วันเวลาปัจจุบัน 09 ส.ค. 2025, 09:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2010, 12:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 11:50
โพสต์: 25

แนวปฏิบัติ: ดูลมหายใจ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ ถักโครเชต์ ฟังธรรมะ
สิ่งที่ชื่นชอบ: มีเยอะจนบอกไม่ได้
อายุ: 0
ที่อยู่: somewhere over the rianbow

 ข้อมูลส่วนตัว


ศิลปะแห่งการถอยหลัง โดย กระบี่ไม้ไผ่




ถ้าเรื่องยากของมือใหม่หัดขับก็คือ การถอยหลังเข้าจอด
เรื่องยากของคนที่ริจะดำเนินชีวิตให้มีศิลปะก็คือ การเรียนรู้ศิลปะแห่งการถอยหลัง

มีข้อแนะนำสารพัดสำหรับการบุกตะลุยไปข้างหน้าและความคิดทางวิทยาศาสตร์ก็ทำให้เรามองเวลาเป็นเส้นตรง
เราจึงนำพาชีวิตโจนทะยานไปข้างหน้าราวกับม้าแข่งที่มีกระบังสายตาบังคับให้เห็นแต่ลู่
คำบอกสอนส่วนใหญ่มุ่งแต่ให้มองไปข้างหน้า การถอยหลังเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้และอ่อนแอ ฯลฯ
ทั้งๆ ที่คนเราควรจะเรียนรู้ศิลปะแห่งการถอยหลังไปพร้อมๆ กับศิลปะของการเดินหน้า

การถอยหลังมีคุณวิเศษอันสำคัญคือ ช่วยให้ไม่เดินหลงทาง
เนื่องจากรู้ว่า อะไรเป็นของจริง อะไรเป็นของปลอม

การย้อนไปสำรวจมิตรภาพระหว่างผู้คนที่มีพันธะทางใจ
อาจจะช่วยให้ไม่ตื่นเต้นกับการเริ่มต้นมิตรภาพใหม่ๆ เกินไป
ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ละทิ้งสิ่งดีๆ ในชีวิตจนเกินควร

ปราชญ์ท่านสอนว่า มิตรภาพนั้นก็เหมือนสุรายิ่งเก่ายิ่งดี แต่ก็ไม่ใครฟัง
เพราะต่างเพลิดเพลินกับความตื่นเต้น จนลืมความคงเส้นคงวา

การสำรวจยอดการกระทำที่ติดค้างก็ช่วยให้เราตอบแทนได้สม ไม่ต้องสำนึกเสียใจในภายหลัง
ดอกไม่ทบต้น ถึงเวลาต้องจ่ายคืนก็ไม่มีดินพอกหางหมู เป็นภาระเกินความสามารถจะจ่ายได้

ประการนี้ก็เช่นกัน เราได้ยินจนชินหูว่า โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ชีวิตต้องมีทั้งการรับมาและจ่ายไป
แต่วุ่นวายอยู่กับการเรียกร้องเอา
ใครเล่าจะสนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการตอบแทนหรือเรื่องที่ใหญ่กว่าอย่างการสละให้

เพราะไม่จดจำว่า เราเคยได้สิ่งใดจากใครมาบ้าง เพราะไม่ตอบแทนให้สม
ที่ไหนๆ ก็จึงเต็มไปด้วยผู้คนที่เรียกร้องหาคนอื่นมาช่วยเติมให้ตัวเองเต็ม
ทั้งที่ธรรมชาติของใจนั้นยิ่งแบ่งปันยิ่งเพิ่มพูน

ละครหน้าฉากชวนฝันเพราะสวยงาม ตระการตา
ดูละครแล้วไม่คิดว่าเป็นละครก็จะละเมอเพ้อพกเลื่อนเปื้อนไปจากการดำรงอยู่ ในโลกของความเป็นจริง


ท่านจึงว่า ดูหน้าฉากแล้วให้ดูหลังฉาก

เบื้องหลังความสวยความงามอาจจะมีความอัปลักษณ์ซ่อนอยู่
ภายใต้เรือนกายที่โดดเด่นอาจจะมีจิตใจที่คับแคบและเห็นแก่ตัว
เบื้องหลังบัลลังก์แห่งเกียรติยศอาจจะมีการเอารัดเอาเปรียบและเหยียบหัวคนอื่น
ภายใต้ความร่าเริงอาจจะมีความเปลี่ยวเหงาซึ่งไม่มีที่สิ้นสุด
เหมือนด่านแรกๆ ของความรักก็มีความมืดบอด คับแคบและเห็นแก่ตัว

ท่านจึงว่าให้พลิกดู ให้เห็นทุกมุม

การถอยหลังไปสำรวจดูเรื่องราวต่างๆ จึงมีความสำคัญไม่น้อยกว่าการพุ่งไปข้างหน้า

ด้วยนัยเช่นนี้ เราอาจจะไม่รู้จักเพื่อนบ้านเราดีเท่าคนเก็บขยะ

ถ้าคนเก็บขยะมีเวลาจำแนกขยะจากแต่ละบ้านอย่างใช้ความสังเกต
เขาอาจจะระบุได้ถึงการใช้ชีวิต รายได้ สุขภาพ คุณภาพชีวิต ฯลฯ
ของคนที่อยู่ในบ้านแต่ละหลังได้ว่าแตกต่างกันอย่างไร
หรือแม้แต่ล่วงรู้ความลับบางประการที่ใครบางคนไม่อยากให้คนอื่นได้ล่วงรู้

เช่นเดียวกัน ขณะที่เรารังเกียจซากศพ รังเกียจโครงกระดูก แม้คิดแม้จับต้องหรือคิดจะมอง
แต่พระกลับว่า ศพทั้งที่ยังดีอยู่ ศพกำลังเน่าเปื่อยผุพัง หรือโครงกระดูกนั้น
เป็นดอกไม้ของพระอรหันต์ ท่านไม่รังเกียจกระดูก
เพราะตัวเราก็มีกระดูกอยู่เหมือนกัน ท่านไม่กลัวผีเพราะเราเองก็เป็นผีเหมือนกัน

เรามักผ่านเรื่องราวต่างๆ ไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งมุมที่ไม่ได้มองตกค้างอยู่จำนวนมาก

ซากเดนของเรื่องราวประการต่างๆ ที่ถูกทิ้งขวางไว้ข้างหลังก็ไม่ต่างอะไรกับขยะชีวิต
ซึ่งถ้ากลับไปคุ้ยเขี่ยอย่างพินิจพิเคราะห์จะช่วยให้เราอาจเดินได้ตรงขึ้นหรือรู้สึกตัวได้มากขึ้น

เราหมดเปลืองเวลาและโอกาสในชีวิตไปกับเรื่องลมๆ แล้งๆ จำนวนมาก
บ้างคิดเอาเองว่า รักจากใครไม่เปลี่ยนแปร
บ้างอุทิศตัวให้กับบางสิ่งซึ่งถึงที่สุดแล้วอาจจะหาประโยชน์แก่นสารอะไรไม่ ได้
เพราะแท้จริงเป็นแค่การล่อลวงตนเอง

การถอยหลัง ไม่ได้ทำให้พบ สิ่งดีๆ ที่ถูกลืม แต่บางครั้งก็ทำให้พบความเป็นจริงที่น่าขมขื่น
แต่หวานเป็นลม ขมเป็นยา ขมขื่นอย่างไรก็ต้องดื่มกิน เพื่อหูตาจะได้สว่างขึ้น

เรียนรู้ศิลปะของการถอยหลังแล้วพบว่า ความอัปลักษณ์ในความงาม
พบความงามในความอัปลักษณ์ ในร้ายมีดี ในดีมีร้ายแล้ว
ก็ต้องรู้จักศิลปะของการเดินหน้า รู้ว่าทั้งหมดทั้งสิ้นไม่มีอะไร
รู้ว่าต้องให้อภัย ไม่เพ่งโทษว่ากล่าวโลกหรือใครอื่น รู้ว่ามุมานะต่อไป

เพื่อจะได้เดินหน้ายาวไกลขึ้น จำเป็นต้องการถอยหลังกลับในบางครั้ง
มันไม่ใช่เรื่องความอ่อนแอ แต่เป็นศิลปะที่ต้องเรียนรู้



ที่มา http://www.ee43.com/content/topic/184.html


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron