วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 03:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2010, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 16:20
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆมากๆๆๆค่ะ เมื่อวานแม่สามีถามว่า กับสามีดีขึ้นหรือยัง สามีทำตัวดีขึ้นมั้ย ได้แต่ทำหน้างง ก็ตอบแบบเลี่ยงๆไปว่า ก็ปกติ คุยกันเรื่องทั่วไป เรื่องลูก เค้าบอกว่าดิฉันตอบไม่ตรงคำถาม ก็เลยบอกไปว่าเหมือนๆเดิม.....

จริงอย่างมี่เค้าพูดกันนะคะ ว่าความทุกข์มันไม่ได้อยู่กับเราตลอด บางช่วงเวลาก็ไม่ทุกข์ บางช่วงเวลาก็ทุกข์มากเหลือเกิน

ได้ปรึกษาหลายๆคน บางคนก็บอกให้อดทน บางคนก็บอกว่าควรจะเลิก ในเมื่อมันไม่ได้มีอะไรดีขึ้น เค้าเห็นเราเหมือนไม่มีตัวตน เพื่อนคนนึงบอกว่า "ถ้าวันนึงเกิดมันไปมีคนใหม่ขึ้นมา เธอจะทำยังงัย ต้องรอให้ถึงวันนั้นหรอ ออกไปอย่างคนฉลาด ให้แม่สามีสงสารเรา เค้าจะได้ช่วยเหลือเงินทองบ้าง ออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ หางานทำ เก็บเงินเพื่อลูก เลี้ยงลูกให้ดีที่สุด เธอเสียสละมามากพอแล้ว ทำไมต้องไปทนอยู่กับผู้ชายเฮงซวย" ฟังแล้วคิดไม่ตกเลยค่ะ กลุ้มใจค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2010, 16:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 มิ.ย. 2010, 12:34
โพสต์: 66

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณต้องเป็นคนตัดสินใจเองนะคะคนอื่นสามารถให้คำแนะนำได้เท่านั้น ผลที่ตามมาจากการตัดสินใจ
จะเป็นอย่างไรเราต้องเป็นผู้รับเองคิดให้ดีๆนะคะ ถ้าเลิกไปคุณอาจต้องจากลูกแต่ไม่ทรมานเรื่องสามีถ้า
คุณอยู่ก็ให้ความสุขลูกได้อยู่ดูแลแต่ทรมานเรื่องสามี ชั่งน้ำหนักใจให้ดีนะคะ
สามีคุณไม่สามารถเปลี่ยนได้ แต่คุณสามารถเปลี่ยนใจตัวเองได้ทำให้ใจตัวเองไม่ทุกข์มากไปกว่านี้
มหาภัยแห่งชีวิต
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)


มงคลชีวิต หรือ การรักษาตนให้เป็นปกติ คือ
การรักษาตนให้เกิดสำนึกว่า
สิ่งทั้งหลายกำลังเปลี่ยนแปลงไม่มีสิ่งใดยั่งยืนคงที่แน่นอน

เราเกิดมาเพื่อรอเวลาตาย
เราได้มาเพื่อรอเวลาเสีย
เรามีเพื่อรอเวลาหมด
เราเจอเพื่อรอเวลาจาก
เราพบเพื่อรอเวลาพลัดพรากจากกันไป

และเมื่อเวลานั้นมาถึงเมื่อใด
ไม่มีใครทราบ แม้แต่ตัวเราเอง
ในการรักษาตนให้เกิดความปกติดังกล่าวนี้
ควรยึดหลักธรรม คือ หลักแห่งความถูกต้อง
เพื่อวัดความถูกต้องที่แน่นอน ๔ ประการ คือ

๑. หมั่นระลึกความดีของท่านที่ทรงคุณความดีระดับสูงไว้เป็นประจำ

๒. หมั่นสร้างความรัก ความปรารถนาดีแก่คนและสัตว์ทั้งหลายเป็นประจำ

๓. หมั่นระลึกถึงว่า สิ่งทั้งปวงในโลกนี้ตามสภาพที่แท้จริง
ไม่มีอะไรสวยงาม ไม่มีอะไรน่ารักใคร่หลงใหล
แต่มีลักษณะพึงรังเกียจ เพราะความปฏิกูลของมันตามสภาพที่เป็นจริง

๔. หมั่นระลึกถึงสิ่งที่เป็นจริง และความจริงประการสุดท้ายของชีวิต คือ
ความตายไว้เป็นประจำ เพื่อนำความสำนึกให้ทิศทางที่ประสงค์ คือ
บารมี-อารมณ์-กรรมฐาน ทางประเสริฐในการดำเนินชีวิต
จึงได้แก่ การวางเฉยในอารมณ์ทั้งปวง คือ อุเบกขา

อารมณ์ที่น่ารักดีใจ ผ่านมาก็เฉย
อารมณ์ที่น่าตระหนกตกใจ ผ่านมาก็เฉย
โดยมีความสำนึกว่าอะไรจะเกิดไม่ว่าดี หรือไม่ดีมันก็ต้องเกิด
อะไรจะดับ จะดีหรือไม่ดีมันก็ต้องดับ
เราจะห้ามไม่ให้เกิด ไม่ให้ดับไม่ได้
เหมือนห้ามความร้อน ความหนาวไม่ได้ ฉะนั้นผล ก็คือ

๑. ไม่เสียโครงการของชีวิตที่สำคัญ
๒. ไม่ต้องเศร้าโศกเสียใจ
๓. ไม่ต้องห่วหน้าพะวงหลัง
๔. ไม่ต้องปล่อยไปตามอารมณ์

นี่คือ ทางแห่งความสำเร็จชั้นยอดของมนุษยชน
เป็นบารมีที่ใหญ่ยิ่ง เป็นยอดบารมี


ทางชีวิตที่ปลอดภัย

การปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยของชีวิต
เป็นภารกิจที่มีความสูงสุดเพื่อชีวิต
ชีวิตที่ปลอดภัย เป็นชีวิตที่มีคุณประเสริฐสุด
เพราะเป็นที่มาแห่งความสงบสุขอันเป็นยอดปรารถนา
ถึงปลอดภัยเมื่อใดก็เป็นอันถึงจุดหมาย
ที่พึงประสงค์เมื่อนั้น
เพราะความปลอดภัย คือ ความไร้ปัญหา


ภัยชีวิต ได้แก่

๑. ความเศร้าโศกเสียใจ
๒. ความร้องไห้บ่นเพ้อรำพัน
๓. ความลำบากกาย
๔. ความลำบากใจ
๕. ความคับแค้นใจ-ความช้ำใจ

ซึ่งแต่ละอย่างย่อมทำให้ชีวิตเดือดร้อน
กระวนกระวาย จึงนับเป็น “มหาภัยของชีวิต”
เพราะเป็นที่หวาดกลัวของชีวิตยิ่งนัก


ภัยชีวิตทั้ง ๕ ย่อมมาจาก

๑. ความต้องพลัดพรากจากคนรัก
จากของรัก และจากสิ่งที่รัก

๒. ความต้องคลุกคลีกับคนที่เกลียด
ของที่เกลียด และสิ่งที่เกลียด

๓. ความผิดหวัง คือ ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น ถ้า
- ไม่มีความรัก
- ไม่มีความเกลียด
- ไม่มีความหวัง

ภัยของชีวิตทั้ง ๕ ก็ไม่มี เพราะฉะนั้นทางที่ดี ก็คือ ป้องกัน
- ความรัก
- ความเกลียด
- ความหวัง

ไม่ให้เกิดขึ้นในความนึกคิด หรือความรู้สึกก็หมดภัยแน่
โดยศึกษาธรรมดาของสัตว์โลก ให้เกิดความเข้าใจโดยชัดเจนจนเกิดตัวปัญญาว่า

๑. สัตว์โลกถูกตัวชรานำไป ไม่ยั่งยืน ไม่แน่นอน ไม่คงที่

๒. สัตว์โลกไม่มีความเป็นใหญ่ในตัวเอง ไม่มีใครป้องกันตัว
ต้องเจ็บต้องตายทั้งหมด

๓. สัตว์โลกไม่มีอะไรเป็นของตนเลย
ต้องละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด

๔. สัตว์โลกพร่องอยู่เป็นนิตย์
ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสของตัณหา

ซึ่งท่านกำหนดไว้ว่าเป็น ธรรมมุทเทศ คือ
เป็นเครื่องนำไปสู่ความถูกต้อง หรือเป็นเครื่องชี้เครื่องกำหนดความถูกต้อง
ความรู้อย่างนี้เป็นความรู้ถูกต้อง ต้องเข้าใจอย่างนี้เป็นความเข้าใจถูกต้อง
อย่าลืมไหว้พระสวดมนต์ขออโหสิกรรมก่อนค่อยแผ่เมตตา
ขอเป็นกำลังใจให้สู้ๆนะคะ :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2010, 16:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดังที่เคยได้เรียนแนะคุณ สุธินา ไปแล้ว ว่าให้แยกกันอยู่กับครอบครัวสามีไปสักระยะ...เพื่อดูปฏิกิริยาโต้ตอบจากสามีเรา...ไม่ใช่จะแนะให้เลิกล้าง...แต่บางครั้งเราจำเป็นต้องทำแบบนี้...ลองแบบนี้ เพราะอนาคตนั้นมันไม่แน่นอน...เรารู้อยู่ว่าเขาไม่เหมือนเดิม...ถ้าเรารักและห่วงลูก..ละห่างไม่ได้ควรนำไปด้วย...ถึงปู่..ญ่า..จะรักยังไงก็เป็นธรรมดาของคนแก่ที่รักและเอ็นดูเด็กโดยเฉพาะยิ่งเป็นหลานแล้ว..สายเลือดแล้ว...แต่ความเป็นจริงลูกของเรา..และเราเป็นแม่...ถึงเราจะรู้ว่ามันจะลำบากแต่คงไม่สาหัสสากรรจ์ ขนาดอดๆอยากๆ หรอก..และที่เราทำงาน..ก็ไม่พ้นบารมีของแม่สามี...นี่..มันเลยทำให้สามีเราคิดว่ายังไงๆ เราคงไม่พ้นบารมีชายคา บ้านเขาหรอก..เขาก็เลยดูเหมือนนิ่งนอนใจไม่สนใจภรรยาเท่าที่ควร..เหมือนเราเป็นของที่ไม่มีชีวิตอะไรแบบนั้น...คุยและปรึกษาปัญหากับแม่(สามี)ท่านตรงๆบอกตรงๆกับปัญหานี้..และถ้าเราจะเอาลูกไปอยู่ด้วยก็ใช่ว่าจะขาดไปเลย..เรื่องมันยังไม่ไปถึงปานนั้น..เราก็ยังนำลูกมาเยี่ยม ปู่-ญ่าได้ในวันหยุดงาน...
.....อายุเรายังน้อย...ยังสาว..ยังมีอนาคตและต้องพบเจออะไรๆ ที่มากกว่าเราคิดไว้...หากเราหลุดออกไปจากตรงนี้..ไม่ใช่เลิก..และต้องไม่ทำงานกับสายงานของแม่(สามี)ออกไปยืนด้วยลำแข้งของเราเอง...ลองสิครับ...แต่งตัวดูให้เด่น..ทำตัวร่าเริง..แจ่มใส...ถ้าเขามีปฏิกิริยา..ลักษณะยัง ห่วงและหวง คือถามข่าวคราวเรา แสดงว่าสามีเรายังมีใจกับเรา...แต่ถ้าเขายังเด็กนักเรียน..นอก..ยังขาดความรับผิดชอบ..มีความเห็นแก่ตัว มันก็ไม่เป็นไรอยู่แล้ว..เพราะเราได้เตรียมตัว..เตรียมใจไว้แล้ว
.....อันนี้..ขอให้พิจารณาดูครับ..มิใช่อยากให้ทำตามนี้..แต่อยากให้ลองใจ..ให้ชั่งใจเขา..สอบอารมณ์เขา..ถ้าเราหลุดไปจริงแล้ว..เขาจะมีอาการเป็นอย่างไร..เมื่อได้รับรู้ความทุกข์ของเรา
......ขอให้คุณ..ไหว้พระ..เจริญภาวนา..เจริญสติ ตอนนี้ต้องเข้าหาธรรมะแล้วครับ...อนาคตมันเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน..แม้ชีวิตเราก็ไม่แน่นอน..เราต้องไม่ประมาทครับ..มันอาจจะไม่เป็นดังที่เราคิดก็ได้
....ขอให้กำลังใจให้ผ่านไปด้วยดีครับ
ขอเจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 04:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


คำแนะนำทุกคำแนะนำใช้ประกอบการพิจารณา
มิใช่คำตัดสิน คุณต้องคิดเอง เพราะปัญหาที่แท้จริง ตัวคุณเองเท่านั้น
ที่จะรู้ บวก ลบ คูณ และหาร ดูว่าผลแบบไหนจะดีที่สุด ไม่ใช่ดีทั้งหมด
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ :b1:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 16:20
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ค่ะเข้าใจค่ะว้่าทั้งหมดดิฉันต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ยังคิดไม่ตกเลยค่ะ ทุกวันนี้อยู่ต่ิอหน้าคนอื่น ต้องแสดงละคร ที่บ้านสามีคงนึกว่าเราดีกันแล้วมั้งคะ เพราะดิฉันกับสามีก็คุยกัน ยังทานอาหารร่วมโต๊ะกัน โทรหากัน แต่ใครเลยจะรู้ว่าเวลาอยู่ด้วยกันในห้อง ถึงแม้จะอยู่เตียงเดียวกัน แต่สามีไม่เคยแสดงความรักเลย คุยกันเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง แต่ไม่เคยมาใกล้ชิดด้วย ดิฉันทำตัวไม่ถูกเลยค่ะ นี่ดิฉันแย่ในสายตาเค้าขนาดนี้เลยหรอคะ ดิฉันควรจะตัดใจแล้วปล่อยเค้าไปเลยดีมั้ย อยู่แบบนี้มันทรมานจังเลยค่ะ เค้าทำได้ยังงัยกัน ไม่คิดถึงความรู้สึกดิฉันเลย ได้ชื้อว่าเป็นภรรยา แต่ไม่ยอมถูกเนื้อต้องตัวกันเลย แล้วดิฉันต้องทนกับสภาพนี้ำปนานแค่ไหน รู้สึกสมเพชตัวเอง นี่เรากำลังทำอะไรอยู่ ถามเค้าว่าทำไมไม่...กับดิฉัน เค้าตอบกลับว่า อยากจะหาเรื่องอีกหรอ อย่าถาม แล้วก็เปลี่ยนเรื่อง ดิฉันไม่มีศักดิ์ศรีเลยจริงๆ เหมือนไม่มีค่าเลย :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 11:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 14:41
โพสต์: 154

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีคะคุณสุธินา ดิฉันเข้าใจคุณคะ ดิฉันก็ผ่านเรื่องแบบนี้มา มันก็ดูเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิง
แต่อยากให้คุณพิจารณาคำสอนของพระพุทธเจ้าคะ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไป วันนี้เขาเปลี่ยน
วันหน้าเขาก็จะเปลี่ยนไปอีก ขอให้คุณพิจารณาด้วยความสงบ ทำใจให้สงบ ก่อนที่ตัดสินใจอะไร
ต้องแน่ใจว่าตัดสินใจด้วยปัญญาไม่ใช่อารมณ์หรือกิเลส คิดถึงลูกด้วย ขอให้คุณมองคุณค่าในตัวเอง
อย่ามองตัวเองต้อยต่ำใดๆ ขนาดกับแม่สามีคุณยังพิสูจน์ตัวเองได้เลย เมื่อคุณไม่ดูถูกตัวเอง มอง
ตัวเองอย่างมีค่า ตัวคุณก็จะสดชื่นและดูดี คิดมากก็หม่นหมองไม่มีอะไรดีขึ้นมาคะ
ตอนนี้ทางที่ดีของให้คุณจดจ่อกับงานเพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกขั้น ดูแลลูกให้ดีอย่าให้บกพร่อง
มองสามีให้เป็นเหมือนเพื่อนเหมือนพี่ชาย อะไรที่ช่วยเหลือหรือดูแลเขาได้ก็ทำไป ไม่ต้องคิด
ต่อยอดว่าเขาจะมีใหม่หรือไม่ แต่ทำเวลาของครอบครัวให้ดีที่สุด ให้เขามีความสุขเมื่ออยู่ที่บ้าน
ที่อื่นที่ไหนเขาอาจจะหาความสุขอื่นๆได้ แต่ความสุขในครอบครัวมีที่คุณที่เดียวคะ ทำวันนี้ให้ดี
ที่สุด รักษาใจของตัวเองให้ดีอย่าให้กิเลสและความเศร้าหมองครอบงำ หมั่นสวดมนต์ไหว้พระ
อุทิศส่วนกุศลให้สามีและเจ้ากรรมนายเวรนะคะ
ดิฉันก็ความรู้น้อย ถ้าความเห็นดิฉันทำให้คุณมีกำลังใจก็ของอนุโมทนา แต่ถ้าทำให้คุณรู้สึก
ไม่ดีก็ขออโหสิกรรมด้วยคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 16:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นใจคุณสุธินามากๆ เลยคะ ปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คุณเดินออกมาจากชีวิตเขาไม่ได้ เข้าใจคุณคะ แต่อย่ากให้คุณลองถามใจตัวเอง ว่าคุณจะทนสภาพนี้ได้นานแค่ไหน เราต้องทุกข์ไปตลอดชีวิตหรือเปล่า ลองลุกขึ้นมาพูดคุยและตกลงกันใหม่อีกครั้งได้ไม๊คะ อึดอัดใจแทนคุณสุธินามากๆ คะ เอาใจช่วยให้ผ่านไปให้ได้นะคะ เป็นกำลังใจให้จากใจจริงๆคะ สู้ๆนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 16:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สุธินา เขียน:
ค่ะเข้าใจค่ะว้่าทั้งหมดดิฉันต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ยังคิดไม่ตกเลยค่ะ ทุกวันนี้อยู่ต่ิอหน้าคนอื่น ต้องแสดงละคร ที่บ้านสามีคงนึกว่าเราดีกันแล้วมั้งคะ เพราะดิฉันกับสามีก็คุยกัน ยังทานอาหารร่วมโต๊ะกัน โทรหากัน แต่ใครเลยจะรู้ว่าเวลาอยู่ด้วยกันในห้อง ถึงแม้จะอยู่เตียงเดียวกัน แต่สามีไม่เคยแสดงความรักเลย คุยกันเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง แต่ไม่เคยมาใกล้ชิดด้วย ดิฉันทำตัวไม่ถูกเลยค่ะ นี่ดิฉันแย่ในสายตาเค้าขนาดนี้เลยหรอคะ ดิฉันควรจะตัดใจแล้วปล่อยเค้าไปเลยดีมั้ย อยู่แบบนี้มันทรมานจังเลยค่ะ เค้าทำได้ยังงัยกัน ไม่คิดถึงความรู้สึกดิฉันเลย ได้ชื้อว่าเป็นภรรยา แต่ไม่ยอมถูกเนื้อต้องตัวกันเลย แล้วดิฉันต้องทนกับสภาพนี้ำปนานแค่ไหน รู้สึกสมเพชตัวเอง นี่เรากำลังทำอะไรอยู่ ถามเค้าว่าทำไมไม่...กับดิฉัน เค้าตอบกลับว่า อยากจะหาเรื่องอีกหรอ อย่าถาม แล้วก็เปลี่ยนเรื่อง ดิฉันไม่มีศักดิ์ศรีเลยจริงๆ เหมือนไม่มีค่าเลย :b7:


คุณสุธินา อ้อพูดตรง ๆ เลยนะ เรื่องบนเตียงนะมันไม่ใช่เรื่องน่าอาย
หรือไม่ใช่การไม่มีศักดิ์ศรีหรอกค่ะ ผู้หญิงเราเองก็มีความต้องการ
อยู่เหมือนกัน เพียงแต่เรารู้ว่าเราควรได้สิ่งนี้จากใคร และยังความรัก
ความอบอุ่นที่เราคิดว่าเราควรได้จากการกอด รัด สัมผัสกัน แต่คน
ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเราเขาไม่ทำ คุณเลยรู้สึกแย่
ถ้าคุณยังรักเขาอยู่ และคาดว่าอยากจะรักษาครอบครัวไว้ อยากสร้าง
บรรยากาศให้ดีขึ้น ลองเข้าไปกอดเขาก่อนดีไหม กอดอย่างที่ใจเรา
อยากทำ และบอกให้เขารู้ว่า เรารักเขามากนะ
แต่หากคุณคิดว่าคุณอยากจบ จบ ไปอยู่แล้ว ก็มองในแง่ดีนะค่ะ
ก็ดีแล้วที่ไม่มายุ่งกับฉัน ฉันจะได้ พักกาย และใจของฉันให้แข็งแรง
พร้อมที่จะก้าวเดินต่อไป
อ้อคงแนะนำอะไรไม่ได้มาก เพราะคุณคงต้องเข้าใจกับปัญหาของคุณ
ที่สำคัญ อย่ามองให้ตัวเองด้อยค่า เพราะหากเราไม่เห็นค่าของเราเอง
แล้วใครจะมาเห็นคุณค่าในตัวเราละค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ สู้ สู้ ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 18:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 มิ.ย. 2010, 12:34
โพสต์: 66

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใช่แล้วคะคุณนนนน ผู้หญิงก็ไม่ต่างจากผู้ชายหรอกคะ
มีความต้องการเหมือนกัน การกอดก็เป็นการดีแม้ไม่มีเรื่องนั้นก็ขอแค่กอดก็พอ
ขอแค่ความอบอุ่นจากเขาบ้างนะคะ ตอนนี้คุณทำได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว อดทนต่อนะคะ
อย่างที่คุณsiyapatบอกไม่มีที่ไหนจะอบอุ่นเท่าที่บ้าน
ทำที่บ้านให้น่าอยู่ ยิ้มเข้าไว้(ไม่ต้องถามว่าเขาไปไหนมา)อาจจะยากสักหน่อย
แล้วก็ดูแลตัวเองเปลี่ยนตัวเองบ้าง ทำผม ขัดผิว ทาเล็บ ..บ้าง แต่ที่ขาดไม่ได้
อย่าลืมไหว้พระสวดมนต์ รักษาศีลตั้งจิตให้อยู่ในความปกติ ขออโหสิกรรมก่อน
แล้วแผ่เมตตา สู้ๆๆ :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 22:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 08:36
โพสต์: 191

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สุธินา เขียน:
ค่ะเข้าใจค่ะว้่าทั้งหมดดิฉันต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ยังคิดไม่ตกเลยค่ะ ทุกวันนี้อยู่ต่ิอหน้าคนอื่น ต้องแสดงละคร ที่บ้านสามีคงนึกว่าเราดีกันแล้วมั้งคะ เพราะดิฉันกับสามีก็คุยกัน ยังทานอาหารร่วมโต๊ะกัน โทรหากัน แต่ใครเลยจะรู้ว่าเวลาอยู่ด้วยกันในห้อง ถึงแม้จะอยู่เตียงเดียวกัน แต่สามีไม่เคยแสดงความรักเลย คุยกันเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง แต่ไม่เคยมาใกล้ชิดด้วย ดิฉันทำตัวไม่ถูกเลยค่ะ นี่ดิฉันแย่ในสายตาเค้าขนาดนี้เลยหรอคะ ดิฉันควรจะตัดใจแล้วปล่อยเค้าไปเลยดีมั้ย อยู่แบบนี้มันทรมานจังเลยค่ะ เค้าทำได้ยังงัยกัน ไม่คิดถึงความรู้สึกดิฉันเลย ได้ชื้อว่าเป็นภรรยา แต่ไม่ยอมถูกเนื้อต้องตัวกันเลย แล้วดิฉันต้องทนกับสภาพนี้ำปนานแค่ไหน รู้สึกสมเพชตัวเอง นี่เรากำลังทำอะไรอยู่ ถามเค้าว่าทำไมไม่...กับดิฉัน เค้าตอบกลับว่า อยากจะหาเรื่องอีกหรอ อย่าถาม แล้วก็เปลี่ยนเรื่อง ดิฉันไม่มีศักดิ์ศรีเลยจริงๆ เหมือนไม่มีค่าเลย :b7:


อย่าคิดมากนะคะ ลองปล่อยวาง วิเองไม่เก่งพอที่จะให้คำแนะนำได้มากมาย แต่สิ่งที่วิเจอมาก่อนแย่ยิ่งกว่าคุณสุธินาอีกค่ะื ทุกวันนีิ้วิได้เพื่อนๆๆ พี่ๆๆ ในลานนี้แหละคะ ทำให้ปล่อยวางได้บ้างแล้ว อย่าตอกย้ำตัวเองนะคะ ให้กำลังใจตัวเองดีกว่านะคะ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องคาดหวังนะคะ ขอให้ๆเวลาอยู่กับตัวเองก่อนนะคะ อย่าว่าตัวเราเลยค่ะ หันมาทำให้บ้านอบอุ่น เดี๋ยววันนี้เค้าไม่ วันหน้าไม่แน่นี่ค่ะ (วิก็แอบบอกตัวเองเหมือนกันค่ะ) เราต้องเดินต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้วิว่าคุณน่าจะดีขึ้นนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 22:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 08:36
โพสต์: 191

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลืมไปอีกอย่างค่ะ ความรักมีหมดไปได้ค่ะ และก็สามารถเริ่มใหม่ได้เหมือนกันนะคะ มีพี่คนนึงสอนวิไว้แล้ววิก็ชอบมากเลยประโยคนี้ค่ะ "หยุดให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้" ลองดูนะคะ เป็นกำลังใจให้อีกครั้งค่ะ :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2010, 06:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


สุธินา เขียน:
ค่ะเข้าใจค่ะว้่าทั้งหมดดิฉันต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ยังคิดไม่ตกเลยค่ะ


คุณลองตั้งคำถามให้กับตัวเองก่อนซิค่ะเช่น

จะอยู่กับเขาได้ไหม? อยู่แบบเพื่อน อยู่เพื่อลูก แม้จะไม่มีอะไรกัน
หรือถ้าไม่มีอะไรกัน ก็ไม่อยากอยู่ ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม?
แล้วจะได้หาคำตอบ

เข้าใจว่าที่คุณตั้งคำถามกับเขานั้น จริงๆแล้ว ไม่ได้"ต้องการ" จริง
สักเท่าไหร่? เป็นเพียงข้อพิสูจน์ ที่ตั้งขึ้นในใจเท่านั้นเอง ว่าหากเขา
ยอมมีอะไรกับคุณ ก็หมายความว่า เขายังรัก ยังต้องการคุณอยู่ใช่ไหมค่ะ?

จริงๆแล้ว ผู้ชายมากมายที่มีอะไรกับภรรยา ทั้งๆที่หมดรักไปนานแล้ว
และก็มีผู้ชายอีกมากมายที่ยังรักภรรยาอยู่ แต่ก็ไม่มีอะไรกันเลย อยู่กันแบบเพื่อน
แบบมิตรที่ดี ทำหน้าที่พ่อและแม่ เพื่อลูกๆ หากเขายอมมีอะไรกับคุณ
แล้วจะทำให้ทุกข์ที่คุณมีอยู่ขณะนี้ลดน้อยลงไปหรือเปล่า?

ลองพิจารณาดูว่าปัญหาที่แท้จริง ซึ่งอยู่ในใจลึกๆของคุณว่าคืออะไรกันแน่?
แล้วเรามาช่วยกันวิเคราะห์ และแก้ปัญหาดู อย่าประนาม หรือดูถูกตัวเอง
คนอื่นไม่ให้เกียรติเราช่างเขา เราต้องให้เกียรติตัวเอง เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
เป้น

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 14:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 มิ.ย. 2010, 12:34
โพสต์: 66

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วตอนนี้คุณสุธินา ตัดสินใจได้หรือยังคะ เป็นห่วงจัง :b30:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 16:20
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้เลยค่ะ ถ้าเกิดพูดและตกลงกับสามีอีกครั้ง คำตอบก็คงเป็นแบบเดิมค่ะ ได้ฟังทีไรมันหมดแรง และไม่มีกำลังใจจะทำอะไรเลยค่ะ เพราะทราบคำตอบดีอยู่แล้ว ทุกวันนี้ตอนเช้าต้องไปส่งลูก เสร็จก็ไปทำงานที่บริษัท เวลากลับบ้านก็ต้องกลับกับแม่สามี เลยยังไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไรเลยค่ะ
อยู่แบบมึนๆไปทุกวัน หรือจะเรียกว่าหนีปัญหาก็คงจะไม่ผิด เพราะถ้าให้ดิฉันไปในตอนนี้ มันคงกระทบอะไรหลายๆอย่างมาก และคิดว่าดิฉันยังไม่มีความเข้มแข็งพอ ที่จะออกไปยืนด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะพอยอมรับความจริงได้บ้าง แต่การที่จะตัดสินใจอะไรนั้น คงต้องใช้เวลาชั่งใจให้นานกว่านี้ค่ะ

ขอบคุณทุกคนๆที่ยังสนใจ ติดตามกระทู้นี้ แต่ณวันนี้ยังไม่มีคำตอบให้ตัวเองเลยค่ะ เป็นห่วงลูกค่ะ กลัวแกจะไม่เข้าใจถ้าต้องเอาแกออกมา คิดไปสารพัดๆๆๆๆเลยค่ะ กับสามีก็เป็นเช่นเดิมค่ะ ไม่ดีขึ้น และก็ไม่ได้แย่ลงกว่าเดิม เพราะดิฉันเลือกที่จะไม่ถาม ไม่ตาม อาจจะถามบ้าง แต่ไม่เซ้าซี้ค่ะ เลยคิดว่าคงแล้วแต่บุญแต่กรรมละมังคะ ถ้าเค้าไม่กลับมาเหมือนเดิมอีก ก็คงจะเป็นชะตาฟ้าลิขิต ให้เราอยู่ร่วมกันได้แค่นี้(หมายถึงจิตใจนะคะ) ส่วนอนาคตจะเป็นเช่นไร ไม่อยากคิดแล้วค่ะ ถ้าวันนั้นมาถึงก็คงจะรู้เองว่าจะเลือกแบบไหนค่ะ
1.อยู่เป็นพ่อ แม่ ลูก อยู่อย่างนี้ไปจนกว่าจะตาย (ไม่มีความรัก)
2.วันนึงเราอาจจะเบื่อไปเอง ถ้าเค้ายังเป็นอย่างนี้อยู่ เราคงจะเริ่มชินชา แล้วคงทำใจได้เองว่ายังงัยชีวิตนี้ก็ไม่มีทางที่เค้าจะรักเราได้อีก เมื่อลูกโตขึ้นแล้วเราพอเก็บเงินได้ซักก้อน ก็อาจจะออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ และอธิบายให้ลูกเข้าใจ :b2:
3.วันไหนที่เค้าไปมีคนใหม่ เราจะไปทันที พูดกับแม่สามีให้เค้ารับทราบและยอมรับว่าเราทนไม่ได้อีกแล้ว
4.เค้ากลับมารักเราเหมือนเดิม(ซึ่งเป็นไปได้และไม่ได้)

ถ้าเป็นคุณจะเลือกอย่างไหนดีคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 18:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 มิ.ย. 2010, 12:34
โพสต์: 66

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเป็นเราก็คงอยู่อย่างนี้ไปก่อน อยู่กับลูก ทำดีกับสามีเหมือนเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง
(ยากมากแต่ก็ต้องทำ)ที่ร่วมเกิดแก่เจ็บตาย ง่ายๆละกันดูสถานการณ์ไปก่อน อะไรจะเกิดขึ้น
ค่อยว่ากันอีกที กาลเวลาเปลี่ยนใจคนเปลี่ยน วันนี้รักพรุ่งนี้ไม่รัก วันนี้เกลียดพรุ่งนี้รัก
เกิดขึ้นได้เสมอบนโลกใบนี้ แม้แต่ตัวเรายังมีหลายอารมณ์ในวันเดียว ไม่ใชเราคนเดียว
หรอกคะที่ทุกข์ เป็นกำลังใจให้นะคะ :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร