วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 05:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 285 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 15, 16, 17, 18, 19  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2010, 23:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




155-30.jpg
155-30.jpg [ 23.05 KiB | เปิดดู 5374 ครั้ง ]



http://audio.palungjit.com/f21/


ในการประกอบกุศลของแต่ละคน ล้วนแตกต่างกัน ซึ่งเป็นไปตามเหตุที่แต่ละคนกระทำมา
การได้มาปฏิบัติธรรมก็เฉกเช่นเดียวกัน แล้วแต่เหตุของแต่ละคนกระทำมา
เส้นทางหรือสภาวะนั้นๆของแต่ละคนจึงแตกต่างกันไป

การเกิดแต่ละครั้ง คือ การเริ่มต้นด้วยความไม่รู้ และต้องนับหนึ่งใหม่ทุกๆครั้ง
เหตุที่มีการแบ่งแยกแนวทางการปฏิบัตินั้น ล้วนเกิดจากกิเลสของแต่ละคนที่มีมากน้อย แตกต่างกันไป

ฉะนั้นถ้าใครสามารถจับจุดได้ถูก เข้าใจถึงสภาวะที่แท้จริง คนนั้นย่อมได้เปรียบ
แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้ หากแม้นคนที่จับจุดได้ก่อน มีวิบากที่ส่งผลรุนแรง
ก็สามารถทำให้หลุดไปจากเส้นทางนี้ได้ เหตุมี ผลย่อมมี

เราจึงต้องมาฝึกเจริญสติกันเพราะเหตุนี้
ฝึกเพื่อที่จะรู้เท่าทันกิเลส ที่จิตกำลังเสพแล้วจะกลับกลายเป็นการสร้างเหตุ
หรือสร้างภพชาติไม่รู้จักจบจักสิ้น หากยังไม่สามารถแยกแยะถูกผิดได้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2010, 23:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




682.jpg
682.jpg [ 175.49 KiB | เปิดดู 5359 ครั้ง ]
http://audio.palungjit.com/f21/บทสวดสรรเสริญพระโพธิสัตว์กวนอิม-ชุด-หนาน-ชาน-กวน-ชือ-อิม-666.html




ชีวิตมนุษย์ ความลุ่มหลงในเบญจขันธ์
มีรูป เป็นต้นว่า อุปมาดั่งพยับแดด หาสาระตัวตนที่เที่ยงแท้อันใดมิได้เลย

เหตุเกิด เพราะความไม่รู้ ผลที่ได้รับคือ สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
เพราะยังมีอุปทาน จึงเกิดการให้ค่าให้ความหมายตามกิเลสที่เกิดขึ้น

เราจะมีชีวิตอยู่กันได้อีกนานเท่าไหร่ กว่าจะรู้ กว่าจะเห็น กว่าจะเข้าใจ กว่าจะเบาบาง
กว่าจะปล่อยวาง กว่าจะหลุดจากสภาวะอุปทานนั้นๆได้

" แค่รู้ " คำว่า " แค่รู้ " สั้นๆ แต่ กว่าจะรู้ได้ ไม่ใช่สั้นๆเลย
เปรียบเสมือนว่า ๑ ความไม่รู้ที่ได้กระทำลงไป นั่นคือ ๑ ภพชาติที่เราได้ทำให้เกิดขึ้นใหม่

แค่ดู แค่รู้ คืออะไร

แค่ดู คือ การดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง
ไม่ว่าจะตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง ลิ้นรู้รส กายสัมผัส

คือ แค่ดู แต่ไม่ไปยึดติดจนเกิดอุปทานไปหลงให้ค่าให้ความหมายต่อสิ่งที่เกิดขึ้น


แค่รู้ คือ รู้ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ยามเมื่อเกิดผัสสะ รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในจิต
ว่าจิตนั้นเป็นอย่างไร แล้วรู้ลงไปตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้นๆ

เช่น ความชอบ ความชัง ความโลภ โทสะ โมหะ ความทะยานอยาก ฯลฯ
คือ อารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในจิต ให้แค่รู้ลงไปในอารมณ์นั้นๆว่า เรายังมีมันอยู่
แต่ไม่ให้ลงไปปรุงแต่งในอารมณ์ที่เกิดขึ้นนั้นๆแต่อย่างใด ไม่มีการให้ค่าให้ความหมายแต่อย่างใด
เช่น เรียกว่าอะไร ลักษณะแบบนี้ อาการแบบนี้ ให้แค่รู้ตามความเป็นจริงไปอย่างเดียว

เพราะตราบใดที่จิตยังมีกิเลส จิตย่อมย้อนยอกลวงหลอกเราได้ตลอดเวลา
หากยังมีกำลังของสติ สัมปชัญญะ ยังไม่มากพอ จึงยังไม่สามารถรู้เท่าทันการปรุงแต่งของจิตได้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2010, 18:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




51404ao8yn9izuk.gif
51404ao8yn9izuk.gif [ 165.8 KiB | เปิดดู 5305 ครั้ง ]
ฉันไม่เชื่อว่าบ้านเราจะไม่เหมือนเดิม
ถ้าเราเติมความเข้าใจ
เติมความรักลงไปในการซ่อมสร้าง
เอาหัวใจที่ให้อภัยมาแผ้วมาถาง
ทำความหวังที่เลือนรางนี้ให้สดใส

เราจะกวาดความแตกแยกที่มันผุพัง
จะชะล้างความเกลียดชังให้หมดสิ้นไป
เราจะซ่อมบ้านกัน ด้วยรักอันยิ่งใหญ่
เราจะผ่านเรื่องร้ายนี้ไปด้วยกัน

ด้วยแรงที่มี ด้วยความรักที่มี
ด้วยหัวใจคนไทยที่มี หัวใจที่รวมเป็นไทย
ความคิดกับความรัก ต้องพักแยกกันไว้
คิดต่างกันได้ แต่ไม่ทำร้ายกัน

เราจะกวาดความแตกแยกที่มันผุพัง
จะชะล้างความเกลียดชังให้หมดสิ้นไป
เราจะซ่อมบ้านกัน ด้วยรักอันยิ่งใหญ่
เราจะผ่านเรื่องร้ายนี้ไปด้วยกัน

ด้วยแรงที่มี ด้วยความรักที่มี
ด้วยหัวใจคนไทยที่มี หัวใจที่รวมเป็นไทย
ความคิดกับความรัก ต้องพักแยกกันไว้
คิดต่างกันได้ แต่ไม่ทำร้ายกัน

คิดต่างกันได้ แต่ว่าใจยังรักกัน

http://solno07.exteen.com/20100530/entry

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




2032915lowwvfrarl.gif
2032915lowwvfrarl.gif [ 247.46 KiB | เปิดดู 5270 ครั้ง ]
21971193.gif
21971193.gif [ 143.85 KiB | เปิดดู 5270 ครั้ง ]
http://solno07.exteen.com/20100118/entry

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 23:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




1.bmp
1.bmp [ 378.86 KiB | เปิดดู 5217 ครั้ง ]
images.jpg
images.jpg [ 8.9 KiB | เปิดดู 5222 ครั้ง ]

ครูบาอาจารย์ ที่ท่านประทาน ความรู้มาให้
อบรมจิตใจ ให้รู้ผิดชอบ ชั่วดี
ก่อนจะนอน สวดมนต์อ้อนวอนทุกที ขอกุศล
บุญบารมี ส่งเสริมครูนี้ให้ร่มเย็น

ครูมีบุญคุณ จะต้องเทิดทูน เอาไว้เหนือเกล้า
ท่านสั่งสอนเรา อบรมให้เรา ไม่เว้น
ท่านอุทิศ ไม่คิดถึงความยากเย็น สอนให้รู้ จัดเจน
เฝ้าแนะ เฝ้าเน้น มิได้อำพราง

พระคุณที่สาม งดงามแจ่มใส แต่ว่าใครหนอใคร
เปรียบเปรย ครูไว้ ว่าเป็นเรือจ้าง
ถ้าหากจะคิด ยิ่งคิดยิ่งเห็น ว่าผิดทาง
มีใครไหนบ้าง แนะนำแนวทาง อย่างครู

บุญเคยทำมา ตั้งแต่ปางใด เรายกให้ท่าน
ตั้งใจกราบกราน เคารพคุณท่าน กตัญญู
โรคและภัย อย่ามาแผ่วพาน คุณครู ขอกุศลผลบุญค้ำชู
ให้ครูมีสุข ชั่วนิรันดร ให้ครูมีสุข ชั่วนิรันดร


http://solno07.exteen.com/20100530/entry-1

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 11 มิ.ย. 2010, 23:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2010, 20:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




ก่อนเข้ารอบ บทสัมภาษณ์อยู่ด้านล่าง



วันชนะเลิศ


บทสัมภาษณ์ที่แปลเป็นไทยแล้ว

คมชัดลึก :อินเตอร์เน็ตช่วยให้สาวใหญ่ใหญ่เสียงดี โด่งดังไปทั่วโลกภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ มีคนกว่า 12 ล้านคน ชมการแสดงของเธอทาง"ยูทูป" สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างอินเตอร์เนต ได้ช่วยให้ ซูซาน บอยล์ สาวใหญ่หน้าตาธรรมดาวัย 47 ปี ผู้เคยแต่ร้องเพลงคาราโอเกะ และเพลงสวดในโบสถ์ ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องผู้มีชื่อเสียงระดับโลกภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ โดยมีคนทั่วโลกผู้เข้าชมคลิปวิดีโอการแสดงของเธอ ในรายการโทรทัศน์ "บริเตน สก็อต ทาเลนต์" (Britain's Got Talent.) ซึ่งมีผู้นำไป
โพสต์ในเว๊ปไซต์ "ยูทูบ" มากกว่า 12 ล้านคนแล้ว และเธอได้รับคำเชิญให้ไปปรากฏตัวในรายการโชว์ของเจ้าแม่ทอล์ค โชว์ โอปร่า วินฟรีด์ รวมทั้งรายการโชว์ทาง CBS ของสหรัฐฯ และเครือข่ายโทรทัศน์อื่นๆ อีกด้วย

ในตอนแรกที่ปรากฏตัวบนเวที บอยล์ผู้กล่าวบนเวทีว่า"ยังไม่เคยได้รับจุมพิตจากชายคนใดเลย น่าอายแต่ก็ไม่ได้เรียกร้องความสนใจ" ทำให้ผู้ชมหัวเราะและทำสีหน้าขบขัน เพราะเธอดูเชยๆในผมหยิกฟูและเสื้อผ้าล้าสมัย หลายคนมองเธออย่างดูหมิ่น ตอนที่เธอบอกว่าอยากเป็นนักร้องอาชีพแบบดาราบรอดเวย์ " เอลีน เพจ" แต่เมื่อเธอเริ่มร้องเพลง" ไอ ดรีมด์ อะ ดรีม" (I Dreamed a Dream) จากละครเพลง " เลส์ มิเซราบส์"ก็เรียกรอยยิ้มแปลกใจบนใบหน้าของกรรมการ 3 คนซึ่งประกอบด้วยชาย 2 คน หญิง 1 คน และผู้ชมพากันลุกขึ้นยืนปรบมือให้เธอ ซึ่งเป็นการให้เกียรติสูงสุด

หนึ่งในกรรมการคือ ไซม่อน โคเวลล์ กล่าวว่า ฝีมือการร้องเพลงของเธอ"เป็นเลิศ" เธอทำให้เขาอึ้ง เป็นสิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจมากที่สุดในช่วง 3 ปีที่เป็นกรรมการตัดสินรายการนี้ ขณะที่เธอบอกว่าทำเพื่อมารดา อยากให้มารดาทราบว่าเธอก็ทำบางสิ่งกับชีวิตได้ และว่าเธอจำสิ่งที่เกิดบนเวทีคืนนั้นไม่ได้มากนักเพราะเธอหลับตาเสียเป็น ส่วนใหญ่

จาก http://www.komchadluek.net/detail/20090417/9618/

แก้ไข : คำแปลจากคลิป ( จากเวป pantip ) คุณหัวใจไม่ใช่กระดาษ และ คุณExcellent liar
ใน http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/ ... 88.html#83
--------- ตอนก่อนแสดง (คร่าว ๆ นะคร้าบผม) ---------

"ตอนนี้ ป้าอยู่ตามลำพังกับแมวชื่อ เพบเบิลส์ (Pebbles) จ๊ะ
ป้าไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยโดนจูจุ๊บเลยด้วย แหม น่าอายจังเลย...อิอิ"

"ป้าร้องเพลงตั้งแต่อายุ 12 ล่ะ ป้าหวังไว้เสมอว่าอยากจะแสดงต่อหน้าคนดูเยอะๆ
ป้าจะทำให้คนดูตะลึงไปเล้ยยย..."


--------- ตอนอยู่บนเวที (คร่าว ๆ นะครับ)---------

ไซเมิ่น: ชื่อไรครับผม
ป้า: ป้าชื่อ "ซูเซิ่น บอยเอิล" ค่ะ
ไซเมิ่น: OK ป้าซูเซิ่น... ป้ามาจากที่ไหนล่ะครับ ?
ป้า: ป้ามาจากแบล็คเบิร์น (Blackburn) อยู่ใกล้กับ บาธเกท (Bathgate) เวสท์ โลเธียน (West Lothian) จ๊ะ
ไซเมิ่น: เป็นเมืองใหญ่อ๊ะป่าวอะป้า ?
ป้า: อืม...มันก็ประมาณว่า เป็นเมืองที่รวมเอาหลายๆ หมู่บ้านไว้อะนะจ๊ะ (collation of villages)
ไซเมิ่น: ป้าอายุเท่าไหร่ล่ะครับ ?
ป้า: อายุ 47 จ้ะ (คนดูโห่ร้องใหญ่เลย ประมาณว่า โห...รุ่นเกือบดึกแล้วนะสำหรับรายการนี้น่ะ)
ป้า: แต่มันก็เป็นแค่ด้านหนึ่งของฉันเท่านั้นล่ะนะ ! (พร้อมกับส่ายสะโพกน่ารัก เหมือนจะบอกว่า ป้าอายุขนาดนี้แล้วไงล่ะหนู ? อิอิ)

ไซเมิ่น: OK ป้า ฝันของป้าคืออะไรล่ะ ?
ป้า: ป้าอยากจะเป็นนักร้องอาชีพจ้ะ (แต่ละคนก็ทำหน้าแบะๆ ประมาณว่า ป้าแกจะไหวเหรอ...)
ไซเมิ่น: แล้วทำไมมันไม่ประสบความสำเร็จล่ะป้า ที่ผ่านๆ มาน่ะ
ป้า: แหม... ก็ป้ายังไม่เคยได้รับโอกาสมาก่อนนี่จ๊ะ... มาที่นี่ล่ะ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป...
ไซเมิ่น: แล้วป้าอยากจะสบความสำเร็จเหมือนใครล่ะ ?
ป้า: Elaine Paige จ้ะ (นักร้องเพลงละครเวทีระดับสุดยอดคนหนึ่ง)
ไซเมิ่น: Elaine Paige... (ทำเสียงประมาณคิดในใจว่า โอววว ป้าช่างไม่เจียม....)

เพียร์ส: คืนนี้ป้าจะร้องเพลงอะไรล่ะ ?
ป้า: "I dreamed a dream" จากเรื่อง Les Miserables (ละครเพลงชื่อดังระดับโลกเรื่องหนึ่ง)
เพียร์ส: OK
ไซเมิ่น: เพลงยากนะเว้ยเฮ้ย...
ป้า: (ยิ้ม...ชูนิ้วโป้ง ส่งสัญญาณ พร้อมกับคิดว่า... เดี๋ยวเอ็งก็รู้...หุหุ)

และก็เริ่มต้นร้อง...จากนั้น สิ่งเหลือชื่อก็เกิดขึ้น...............

คอมเม้นท์

ปิเยส : ไม่ต้องเดาเลย นี่เป็นเซอรไพรส์ครั้งใหญ๋สำหรับผมในรอบสามปีของโชว์นี้ เมื่อคุณเดินเข้ามาที่ยืนตรงนี้แล้วพูดว่า "ฉันอยากเป็นเหมือนอีลิน เพจ" ทุกๆคนหัวเราะเยาะคุณ แต่ตอนนี้ไม่มีใครหัวเราะเยาะคุณแล้ว ทุกๆคนนึงตะลึงงัน เหมือนโดนสาป เป็นความสามารถที่เหลือเชื่อมาก มหัศจรรย์ที่สุด ผมช๊อคไปเลย

อแมนดา: ฉันรู้สึกตื่นเต้นเพราะฉันรู้ว่าทุกคนตั้งแง่กับคุณไว้ ฉันคิด อย่างจริงใจเลยนะ ว่านั่นพวกเราดูถูกคุณเป็นอย่างมาก ฉันคิดว่านั่นเป็นเสียงที่ปลุกเราให้ลืมตาตื่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีมา และฉันอยากจะพูดคำนั้น(yes) มันเป็นเอกสิทธิอย่างสมบูรณ์เมื่อได้ฟังคุณร้องเพลง

ไซม่อน: ผมรู้ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเดินออกมาเลยว่า..(ทุกคนหัวเราะเยาะไซม่อน) และผมบอกแล้วว่าจะต้องได้เจออะไรที่ไม่ธรรมดา และเห็นไหมผมพูดถูก

ปิเยส : 5555555+

พิธีกร หลังม่าน : อะไรมันจะโดนใจขนาดนี้ 55+

ไซม่อน : โอเคเรามาสรุปผลกัน ปิเยส

ปิเยส : นี่เป็น เยส ที่ยิ่งใหญ่เหมาะสมที่สุด ตั้งแต่ที่ผมเคยให้มา

อแมนดา : เยส ไม่ต้องอธิบายใดๆอีกเลย

ไซม่อน : ซูซาน บลอยด์ คุณสามารถหันหลังกลับบ้านของคุณพร้อมกับความภูมิใจได้เลย คุณได้ 3 เยส คุณผ่าน



ดูคลิปต่อไป

http://www.youtube.com/watch?v=RY-BY4YNs0o&NR=1

http://www.youtube.com/watch?v=V1aO4BMO ... re=related

http://www.youtube.com/watch?v=QWNoiVrJ ... re=related

http://www.youtube.com/watch?v=wfCqpzQS ... re=related

http://www.youtube.com/watch?v=_CxhKtcq ... re=related

http://www.youtube.com/watch?v=J7_k5tUe ... re=related



ที่ดูแล้วน้ำตาไหล เนื่องจากเกิดปีติ นึกถึงคำว่า " โอกาส "

แล้วคุณล่ะ เห็นโอกาสแล้วหรือยัง แล้วเปิดโอกาสให้กับตัวเองแล้วหรือยัง

ในการที่จะเรียนรู้ รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง และยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น

พร้อมทั้งเริ่มต้นขัดเกลากิเลสที่มีอยู่ในใจของตัวเอง ที่ยังคงยึดอยู่ว่าเป็นของๆตน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 16 มิ.ย. 2010, 20:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2010, 22:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว





มหากรุณาธารณีสูตร เวอร์ชั่น เด็กสวด
http://audio.palungjit.com/f21/มหากรุณาธารณีสูตร-เวอร์ชั่น-เด็กสวด-2637.html




คำ ส ว ด ม ห า ก รุ ณ า ธ า ร ณี สู ต ร

นำ มอ ฮอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย่ เย • นำ มอ ออ ลี เย •
ผ่อ ลู กิด ตี ซอ ปอ ลา เย • ผู่ ที สัต ตอ พอ เย
• หม่อ ฮอ สัต ตอ พอ เย • หม่อ ฮอ เกีย ลู นี เกีย เย
• งัน • สัต พัน ลา ฮัว อี • ซู ตัน นอ ตัน เซ
• นำ มอ สิด กิด ลี ตอ อี หม่ง ออ ลี เย
• ผ่อ ลู กิด ตี สิด ฮู ลา เลง ถ่อ พอ • นำ มอ นอ ลา กิน ซี
• ซี ลี หม่อ ฮอ พัน ตอ ซา เม • สะ พอ ออ ทอ เตา ซี พง
• ออ ซี เย็น • สะ พอ สะ ตอ นอ มอ พอ สะ ตอ นะ มอ พอ เค
• มอ ฮัว เตอ เตา • ตัน จิต ทอ • งัน ออ พอ ลู ซี • ลู เกีย ตี
• เกีย ลอ ตี • อี ซี ลี • หม่อ ฮอ ผู่ ที สัต ตอ • สัต พอ สัต พอ
• มอ ลา มอ ลา • มอ ซี มอ ซี ลี ทอ ยิน • กี ลู กี ลู กิด มง
• ตู ลู ตู ลู ฟา เซ เย ตี • หม่อ ฮอ ฮัว เซ เย ตี • ทอ ลา ทอ ลา
• ตี ลี นี • สิด ฮู ลา เย • เจ ลา เจ ลา • มอ มอ ฮัว มอ ลา
• หมก ตี ลี • อี ซี อี ซี • สิด นอ สิด นอ • ออ ลา ซัน ฮู ลา เซ ลี
• ฮัว ซอ ฮัว ซัน • ฮู ลา เซ เย • ฮู ลู ฮู ลู มอ ลา • ฮู ลู ฮู ลู ซี ลี
• ซอ ลา ซอ ลา • สิด ลี สิด ลี • ซู ลู ซู ลู • ผู่ ถี่ เย ผู่ ถี่ เย
• ผู่ ถ่อ เย ผู่ ถ่อ เย • มี ตี ลี เย • นอ ลา กิน ซี • ตี ลี สิด นี นอ
• ผ่อ เย มอ นอ • ซอ ผ่อ ฮอ • สิด ถ่อ เย •หม่อ ฮอ สิด ถ่อ เย
• ซอ ผ่อ ฮอ • สิด ทอ ยี อี • สิด พัน ลา เย • ซอ ผ่อ ฮอ
• นอ ลา กิน ซี • ซอ ผ่อ ฮอ • มอ ลา นอ ลา • ซอ ผ่อ ฮอ
• สิด ลา เซง ออ หมก เค เย • ซอ ผ่อ ฮอ • ซอ ผ่อ หม่อ ฮอ ออ สิด ถ่อ เย
• ซอ ผ่อ ฮอ • เจ กิด ลา ออ สิด ถ่อ เย • ซอ ผ่อ ฮอ • ปอ ทอ มอ กิด สิด ถ่อ เย
• ซอ ผ่อ ฮอ • นอ ลา กิน ซี พัน เค ลา เย • ซอ ผ่อ ฮอ • มอ พอ ลี เซง กิด ลา เย
• ซอ ผ่อ ฮอ • นำ มอ ห่อ ลา ตัน นอ ตอ ลา เย เย • นำ มอ ออ ลี เย • ผ่อ ลู กิต ตี
• ชอ พัน ลา เย • ซอ ผ่อ ฮอ • งัน สิด ติน ตู • มัน ตอ ลา • ปัด ถ่อ เย • ซอ ผ่อ ฮอ

....................................................................................................

มนต์บทนี้ผูกเป็นคาถา 84 ประโยค มีคำแปลดังนี้

๑. นำ มอ ฮอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย่ เย
นำ มอ - ความนอบน้อม
ฮอ ลา ตันนอ - ความเป็นรัตนะ
ตอ ลา เหย่ - 3
เย - นมัสการ
ขอนอบน้อมนมัสการพระไตรรัตน์ทั้งสาม
หมายถึง..การน้อมเอาพระไตรสรณคมน์, พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึก
ผู้ต้องการปฏิบัติให้ถึงพระองค์จะต้องสาธยายมนตราด้วยความมีเมตตากรุณา และเปี่ยมด้วยศรัทธา
ไม่ควรสวดด้วยเสียงอันดัง เกรี้ยวกราด และเร่งร้อน

๒. นำ มอ ออ ลี เย
นำ มอ - ความนอบน้อม
ออ ลี - องค์อริยะ
เย - นมัสการ
ขอนอบน้อมนมัสการแด่องค์พระอริยะ ผู้ห่างไกลจากบาปอกุศล
วัตถุประสงค์แห่งบทนี้... พระโพธิสัตว์ทรงสั่งสอนชาวโลกให้ปฏิบัติทางจิตเป็นมูลฐาน พระสัทธรรมทั้งหลายล้วนกำเนิดมาแต่จิต
เหตุนี้ผู้ปฏิบัติจะต้องมีความชัดแจ้งแห่งจิต และมองเห็นสภาวะแห่งตน จึงจะสามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ
เมื่อไม่แจ้งชัดในจิตก็ไม่สามารถเห็นสภาวะแห่งตน หากแต่จิตเป็นอจล มีความมั่นคง ก็สามารถเดินทางสู่พระนฤพานได้

๓. ผ่อ ลู กิด ตี ซอ ปอ ลา เย
ผ่อ ลู กิด ตี - การเพ่ง พิจารณา อีกนัยหนึ่งคือความสว่าง
ซอ ปอ ลา - เสียงของโลกอันเป็นอิสระ
เย - นอบน้อมนมัสการ
ขอนอบน้อมคารวะแด่องค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ผู้เพ่งเสียงแห่งสรรพสัตว์ผู้ยาก
พระโพธิสัตว์ผู้สงสารชีวิตแห่งสรรพสัตว์ผู้ตกอยู่ในกองทุกข์
เขาเหล่านั้นล้วนมีความทุกข์อันเกิดจากการหลงลืมสภาวะเดิมของตน
จำต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ พระองค์พิจารณาตามนี้ จึงเกิดเมตตาจิตที่จะโปรดสัตว์

๔. ผู่ ที สัต ตอ พอ เย
ผู่ ที (โพธิ) - ตรัสรู้
สัต ตอ (สัตว์) - การมีชีวิต อารมณ์
พอเย - น้อมคารวะ
ขอนอบน้อมคารวะต่อผู้ให้ความตรัสรู้แก่ทุกชีวิต
หากตั้งใจในธรรม นอบน้อมต่อความแจ้งในสภาวะเดิม ก็จะถึงความหลุดพ้น...

๕. หม่อ ฮอ สัต ตอ พอ เย
หม่อ ฮอ - ใหญ่มาก
สัต ตอ - สัตว์โลก หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึง ผู้กล้าหาญ
พอ เย - น้อมคารวะ
เมื่อน้อมคารวะผู้กล้าหาญก็มีโอกาสที่จะหลุดพ้น มวลสรรพสัตว์ในโลกอันไพศาล
ถ้ารู้สึกตัวแล้วลงมือปฏิบัติ ล้วนถึงความหลุดพ้นได้

๖. หม่อ ฮอ เกีย ลู นี เกีย เย
หม่อ ฮอ -ใหญ่มาก
เกีย ลู - กรุณา
นี เกีย - จิต
เย - คารวะ
ขอนอบน้อมคารวะต่อผู้มีมหากรุณาจิต

๗. งัน
งัน (โอม) - นอบน้อม
ขอนอบน้อม บูชาถวาย
พระโพธิสัตว์เป็นผู้มีความเมตตากรุณาไม่มีประมาณ นำสัทธรรมอันเป็นความดับสูญโดยแท้จริง
ปลุกให้มนุษย์ฟื้นคืนสภาวะเดิมที่มีอยู่ เข้าถึงสัทธรรมอันบริสุทธิ์

๘. สัต พัน ลา ฮัว อี
สัต พัน ลา - อิสระ
ฮัว อี - อริยะ
องค์อริยะผู้อิสระ ผู้มีกายใจอันบริสุทธิ์สะอาด
กาย ใจ จะบริสุทธิ์ได้ ต้องตั้งอยู่ในสัจธรรม ปฏิบัติตนอยู่ในศีล

๙. ซู ตัน นอ ตัน เซ
การปฏิบัติธรรมต้องถือความสัจเป็นพื้นฐาน ใช้ความเพียรเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุสู่อริยสัจ
หากการปฏิบัติธรรมไม่ประกอบด้วยความสัจ ก็จะไม่พบหนทางสู่ความสำเร็จ
เนื่องจากความสัจนั้นเป็นธรรมที่ปราศจากการหลอกลวง จิตจึงรวมเป็นหนึ่งได้
เมื่อมีความสัจ ก็จะมีความเข้าใจ เมื่อเข้าใจก็จะมองเห็นความปลอดโปร่ง
เมื่อปลอดโปร่งก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลง และกลับกลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

๑๐. นำ มอ สิด กิด ลี ตอ อี หม่ง ออ ลี เย
นำ มอ - นอบน้อม
สิด กิด ลี ตอ อี หม่ง - ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมได้รับความคุ้มครองจากพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์
ออ ลี เย - การปฏิบัติธรรมจะรีบร้อนให้ได้ผลในทันทีย่อมเป็นไปไม่ได้
ผู้ที่จะน้อบน้อมเข้าถึงองค์อริยะ จำต้องปฏิบัติธรรมโดยมานะพากเพียร มีจิตใจมั่นคงเป็นหนึ่ง
จะกระทำโดยเร่งรีบไม่ได้ ต้องทำใจให้ว่างเข้าถึงองค์แห่งพระธรรมคัมภีร์
หมั่นในการปฏิบัติตามหลักธรรม มีความคิดดำริมั่นที่จะก้าวข้ามห้วงแห่งโอฆ
จะคิดจะกระทำประโยชน์แก่สรรพชีวิต

๑๑. ผ่อ ลู กิด ตี สิด ฮู ลา เลง ถ่อ พอ
ผ่อ ลู กิด ตี - จิตต้องกับธรรม
สิด ฮู ลา - ท่องเที่ยวไปอย่างอิสระ
เลง ถ่อ พอ - เนื่องด้วยสำเร็จในมรรคผล
ผู้ปฏิบัติต้องจงใจมุ่งไปข้างหน้า ฝึกฝนให้กายและจิตรวมเป็นหนึ่ง (เอกัคคตา)

๑๒. นำ มอ นอ ลา กิน ซี
นำ มอ - นอบน้อม
นอ ลา กิน ซี - การคุ้มครองคนดี นักปราชญ์ นักปฏิบัติ
ด้วยความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์ ทรงย้ำเตือนให้ยึดถือพระไตรสรณาคมน์
ต้องปฏิบัติตนอยู่ในมนุษยธรรม ทำตนเป็นตัวอย่างเพื่อให้สาธุชนรุ่นหลังได้รับรู้เป็นแบบอย่างและเจริญรอยตาม
สาธุชนผู้ปฏิบัติตามพระพุทธองค์และพระธรรมยิ่งต้องมีความเมตตากรุณาจิตและโพธิจิตเพื่อโปรดสัตว์
รักษาพระธรรมยิ่งกว่าชีวิตและเผื่อแผ่ทั่วไปไม่มีประมาณ

๑๓. ซี ลี หม่อ ฮอ พัน ตอ ซา เม
ซี ลี หม่อ ฮอ - ความเมตตากรุณาอันไพศาล สามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขได้
พัน ตอ ซา เม - ผู้มีบุญวาสนาจะได้รับการคุ้มครองจากเทพเจ้า มารทั้งหลายไม่สามารถมารบกวนได้
...พระโพธิสัตว์เล็งเห็นว่าชาวโลกถือเอาความรวย, มีชื่อเสียง,
ศักดินา เป็นที่นิยมศรัทธา อันเป็นการเพิ่มพูนความทุกข์
พระองค์จึงเตือนจิตให้มนุษย์ จงผ่อนใจในทางโลก โน้มน้าวจิตใจมาในทางมรรคผล
เมื่อจิตว่างแล้ว พระสัทธรรมอันพิสุทธิ์ก็จะเจริญขึ้น

๑๔. สะ พอ ออ ทอ เตา ซี พง
สะ - การได้เห็น
พอ - เสมอภาค
ออ - พระสัทธรรมอันบริสุทธิ์
ทอ เตา ซี พง - ธรรมไม่มีขอบเขต
ทุกคนที่ปฏิบัติสามารถรู้ได้เห็นได้ และบรรลุสู่พระพุทธภูมิได้โดยเสมอกัน

๑๕. ออ ซี เย็น
ผู้ที่ทำความดีย่อมได้รับการชมเชย ผู้ทำบาปจะต้องสำนึกและขอขมาโทษ

๑๖. สะ พอ สะ ตอ นอ มอ พอ สะ ตอ นะ มอ พอ เค
สะ พอ สะ ตอ - พุทธธรรมอันไม่มีขอบเขตสิ้นสุด สรรพสัตว์ในโลกนี้ล้วนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้
นอ มอ พอ สะ ตอ - พุทธธรรมเป็นความเสมอภาค มิได้แบ่งแยกเป็นสูงหรือต่ำ
นะ มอ พอ เค - พุทธธรรมมีความไพศาล ผู้ปฏิบัติตามจะสามารถระงับภยันตรายทุกสิ่ง
ไม่ว่านักปราชญ์หรือผู้โง่เขลา เบาปัญญา คนหรือสัตว์ ล้วนสามารถหลุดพ้นได้ ถ้าเขาเหล่านั้นปฏิบัติธรรมด้วยความสัจ

๑๗. มอ ฮัว เตอ เตา
ผู้ปฏิบัติต้องถือพระสัทธรรมเป็นสูญ ไม่ข้องแวะ ไม่ติดในรูป ไม่ยึดในจิต
ถือเอาสัจธรรมเป็นใหญ่ และต้องละความวิตกกังวล กำจัดความโกรธ ความโลภ ความหลง
โดยใช้หลักแห่งปัญญาดับกิเลสให้จิตสงบ เป็นอยู่ในโลกนี้โดยสันติสุข

๑๘. ตัน จิต ทอ
ความศรัทธาจริงอันต่อเนื่องกัน จิตต้องตรงกับพระธรรม ห้ามมิให้มีความคิดทางโลกเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ เนื่องจากว่าหากปล่อยให้ความคิดทางโลก เกิดขึ้นในจิต กาย ใจ ก็จะไม่บริสุทธิ์
ทำให้เกิดการขัดแย้งกับพระธรรม ไม่อาจจะพบความสันติสุขได้

๑๙. งัน ออ พอ ลู ซี
งัน - นอบน้อม เป็นบทนำ
ออ พอ ลู ซี - เป็นพระโพธิสัตว์ หมายถึงพระธรรมคือความสะอาดจิตสะอาดสดใสไร้ราคะ
ผู้ปฏิบัติธรรมต้องมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยว ไม่หวั่นไหวต่อการก่อกวนของเหล่ามาร(กามกิเลส)
หากสามารถตั้งจิตข่มจิตสำรวมกาย วาจา และจิต ละทิ้งโลกาวิสัยทั้งหมดก็จะเข้าถึงพุทธสภาวะที่มีอยู่เดิม
ถ้าทำให้จิตมีความสงบนิ่งอยู่ทุกขณะ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ก็จะมีความสำเร็จในธรรมโดยมิรู้ตัว
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ รวมทั้งพระโพธิสัตว์เจ้าได้หลุดพ้นในขณะที่อยู่ในโลกอันมากล้นไปด้วยกิเลสนี้

๒๐. ลู เกีย ตี
เป็นโลกนาถ มีความเป็นอิสระ
มีกุศลจิตสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มัวหมอง มีรัศมีสว่างรอบกาย และสามารถร่วมกับดินฟ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
รักษาความมีกุศลจิต อย่าทำลายตนเอง อย่าหลงผิดเป็นชอบ
สิ่งสำคัญ...ต้องรักษาจิตให้บริสุทธิ์

๒๑. เกีย ลอ ตี
ผู้มีความกรุณา ผู้ปลดปล่อยทุกข์ เป็นผู้มีจิตในทางธรรม ดำรงมรรคมั่นคง มีสติปัญญาเฉียบแหลมยิ่งใหญ่
เมื่อจิตมีความสงบก็สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งชั่วร้ายให้กลับกลายเป็นดี

๒๒. อี ซี ลี
กระทำตามโอวาท อย่ามีจิตหลงผิด

๒๓. หม่อ ฮอ ผู่ ที สัต ตอ
หม่อ ฮอ - ความไพศาลของพุทธธรรม ทุกคนน้อมนำไปปฏิบัติได้
ผู่ที - เห็นโลกนี้เป็นสูญ
สัต ตอ - การเน้นปฏิบัติอนัตตธรรม มองเห็นสรรพธรรมเป็นสูญ
มองความรุ่งเรืองแห่งลาภยศ สรรเสริญเป็นสูญ มองให้เห็นเป็นเงาลวง ทำจิตใจร่างกายให้หมดจด

๒๔. สัต พอ สัต พอ
พุทธธรรมมีความเสมอภาค อีกทั้งยังอำนวยประโยชน์สุขแก่สัตว์โลก ผู้ที่มีปัจจัยแห่งบุญย่อมได้รับความสุข

๒๕. มอ ลา มอ ลา
ผู้ปฏิบัติจะได้มีมโนรถแก้วมณี แก้วมณีนี้แจ่มใสไม่มีอะไรขัดข้อง
ความคิดคำนึงเกิดมาแต่จิต จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธานแห่งบุญและบาป
ผู้ปฏิบัติต้องกำจัดความคิดอันเป็นอกุศล ความคิดฟุ้งซ่าน ระงับความวิตกกังวล
เพียรพยายามเสาะหาสัจธรรม ชำระล้างอายตนะภายในให้สะอาดพิสุทธิ์ ละความห่วงใยใดๆให้สิ้นเชิง

๒๖. มอ ซี มอ ซี ลี ทอ ยิน
มอ ซี - ความมีอิสระทันที ผู้ปฏิบัติไม่มีเวลาใดที่ไม่เป็นอิสระคือมีอิสระทุกเมื่อ
ลี ทอ ยิน - การปฏิบัติกระทั่งสำเร็จวิชชาธรรมกาย มีอาสน์ดอกบัวรองรับ
โดยปกติแล้วผู้ที่มีจิตว่างก็จะมีความสะอาดทั้งกายและจิต เมื่อลงมือปฏิบัติแล้วก็สามารถบรรลุมรรคผลได้
และก็จะตั้งอยู่เช่นนั้น ไม่มีวันเสื่อมถอย

๒๗. กี ลู กี ลู กิด มง
กี ลู - การเกิดความคิดปฎิบัติธรรมสามารถบันดาลให้เทพเจ้ามาปกปักรักษา
กิด มง - ผู้ปฏิบัติจะต้องสร้างสมบุญบารมีเพื่อเป็นพื้นฐานในการบรรลุสู่มหามรรค (มรรคผล-นิพพาน)

๒๘. ตู ลู ตู ลู ฟา เซ เย ตี
ตู ลู - ผู้ปฏิบัติจะต้องยืนให้มั่นตั้งใจปฏิบัติ ไม่หลุ่มหลงด้วยพวกเดียรถี มีความแน่วแน่ มีสมาธิ มีความสงบ
ฟา เซ เย ตี - มีความบริสุทธิ์อันยิ่งใหญ่สามารถข้ามพ้นสังสารวัฏได้

๒๙. หม่อ ฮอ ฮัว เซ เย ตี
พระสัทธรรมอันไพศาล สามารถระงับความเกิดดับแห่งกิเลสได้
ภัยพิบัติต่างๆไม่แผ้วพาน ทุกคนสามารถสำเร็จเป็นพุทธะได้เหมือนหัน
กำจัดความหลงผิด ความเห็นแก่ตัว ปล่อยวางปัจจัยทางโลก

๓๐. ทอ ลา ทอ ลา
เมื่อปฏิบัติจิตให้มีสภาพเหมือนอากาศอันโปร่งใส ไร้ละอองธุลีแม้แต่น้อย ก็จะได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นพรหมได้

๓๑. ตี ลี นี
ตี - โลก
ลี - สัตว์ทั้งหลายล้วนสามารถรับการโปรดได้
นี - พรหมจาริณีที่ปฏิบัติธรรมอยู่

๓๒. สิด ฮู ลา เย
เมื่อปฏิบัติธรรมเข้าถึงความสมบูรณ์แห่งสภาวะเดิมแล้ว จะมีความสว่างปรากฏในกายของตน

๓๓. เจ ลา เจ ลา
ความโกรธ ดุ สุรเสียงที่เปล่งออกมาดุจเสียงคำรามของฟ้า
กระหึ่มไปทั่วสารทิศธรรมเหมือนดังฟ้าร้องคำรามไปทุกสารทิศ
เป็นเสียงแห่งพรหมเมื่อเหล่ามารได้ยินศัพท์สำเนียงนี้ ก็จะเกิดความสะดุ้งกลัว

๓๔. มอ มอ ฮัว มอ ลา
มอ มอ - การกระทำดี สามารถทำลายความกังวลแห่งภยันตรายได้
ฮัว มอ ลา - ธรรมะเป็นสิ่งลึกซึ้ง เข้าใขยาก และมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถประมาณ
หรือคาดคิดได้ เป็นประโยชน์ที่ไม่มีสิ่งใดทัดเทียม

๓๕. หมก ตี ลี
หลุดพ้น
ผู้ปฏิบัติได้เช่นนี้ ย่อมบรรลุสู่ภูมิแห่งพุทธ

๓๖. อี ซี อี ซี
การชักชวนตามพระศาสนา ทุกสรรพสิ่งให้ดำเนินไปตามธรรมชาติ
ทุกสิ่งปล่อยให้ดำเนินไปตามเหตุปัจจัยปรุงแต่ง อย่าฝืนกระทำตามใจชอบ

๓๗. สิด นอ สิด นอ

เป็นมหาสติ มีจิตใจมั่นคงสามารถเข้าสู่มหาปัญญา
ผู้ปฏิบัติธรรม มีความสว่างแห่งสติปัญญาอยู่ ถ้าใช้จิตนี้เป็นฐานใช้ธรรมให้เป็นประโยชน์ ก็จะได้รับฐานธาตุที่สดชื่น
แต่หากไม่มีจิตใจมั่นคงกำจัดกิเลสในตนไม่หมด ก็ไม่มีทางที่จะให้ความว่างแห่งสติปัญญาที่มีอยู่ดั้งเดิมปรากฏออกมาได้เลย.

๓๘. ออ ลา ซัน ฮู ลา เซ ลี
ออ ลา ซัน - ความผ่านธรรมไปถึงธรรมราชา มีความอิสระในธรรม
ฮู ลา เซ ลี - การได้พระธรรมกายอันบริสุทธิ์ ได้ดวงแก้วแห่งพระรัตนะ

๓๙. ฮัว ซอ ฮัว ซัน
ฮัว ซอ - ผู้ที่มีธรรม ตั้งอยู่ในขันติธรรม
ฮัว ซัน - ผู้บรรลุธรรม มีความสุขอันแท้จริงยากจะบรรยาย
เป็นการอนุโมทนาตามเหตุตามปัจจัย
ความสุขที่แท้จริง จะต้องได้จากการปฏิบัติที่ยากลำบาก
ถ้าสามารถอดทนต่อความยากลำบากก็จะเข้าถึงความสุขอันยิ่งได้

๔๐. ฮู ลา เซ เย
จะต้องมีความรู้ด้วยตนเอง ผู้จะบรรลุธรรมหากสามารถละการยึดเกี่ยวเข้าถึงสภาวะดั้งเดิม ก็จะพบพระพุทธเจ้าได้ทุกพระองค์

๔๑. ฮู ลู ฮู ลู มอ ลา
การประกอบพิธีตามปรารถนา ประกอบพิธีกรรมไม่ละจากตัวตน

๔๒. ฮู ลู ฮู ลู ซี ลี
การประกอบธรรม โดยปราศจากความคิดคำนึงมีความเป็นอิสระสูง

๔๓. ซอ ลา ซอ ลา
ผู้ปฏิบัติเพียงแต่มีความมุ่งมั่น มีความเพียรพยายามอย่างต่อเนื่อง มีจิตอันเป็นหนึ่งเดียว ก็จะได้เห็นองค์พระโพธิสัตว์

๔๔. สิด ลี สิด ลี
ความเป็นมหามงคลอันสูงสุด สามารถอำนวยประโยชน์ และคุ้มครองสรรพสัตว์โดยไม่ละทิ้ง

๔๕. ซู ลู ซู ลู
น้ำอมฤตทานสามารถอำนวยประโยชน์แก่สัตว์โลกทั้งปวง

๔๖. ผู่ ถี่ เย ผู่ ถี่ เย
การตรัสรู้ธรรม ตรัสรู้ถึงภูมิจิต ผู้ที่ปฏิบัติจะต้องมีความวิริยะพากเพียรอย่างแรงกล้า
ปฏิบัติทุกวันทุกคืนเสมอต้นเสมอปลายไม่ท้อถอย

๔๗. ผู่ ถ่อ เย ผู่ ถ่อ เย
เป็นการรู้ในธรรม รู้ในจิต ผู้ปฏิบัติจะต้องถือ “ตัวเขา-ตัวเรา” เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ไม่เพียงแต่ไม่เห็นลักษณะตัวเขาตัวเรา แม้สรรพสัตว์ในทุคติ ก็ต้องถือว่าเท่าเทียมกับเรา

๔๘. มี ตี ลี เย
มหากรุณา ให้ผู้ปฏิบัติต้องเจริญเมตตากรุณาจิต เพื่อให้สรรพสัตว์เข้าถึงโพธิมรรค
รักในตนเองเท่าใด ก็ให้รักผู้อื่นเท่านั้น

๔๙. นอ ลา กิน ซี
นักปราชญ์ผู้รักษาตนเองได้ มีมหากรุณาจิต
ผู้ปฏิบัติจะต้องเคารพนักปราชญ์ เห็นผู้ทำดีจะต้องช่วยกันรักษา ผู้ที่เกิดความท้อถอยก็ต้องส่งเสริมให้กำลังใจ

๕๐. ตี ลี สิด นี นอ
ความคมของวัชระ ให้คนเรามีความมั่นคงในการปฏิบัติธรรม

๕๑. ผ่อ เย มอ นอ
สุรเสียงก้องไปสิบทิศ เป็นสุรเสียงแห่งความปิติยินดี

๕๒. ซอ ผ่อ ฮอ
ความสำเร็จผล มงคล นิพพาน ระงับภัยเพิ่มพูลประโยชน์ พระสัทธรรมไม่เกิดไม่ดับ เป็นสภาวะอันสงบมาแต่เดิม

๕๓. สิด ถ่อ เย
ความสำเร็จในธรรมทั้งหลาย เข้าถึงพระวิสุทธิมรรคปราศจากขอบเขตอันจำกัด
สรรพสัตว์เพียงแต่ละวางจากลาภยศชื่อเสียง ก็จะเข้าถึงความหลุดพ้นได้

๕๔. ซอ ผ่อ ฮอ
ผู้ปฏิบัติถ้าเห็นแจ้งในพระสัจธรรมและความหลอกลวง(ไม่แท้) ก็จะสำเร็จได้ง่าย

๕๕. หม่อ ฮอ สิด ถ่อ เย
ความไพศาลของพระพุทธธรรม ผู้ใดน้อมนำไปปฏิบัติจะสำเร็จในพระพุทธผล

๕๖. ซอ ผ่อ ฮอ
เน้นย้ำประโยชน์ในการปฏิบัติธรรม

๕๗. สิด ทอ ยี อี
สิด ทอ - ความสำเร็จ
ยี อี - ความว่างเปล่า
ทวยเทพเจ้าต่างได้รับความสำเร็จอันเป็นความว่างเปล่า (สุญญตาธรรม)

๕๘. สิด พัน ลา เย
เป็นความอิสระสมบูรณ์ เป็นการกล่าวถึงบรรดาเทพีที่ต่างสำเร็จในอิสระธรรม

๕๙. ซอ ผ่อ ฮอ
อสังสกฤตธรรมนั้น เป็นสภาวธรรมที่สมบูรณ์โดยอิสระ เป็นการประกาศมหามรรคที่ยิ่งใหญ่มีผลที่ลึกซึ้ง

๖๐. นอ ลา กิน ซี
ความสำเร็จด้วยความรัก ความเมตตากรุณา การปกปักษ์รักษา

๖๑. ซอ ผ่อ ฮอ
แสดงถึงความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์

๖๒. มอ ลา นอ ลา
มอ ลา - มโนรถ ความหวัง ความประสงค์
นอ ลา - อนุตตรธรรม
การปฏิบัติอนุตตรธรรมสมดังประสงค์

๖๓. ซอ ผ่อ ฮอ
พระโพธิสัตว์มุ่งเน้นให้คนปฏิบัติธรรม อีกทั้งยังเปิดเผยหัวใจอันลึกซึ้งของมหามรรคนี้

๖๔. สิด ลา เซง ออ หมก เค เย
เป็นการแสดงความรักของพระโพธิสัตว์ต่อหมู่ชน

๖๕. ซอ ผ่อ ฮอ
คนเรานั้นมีโรคทางจิตเป็นภัยคุกคาม พระธรรมโอสถเท่านั้นที่สามารถรักษาให้หายได้

๖๖. ซอ ผ่อ หม่อ ฮอ ออ สิด ถ่อ เย
ซอ ผ่อ หม่อ ฮอ - สัตว์ทุกประเภทมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน สามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิได้เหมือนกัน
ออ สิด ถ่อ เย - สรรพสัตว์มีโอกาสร่วมรับความสุขสบายทั่วถึงกัน
บุคคลมีขันติธรรมก็จะเข้าถึงธรรมได้ด้วยดี สามารถสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณได้ไม่จำกัด

๖๗. ซอ ผ่อ ฮอ
ความเมตตาอันสูงสุด

๖๘. เจ กิด ลา ออ สิด ถ่อ เย
เจ กิด ลา - การใช้วชิรจักรปราบเหล่ามาร
ออ สิด ถ่อ เย - ความสำเร็จอันไม่มีสิ่งใดเทียบได้
การใช้วชิรธรรมจักร ปราบเหล่ามารศัตรูได้รับความสำเร็จ

๖๙. ซอ ผ่อ ฮอ
สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนสำเร็จในความบริสุทธิ์ได้ จึงไม่ควรประกอบอกุศลกรรมทั้งหลาย

๗๐. ปอ ทอ มอ กิด สิด ถ่อ เย
ปอ ทอ มอ กิด - พุทธธรรมเป็นธรรมที่ไม่มีขอบเขต จะต้องปฏิบัติเพื่อได้รับความสุขร่วมกัน
สิด ถ่อ เย - ย้ำเตือนให้ผู้ปฏิบัติจะต้องประกอบด้วยสติปัญญาเพื่อการหลุดพ้น ละจากกิเลส

๗๑. ซอ ผ่อ ฮอ
ผู้ปฏิบัติไม่ยึดในทางใดทางหนึ่ง ปฏิบัติโดยการพิจารณา พร้อมทั้งมีหิริโอตตัปปะ
มรรคผลนั้นสำเร็จได้ด้วยตนเอง สำเร็จได้ด้วยการพิจารณา
ในทุกขณะจะต้องพิจารณาจิตของตน รักษาไว้ในทุกเหตุปัจจัยไม่ให้วิตกจิตเกิดขึ้นได้

๗๒. นอ ลา กิน ซี พัน เค ลา เย
นอ ลา กิน ซี - รักษาไว้ด้วยความเป็นภัทร
พัน เค ลา เย - เถระเพ่งโดยอิสระ
เป็นที่รักของผู้เจริญ เป็นที่รักของพระอริยะ

๗๓. ซอ ผ่อ ฮอ
การปฏิบัติให้ถือเอาสัมมาจิต และความมีสัจเป็นหลัก

๗๔. มอ พอ ลี เซง กิด ลา เย
มอ พอ ลี เซง - ผู้กล้า
กิด ลา เย - สภาวะเดิม
คุณธรรมจะสำเร็จได้ ด้วยสภาวะแห่งเมตตาธรรม
หากจิตตั้งอยู่ในอกุศลก็ย่อมเป็นการยากที่จะสำเร็จพระอนุตตรธรรม

๗๕. ซอ ผ่อ ฮอ
เป็นการรวมเอาพระคาถาทั้งหมดแห่งมหากรุณาธารณีสูตรมาไว้ในประโยคนี้
มีนัยบ่งบอกถึงความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์
เพื่อโปรดเหล่าสรรพสัตว์ทั้งปวงให้ได้รับหิตานุหิตประโยขน์ มีพระสัมมาสัมโพธิเป็นหลักชัย

๗๖. นำ มอ ห่อ ลา ตัน นอ ตอ ลา เย เย
เน้นย้ำให้พยายามควบคุมกายใจไม่ให้ลื่นไหลไปตามอารมณ์ที่มากระทบ
โน้มนำเอาฌานสมาธิเพ่งการเกิดการดับ

๗๗. นำ มอ ออ ลี เย
เป็นการสาธยายมนต์สรรเสริญพระอริยะ และกล่าวย้ำถึงการปฏิบัติธรรม
ต้องละความเป็นตัวตน, บุคคล, เรา-เขา
จึงสามารถไม่ให้เกิดความคิดนึกอันเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ได้ความนึกคิดติดยึดไม่เกิด
ความเข้าใจถึงธรรมก็จะเป็นที่หวังได้

๗๘. ผ่อ ลู กิต ตี
พระสัทธรรมไม่มีความสิ้นสุด บรรดาผู้ปฏิบัติธรรมย่อมมีความบริสุทธิ์เป็นเครื่องอยู่ นำทางสู่แดนสุขาวดี
มีการเกิดย่อมต้องมีการตาย มีความชนะย่อมต้องมีความพ่ายแพ้...
แต่ชาวโลกผู้ตกอยู่ภายใต้อวิชชากลับยินดีต่อการเกิดเกลียดชังความตาย ท้ายที่สุดก็ต้องตายอยู่นั่นเอง
ฉะนั้นหากต้องการรอดพ้นจากความตาย จะต้องค้นหาความเป็นในความตายให้ได้เสียก่อน

๗๙. ชอ พัน ลา เย
ผู้ปฏิบัติต้องสำรวมตาเห็นรูป ไม่ปรุงแต่งไปตามรูปที่มองเห็น

๘๐. ซอ ผ่อ ฮอ
สำรวมหูฟังเสียง ไม่ปรุงแต่งไปตามเสียงที่ได้ยิน

๘๑. งัน สิด ติน ตู
สำรวมจมูกดมกลิ่น ไม่ปรุงแต่งไปตามกลิ่นที่จมูกดม

๘๒. มัน ตอ ลา
สำรวมลิ้นรับรส ไม่ปรุงแต่งไปตามรสที่ลิ้นรับ

๘๓. ปัด ถ่อ เย
สำรวมกายถูกต้องสัมผัส ไม่ปรุงแต่งไปตามที่ร่างกายถูกต้องสัมผัส

๘๔. ซอ ผ่อ ฮอ
สุดท้ายสำรวมใจรับรู้อารมณ์ ไม่ปรุงแต่งให้เกิดอารมณ์ใดๆที่ใจรับรู้
รวมเรียกว่าสำรวมอินทรีย์ ๖ อันมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ บรรลุเป็นโพธิสัตว์อันบริสุทธิ์

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2010, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




4_1198376366.jpg
4_1198376366.jpg [ 77.49 KiB | เปิดดู 5022 ครั้ง ]
ค่ำแล้วที่เมืองปัตตานี
โอ้.. ยามนี้ เปลี่ยวเดียวดาย
พ่อจ๋าแม่จ๋าอยู่ไหน คนใจร้าย ทำได้ลง
มองไปทางไหน ก็มืดมัว
น่าหวาดกลัว อกสั่น ฝันร้าย
เปลวไฟ แผดเผา แล้วเมืองใต้
ลาลับหาย ตายจากกัน

บ้านนี้ เมืองนี้ แผ่นดินนี้ เป็นของใคร
แล้วฉันจะไปอยู่ไหน ที่ตรงไหน ไม่ฆ่ากัน
ยะลา นรา ปัตตานี โอ้..ยามนี้ ช่างเปลี่ยว เดียวดาย
พ่อเอ๋ยแม่เอ๋ย อยู่ไหน ลาลับหาย ตายจากกัน
พ่อจ๋าแม่จ๋า อยู่ไหน คนใจร้าย ทำได้ลง
แล้วฉันจะไปอยู่ไหน ที่ตรงไหน ไม่ฆ่ากัน
แล้วฉันจะไปอยู่ไหน ที่ตรงไหน คือ บ้านฉัน


http://solno07.exteen.com/20100625/entry-3





ไม่ว่าจะเพลงที่แต่งขึ้นมา ไม่ว่าจะภาพยนตร์หรือละครที่ถูกสร้างขึ้นมา
ล้วนแสดงออกถึง คนเรามักจะพึ่งพาสิ่งภายนอก มองหาสิ่งที่คิดว่า " ความสุข "

แต่ลืมย้อนกลับมามองตัวเองว่า ที่คิดว่า สุขและทุกข์ นั้นเกิดจากใครทำให้
ตัวเราเองนั่นแหละที่สร้างวัฏฏะหรือห่วงตรงนี้ขึ้นมากันเอง สร้างขึ้นเพราะความไม่รู้

เมื่อยังไม่รู้ ก็จึงมีการสร้างเหตุใหม่ให้เกิดขึ้นเนืองๆ ตามสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกต้อง
คราใดที่เกิดการกระทบ ทั้งพอใจและไม่พอใจ ทำให้ต้องตอบสนองในสิ่งๆนั้น
ที่ล้วนเกิดจากอุปทานทั้งสิ้น อุปทานที่เกิดจากความยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตนที่มีอยู่

นี่แหละชีวิตมีแค่นี้เอง เมื่อไม่รู้ ย่อมก่อเหตุไปด้วยความไม่รู้
เมื่อเห็นตามความเป็นจริงได้เมื่อไหร่ จึงหยุดขบวนการนั้นๆได้

อุปทาน อุปทาน ถูกหรือผิด ล้วนเกิดจากอุปทาน
อุปทาน อุปทาน นั่นก็ของเรา นี่ก็ของเรา แม้แต่กิเลสเขา กิเลสภายนอกแท้ๆ
ก็ยังเกิดอุปทาน ยึดมั่นถือมั่น เอากิเลสตัวเองลงไปผสมผสาน เลยกลายเป็นเหตุที่ทำให้
ก่อให้เกิดภพชาติใหม่ไม่รู้จักจบสิ้น เพราะอุปทานนี่แหละ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2010, 12:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว





เป็นจั่งได๋ ไปอยู่ไส บ่เห็นหน้าตั้งหลายปี ซำบายดีหรือบ่ดี
คนทางนี้เป็นห่วงหนา เด้อน้องหล้า

เฮ็ดงานหยัง อยู่แถวได๋ บ่เห็นใจ อ้ายจักหน่อย
ได้แต่คอยนานหลายปี น้องคนดีเงียบสี่รีบ่เห็นไง

เจ้าจากบ้านนา เข้าสู่เมืองฟ้าตั้งหลายปี เป็นตายร้ายดีอยู่ไสบ่ฮู้ ส่งข่าวเมือบ้านบอกพ่อกับแม่

กลับมายามบ้านอีสานเฮาแน ผู้เฒ่าผู้แก่พากันจ่มหา ยามใดอีหล้า สิคืนมายามเฮือน

ว่าจั่งได๋ ไปอยู่ไส ฟังเพลงอ้ายฟ่าวกลับคืน อ้ายยังคอยน้องขวัญยืน ทุกวันคืนอยู่บ้านเฮา...นะน้องหล้า

http://www.pleng.com/song.php?song_id=024299

http://www.youtube.com/watch?v=sjDhd_Y4Iks&NR=1

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 12 ก.ค. 2010, 21:45, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 03:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




http://www.youtube.com/watch?v=lrgUhahT ... re=related




http://www.youtube.com/watch?v=X_zuQb0I ... re=related




http://www.youtube.com/watch?v=VzocSJSX ... re=related



ถึงแม้ว่าพ่อจะทำอาชีพที่ไม่สุจริต
แต่ความรักที่พ่อให้กับลูกนั้น ยิ่งใหญ่เสมอ

วันนี้ได้บอกรักพ่อกับแม่แล้วหรือยัง?
และได้ทำความดี เพื่อพ่อกับแม่แล้วหรือยัง?

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 03:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


เคยดูหนังเรื่องนี้ เมื่อหลายปีก่อน
เป็นหนังตลกที่แม้จะหยาบไปนิดหนึ่ง
แต่ก็ทำให้หัวเราะได้ ที่สำคัญ
มีสาระมากกว่าหนังตลดทั่วๆไป
แสดงถึงความรับผิดชอบของ"พ่อ"
ที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนดีเลิศ แต่รุ้จักหน้าที่
มีสัจจะ ทำให้น้ำตาคลอได้เหมือนกัน

ถ้า "พ่อ" ทุกคนรู้จักหน้าที่ รู้จักรับผิดชอบ
รู้จักรักษาสัจจะ เหมือน พ่อในเรื่องนี้
สังคมไทยจะวุ่นวาย น้อยกว่าที่เป็นอยู่นี้บ้างไหมนะ?

สงสัยเราสองคนท่าจะเพี้ยนนะค่ะ อ.น้ำ
ใกล้จะถึง "วันแม่" แต่กลับมาพูดถึง "แฟนของแม่" :b32:

อนุโมทนาค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 22:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




28368rcvys2w760.gif
28368rcvys2w760.gif [ 252.65 KiB | เปิดดู 4944 ครั้ง ]
เกิดเป็นพระราชาอยากได้ก็ได้อย่างใจ
อยากมีแต่สุขไม่ทุกข์ใจแต่หาไม่เจอซักที
ให้โหรช่วยทำนายโหรบอกให้ทำอย่างนี้
ก็ใส่เสื้อของผู้วิเศษที่เค้าไม่มีความทุกข์ใดๆ

ทหารของพระราชาออกตามหาแทบพลิกแผ่นดิน
ไม่พบไม่เจอไม่ได้ยินคนที่ไม่ มีทุกข์ใจ
เสาะหานับแรมปีผู้วิเศษคนนั้นอยู่ไหน
ไม่ว่าจะหญิงจะชายก็ล้วนแต่มีความทุกข์ทุกคน

หาเท่าไรหาไม่เจอเสื้อแห่งความสุขนั้นอยู่ไหน
จะค้นจะหาเท่าไรก็ยังไม่พบไม่เจอสักที
หาเท่าไรหาไม่เจอคนๆ นั้นเค้าอยู่ที่ใด
คนที่ไม่เคยทุกข์ใจไม่มี

ก่อนตะวันจะลับปลายนาที่หน้ากระท่อมหลังหนึ่ง
แว่วเสียงถ้อยคำพร่ำรำพึงขอบคุณชีวิตแสนดี
เมื่อหิวก็แค่มีกินเมื่อหลับก็นอนฝันดี
แค่นี้ก็มีความสุขวันนี้ไม่มีความทุกข์ใดๆ

ทหารของพระราชาเสาะหามาทั้งแผ่นดิน
เพิ่งพบเพิ่งเจอเพิ่งได้ยินคนที่ไม่มีทุกข์ใจ
เหล่าทหารของพระราชาจึงกระแทกประตูเข้าไป
ได้พบเพียงชายยากไร้ไม่มีแม้เสื้อติดกายสักตัว

หาเท่าไรหาไม่เจอเสื้อแห่งความสุขนั้นอยู่ไหน
จะค้นจะหาเท่าไรก็ยังไม่พบไม่เจอสักที
หาเท่าไรหาไม่เจอความสุขนั้นมันอยู่ที่ใด
ลืมว่ามันอยู่ที่ใจตรองให้ดี

http://solno07.exteen.com/20100804/entry






สภาวะความทุกข์

ทุกขธรรม ธรรมที่เป็นทุกข์ ได้แก่ รูป,นาม ขันธ์ ๕ หรือ กาย,ใจ

ทุกขลักษณะ เครื่องหมายที่กำหนดว่าเป็นทุกข์

ทุกขานุปัสสนา ปัญญาที่มีการพิจรณาเห็นความทุกข์เนืองๆ ในรูป,นาม ขันธ์ ๕ หรือ กาย,ใจ
หรือขณะที่เห็นความเกิด ดับ ของรูป,นาม ขันธ์ ๕ อยู่นั้น

ความรู้สึกในขณะนั้นก็เกิดขึ้นว่า กาย,ใจ นี้เป็นของน่าเกลียด น่ากลัว ไม่ดี
เป็นภัย จะหาความสุขสบายจากกาย,ใจ อย่างแท้จริงนั้นหาไม่ได้เลย
ได้แก่ปัญญาที่ในมหากุศล,มหากิริยา ขณะกำหนดรู้รูป,นาม ขันธ์ ๕ หรือ กาย, ใจ

นำมาจากหนังสือ สติปัฏฐานา หลวงพ่อภัททันตระ อาสภะมหาเถระ


ความทุกข์ภายนอกที่มองเห็น ล้วนเกิดจากตัวตัณหาอุปทานที่เกิดขึ้นในจิต
เหตุที่ทำให้เกิดสภาวะนั้นๆ ล้วนเกิดจากเหตุที่กระทำมา ผลจึงเป็นเช่นนั้น

ความทุกข์ภายใน เกิดจากกิเลสตัณหาความทะยานอยากที่เกิดขึ้น
เมื่อประสพกับสภาวะต่างๆซึ่งทำให้เกิดความสงสัย เป็นเหตุให้เกิดความอยากรู้
เจอความทุกข์ยากในขณะปฏิบัติ เกิดความอยากไปให้พ้นสภาวะนั้นๆ

ทุกๆตัวสภาวะที่ก่อให้เกิดตัณหาความทะยานอยาก ล้วนก่อให้เกิดความทุกข์ทั้งสิ้น
เมื่อเห็นได้ดังนั้นเนืองๆ จะเห็นตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเป็นขณะๆ คือ ความไม่เที่ยง

เมื่อเห็นความไม่เที่ยง จึงเกิดจากปล่อยวาง
เมื่อเกิดการปล่อยวาง จิตจะยึดติดกับสภาวะที่เกิดขึ้นนั้นๆน้อยลงไป
จิตจะรู้สึกเบาสบาย มีความสุขมากขึ้น

ความสุข เมื่อก้าวเข้าสู่สภาวะความสุข
สุขกับการรู้อยู่กับรูป,นาม รู้อยู่ภายในได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ

เมื่อรู้รสชาติ " สุข " นี้ได้บ่อยๆ ย่อมทำให้เกิดความเบื่อหน่าย
สุขมันก็แค่นี้เองหรือ ไปยึดอะไรไม่ได้เลย มันก็แค่สุขที่เกิดจากสภาวะ
เดินๆไป นั่งๆไป ก็รู้อยู่กับสภาวะ สุขก็แค่รู้ ไม่ทำให้ติดสุขแต่อย่างใด

เมื่อเกิดความเบื่อหน่ายจากสภาวะสุขมากขึ้นเรื่อยๆ จิตย่อมปล่อยวาง
สุดท้ายเกิดสภาวะอุเบกขา เรียกว่า ไม่ว่าจะเกิดสภาวะอะไรมันก็แค่รู้
สุดท้าย ไม่มีทั้งสุขและทุกข์ เป็นเหตุให้มีสติ สัมปชัญญะรู้อยู่กับรูป,นามได้ชัดมากขึ้น

ความทุกข์,ความสุขทั้งหลายล้วนแต่เป็นแค่สิ่งสมมุติ ล้วนเกิดจากอุปทาน
แม้แต่ความสุขที่เกิดจากภายใน เกิดจากการรู้อยู่ในกายและจิต
ไม่ว่าจะสุขภายนอกหรือสุขภายใน ล้วนเป็นกิเลสทั้งสิ้น
ซึ่งก็ล้วนแต่นำมาซึ่งความเบื่อหน่ายทั้งสิ้น
จิตจึงสิ้นซึ่งอาสวะเพราะเหหตุนี้นี่เอง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2010, 01:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว









ขอให้มีความสุขทุกรูปทุกนามเทอญ :b8:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 18 ก.ย. 2010, 01:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2010, 20:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว







ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของแต่ละคนนั้น ล้วนเกิดจากเหตุของแต่ละคนที่ทำมา
ทุกอย่างต้องใช้เวลา สร้างเหตุอย่างไร ย่อมรับผลเช่นนั้น

การดูตามความเป็นจริง ทำให้เห็นตามความเป็นจริง
เพียงยอมรับในสิ่งที่มี ในสิ่งที่เป็นอยู่ ย่อมเห็นตามความเป็นจริง
แต่ถ้ายังหลงเล่นกับกิเลส ต้องจมอยู่กับกองกิเลสต่อไป

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 18:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ว่าสิ่งที่เรียกว่า " สุข " , " ทุกข์ " สภาวะที่เกิดขึ้นล้วนไม่แตกต่าง

แต่ที่ทำให้ดูแตกต่าง คือ เหตุที่ทำลงไปของแต่ละคน

ผลที่มาแสดงให้ได้รับในรูปของเหตุที่เกิดขึ้นในปัจจุบันของแต่ละคน จึงแตกต่างกันไปตามอุปทานที่ยังคงมีอยู่

แต่โดยตัวสภาวะที่แท้จริง ล้วนไม่แตกต่าง แตกต่างแค่ตัวละครหรือตัวผัสสะที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปตามเหตุที่ทำมานั่นเอง และที่กำลังทำให้เกิดขึ้นใหม่ ณ ปัจจุบัน ขณะอีก

อุปทานมาก ยึดมาก การให้ค่าต่อสภาวะที่เกิดขึ้นจึงมีมาก

อุปทานน้อย ยึดน้อย การให้ค่าต่อสภาวะที่เกิดขึ้นจึงมีน้อย

สุขหรือทุกข์ มีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับอุปทาน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 285 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 15, 16, 17, 18, 19

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร