ

สุขที่แท้จริง says: ไม่มีอะไรค่ะ ความคิดมันย่อมมีเป็นเรื่องธรรมดา

หรอ says: จำเป็นต้องรุ้ทันมันไหม๊

สุขที่แท้จริง says: เดินก่อนนั่งค่ะ แล้วจะดีขึ้น ถ้าเดินก่อนสักชม.ยิ่งดี มันจะไม่ค่อยเกิดความคิดเวลานั่ง

หรอ says: แต่เมื่อก่อนเดินไปๆ มันมีอาการตึงๆแน่นๆอ่ะ

สุขที่แท้จริง says: มันตึงมันแน่น มันก็เรื่องธรรมดา มันเกิดแล้วก็หาย

หรอ says:บางทีก็ทำให้เรารู้สึกเหมือนไม่รุ้อะไรไปเลย เช่น 10 - 9 เหลือเท่าไหร่หน้อ ต้องตั้งสติแล้วคิดใหม่

สุขที่แท้จริง says: แล้วจะไปรู้อะไรล่ะนั่น เดินก็รู้เท้าที่เดินแค่นั้นเอง

หรอ says:หมายถึงเดินไปเดินมา ก็มีอาการอย่างว่า พอเลิกกำหนด จะขายของ ดันคิดเลขไม่ออกดิ่พี่ ทอนตังค์ไม่ถุก

สุขที่แท้จริง says:ไปกำหนดอะไรล่ะนั่น

หรอ says:ตึกๆๆๆ

สุขที่แท้จริง says: แค่ให้รู้เท้าที่กำลังเดิน

หรอ says:ครับ ผมไปนะพี่

สุขที่แท้จริง says: อย่าลืมเดินจงกรมก่อนนั่งนะคะ เดินๆๆๆธรรมดานี่แหละ
ไม่ต้องไปกำหนดตึกๆอะไร แค่ให้รู้ที่เท้ากำลังเดินพอ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 23:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


walaiporn เขียน:

สมาธิมากไป สติมันไม่ทันน่ะค่ะ
คุณทักทายเดินกี่นาที นั่งกี่นาทีคะ
แล้วเวลานั่งยังใช้บิรกรรมภาวนาพองหนอยุบหนอ อยู่หรือเปล่าคะ
หรือเอาจิตรู้อยู่กับอาการพองยุบของท้องหรือว่าดูลมหายใจสลับกับดูอาการพองยุบ


ใช่ค่ะ อาจารย์ก็บอกค่ะ ว่าสมาธิมาก สติตามไม่ทัน
ยังบริกรรมพร้อมเอาจิตจับที่อาการ พอง ยุบ อย่างเดียวค่ะ :b41:

ใช้ระยะทางกำหนดการเดินค่ะ เช่นเดินระยะหนึ่งและสาม
สองรอบห้อง ระยะสี่ ห้า หก หนึ่งรอบห้อง ประมาณเวลาก็สี่สิบห้านาทีจะขาดจะเกิน
นิดหน่อย ถ้าเดินขนาดนี้จะนั่งครึ่งชั่วโมง แต่ถ้าเวลาการเดินน้อยกว่านี้เช่นบางครัังได้
สี่สิบนาทีบ้าง สามสิบห้านาทีบ้าง การนั่งก็จะลดลงเหลือยี่สิบห้านาทีบ้าง ยี่สิบนาทีบ้าง
แล้วแต่ความสะดวกค่ะ ตอนนี้พยายามที่จะปฏิบัติทั้งเช้าและเย็น ตามแต่โอกาส :b48:

จะทดลองทำตามคำแนะนำของ อ.น้ำดูนะค่ะ ผลเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบ
อนุโมทนาค่ะ เจริญในธรรม :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสต์ เมื่อ: 22 พ.ย. 2009, 02:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเต้ค่ะ :b12:
การเดินจงกรม อันนี้น้ำนำมาให้อ่าน เผื่อคุณเต้จะลองทำตามดูนะคะ หรือคุณเต้จะเดิน
เหมือนเวลาปกติก็ได้ค่ะ เพียงแต่มีสติรู้อยู่กับทุกย่างก้าวที่เดิน




วิธีการเดินจงกรม 6 ระยะ

การเดินจงกรม 6 ระยะ เราสามารถนำมาพลิกแพลงได้ โดยจะใช้การกำหนด " หนอ " เข้ามาช่วย หรือ จะใช้ นับแบบเป็นจังหวะโดยใช้ตัวเลขมาใช้ หรือ จะใช้จิตรู้ลงไปในการเคลื่อนไหวก็ได้ เพียงแต่ควรยึดหลักเอาไว้เท่านั้นเอง

สำหรับผู้ปฏิบัติใหม่ ควรจะเดินระยะหนึ่งให้คล่องก่อน จึงค่อยๆเพิ่มระยะอื่นๆ

ระยะที่ 1

ใช้ หนอ ขวา ( ยกส้นเท้าขวา ปลายเท้ายังแตะอยู่ที่พื้น ) ย่าง ( ย่างเท้าไปข้างหน้า ) หนอ ( วางเท้าลงบนพื้น ) ซ้าย ย่าง หนอ

ใช้ตัวเลข 1 ( ใช้แทนกำหนดเท้า ) 2 ( ย่างเท้าไปข้างหน้า ) 3 ( วางเท้าลงกับพื้น )

ใช้จิตรู้ รู้ลงที่เท้าขวาพร้อมๆกับยกส้นเท้า รู้ลงไปกับเท้าที่ย่างไปข้างหน้า รู้ลงในเท้าที่วางลงกับพื้น

RIGHT GOES THUS LEFT GOES THUS



ระยะที่ 2

ใช้ หนอ ยกหนอ ( ท่าเตรียมคือ ยกส้นเท้ารอ กำหนดยกหนอ กระดกส้นเท้าขึ้น ยกปลายเท้าลอยขึ้น แล้วย่างเท้าไปข้างหน้า ) เหยียบหนอ ( วางเท้าลงบนพื้น )

ใช้ตัวเลข 1 และ 2 การเคลื่อนจังหวะเท้า เหมือนกับใช้กำหนดหนอ

ใช้จิตรู้ การเคลื่อนจังหวะเท้า เหมือนกับใช้กำหนดหนอ แต่ใช้จิตรู้ลงไป

LIFTING TREADING



ระยะที่ 3

ใช้หนอ ยกหนอ ( ท่าเตรียมคือ ยกส้นเท้ารอ ปลายเท้าแตะพื้น พอกำหนดยกหนอ คือ กระดกส้นเท้าขึ้น ยกปลายเท้าลอยขึ้นจากพื้น ) ย่างหนอ ( เท้าที่ยื่นไปข้างหน้า ) เหยียบหนอ ( วางเท้าลงบนพื้น )

ใช้ตัวเลข ใช้ 1 2 3 แทนการใช้กำหนดหนอ ตามการเคลื่อนไหวของเท้า

ใช้จิตรู้ การเคลื่อนจังหวะเท้า เหมือนกับใช้กำหนดหนอ แต่ใช้จิตรู้ลงไป

LIFTING MOVING TREADING


ระยะที่ 4

ใช้หนอ ยกส้นหนอ ยกหนอ ย่างหนอ เหยียบหนอ

ท่าเตรียมตัว ยืนเท้าราบธรรมดา แล้วยกเท้าพร้อมๆกับคำกำหนด

ใช้ตัวเลข 1 2 3 4 แทนการใช้กำหนดหนอ ตามการเคลื่อนไหวของเท้า

ใช้จิตรู้ การเคลื่อนจังหวะเท้า เหมือนกับใช้กำหนดหนอ แต่ใช้จิตรู้ลงไป

HEEL UP LIFTING MOVING TREADING


ระยะที่ 5

ใช้หนอ ยกส้นหนอ ยกหนอ ย่างหนอ ลงหนอ เหยียบหนอ

ท่าเตรียมตัว ยืนเท้าราบธรรมดา แล้วยกเท้าพร้อมๆกับคำกำหนด

ใช้ตัวเลข 1 2 3 4 5 แทนการใช้กำหนดหนอ ตามการเคลื่อนไหวของจังหวะเท้า

ใช้จิตรู้ การเคลื่อนจังหวะเท้า เหมือนกับใช้กำหนดหนอ แต่ใช้จิตรู้ลงไป

HEEL UP LIFTING MOVING LOWERING TOUCHING


ระยะที่ 6

ใช้หนอ ยกส้นหนอ ยกหนอ ย่างหนอ ลงหนอ ถูกหนอ กดหนอ

ท่าเตรียมตัว ยืนเท้าเรียบธรรมดา ลงหนอ คือ หย่อนเท้าลง ถูกหนอ ปลายเท้าแตะพื้น แต้ส้นเท้ายังไม่แตะ กดหนอ กดส้นเท้าลงเหยียบพื้น

ใช้ตัวเลข 1 2 3 4 5 6 แทนการใช้กำหนดหนอ ตามการเคลื่อนไหวของจังหวะเท้า

ใช้จิตรู้ การเคลื่อนจังหวะเท้า เหมือนกับใช้กำหนดหนอ แต่ใช้จิตรู้ลงไป

HEEL UP LIFTING MOVING LOWERING TOUCHING PRESSING

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 02:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณน้ำค่ะ วันนี้มาดูรูปอาหารเก่าๆทานน่ะค่ะ คิดถึงค่ะ
คุณอมิตาพุทธล่ะค่ะเป็นยังไงบ้าง
สภาพของเราตอนนี้ นั่งรถเข็นค่ะ
เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลมา ตอนนี้ต้องนอนมากกว่าการนั่งค่ะ
มีอาหารอะไรที่ไม่ต้องพึ่งเนื้อสัตว์
แต่บำรุงได้บ้างค่ะ

เอาใว้เรามาทานอาหารร่วมกัน แล้วคุยกันน่ะค่ะ
มีเรื่องอยากจะถามคุณน้ำมากๆเลยค่ะ :b53: :b53: :b53:


สวัสดีครับ คุณเต้ คุณน้ำ และทุกท่านด้วยครับ :b8:
ไม่ค่อยได้แวะเข้ามา เลยไม่ทราบว่าคุณเต้ป่วย
ไม่ทราบว่าเป็นปัญหาเรื่องตา ที่โดนยางมะละกอหรือเปล่าครับ

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้หายป่วยไวๆ นะครับคุณเต้

คุณน้ำเอง ก็คงสบายดีนะครับ :b1: :b8:

ถ้าว่างเดี๋๊ยวจะแวะมาบ่อยๆครับ :b4:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


แก้ไขล่าสุดโดย อมิตาพุทธ เมื่อ 24 พ.ย. 2009, 03:04, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 03:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


อมิตาพุทธ เขียน:
bbby เขียน:
คุณน้ำค่ะ วันนี้มาดูรูปอาหารเก่าๆทานน่ะค่ะ คิดถึงค่ะ
คุณอมิตาพุทธล่ะค่ะเป็นยังไงบ้าง
สภาพของเราตอนนี้ นั่งรถเข็นค่ะ
เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลมา ตอนนี้ต้องนอนมากกว่าการนั่งค่ะ
มีอาหารอะไรที่ไม่ต้องพึ่งเนื้อสัตว์
แต่บำรุงได้บ้างค่ะ

เอาใว้เรามาทานอาหารร่วมกัน แล้วคุยกันน่ะค่ะ
มีเรื่องอยากจะถามคุณน้ำมากๆเลยค่ะ :b53: :b53: :b53:


สวัสดีครับ เต้ คุณน้ำ และทุกท่านด้วยครับ :b8:
ไม่ค่อยได้แวะเข้ามา เลยไม่ทราบว่าคุณเต้ป่วย
ไม่ทราบว่าเป็นปัญหาเรื่องตา ที่โดนยางมะละกอหรือเปล่าครับ

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้หายป่วยไวๆ นะครับคุณเต้

คุณน้ำเอง ก็คงสบายดีนะครับ :b1: :b8:

ถ้าว่างเดี๋๊ยวจะแวะมาบ่อยๆครับ :b4:




cool

สบายดีค่ะ :b12:

คิดถึงนะคะ หายหน้าไปเลย คุณอมิตาพุทธไปทำงานร่วมกับพวกโรงทานหรือคะ

น้ำเคยโดนชวนค่ะ แต่ปฏิเสธไม่ได้ไปร่วมกับเขา

มาเพิ่มเติมนิดนึง ไม่ได้รังเกียจนะคะที่ไม่ได้ไปร่วม

แต่ติดงานที่ทำประจำอยู่ แล้วที่สำคัญที่เขาไปกันนี่ออกต่างจังหวัด เลยไปร่วมกับเขาไม่ได้ค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 24 พ.ย. 2009, 03:55, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 25 พ.ย. 2009, 03:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ.น้ำค่ะ
ตอนนี้ลดระยะการเดินมาเหลือแค่ระยะสี่
ตัดระยะห้าหกออกไป และมากำหนด
ลมหายใจ ถ้าพอง ยุบชัดก็ไปหาพอง ยุบ
รู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ แต่โอนเอน ยังมีอยู่บ้าง
ถ้ามีปัญหาอะไรจะรบกวนใหม่นะค่ะ
อาจารย์ไม่ค่อยสบาย คงจะแพ้อากาศ :b1:

ขอบคุณนะค่ะ อนุโมทนา :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสต์ เมื่อ: 25 พ.ย. 2009, 19:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณอมิตาพุทธ
ดีใจน่ะค่ะที่ได้คุยกันอีก :b1:
ไม่ใช่ผ่าตัดที่ตาค่ะ ผ่าตัดที่ท้องน่ะค่ะ
เลยต้องสูญเสียอวัยวะข้างในไป1อย่างค่ะ :b7:

แต่ตอนนี้เริ่มทำใจได้แล้วค่ะ หลังจากที่ได้คุยกับคุณน้ำ
ตอนนี้ก็เริ่มบำรุงตัวเองให้แข็งแรง ตอนนี้อาการดีขึ้นนิดหน่อยแล้วค่ะ

อ่านที่คุณน้ำเขียน คุณอมิตาพุทธไปทำงานช่วยที่โรงทานเหรอค่ะ
ถ้าคุณอมิตาพุทธว่าง ช่วยpostรูปให้เราดูบ้างสิค่ะ :b1:

คุณอมิตาพุทธ+คุณน้ำรู้ไม๊ค่ะ การได้ไปช่วยทำงานที่โรงทาน
เป็นความฝันของเราเลยค่ะ

แต่ความฝันของเรา คงจะไม่มีทางเป็นความจริงไปได้น่ะค่ะ
เราชอบมากๆเลยค่ะ
ถ้าเราหายดีแล้ว เราคงต้องคุยเรื่องนี้
กับคุณอมิตาพุทธ+คุณน้ำเยอะหน่อยน่ะค่ะ
เมื่อคืนก่อนนอนยังคิดๆอยู่เลยค่ะ
มาวันนี้ได้คุยเรื่องนี้เลยดีใจจังค่ะ
แล้วคุยกันใหม่น่ะค่ะ :b47: :b51: :b43: :b41:


โพสต์ เมื่อ: 25 พ.ย. 2009, 22:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
อ.น้ำค่ะ
ตอนนี้ลดระยะการเดินมาเหลือแค่ระยะสี่
ตัดระยะห้าหกออกไป และมากำหนด
ลมหายใจ ถ้าพอง ยุบชัดก็ไปหาพอง ยุบ
รู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ แต่โอนเอน ยังมีอยู่บ้าง
ถ้ามีปัญหาอะไรจะรบกวนใหม่นะค่ะ
อาจารย์ไม่ค่อยสบาย คงจะแพ้อากาศ :b1:

ขอบคุณนะค่ะ อนุโมทนา :b8:




ถ้าเดินแล้วยังมีอาการเซ คือ สติยังไม่มากพอที่จะเดินระยะนั้นได้ค่ะ
คุณทักทายลองเดินแค่ ระยะที่ 1- 3 ดูสิคะ
แล้วค่อยๆพิ่มระยะได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องรีบ
ถ้าเดินระยะใดๆแล้วไม่มีอาการเซ คือเดินได้ค่ะ สติทัน
ถ้าเดินแล้วยังเซ ให้ลดระยะลงมาค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 25 พ.ย. 2009, 23:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ที่จริงก็เริ่มเซตั้งแต่ระยะหนึ่งแล้วค่ะ
แต่มีนิดๆ พอระยะที่สูงขึ้น ก็เซมากขึ้น พอลดระยะลงมา
เหลือแค่ระยะสี่ ยังมีเซนิดหน่อย แต่น้อยลงไปแล้วค่ะ
จะลองต่อไปเรื่อยๆนะค่ะ :b8:

อากาศทางบ้านเราคงเย็นบ้างแล้ว อ.น้ำรักษาสุขภาพนะค่ะ
ทางนี้เขาหนาวกันแล้ว ใส่เสื้อหนาวกันทั้งวัน แต่ทักทาย
ยังคงใส่เสื้อยีดธรรมดา ก็เย็นๆนะ แต่ไม่ถึงกับหนาว
คงเป็นเพราะทักทายเป็นสาวแรงสูงมังค่ะ เลยไม่ค่อยรูัจัก
คำว่า "หนาว" :b32: :b32: :b32:

อนุโมทนาค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสต์ เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 21:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ที่จริงก็เริ่มเซตั้งแต่ระยะหนึ่งแล้วค่ะ
แต่มีนิดๆ พอระยะที่สูงขึ้น ก็เซมากขึ้น พอลดระยะลงมา
เหลือแค่ระยะสี่ ยังมีเซนิดหน่อย แต่น้อยลงไปแล้วค่ะ
จะลองต่อไปเรื่อยๆนะค่ะ :b8:

อากาศทางบ้านเราคงเย็นบ้างแล้ว อ.น้ำรักษาสุขภาพนะค่ะ
ทางนี้เขาหนาวกันแล้ว ใส่เสื้อหนาวกันทั้งวัน แต่ทักทาย
ยังคงใส่เสื้อยีดธรรมดา ก็เย็นๆนะ แต่ไม่ถึงกับหนาว
คงเป็นเพราะทักทายเป็นสาวแรงสูงมังค่ะ เลยไม่ค่อยรูัจัก
คำว่า "หนาว" :b32: :b32: :b32:

อนุโมทนาค่ะ :b8:



cool
อิอิ ... อากาศเริ่มเย็นขึ้นเป็นระยะๆค่ะ
ชอบมากค่ะ .. ประหยัดค่าน้ำปะปาไปเยอะเลย :b32:


เรื่องการเดินจงกรม ...
จริงๆแล้ว ครูบาฯท่านจะให้เริ่มทีละระยะก่อน
ถ้าระยะนั้นๆเดินได้โดยไม่มีเซ จำสภาวะได้ดี เท้ากระทบพื้นได้ชัด
ท่านถึงจะให้เพิ่มระยะได้ การเดินได้ทุกระยะจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ที่สำคัญคือ สติ สัมปชัญญะที่เกิดขึ้น
การเดินแต่ระยะ บ่งบอกถึงสติค่ะว่ามีมากน้อยแค่ไหน

ถ้าเดินแล้วยังมีเซ แต่คุณทักทายบอกว่า ยังเดินได้ค่ะ
ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ายังจะชอบเดินแบบเซบ้างตรงบ้าง :b32:
อันนี้น้ำพูดจริงๆนะคะ ไม่ได้ประชด เพราะเป็นสภาวะของแต่ละคนค่ะ
ก็เหมือนคนทำงาน คนนี้ถนัดทำแบบนี้ คนนั้นถนัดทำแบบนั้น
ต้องให้เขาทำที่เขาถนัด งานก็จะออกมาดี

โยคีเขาจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกแนวทางของเขาเองค่ะ
ส่วนผู้แนะนำคอยดูให้เท่านั้นเอง ว่าโยคีควรจะเพิ่มหรือลดตรงไหน
เพื่อให้สมาธิกับสติสมดุลย์ สติยิ่งมากยิ่งดี แต่สมาธิมีพอประมาณก็พอ

เหมือนเดินจงกรม ไม่ใช่แค่ 3 แบบที่น้ำบอกไปแล้วนะคะ
ยังมีอีกค่ะ แบบคนที่สนทนากับน้ำน่ะ แนะนำให้เขาทำแบบนั้นไม่ได้
เราก็ต้องให้เขาทำแบบที่เขาถนัดคือ ให้เขาเดินเหมือนที่เขาเดินทุกๆวัน
ในทุกๆอริยาบทที่เขาเดินทำงานหรือทำอะไร เพียงแต่ให้เขามีสติรู้อยู่กับการเดินเท่านั้นเอง
ไม่มีอะไรที่เป็นรูปแบบตายตัวหรอกค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณอมิตาพุทธ+คุณน้ำรู้ไม๊ค่ะ การได้ไปช่วยทำงานที่โรงทาน
เป็นความฝันของเราเลยค่ะ

แต่ความฝันของเรา คงจะไม่มีทางเป็นความจริงไปได้น่ะค่ะ
เราชอบมากๆเลยค่ะ
ถ้าเราหายดีแล้ว เราคงต้องคุยเรื่องนี้
กับคุณอมิตาพุทธ+คุณน้ำเยอะหน่อยน่ะค่ะ
เมื่อคืนก่อนนอนยังคิดๆอยู่เลยค่ะ
มาวันนี้ได้คุยเรื่องนี้เลยดีใจจังค่ะ
แล้วคุยกันใหม่น่ะค่ะ :b47: :b51: :b43: :b41:



คุณเต้หมั่นเจริญสติไปนะคะ ทำแบบที่บอกน่ะค่ะ
สิ่งที่คุณเต้ตั้งใจไว้ สักวันได้ทำแน่นนอนค่ะ หมั่นอธิษฐานนะคะ
งานที่โรงทาน เป็นงานที่ดูเหมือนค่อนข้างจะหนัก
เพราะจะเจอผู้คนหลายรูปแบบ เป็นการทดสอบอารมณ์เราด้วยค่ะ
คนที่ช่วยงานโรงทาน ส่วนมากจะใจเย็นกันมากๆๆๆๆๆ มีน้ำใจ
ทุกวันนี้ยังคิดถึงทั้งอาจารย์หวงและอาจารย์ทุกๆคน
ตลอดจนผู้ให้บริการอยู่เลยค่ะ แบบประทับใจเขาเหล่านั้นมากๆเลยค่ะ

อื่มมม ... ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าคุณเต้เองก็ทำงานที่โรงทานอยู่แล้วไม่ใช่หรือคะ?

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 27 พ.ย. 2009, 12:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้ำค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะที่นำข้อมูลการเดินจงกลมมาให้เราอ่าน
ตอนนี้กำลังฝึกอยู่น่ะค่ะ พอดีตอนนี้ต้องเดินช้าๆพอดี
ต้องก้าวขาสั้นๆ เพราะถ้าก้าวขายาวๆเหมือนไปดึงที่แผล
แต่เหมือนผิดๆถูกยังไงก็ไม่รู้สิน่ะค่ะ :b1:

เราไม่เคยไปทำที่โรงทานหรอกค่ะ เราเคยไปช่วยที่ฝอถังช่วยแปลไทย+จีน
ให้พระไทยน่ะค่ะ พระไทยท่านมาสอนนั่งสมาธิ+สวดมนต์
ปล่อยสัตว์ทำสังฆทาน

แต่ตอนนี้ท่านกลับไปเมืองไทยหลายเดือนแล้วค่ะ
ตอนที่ไปช่วยที่ฝอถังนี่ ทั้งเหนื่อยทั้งสนุกน่ะค่ะ
คือได้ไปเจอ คนที่เค้าต้องการศึกษาเรื่องธรรมะ
ได้เห็นพวกเค้าซื้อนกซื้อปลามาปล่อย
เวลาที่เห็นนก
เค้าได้บินไปบนท้องฟ้ารู้สึกมีความสุขดีน่ะค่ะ :b1:

อ้อ!เราลืมเล่าเรื่องอะไรอย่างหนึ่งให้คุณน้ำฟังน่ะค่ะ
คือ วันแรกที่เรากลับมาจากโรงพยาบาล
พอตอนกลางคืนเราฝันถึงคุณน้ำน่ะค่ะ
เราฝันว่า มีผู้หญิงใส่ชุดขาวทั้งชุด นั่งในท่านั่งสมาธิ
แต่ท่าที่นั่งสมาธินี่สวยมากๆน่ะค่ะ คือหลับตา-นิ่ง-ตัวตรง

เราฝันว่าเรายืนอยู่ แล้วผู้หญิงที่อยู่ในท่านั่งสมาธิ
ก็ลอยมาหาเรา แต่ก็ไม่ใช่ระยะใกล้มากซักเท่าไหร่
ลอยอยู่ในระดับที่สูงกว่าศรีษะของเรานิดหน่อย
พอเราเห็น เราก็เรียก"คุณน้ำ"
แล้วเราก็ตื่น แปลกน่ะค่ะทำไมเราฝันเห็นคุณน้ำ ในชุดขาว2ครั้งแล้วน่ะค่ะ
แล้วหน้าตา ก็เป็นคนคนเดียวกัน กับที่บอกว่า"น้ำจะมาสอนให้คุณเต้เดินจงกลม"
แปลกน่ะค่ะคุณน้ำ :b10:
คุณน้ำมีความคิดเห็นว่ายังไงบ้างค่ะ : :b38: :b45:


โพสต์ เมื่อ: 27 พ.ย. 2009, 12:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
อมิตาพุทธ เขียน:
bbby เขียน:
คุณน้ำค่ะ วันนี้มาดูรูปอาหารเก่าๆทานน่ะค่ะ คิดถึงค่ะ
คุณอมิตาพุทธล่ะค่ะเป็นยังไงบ้าง
สภาพของเราตอนนี้ นั่งรถเข็นค่ะ
เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลมา ตอนนี้ต้องนอนมากกว่าการนั่งค่ะ
มีอาหารอะไรที่ไม่ต้องพึ่งเนื้อสัตว์
แต่บำรุงได้บ้างค่ะ

เอาใว้เรามาทานอาหารร่วมกัน แล้วคุยกันน่ะค่ะ
มีเรื่องอยากจะถามคุณน้ำมากๆเลยค่ะ :b53: :b53: :b53:


สวัสดีครับ เต้ คุณน้ำ และทุกท่านด้วยครับ :b8:
ไม่ค่อยได้แวะเข้ามา เลยไม่ทราบว่าคุณเต้ป่วย
ไม่ทราบว่าเป็นปัญหาเรื่องตา ที่โดนยางมะละกอหรือเปล่าครับ

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้หายป่วยไวๆ นะครับคุณเต้

คุณน้ำเอง ก็คงสบายดีนะครับ :b1: :b8:

ถ้าว่างเดี๋๊ยวจะแวะมาบ่อยๆครับ :b4:




cool

สบายดีค่ะ :b12:

คิดถึงนะคะ หายหน้าไปเลย คุณอมิตาพุทธไปทำงานร่วมกับพวกโรงทานหรือคะ

น้ำเคยโดนชวนค่ะ แต่ปฏิเสธไม่ได้ไปร่วมกับเขา

มาเพิ่มเติมนิดนึง ไม่ได้รังเกียจนะคะที่ไม่ได้ไปร่วม

แต่ติดงานที่ทำประจำอยู่ แล้วที่สำคัญที่เขาไปกันนี่ออกต่างจังหวัด เลยไปร่วมกับเขาไม่ได้ค่ะ


ยังไม่มีโอกาสไปช่วยงานที่โรงทานเลยครับ คุณน้ำ เหตุผลก็เหมือนกับคุณน้ำครับ
เพราะว่าต้องไปต่างจังหวัด เลยไม่สะดวกน่ะครับ
ช่วงเทศกาลกินเจ เได้ช่วยงานที่ สถานธรรม(ฝอถัง)
ไปช่วยบริการ ช่วยขายอาหารเจ น่ะครับ :b1:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 664 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 16, 17, 18, 19, 20, 21, 22 ... 45  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร