พบความเสี่ยง ดาวในระบบสุริยะชนกัน!

นักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศสคำนวณโอกาสที่ระบบสุริยะของเราจะเกิดความหายนะจนทำให้ดวงดาวต่างๆ ชนกันว่า เหตุการณ์นี้อาจเกิดภายใน 5,000 ล้านปีข้างหน้า

ดร.ฌากส์ ลัสคาร์ และนายไมเคิล กัสตินิว จากหอดูดาวฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ดาวเคราะห์ขนาดเล็กหลายดวง เช่น โลก ดาวศุกร์ ดาวอังคาร มีวิถีการโคจรที่ไม่ค่อยตรงตามเส้นโคจร จึงมีโอกาสที่แรงดึงดูดของ 2 ดาวเคราะห์จะดึงดาวให้ชนกัน ซึ่งก็เหมือนกับยางรถยนต์เก่าที่ทำให้รถทรงตัวไม่ดี จนรถแฉลบออกนอกทาง ขณะที่ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยก๊าซ เช่น ดาวพฤหัสฯ ดาวยูเรนัส ดาวเสาร์ และดาวเนปจูน มีวิถีการโคจรที่ค่อนข้างมั่นคง

ดร.ลัสคาร์และนายกัสตินิวนำข้อมูลไปป้อนในคอมพิวเตอร์ จนได้การประมวลผล 2,501 เหตุการณ์ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของดวงอาทิตย์ที่คาดว่าจะมีอายุอยู่ราว 5,000 ล้านปี
อาทิ ดาวอังคารและโลกอาจโคจรอยู่ห่างจากกันเพียง 794 ไมล์ หรือราว 2,000 กิโลเมตร ใกล้พอที่จะเกิดหายนะต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก อย่างเกิดคลื่นยักษ์ ส่วนเหตุการณ์อื่นๆ เช่น โลกชนกับดาวอังคาร โลกชนกับดาวศุกร์ ดาวอังคารกระเด็นออกไปนอกระบบสุริยะ ดาวเคราะห์เล็กไปชนกับดาวแม่








แหล่งที่มา
ข่าวสด

หลักฐานของฝุ่นดาวชี้การชนกันของดาว หายนะทำลายโลก
Sat, 20/09/2008 - 17:34 | by molecularck
ฝุ่นจำนวนมากที่ล่องลอยรอบ ๆ ทางของระบบดาวคู่ (binary star system บ่งชี้ดาวที่เหมือนกัน 2 ดาวเข้าพุ่งชนกันด้วยความรุนแรงจนทำลายกันไม่เหลือกซาก มันเหมือนกับการที่ดาวศุกร์และโลกชนกันเอง ซึ่งงานนี้เป็นของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียลอสแองเจลิส มหาวิทยาลัยรัฐเทนเนสซีและสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย




นักดาราศาสตร์ไม่เคยพบเห็นสิ่งนี้มาก่อน การปรากฏหายนะครั้งใหญ่ ซึ่งการชนจะสามารถเกิดขึ้นในดาวที่มีการเจริญเติบโตเต็มที่ รายงานนี้ตีพิมพ์ลงวารสารวิชาการ Astrophysical Journal โดยนักวิจัยได้ติดตามฝุ่นที่โคจรรอบดาวที่ชื่อว่า BD +20 307 ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 300 ล้านปีแสงในกลุ่มดาวราศีเมษ

ถ้ามีสิ่งมีชีวิตปรากฏบนดาวทั้ง 2 การชนกันขนาดยักษ์ดังกล่าวจะทำลายทุกสิ่งในชั่วนาที ซึ่งเป็นการสูญพันธุ์ของทุกสิ่ง BD +20 307 มีส่วนประกอบของดาว 2 ดวง ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันทางมวล อุณหภูมิ ขนาดเท่ากับโลก และมีการหมุนรอบตัวเองประมาล 3 วันครึ่ง

การชนกันของดาวใน BD +20 307 ไม่ได้ถูกมองโดยตรงแต่อ้างจากการที่มีปริมาณอนุภาคฝุ่นในอวกาศ ที่โคจรรอบระบบดาวคู่ที่มีระยะเท่ากับดาวโลกและศุกร์ถึงดวงอาทิตย์ ถ้าฝุ่นดังกล่าวชี้ถึงการมีดาวที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ ก็จะแสดงถึงตัวอย่างแรกของดาวเคราะห์ที่มีมวลต่าง ๆ โคจรรอบ ๆ ระบบดาวคู่

ในปี ค.ศ. 2005 นักวิจัยได้ติดตามระบบดังกล่าว และเชื่อว่ามันประกอบด้วยดาวดวงเดียว ที่ถูกห่อหุ้มด้วยฝุ่นที่โคจรรอบดาวมากกว่าดวงอาทิตย์ ซึ่งนี้ชี้ถึงคำถามน่าสนใจ 2 คำถามคือ วงโคจรของดาวมีความไม่เสถียรได้อย่างไรจากการที่ดาวแก่และมีระบบอิ่มตัว และการชนดังกล่าวจะเกิดขึ้นในสุริยะจักรวาลได้ไหม

ที่มา - reuters.com

ภาพที่เห็นในภาพคือใจกลางของดาราจักรเอ็นจีซี 4038 และเอ็นจีซี 4039 ที่เกิดชนกันเราจะเห็นแกนกลางของดาราจักรเอ็นจีซี 4038 คือส่วนที่เป็นคล้ายกลุ่มเพลิงสีส้มที่อยู่ในล้อมกรอบด้านซ้าย ส่วนแกนกลางของดาราจักรเอ็นจีซี 4039 คือกลุ่มที่เห็นเป็นสีส้มในล้อมกรอบด้านขวาส่วนที่เห็นเป็นสีฟ้าและฟ้าอมขาวในภาพนั้นคือกลุ่มดาวฤกษ์ที่เกิดใหม่ทั้งสิ้น


เมื่อดาราจักรพุ่งเข้าชนกันแล้วก็จะรวมตัว ผลจากจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแรงดึงดูดที่ยึดเหนี่ยวระบบดาราจักรเอาไว้ กลุ่มฝุ่นก๊าซภายในดาราจักรจะกระเพื่อมเป็นระลอกคล้ายระลอกน้ำ ทำให้มวลของกลุ่มฝุ่นและก๊าซบางส่วนถูกอัดตัวให้มีความหนาแน่นมากขึ้น และเมื่อมีความหนาแน่นมากถึงระดับหนึ่งก็จะเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน (nuclear fusion ปฏิกิริยาการรวมนิวเคลียสซึ่งให้พลังงานออกมา) และพัฒนากลายเป็นดาวฤกษ์ต่อไป อาจเรียกได้ว่าเป็นวิธีการเกิดดาวฤกษ์แบบวิธีลัด นอกจากนี้การชนกันของดาราจักรจะมีความเร็วสูงมากเนื่องด้วยมวลอันมหาศาลของดาราจักรทั้งสอง ทำให้เมื่อชนกันไปได้ชั่วขณะหนึ่งแต่ก็ยังกินเวลานับล้านปี ดาราจักรทั้งสองจะเคลื่อนที่เลยออกจากกันไป ก่อนจะวกกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง และจะทิ้งธารดวงดาวไว้เป็นจำนวนมากคล้ายหาง ผลอีกอย่างหนึ่งคือตำแหน่งดวงดาวที่เราเคยรู้จักจะเปลี่ยนไปเกือบทั้งหมด ( เพราะแรงดึงดูดเหวี่ยงกลุ่มดาวให้เปลี่ยนตำแหน่ง) ดาวฤกษ์หลายกลุ่มจะถูกเหวี่ยงออกนอกดาราจักร

นักวิทยาศาสตร์คำนวนไว้วาดาราจักรทางช้างเผือกจะชนกับดาราจักรแอนโดรเมดาในอีกหกพันล้านปีข้างหน้า และกว่าจะรวมตัวสมบูรณ์ก็ต้องใช้เวลาอีกถึงหกล้านปี ปัจจุบันนักดาราศาสตร์คำนวนได้ว่าดาราจักรทั้งสองกำลังเคลื่อนที่เข้าหากันด้วยความเร็วราว 480,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พวกเรามองเห็นได้แค่จอสี่เหลี่ยม ที่เขาถ่ายทำมา (ได้แค่นี้) ก็นับจักรวาลกันไม่ถ้วนและไม่มีที่สุด
และเราก็ไม่ใช่อยู่ใจกลาง
เห็นได้ชัดเจนว่า มีจักรวาลเล็กกว่าและใหญ่กว่าที่เราอยู่เกินวิสัยคนที่จะนับได้




2เฟรมที่ผ่านมาเป็นแค่ยิ่งกว่าเศษธุลีของกลุ่มใย(ดูแล้วเป็นโยงใย)ของอนันตจักรวาลที่ไม่มีที่สุด...ของ2ภาพนี้ และcenter ก็ไม่รู้อยู่ตรงไหน (ดูแล้วไม่มี)

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ บรรทัดที่ ๑๒๘๒ - ๑๓๒๖. หน้าที่ ๕๕ - ๕๗.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ บรรทัดที่ ๑๓๒๗ - ๑๓๖๙. หน้าที่ ๕๗ - ๕๙.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0



(ขอขอบคุณคุณ sirisuk ที่ทำให้ผมเจอพระสูตรนี้ (เมื่อก่อนฟังปากเปล่า จากฆราวาสท่านหนึ่ง)

วิวัฒนาการของมนุาย์โลกเรา ในอดีต จน พัฒนาเลนส์ ที่มีอานุภาพสูงมาก ยิง(ถ่ายภาพ)ในจักรวาลอันไกลโพ้นได้




"...ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เรื่องเคยมีมาแล้ว ข้าพระองค์เป็นฤาษีชื่อโรหิตัสสะ
เป็นบุตรนายบ้าน มีฤทธิ์ไปในอากาศได้ ความเร็วของข้าพระองค์นั้นเปรียบได้กับ
นายขมังธนู ผู้มีธนูอันมั่นเหมาะ ศึกษาดีแล้ว เชี่ยวชาญ เคยแสดงให้
ปรากฏแล้ว พึงยิงลูกศรอันเบาให้ผ่านเงาตาลด้านขวางไปได้โดยไม่สู้ยาก ฉะนั้น
การยกย่างเท้าแต่ละก้าวของข้าพระองค์ เปรียบด้วยสมุทรด้านตะวันตกไกล
จากสมุทรด้านตะวันออก ฉะนั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความปรารถนาเห็น
ปานนี้ว่า เราจักถึงที่สุดแห่งโลกด้วยการไป เกิดขึ้นแล้วแก่ข้าพระองค์นั้น
ผู้ประกอบด้วยกำลังเร็วเห็นปานนั้น และด้วยการยกย่างเท้าเห็นปานนั้น ข้าพระองค์
นั้นแล เว้นจากการกิน การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม เว้นจากการถ่าย
อุจจาระ ปัสสาวะ เว้นจากการหลับและการบรรเทาความเหน็ดเหนื่อย เป็นผู้มี
ชีวิตอยู่ตลอดร้อยปีในคราวที่มนุษย์มีอายุร้อยปี ไปตลอดร้อยปี ไม่ทันถึงที่สุด
แห่งโลก ได้ทำกาละเสียในระหว่างทีเดียว น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า สิ่งไม่เคยมี
ได้มีขึ้นพระเจ้าข้า...."


แต่ก็เทียบกับความเร็วในการเหาะ ของ ฤาษีโลหิตัสสะ ไม่ได้

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต



จูฬนีสูตร




เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๕๙๘๕ - ๖๐๕๖. หน้าที่ ๒๕๖ - ๒๕๘.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0

ดู zoom one millions light year from earth จบไปหนึ่งเรื่อง ไม่ผิดหวังเลยครับ ดีจริงๆ เดี๋ยวจะแวะมาดูเรื่องอื่นๆอีก

ดู อ่าน ให้คุ้มครับ

ทิดหลับครับ อีกปีสองปีโลกจะแตกแล้ว พวกเราจะไปอยู่ไหนกันดีล่ะ เห็นที่หลบภัยภพภูมิใด บอกกันบ้างนะครับ

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?t ... en#msg7310

ระยะนี้แผ่นดินไหวบ่อยมักๆ เมื่อคืนก็ไหวทางฝั่งพม่า แต่จังหวัดทางเหนือเรารู้สึกได้

เขาจำลองภาพและคำนวณกันมาว่า......


Earth 100 Million Years From Now ครับกรัชกาย




ไม่ต้องหนีหรอกครับ อยู่ในภพ3นี้แหละ ยังออกไปไหนมิได้หรอก อย่างดีก็โดนอายตนะดูดไป จักรวาลอื่น ซึ่งไม่รู้จักรวาลไหนเหมือนกัน

เรามาดูวงโคจรสวยๆกัน

จงลิขิตชีวิตท่านเอง