ฌาณช่วยให้สงัดจากกาม แต่เมื่อไม่เอา งั้นก็มา พอกพูน ราคะโทสะ โมหะ กันเถิด

เพราะแค่คิด แค่ รู้ ก็บรรลุ ไม่ต้องเพียร เพ่งกันแล้ว เอากันชัดๆเลยดีกว่า mettallica
!!!

เอาให้ฟุ้งกันไปเลย ไม่ต้อง ฝึกสมาธิ กันแล้ว สมถะวิชาสำคัญในพุทธศาสนา หากไม่เอาก็ ไม่เป็นไร งั้นเรามาฝึกวิชา อกุศลาธรรมากันเถิด

“AUTOPCIA RECIENTE”

http://www.youtube.com/watch?v=sCpDSox7x1o&feature=player_embedded

เป็นผ่าศพ ผู้หญิง เลาะเครื่องในออก สรุป นี่คือ ปัญญา วิปัสสนาใช่ไหมครับ ?


คือแค่ คิด ปลงอนิจจัง แล้วก็บรรลุโดยไม่ต้อง ฝึก สมาธิ ให้มี ฌาณ กันแล้วใช่ไหม?

ดู คนสวยคนหล่อ แล้วมาดูศพ แล้วก็แค่คิดปลงๆๆๆ แค่กล่าวรู้ แค่ เห็น ซากศพ เครื่องใน ก็ คือ สติปัฏฐาน4 แล้วใช่ไหมครับ?


ว่าไงครับ วิปัสสนาแล้วใช่ไหมครับ? เอาให้ชัดๆไปเลยดีกว่า ครับ อสาวักขยญาณ การ เพียรเพ่ง ไม่ต้องทำกันแล้วใช่ไหม????


เอ... หรือว่าแค่คิดปลง ก็ คือ อาสาวักขยญาณ กันแล้ว

หรือ จะฉลาดแบบ ไอสไตน์ เป็นวิปัสสนา??? ไม่ต้องฝึกสมาธิ จนเป็นฌาณ

พุทธพจน์ น่ะอ่านง่าย เข้าใจง่าย ชัดเจน ไพเราะ(ไม่ต้องมีบาลี) แต่ ปฏิบัติ ให้ บรรลุ น่ะยาก!!!




พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต



จิตของตนไว้ในสมถะในภายในเนืองๆ มีฌานไม่เสื่อม ประกอบด้วยวิปัสสนา
พอกพูนสุญญาคารอยู่ พึงหวังได้ผล ๒ อย่าง คือ อรหัตผลในปัจจุบัน หรือ
เมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ความเป็นพระอนาคามี ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มี-
*พระภาคตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
ชนเหล่าใดมีจิตสงบแล้ว มีปัญญาเป็นเครื่องรักษาตน มีสติ
มีฌาน ไม่มีความเพ่งเล็งในกามทั้งหลาย ย่อมเห็น
แจ้งธรรมโดยชอบ เป็นผู้ยินดีแล้วในความไม่ประมาท มี
ปรกติเห็นภัยในความประมาท ชนเหล่านั้นเป็นผู้ไม่ควรเพื่อ
ความเสื่อมรอบ ย่อมมีในที่ใกล้นิพพานเทียว
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับ
มาแล้ว ฉะนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๑
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๕๒๘๒ - ๕๒๙๔. หน้าที่ ๒๓๒ - ๒๓๓.

แล้วไปอ่านมาใหม่นะว่า สติปัฏฐาน4 น่ะ ต้องกำหนดลมหายใจหรือเปล่า??? กำหนดไปเพื่ออะไร???

มรรคมีองค์ 8 ขาดสัมมาสมาธิ จะครบองค์ได้ยังไง???


จบครับ ทุกทุกอย่าง ที่กล่าวอ้าง ปฏิเสธ ฌาณ ยังโง้นยังงี้ โมฆะครับ มันจบไปในตัวโจทย์ อยู่แล้ว

ง่ายๆไม่ต้อง อ้าง เลย

สาธุ...ค่ะ ท่านหลับอยู่
ขออนุญาต นำสัลลานสูตร เต็มๆ มาเสริมให้อ่านกันนะคะ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีความหลีกเร้นเป็นที่มายินดี
ยินดีแล้วในความหลีกเร้น
ประกอบจิตของตนไว้ในสมถะในภายในเนืองๆ
มีฌานไม่เสื่อม ประกอบด้วยวิปัสสนา พอกพูนสุญญาคารอยู่เถิด

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เมื่อเธอทั้งหลายมีความหลีกเร้นเป็นที่มายินดี
ยินดีแล้วในความหลีกเร้น
ประกอบจิตของตนไว้ในสมถะในภายในเนืองๆ
มีฌานไม่เสื่อม ประกอบด้วยวิปัสสนา พอกพูนสุญญาคารอยู่
พึงหวังได้ผล ๒ อย่าง คือ
อรหัตผลในปัจจุบัน หรือ
เมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ความเป็นพระอนาคามี ฯ






ชนเหล่าใดมีจิตสงบแล้ว
มีปัญญาเป็นเครื่องรักษาตน มีสติ มีฌาน
ไม่มีความเพ่งเล็งในกามทั้งหลาย ย่อมเห็นแจ้งธรรมโดยชอบ
เป็นผู้ยินดีแล้วในความไม่ประมาท มีปรกติเห็นภัยในความประมาท
ชนเหล่านั้นเป็นผู้ไม่ควรเพื่อความเสื่อมรอบ ย่อมมีในที่ใกล้นิพพานเทียว



สาธุ....เจริญในธรรมค่ะ

ว่าจะหยุดลอกมาแล้ว ครูบาอาจารย์ท่านเตือนโดยไม่ต้องบอก (แค่คิดเฉยๆเราไม่ต้องพูด) แต่ก็อดไม่ได้ครับ พระสูตร ที่ สอนให้ บำเพียร บำเพ็ญฌาณ มีมาก ที่จริง แค่ที่โพสกันมา ก็ มากพอแล้ว ครับ แต่ อย่างว่าครับ

ปริพาชก2012 หลายแขนงมีมากครับ ครั้นจะให้ ไป ปรับวาทะ ทุกเวป มันก็ ไม่ดี

ความสงบระงับใจ(สมถะ)ไม่มีก็คือ จบครับ

ส่วนตัวผมก็กลัวว่า พวกเราจะกลายเป็นเอาธรรมะ มาขึ้นเขียง (อันนี้ความคิดส่วนตัว)

ผิดพลาดขออภัย

ฟัง เพลง วง metallica ก็ บรรลุแล้วครับ เพราะเนื้อเพลง ส่วนใหญ่ นัยยะ ก็ออก อนิจจัง ทุกขังๆลๆ กันอยู่แล้วสำหรับวงนี้

พิจารณา เนื้อเพลง กับ มิวสิควีดีโอได้ก้ บรรลุ โดยไม่ต้อง ฝึก สมาธิ

เรื่องจริง จากชีวิตโสเภณี ยกมาพิจารณา ให้บรรลุได้ไหม

อสัทธรรมในแบบฉบับ metallica (ดูมิวสิควีดีโอให้ดี)