วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 12:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 315 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17 ... 21  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 18:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



ขอจบการสนทนาแค่นี้
อธิบายยังไงก็ไม่มีวันเข้าใจ เพราะผู้ถามมานั้นทำได้แค่โลกียฌาน
แล้วหลงสภาวะ คิดว่าตัวเองได้อะไรเป็นอะไร
กลับไปเจริญสติให้มาก นั่งสมาธิให้น้อยลง สมาธิล้ำหน้าสติก็เป็นแบบนี้แหละ

หรือว่าไปกางตำราสอบอารมณ์มา เมื่อเจอสภาวะดับ เลยเข้าใจสภาวะผิดๆ
จะบอกให้ ตำราสอบอารมณ์ญาณ ๑๖ ของหลวงพ่อโชดกที่นำมาก๊อปๆกันน่ะ
ท่านวางกับดักกิเลสสำหรับผู้ที่อยากเป็นอริยะ

ในปัจเจกขณญาณ ญาณ ๑๖ นั่นน่ะเป็นโลกียะ หาใช่โลกุตรไม่
และสภาวะที่ท่านเขียนไว้น่ะ หลุมพรางดักกิเลสชั้นเลิศเลย คงยังไม่รู้สินะ

ท่านแอดมินจะล็อกกระทู้ก็ล็อกได้เลยค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 18:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แม่หนูน้อย แล้วอย่าลืมไปทำการบ้าน

ตอบคำถาม ง่ายๆที่ถามด้วย ที่ถามไปด้วย


แม่หนูน้อย รู้จักไหม ว่า อะไร เป็นปัจจัยให้เกิดความคิด

และอธิบายองค์ธรรม ของอรูปฌานด้วย นะแม่หนูน้อย

ปริวิตก ในอรูปฌาน เป็นอรูปชนิดไหน


และที่ เช่นนั้น บอกว่า มีฌานสี่เป็นบาท

อธิบายองค์ธรรม ของฌานสี่ หน่อยสิ
สภาวะในพระไตรปิฎก นั้น มีบาทเป็นฌานสี่ จริงหรือ

และอธิบาย นิวรณ์ สิ
ว่าปริวิตก เป็นอะไร
ฌานสี่ ที่มีปริวิตก เป็นสภาวะอะไร เป็นฌานสี่ หรือไม่เป็น ฌานสี่

และอธิบาย การยก การพิจารณา ที่ทำให้เกิด ปริวิตก
โดยขาดองค์ธรรมวิปัสสนา
สภาวะที่เกิด ปริวิตก นั้น เป็นยังไง ตอบมาหน่อย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 18:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:

ขอจบการสนทนาแค่นี้
อธิบายยังไงก็ไม่มีวันเข้าใจ เพราะผู้ถามมานั้นทำได้แค่โลกียฌาน
แล้วหลงสภาวะ คิดว่าตัวเองได้อะไรเป็นอะไร
กลับไปเจริญสติให้มาก นั่งสมาธิให้น้อยลง สมาธิล้ำหน้าสติก็เป็นแบบนี้แหละ

หรือว่าไปกางตำราสอบอารมณ์มา เมื่อเจอสภาวะดับ เลยเข้าใจสภาวะผิดๆ
จะบอกให้ ตำราสอบอารมณ์ญาณ ๑๖ ของหลวงพ่อโชดกที่นำมาก๊อปๆกันน่ะ
ท่านวางกับดักกิเลสสำหรับผู้ที่อยากเป็นอริยะ

ในปัจเจกขณญาณ ญาณ ๑๖ นั่นน่ะเป็นโลกียะ หาใช่โลกุตรไม่
และสภาวะที่ท่านเขียนไว้น่ะ หลุมพรางดักกิเลสชั้นเลิศเลย คงยังไม่รู้สินะ

ท่านแอดมินจะล็อกกระทู้ก็ล็อกได้เลยค่ะ


ก็ไปนิมนต์ หลวงพ่่อโชดก มาเสวนา ซะที่นี่เลย
จะดีไม่น้อย

นิมนต์เลยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 18:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



เลยไม่ได้เล่ากฏแห่งกรรม " ลูกศิษย์คิดล้างครู " ต่อ ก็ปล่อยให้แค่นั้นพอ
ปล่อยให้สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของตัวเอง
อย่าคิดมาวัดรอยเท้าเลย ยังห่างไกลมาก

เป็นไงล่ะ สมาธิที่เคยถ่ายเทให้ สวาปามเข้าไปจนอ้วกแตกอ้วกแตนน่ะ
เมื่อกำลังของสมาธิมีมากขึ้น ทำให้เข้าสู่สภาวะดับได้ ก็หลงดีใจไปกางตำราสอบอารมณ์
เจอกับดักของครูบาฯวางไว้อีก เลยตายแหงแก๋ คิดว่าตัวเองได้อะไร เป็นอะไร
ศิลยังพร่องแบบนี้ อย่าหวังเลย

มีลูกศิษย์ สอบอารมณ์ไปมาก็ไปหลีลูกศิษย์
แบบนี้หรือคนที่จะมาเป็นอริยะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 25 เม.ย. 2010, 18:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 18:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:

เลยไม่ได้เล่ากฏแห่งกรรม " ลูกศิษย์คิดล้างครู " ต่อ ก็ปล่อยให้แค่นั้นพอ
ปล่อยให้สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของตัวเอง
อย่าคิดมาวัดรอยเท้าเลย ยังห่างไกลมาก

เป็นไงล่ะ สมาธิที่เคยถ่ายเทให้ สวาปามเข้าไปจนอ้วกแตกอ้วกแตนน่ะ
เมื่อกำลังของสมาธิมีมากขึ้น ทำให้เข้าสู่สภาวะดับได้ ก็หลงดีใจไปกางตำราสอบอารมณ์
เจอกับดักของครูบาฯวางไว้อีก เลยตายแหงแก๋ คิดว่าตัวเองได้อะไร เป็นอะไร
ศิลยังพร่องแบบนี้ อย่าหวังเลย

มีลูกศิษย์ สอบอารมณ์ไปมาก็ไปหลีลูกศิษย์
แบบนี้หรือคนที่จะมาเป็นอริยะ


นั่นเล่าเรื่องหลวงพ่อโขดกน่ะหรือ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 18:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาคำถาม ง่ายๆๆๆๆๆ ไปให้หลวงพ่อ ช่วยตอบด้วยก็ได้

ตอบคำถาม ง่ายๆที่ถามด้วย ที่ถามไปด้วย


แม่หนูน้อย รู้จักไหม ว่า อะไร เป็นปัจจัยให้เกิดความคิด

และอธิบายองค์ธรรม ของอรูปฌานด้วย นะแม่หนูน้อย

ปริวิตก ในอรูปฌาน เป็นอรูปชนิดไหน


และที่ เช่นนั้น บอกว่า มีฌานสี่เป็นบาท

อธิบายองค์ธรรม ของฌานสี่ หน่อยสิ
สภาวะในพระไตรปิฎก นั้น มีบาทเป็นฌานสี่ จริงหรือ

และอธิบาย นิวรณ์ สิ
ว่าปริวิตก เป็นอะไร
ฌานสี่ ที่มีปริวิตก เป็นสภาวะอะไร เป็นฌานสี่ หรือไม่เป็น ฌานสี่

และอธิบาย การยก การพิจารณา ที่ทำให้เกิด ปริวิตก
โดยขาดองค์ธรรมวิปัสสนา
สภาวะที่เกิด ปริวิตก นั้น เป็นยังไง ตอบมาหน่อย
ตอบ: วันนี้, 18:19


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 18:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
varinne เขียน:
เราอยากให้คุณ อธิบายถึง ศีลข้อ 4

ให้เราฟัง มากกว่านะ :b12: :b12: :b12:


ความอยาก นั่นไง ทำให้เธอ ไม่มีสติที่ต่อเนื่องสักที


เราว่าที่คุณถามคนอื่นมากมายเกี่ยวกับปรัยัติต่างๆ

นั้นก็เพราะว่าคุณอยากรู้ว่าคนอื่นมีภูมิธรรมเป็นอย่างไรบ้างหรอกนะ

ก็ไม่ต่างจากเราหรอกถ้าเราจะถามว่า

คุณรู้จัก ศีลข้อที่ 4ดีแค่ไหน

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 20:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


" ลูกศิษย์คิดล้างครู "

ปล่อยให้สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของตัวเอง

อย่ามาคิดวัดรอยเท้าเลย ยังห่างไกลมาก

เป็นไงล่ะ สมาธิที่เคยถ่ายเทให้ สวาปามเข้าไปจนอ้วกแตกอ้วกแตนน่ะ
เมื่อกำลังของสมาธิมีมากขึ้น ทำให้เข้าสู่สภาวะดับได้ ก็หลงดีใจไปกางตำราสอบอารมณ์
เจอกับดักของครูบาฯวางไว้อีก เลยตายแหงแก๋ คิดว่าตัวเองได้อะไร เป็นอะไร
ศิลยังพร่องแบบนี้ อย่าหวังเลย


มีลูกศิษย์ สอบอารมณ์ไปมาก็ไปหลีลูกศิษย์
แบบนี้หรือคนที่จะมาเป็นอริยะ




ข้าสินี่แน่ หนึ่งในตองอู ทั้งปริยัติ ทั้งอภิธรรม ข้าสิล้ำเลิศ ใครอย่ามาแหยม
รับไม่ได้เลย อาจารย์ช้านด้อยปริยัติเสียเหลือเกิน

อาจารย์รึก็เข้าใจในมานะกิเลสของลูกศิษย์ อุตส่าห์แนะนำให้ไปพบวิปัสสนาจารย์ที่เป็นพระ
คิดว่า น่าจะรอดได้จากอุปกิเลส สุดท้ายเลยออกมาเป็นแบบนี้


แล้วเป็นไง หลงกิเลสตัวเบ้อเริ่มมองไม่เห็น
คงเคยสร้างเหตุมาร่วมกันแค่นี้ ผลเลยส่งผลให้จบเหตุที่มีต่อกันไวมากขึ้น

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 25 เม.ย. 2010, 20:27, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 21:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


varinne เขียน:
enlighted เขียน:
varinne เขียน:
เราอยากให้คุณ อธิบายถึง ศีลข้อ 4

ให้เราฟัง มากกว่านะ :b12: :b12: :b12:


ความอยาก นั่นไง ทำให้เธอ ไม่มีสติที่ต่อเนื่องสักที


เราว่าที่คุณถามคนอื่นมากมายเกี่ยวกับปรัยัติต่างๆ

นั้นก็เพราะว่าคุณอยากรู้ว่าคนอื่นมีภูมิธรรมเป็นอย่างไรบ้างหรอกนะ

ก็ไม่ต่างจากเราหรอกถ้าเราจะถามว่า

คุณรู้จัก ศีลข้อที่ 4ดีแค่ไหน


เหอๆๆ

คำถามไม่ได้อยากจะรู้สภาวะธรรมใครหรอก
เข้าใจผิดแล้วแม่หนูน้อย

แต่คำถาม นั่นคือคำตอบ

ถามว่ารู้จัก ศีลข้อสี่ แค่ไหน
ก็ตอบว่า ไม่ใช่แค่รู้จัก

เรียกว่า รู้แจ้ง ไม่หลง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 21:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
" ลูกศิษย์คิดล้างครู "

ปล่อยให้สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของตัวเอง

อย่ามาคิดวัดรอยเท้าเลย ยังห่างไกลมาก

เป็นไงล่ะ สมาธิที่เคยถ่ายเทให้ สวาปามเข้าไปจนอ้วกแตกอ้วกแตนน่ะ
เมื่อกำลังของสมาธิมีมากขึ้น ทำให้เข้าสู่สภาวะดับได้ ก็หลงดีใจไปกางตำราสอบอารมณ์
เจอกับดักของครูบาฯวางไว้อีก เลยตายแหงแก๋ คิดว่าตัวเองได้อะไร เป็นอะไร
ศิลยังพร่องแบบนี้ อย่าหวังเลย


มีลูกศิษย์ สอบอารมณ์ไปมาก็ไปหลีลูกศิษย์
แบบนี้หรือคนที่จะมาเป็นอริยะ




ข้าสินี่แน่ หนึ่งในตองอู ทั้งปริยัติ ทั้งอภิธรรม ข้าสิล้ำเลิศ ใครอย่ามาแหยม
รับไม่ได้เลย อาจารย์ช้านด้อยปริยัติเสียเหลือเกิน

อาจารย์รึก็เข้าใจในมานะกิเลสของลูกศิษย์ อุตส่าห์แนะนำให้ไปพบวิปัสสนาจารย์ที่เป็นพระ
คิดว่า น่าจะรอดได้จากอุปกิเลส สุดท้ายเลยออกมาเป็นแบบนี้


แล้วเป็นไง หลงกิเลสตัวเบ้อเริ่มมองไม่เห็น
คงเคยสร้างเหตุมาร่วมกันแค่นี้ ผลเลยส่งผลให้จบเหตุที่มีต่อกันไวมากขึ้น


โดนหลี เสียท่ามาแล้วเหรอ
มาระบายใหญ่เลย
เป็นไปตามกรรมจริงๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 21:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
เวลาอ่านสภาวะ หลักการอ่าน ให้ดูใจความที่แสดงอยู่


เพราะถ้าเป็นฌาน เวลาพระพุทธองค์ทรงแสดง
จะมีการแสดงองค์ประกอบของฌานที่เป็นสัมมาสมาธิด้วยทุกครั้ง
แล้วในรูปประโยคทั้งหมด ไม่มีคำว่า " สมาธิ " ประกอบอยู่

แต่สภาวะที่ยกมาเป็นตัวอย่างตรงนี้เจาะจงชัดเจนว่า " ธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง "
นี่คือ นิโรธสมาบัติ


ถ้ามีคำว่า " สมาธิ " ประกอบอยู่ นั่นหมายถึงการเข้าผลาสมาบัติของอริยะแต่ละระดับ

สภาวะของฌานสมาบัติ จะมีสภาวะเหมือนกับการเข้าผลาสมาบัติของอริยะ
ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งดับ แล้วเกิด ซึ่งทำให้มีคนหลงสภาวะตรงนี้ได้


อิอิ หลักการอ่านสภาวะของ ปทปรม ต้องดูจาก ตัวหนังสือ ละจ้าๆๆๆๆ


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 21:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
enlighted เขียน:


๕๕๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าแรกตรัสรู้ ประทับอยู่ที่ต้นอชปาล-
นิโครธ แถบฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา อุรุเวลาประเทศ.
ครั้งนั้น ความปริวิตกแห่งพระหฤทัยบังเกิดขึ้นแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า
เสด็จเข้าที่สลับ ทรงพักผ่อนอยู่อย่างนี้ว่า ธรรมที่เราตรัสรู้แล้วนี้ ลึกซึ้ง
เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบ ประณีต คาคคะเนเอาไม่ได้ ละเอียด รู้ได้
เฉพาะบัณฑิต ก็หมู่สัตว์นี้แล ยังยินดีด้วยอาลัย ยินดีแล้วในอาลัย เบิกบาน
แล้วในอาลัย ก็ฐานะนี้ คือ ความเป็นปัจจัยแห่งธรรมมีสังขารเป็นต้นนี้ เป็น
ธรรมอาศัยกันและกันเกิดขึ้น อันหมู่สัตว์ผู้ยินดีด้วยอาลัย ยินดีแล้วในอาลัย
เบิกบานแล้วในอาลัย จะพึงเห็นได้ยาก แม้ฐานะนี้ ก็เห็นได้ยาก คือ ธรรม
เป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง ธรรมเป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง ธรรมเป็นที่สิ้น
ตัณหา ธรรมเป็นที่สำรอก ธรรมเป็นที่ดับ นิพพาน ก็ถ้าเราจะพึงแสดงธรรม
แต่ชนเหล่าอื่นจะไม่พึงรู้ทั่วถึงธรรมของเรา ข้อนั้น จะพึงเป็นความเหน็ดเหนื่อย
ของเรา ข้อนั้น จะพึงเป็นความลำบากของเรา
.




เอาเป็นว่า จะอธิบายให้ฟังใหม่ เอาตรงรูปประโยคที่คุณนำมาทั้งหมดนี่
ยังไม่เอาที่คุณถามมาว่า คือ สภาวะอะไร

ตรงนี้ทั้งหมด พระพุทธองค์แค่ทรงครุ่นคิด ไม่ได้เข้านิโรธ

แต่ตรงที่เน้นตัวอักษรน่ะ คือ สภาวะของนิโรธสมาบัติ



อิอิ ปทปรมะ อธิบายอย่างนี้หรอจ้า

ตรงนี้หนะหรอจ้า สภาวะของนิโรธสมาบัติที่ถึงพร้อมด้วยนิวรณ์ละจ้า

อ้างคำพูด:
ธรรม
เป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง ธรรมเป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง ธรรมเป็นที่สิ้น
ตัณหา ธรรมเป็นที่สำรอก ธรรมเป็นที่ดับ นิพพาน ก็ถ้าเราจะพึงแสดงธรรม
แต่ชนเหล่าอื่นจะไม่พึงรู้ทั่วถึงธรรมของเรา ข้อนั้น จะพึงเป็นความเหน็ดเหนื่อย
ของเรา ข้อนั้น จะพึงเป็นความลำบากของเรา
.


อ้างคำพูด:
ตรงนี้ทั้งหมด พระพุทธองค์แค่ทรงครุ่นคิด ไม่ได้เข้านิโรธ


พระพุทธองค์ตรัสรู้แล้ว ไม่ได้นิโรธตลอดเวลาต้องเข้าๆ ออกๆ อยู่หรอจ้า

เวลาที่ทรงครุ่นคิดไม่ได้มี สัมมาสัมพุทธจิต อยู่หรอจ้า

เมื่อดับไม่เหลือแล้ว ยังมีอะไรให้ทรงครุ่นคิดปริวิตกได้อีกหรอจ้า


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:

ไปทำโลกุตรฌานให้ได้ก่อนนะ
จะได้รู้ว่า ในโลกุตรฌานน่ะ มันมีความคิดเกิดขึ้นได้ โดยไม่มีผลใดๆกับสมาธิหรือ
แม้กระทั่งสภาวะของญาณที่กำลังดำเนินอยู่


อิอิ โลกุตรฌานที่ถึงพร้อมด้วยอวิชชาของคุณป้าหนะหรอจ้า


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:

ขอจบการสนทนาแค่นี้
อธิบายยังไงก็ไม่มีวันเข้าใจ เพราะผู้ถามมานั้นทำได้แค่โลกียฌาน
แล้วหลงสภาวะ คิดว่าตัวเองได้อะไรเป็นอะไร
กลับไปเจริญสติให้มาก นั่งสมาธิให้น้อยลง สมาธิล้ำหน้าสติก็เป็นแบบนี้แหละ

หรือว่าไปกางตำราสอบอารมณ์มา เมื่อเจอสภาวะดับ เลยเข้าใจสภาวะผิดๆ
จะบอกให้ ตำราสอบอารมณ์ญาณ ๑๖ ของหลวงพ่อโชดกที่นำมาก๊อปๆกันน่ะ
ท่านวางกับดักกิเลสสำหรับผู้ที่อยากเป็นอริยะ

ในปัจเจกขณญาณ ญาณ ๑๖ นั่นน่ะเป็นโลกียะ หาใช่โลกุตรไม่
และสภาวะที่ท่านเขียนไว้น่ะ หลุมพรางดักกิเลสชั้นเลิศเลย คงยังไม่รู้สินะ

ท่านแอดมินจะล็อกกระทู้ก็ล็อกได้เลยค่ะ


อิอิ

อธิบายยังไงก็ไม่มีวันเข้าใจเพราะผู้ขอจบการสนทนาไม่ยอมรับสภาวะ ปทปรม ของตัวเองละจ้า


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 21:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:

เลยไม่ได้เล่ากฏแห่งกรรม " ลูกศิษย์คิดล้างครู " ต่อ ก็ปล่อยให้แค่นั้นพอ
ปล่อยให้สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของตัวเอง
อย่าคิดมาวัดรอยเท้าเลย ยังห่างไกลมาก

เป็นไงล่ะ สมาธิที่เคยถ่ายเทให้ สวาปามเข้าไปจนอ้วกแตกอ้วกแตนน่ะ
เมื่อกำลังของสมาธิมีมากขึ้น ทำให้เข้าสู่สภาวะดับได้ ก็หลงดีใจไปกางตำราสอบอารมณ์
เจอกับดักของครูบาฯวางไว้อีก เลยตายแหงแก๋ คิดว่าตัวเองได้อะไร เป็นอะไร
ศิลยังพร่องแบบนี้ อย่าหวังเลย

มีลูกศิษย์ สอบอารมณ์ไปมาก็ไปหลีลูกศิษย์
แบบนี้หรือคนที่จะมาเป็นอริยะ


อิอิ อดไม่ได้ต้องสำรอกออกมาอีกละจ้า

แหมว่าจะไม่เล่าแล้วเชียว แต่มันอดไม่ด๊ายๆ ละจ้าๆๆ


walaiporn เขียน:
" ลูกศิษย์คิดล้างครู "

ปล่อยให้สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของตัวเอง

อย่ามาคิดวัดรอยเท้าเลย ยังห่างไกลมาก

เป็นไงล่ะ สมาธิที่เคยถ่ายเทให้ สวาปามเข้าไปจนอ้วกแตกอ้วกแตนน่ะ
เมื่อกำลังของสมาธิมีมากขึ้น ทำให้เข้าสู่สภาวะดับได้ ก็หลงดีใจไปกางตำราสอบอารมณ์
เจอกับดักของครูบาฯวางไว้อีก เลยตายแหงแก๋ คิดว่าตัวเองได้อะไร เป็นอะไร
ศิลยังพร่องแบบนี้ อย่าหวังเลย


มีลูกศิษย์ สอบอารมณ์ไปมาก็ไปหลีลูกศิษย์
แบบนี้หรือคนที่จะมาเป็นอริยะ




ข้าสินี่แน่ หนึ่งในตองอู ทั้งปริยัติ ทั้งอภิธรรม ข้าสิล้ำเลิศ ใครอย่ามาแหยม
รับไม่ได้เลย อาจารย์ช้านด้อยปริยัติเสียเหลือเกิน

อาจารย์รึก็เข้าใจในมานะกิเลสของลูกศิษย์ อุตส่าห์แนะนำให้ไปพบวิปัสสนาจารย์ที่เป็นพระ
คิดว่า น่าจะรอดได้จากอุปกิเลส สุดท้ายเลยออกมาเป็นแบบนี้


แล้วเป็นไง หลงกิเลสตัวเบ้อเริ่มมองไม่เห็น
คงเคยสร้างเหตุมาร่วมกันแค่นี้ ผลเลยส่งผลให้จบเหตุที่มีต่อกันไวมากขึ้น


อิอิ ขาดสติถึงขนาดจำไม่ได้ละจ้าคุณป้าขา

ว่าตัวเองเพิ่งจะ ขอจบการสนทนา ไปแล้ว หยกๆๆๆ


ละเหตุไม่ได้ ก็อยู่ไม่สุขในที่ทั้งปวง ตัวตนมันใหญ่จุกอกจึงอดไม่ได้ต้องสำรอกกิเลสออกมา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 315 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17 ... 21  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร