วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 16:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 2685 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 45, 46, 47, 48, 49, 50, 51 ... 179  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 14:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ข้าแต่พระองค์ ผู้เป็นอธิบดีแห่งประชาชน
ชนทั้งหลายขายสิ่งของเครื่องชำ คือ ผลสมอ ผล
มะขามป้อม มะม่วง ชมพู่ สมอพิเภก ขนุนสำมะลอ
ไม้สีฟัน มะตูม พุทรา ผลเกด อ้อยและงบน้ำอ้อย
เครื่องโบกควัน น้ำผึ้งและยาหยอดตา ข้าแต่พระราชา

ชนเหล่านั้นแม้จะเหมือนกับพ่อค้า ก็ยังเรียกกันว่า
เป็นพราหมณ์ ข้าแต่พระมหาราชา ข้าพระองค์กราบ
ทูลถึงพราหมณ์พวกนั้นแก่พระองค์แล้ว เราจะต้อง
การพราหมณ์เช่นนั้นหรือหาไม่ พระเจ้าข้า.

ดูก่อนวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่าเป็นพราหมณ์ไม่ได้
ท่านจงแสวงหาพราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต
งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควรบริโภคโภชนาหาร
ของฉัน ดูก่อนสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.

ชนทั้งหลายใช้คนให้ทำการไถและการค้า ใช้ให้
เลี้ยงแพะเลี้ยงแกะ สู่ขอนางกุมารีทำการวิวาหมงคล
และอาวาหมงคล ชนเหล่านั้นแม้จะเหมือนกับกุฎุมพี
และคฤหบดี ก็ยังเรียกกันว่าเป็นพราหมณ์ ข้าแต่พระ-
มหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึงชนพวกนั้นแก่
พระองค์แล้ว เราจะต้องการพราหมณ์เช่นนั้นหรือหา
ไม่ พระเจ้าข้า.

ดูก่อนวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่าเป็นพราหมณ์ไม่ได้
ท่านจงแสวงหาพราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต
งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควรบริโภคโภชนาหาร
ของฉัน ดูก่อนสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* ยิ่งให้จิตก็ยิ่งเบา ยิ่งอยากเอาจิตก็ยิ่งหนัก
* จิตที่คิดจะเอากิเลสย่อมจะเผารนจิต
จิตที่คิดแต่จะให้ ย่อมยังจิตให้ชุ่มเย็นเป็นสุข
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ยังอีกพวกหนึ่งเล่า เป็นปุโรหิตในบ้านบริโภค
ภิกษาที่เก็บไว้ ชนเป็นอันมากพากันถามปุโรหิตบ้าน
เหล่านั้น พวกเหล่านั้นจักรับจ้างตอนสัตว์ แม้ปศุสัตว์
คือ กระบือ สุกร แพะ ถูกฆ่าเพราะปุโรหิตชาวบ้าน
เหล่านั้น ข้าแต่พระราชา คนเหล่านั้นแม้จะเหมือน

กับคนฆ่าโค ก็ยังเรียกกันว่าเป็นพราหมณ์ ข้าแต่พระ-
มหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึงชนพวกนั้นแก่
พระองค์แล้ว เราจักต้องการพราหมณ์เช่นนั้นหรือ
หาไม่ พระเจ้าข้า.

ดูก่อนวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่าเป็นพราหมณ์ไม่ได้
ท่านจงแสวงหาพราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต
งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควรบริโภคโภชนาหาร
ของฉัน ดูก่อนสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.

อีกพวกหนึ่งเป็นพราหมณ์ถือดาบและโล่เหน็บ
กระบี่ ยืนเฝ้าอยู่ที่ย่านพ่อค้าบ้าง รับคุ้มครองขบวน
เกวียนบ้าง ชนเหล่านั้นแม้จะเหมือนคนเลี้ยงโคและ
นายพราน ก็ยังเรียกกันว่าเป็นพราหมณ์ ข้าแต่พระ-
มหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึงพราหมณ์พวก
นั้นแก่พระองค์แล้ว เราจักต้องการพราหมณ์เช่นนั้น
หรือหาไม่ พระเจ้าข้า.


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* ยิ่งให้จิตก็ยิ่งเบา ยิ่งอยากเอาจิตก็ยิ่งหนัก
* จิตที่คิดจะเอากิเลสย่อมจะเผารนจิต
จิตที่คิดแต่จะให้ ย่อมยังจิตให้ชุ่มเย็นเป็นสุข
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 14:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ดูก่อนวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่าเป็นพราหมณ์ไม่ได้
ท่านจงแสวงหาพราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต
งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควรบริโภคโภชนาหาร
ของฉัน ดูก่อนสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.

ชนทั้งหลายปลูกกระท่อมไว้ในป่า ทำเครื่อง
ดักสัตว์ เบียดเบียนกระต่ายและเสือปลาตลอดถึงเหี้ย
ทั้งปลาและเต่า ข้าแต่พระราชา ชนทั้งหลายแม้จะ
เป็นผู้เสมอกับนายพราน เขาก็เรียกกันว่าพราหมณ์
ข้าแต่พระมหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึง
พราหมณ์พวกนั้นแก่พระองค์แล้ว เราจะต้องการ
พราหมณ์เช่นนั้นหรือหาไม่ พระเจ้าข้า.

ดูก่อนวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่าเป็นพราหมณ์ไม่ได้
ท่านจงแสวงหาพราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต
งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควรบริโภคโภชนาหาร
ของฉัน ดูก่อนสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.

อีกพวกหนึ่งย่อมนอนใต้เตียง เพราะปรารถนา
ทรัพย์ พระราชาทั้งหลายสรงสนานอยู่ข้างบน ใน
คราวมีพิธีโสมยาคะ ข้าแต่พระราชา ชนพวกนั้น
แม้จะเหมือนกับคนกวาดมลทิน ก็ยังเรียกกันว่าเป็น
พราหมณ์ ข้าแต่พระมหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบ
ทูลถึงพราหมณ์พวกนั้นแก่พระองค์แล้ว เราจักต้อง
การพราหมณ์เช่นนั้นหรือหาไม่ พระเจ้าข้า.


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* ยิ่งให้จิตก็ยิ่งเบา ยิ่งอยากเอาจิตก็ยิ่งหนัก
* จิตที่คิดจะเอากิเลสย่อมจะเผารนจิต
จิตที่คิดแต่จะให้ ย่อมยังจิตให้ชุ่มเย็นเป็นสุข
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 14:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ดูก่อนวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่าเป็นพราหมณ์ไม่ได้
ท่านจงแสวงหาพราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต
งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควรบริโภคโภชนาหาร
ของฉัน ดูก่อนสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สีลวนฺเต ได้แก่ ท่านผู้มีศีลที่มากับ
มรรค. บทว่า พหุสฺสุเต ได้แก่ ท่านผู้เป็นพหูสูตด้วยปฏิเวธ. บทว่า
ทกฺขิณํ ได้แก่ทาน. บทว่า เย ได้แก่หมู่สมณะและพราหมณ์ผู้ทรงธรรมเหล่าใด
ควรบริโภคทานนั้น สมณะและพราหมณ์เหล่านั้นหาได้ยาก. บทว่า พฺราหฺมณ-
ชาติโย ได้แก่ ตระกูลของพราหมณ์. บทว่า เตสํ วิภงฺควิจยํ ความว่า

เชิญพระองค์ทรงสดับการจำแนกพราหมณ์เหล่านั้น อันเป็นความวิจิตรแห่ง
ปัญญาของข้าพระพุทธเจ้าโดยพิสดาร. บทว่า สํวุเต ได้แก่ ผูกปากร่วมไว้.
บทว่า โอสธิกาเย คนฺเถนฺติ ความว่า ประพันธ์ฉันท์อย่างนี้ว่า ยาขนาน
นี้สำหรับโรคนี้ ขนานนี้สำหรับโรคนี้ แล้วให้ฝูงคน. บทว่า นฺหาปยนฺติ

ได้แก่ ทำน้ำที่เรียกว่าน้ำสรง (น้ำมนต์). บทว่า ชปนฺติ จ ความว่า
ร่ายวิชชัมภูต. บทว่า ติกิจฺฉกสมา คือ เสมือนด้วยแพทย์. บทว่า เตปิ
วุจฺจนฺติ ความว่า แม้พวกนั้นก็มิได้รู้เลยว่าพวกเราเป็นพราหมณ์หรือมิใช่


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* ยิ่งให้จิตก็ยิ่งเบา ยิ่งอยากเอาจิตก็ยิ่งหนัก
* จิตที่คิดจะเอากิเลสย่อมจะเผารนจิต
จิตที่คิดแต่จะให้ ย่อมยังจิตให้ชุ่มเย็นเป็นสุข
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 17:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
พราหมณ์ คงเลี้ยงชีวิตด้วยเวชกรรมเรื่อยไป ฝูงชนพากันเรียกว่า พราหมณ์
ตามโวหาร. บทว่า อกฺขาตา เต ความว่า ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึง
พวกพราหมณ์ที่ชื่อว่า พราหมณ์หมอเหล่านี้นั้นแล้ว. บทว่า นิปตามเส
ความว่า ท่านวิธูระกราบทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระปรีชา พวกเรา
ยังจะเข้าไปหาเพื่อต้องการนิมนต์พวกพราหมณ์เช่นนั้นหรือ คือพระองค์ยังมี
ความต้องการพวกพราหมณ์เหล่านี้อยู่หรือ.

บทว่า พฺราหฺมฺา ได้แก่ พราหมณธรรม. บทว่า น เต
วุจฺจนฺติ ความว่า พวกนั้นจะเรียกว่า พราหมณ์ ตามความหมายว่า
ผู้มีบาปอันลอยเสียแล้วไม่ได้. บทว่า กิงฺกิณิโย ความว่า ข้าแต่พระ-
มหาราชเจ้า ยังมีพวกพราหมณ์พวกหนึ่งละทิ้งพราหมณธรรมของตนเสีย
ถือเอากังสดาลบรรเลงขับร้องไปข้างหน้าพระราชาและมหาอำมาตย์ของพระ-

ราชา เพื่อต้องการเครื่องเลี้ยงชีพ. บทว่า เปสนานิปิ ความว่า
บางทีก็รับใช้เหมือนอย่างทาสและกรรมกร. บทว่า รถจริยาสุ ความว่า
ย่อมศึกษาในรถศิลปะ. บทว่า ปริจาริกสมา คือ เสมือนทาสและกรรมกร.
บทว่า ปงฺกทณฺฑํ ได้แก่ ไม้สีฟัน. บทว่า ปจฺจุเปสฺสนฺติ ราชาโน
ความว่า พวกพราหมณ์อีกพวกหนึ่ง เข้าไปคบหาใกล้ชิดพระราชาและมหา-

อำมาตย์ของพระราชา. บทว่า คาเมสุ นิคเมสุ จ ความว่า นั่งอยู่ใกล้
ประตูนิเวศน์ของท่านเหล่านั้น. บทว่า นิคฺคาหกสมา ความว่า เป็นเสมือน
ราชบุรุษผู้เก็บภาษีอากร หมายความว่า คนเหล่านั้นกล่าวว่า เก็บไม่ได้ไม่ยอม
ไป กระทำการเร่งรัดเอาจนได้ทีเดียวฉันใด ก็คิดว่า จะไปในบ้านหรือในป่า

ก็ตาม เมื่อยังไม่ได้แล้ว พวกเราจะตายก็ไม่ขอลุกขึ้น แล้วอยู่ประจำฉันนั้น.
บทว่า เตปิ ได้แก่ แม้พวกนั้นเล่าก็เป็นเสมือนพนักงานเก็บภาษีอากร มี
บาปกรรม.


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* รักต้นไม้ก็เหมือนรักชีวิต เพราะทุกชีวิตจะอยู่ได้ก็เพราะมีต้นไม้
* การปลูกต้นไม้การสร้างนั้นยาก แต่ก็ตัดและทำลายนั้นง่ายมาก
* ต้นไม้ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่พระธรรมและการปฏิบัตินั้นฟอกจิตใจ
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 17:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
บทว่า รชชลฺเลหิ ความว่า ยังอีกพวกหนึ่งโสมมด้วยละอองฝุ่น.
บทว่า ยาจกา ได้แก่ คนขอทรัพย์ เสมือนคนขุดตอ คือเป็นผู้เสมอกับ
ก่นตอไม้ในไร่ที่เผาแล้ว ได้แก่ พวกคนที่พากันขุดดินแล้วถอนตอไม้ที่ไฟไหม้
เพราะมีร่างกายสกปรก และเพราะยืนอยู่ด้วยความไม่เคลื่อนไหวด้วยตั้งใจว่า
ไม่ได้รับไม่ไป จึงเป็นเสมือนตอไม้ที่เขาขุดขึ้นวางไว้ฉะนั้น. บทว่า เตปิ

ความว่า พวกนั้นเล่าก็เก็บออมทรัพย์ที่ได้ด้วยวิธีนั้นไว้จนร่ำรวยแล้ว ยังเที่ยว
ไปอย่างนั้นอีก เป็นพราหมณ์ทุศีล. บทว่า อุจฺฉุปูฏํ ได้แก่ อ้อยและน้ำอ้อยงบ.
บทว่า มธุอฺชนํ ได้แก่ น้ำผึ้งและยาหยอดตา. บทว่า อุจฺจาวจานิ คือ
มีค่าน้อยและมาก. บทว่า ปณิยานิ ได้แก่ สิ่งของทั้งหลาย. บทว่า วิปเณนฺติ
ได้แก่ ย่อมซื้อขาย. บทว่า เตปิ ความว่า แม้พวกนั้นผู้ค้าขายสิ่งของเหล่านี้

เพียงเท่านี้ เลี้ยงชีพก็เป็นพราหมณ์พ่อค้า. บทว่า โปสยนฺติ คือได้เลี้ยง
เพื่อเลี้ยงชีวิตโดยทางซื้อขาย. บทว่า ปเวจฺฉนฺติ ความว่า รับเงินทองให้
ธิดาของตนแก่ผู้อื่น พวกนั้นให้แก่ผู้อื่นอย่างนี้เรียกว่า วิวาหะรับ (ธิดาของ
คนอื่น) เพื่อบุตรของตน เรียกอาวาหะ. บทว่า อมฺพฏฺ€เวเสหิ ความว่า

พวกนั้นเสมือนกับพวกกุฎุมพีและคหบดี แม้พวกนั้นก็เรียกกันว่า พราหมณ์
ด้วยอำนาจแห่งบัญญัติ. บทว่า นิกฺขิตฺตภิกฺขํ ได้แก่ ยังอีกพวกหนึ่งนั้นเล่า เป็น
พวกปุโรหิตประจำบ้าน บริโภคภิกษาที่เขากะไว้เพื่อประโยชน์แก่ตน. บทว่า
พหู เน ความว่า ชนเป็นอันมาก พากันถามยามและการมงคลกะพวกปุโรหิต
ประจำบ้านเหล่านั้น. บทว่า อณฺฑจฺเฉทานิ ลฺจกา ความว่า พวกเหล่านั้น


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* รักต้นไม้ก็เหมือนรักชีวิต เพราะทุกชีวิตจะอยู่ได้ก็เพราะมีต้นไม้
* การปลูกต้นไม้การสร้างนั้นยาก แต่ก็ตัดและทำลายนั้นง่ายมาก
* ต้นไม้ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่พระธรรมและการปฏิบัตินั้นฟอกจิตใจ
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 17:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ยังรับจ้างตอนวัวเปลี่ยวเป็นต้น และรับจ้างสักอวัยวะเป็นรูปตรีศูลเป็นต้น คือ
กระทำเครื่องหมาย. บทว่า ตตฺถ ความว่า ในเรือนของพวกปุโรหิตประจำบ้าน
ฝูงสัตว์เลี้ยงเป็นต้นเหล่านั้น พากันถูกฆ่าเพื่อจำหน่ายเนื้อ. บทว่า เตปิ
ความว่า แม้พวกนั้นจะเป็นเสมือนคนฆ่าโค ก็ยังเรียกกันว่าพราหมณ์.

บทว่า อสิจมฺมํ ได้แก่ ดาบและเครื่องป้องกันลูกศรที่ทำด้วยหนัง.
บทว่า เวสฺสปเถสุ ได้แก่ ในทางเดินของพวกพ่อค้า. บทว่า อมฺพาหยนฺติ
ความว่า บางทีก็รับเอากระษาปณ์ ๑๐๐ บ้าง ๑,๐๐๐ บ้าง จากมือของนายกอง
เกวียนเข้าสู่ดงย่านพวกโจรไป. บทว่า โคปนิสาเทหิ ความว่า พวกนั้นเสมือน

กับพวกนายโคบาล และพวกนายพรานคือโจรผู้ปล้นบ้าน. บทว่า เตปิ ความว่า
แม้พวกนั้นคือเห็นปานนั้นก็เรียกกันว่าพราหมณ์. บทว่า กูฏานิ การยนฺติ เต
ความว่า ยังอีกพวกหนึ่ง (สร้างกระท่อมในป่า) ก่อสร้างกลโกงต่าง ๆ มี
บ่วงแร้วเป็นต้น. บทว่า สสํ วิฬารํ ความว่า ดักมฤคที่เที่ยวไปบนบก

ซึ่งแสดงความคำว่า กระต่ายและแมวนั้น. บทว่า อาโคธา มจฺฉกจฺฉปํ
ความว่า เบียดเบียนคือฆ่าเสีย ซึ่งบรรดาสัตว์ที่เกิดบนบก ที่มีชีวิตใหญ่และ
เล็ก จนถึงเหี้ยเป็นที่สุด บรรดาสัตว์เกิดในน้ำ ก็ฝูงปลาและเต่า. บทว่า เตปิ
คือ แม้พวกนั้นจะเสมือนพรานผู้ฉกาจ ก็ยังเรียกกันว่าพราหมณ์. บทว่า อฺเ
ธนสฺส กามาหิ ความว่า ยังมีพราหมณ์พวกหนึ่ง ปรารถนาแต่จะได้ทรัพย์.


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* รักต้นไม้ก็เหมือนรักชีวิต เพราะทุกชีวิตจะอยู่ได้ก็เพราะมีต้นไม้
* การปลูกต้นไม้การสร้างนั้นยาก แต่ก็ตัดและทำลายนั้นง่ายมาก
* ต้นไม้ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่พระธรรมและการปฏิบัตินั้นฟอกจิตใจ
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 17:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
บทว่า เหฏฺ€า มฺเจ ปสกฺขิตา ความว่า พวกนั้นคิดว่า พวกเราจักได้
กระทำกรรมคือการไล่กลี แล้วให้สร้างเตียงอันสำเร็จด้วยแก้ว มุดเข้าไปนอน
อยู่ใต้เตียงแก้วนั้น ครั้นถึงวิธีโสมยาคะของพวกนั้น พระราชาทั้งหลาย ก็ทรง
สรงในเบื้องบน ได้ยินว่า พวกนั้นครั้นพิธีโสมยาคะเสร็จแล้ว พากันมานั่ง

เหนือเตียงนั้น ลำดับนั้น พราหมณ์พวกอื่นดำริว่า พวกเราจักขับกลี ก็ให้
พวกนั้นอาบน้ำ เตียงแก้วและราชาลังการของพระราชาทุกอย่าง เป็นของผู้นอน
ใต้เตียงทั้งนั้น. บทว่า เตปิ ความว่า แม้พวกนั้นจะเสมือนกับคนกวาดมลทิน
คือคนที่เขาอาบรดก็เรียกกันว่าพราหมณ์.

พระโพธิสัตว์กราบทูลแถลงถึงพวกพราหมณ์ เพียงบัญญัติเรียกเหล่านี้
ด้วยประการฉะนี้แล้ว คราวนี้เมื่อจะทูลแถลงถึงพราหมณ์ผู้มีประโยชน์ยอดเยี่ยม
ได้กราบทูลคาถา ๒ คาถาว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ พราหมณ์ทั้งหลาย
ผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควร
บริโภคโภชนาหารของพระองค์ มีอยู่แล พราหมณ์
เหล่านั้นบริโภคภัตตาหารหนเดียว และไม่ดื่มน้ำเมา
ข้าแต่พระมหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึง

พราหมณ์เหล่านั้นแก่พระองค์แล้ว พวกเราคงต้องการ
พราหมณ์เช่นนี้ซิ พระเจ้าข้า.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สีลวนฺโต ได้แก่ ผู้ประกอบด้วยอริยศีล.
บทว่า พหุสฺสุตา ได้แก่ ผู้ประกอบด้วยความเป็นพหูสูตเพราะปฏิเวธ.
บทว่า ตาทิเส ความว่า พวกเราคงจะเข้าใกล้พราหมณ์ คือพระปัจเจก-
พุทธเจ้า ผู้มีบาปอันลอยเสียแล้ว เห็นปานนั้น.


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* รักต้นไม้ก็เหมือนรักชีวิต เพราะทุกชีวิตจะอยู่ได้ก็เพราะมีต้นไม้
* การปลูกต้นไม้การสร้างนั้นยาก แต่ก็ตัดและทำลายนั้นง่ายมาก
* ต้นไม้ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่พระธรรมและการปฏิบัตินั้นฟอกจิตใจ
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 17:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
พระราชาทรงสดับคำของท่านแล้ว ตรัสถามว่า สหายวิธูระ ท่าน
พราหมณ์ผู้เป็นทักขิไณยบุคคลเลิศเช่นนี้ อยู่ที่ไหนเล่า. กราบทูลว่า ข้าแต่
พระมหาราชเจ้า ท่านอยู่ ณ เงื้อมเขานันทมูล ในหิมวันต์ตอนเหนือ
พระเจ้าข้า. รับสั่งว่า พ่อบัณฑิต ถ้าเช่นนั้นเธอจงช่วยแสวงหาท่านพราหมณ์
พวกนั้นแก่เราด้วยกำลังของเธอเถิด ทรงดีพระฤทัยตรัสคาถาว่า

ดูก่อนวิธูระ พราหมณ์เหล่านั้นแหละเป็นผู้มีศีล
เป็นพหูสูต ดูก่อนวิธูระ ท่านจงแสวงหาพราหมณ์
พวกนั้น และจงเชิญพราหมณ์พวกนั้นมาโดยเร็วด้วย-
เถิด.

พระมหาสัตว์รับพระดำรัสของพระองค์ด้วยคำว่า สาธุ กราบทูลว่า
ข้าแต่มหาราชเจ้า ถ้าเช่นนั้นพระองค์ให้ราชบุรุษนำกลองออกไปเที่ยวตีประกาศ
ว่า ชาวพระนครทุกคนจงตกแต่งพระนครพากันให้ทาน อธิษฐานอุโบสถและ
ถือศีลจงทั่วกันเถิด แม้พระองค์ก็ทรงสมาทานอุโบสถกับชนผู้เป็นบริษัทเถิด

พระเจ้าข้า ตนเองพอรุ่งเช้าบริโภคแล้ว สมาทานอุโบสถ ตอนเย็นให้คนนำ
ผอบทองเต็มด้วยดอกไม้ตามธรรมชาติ กับพระราชาประดิษฐานเบญจางค-
ประดิษฐ์ระลึกถึงพระคุณทั้งหลาย แห่งพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย กราบไหว้
แล้วนิมนต์ด้วยคำว่า ขอพระปัจเจกพุทธเจ้าประมาณ ๕๐๐ องค์ผู้สถิตอยู่ ณ

เงื้อมเขานันทมูลกะในหิมวันตประเทศตอนเหนือ จงรับภิกษาของข้าพเจ้า
ทั้งหลายในวันพรุ่งนี้ แล้วทิ้งกำดอกไม้ ๘ กำไปในอากาศ. ครั้งนั้นพระปัจ-


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* รักต้นไม้ก็เหมือนรักชีวิต เพราะทุกชีวิตจะอยู่ได้ก็เพราะมีต้นไม้
* การปลูกต้นไม้การสร้างนั้นยาก แต่ก็ตัดและทำลายนั้นง่ายมาก
* ต้นไม้ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่พระธรรมและการปฏิบัตินั้นฟอกจิตใจ
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 17:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
เจกพุทธเจ้า ๕๐๐ องค์ อยู่ ณ ที่นั้น. ดอกไม้ทั้งหลายลอยไปตกลงใน
เบื้องบนสำนักแห่งพระปัจเจกพุทธเจ้าเหล่านั้น. พระคุณท่านนึกอยู่รู้เหตุนั้น
แล้วกล่าวว่า ท่านผู้มีเนียรทุกข์ทั้งหลาย ชาวเราวิธูรบัณฑิตนิมนต์แล้ว ก็แหละ
ท่านผู้นี้มิใช่สัตว์พอดีพอร้าย ท่านผู้นี้เป็นหน่อเนื้อแห่งพระพุทธเจ้า จักได้
ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกัปนี้แล พวกเราต้องกระทำสงเคราะห์ท่าน พากัน

รับนิมนต์. พระมหาสัตว์ทราบการที่พระปัจเจกพุทธเจ้ารับนิมนต์ ด้วยสัญญา
ที่ดอกไม้ทั้งหลายไม่คืนมา กราบทูลว่า ข้าแต่พระมหาราชเจ้า พระปัจเจก-
พุทธเจ้าทั้งหลายจักพากันมา เชิญพระองค์ทรงกระทำสักการะและสัมมานะเถิด
พระเจ้าข้า. วันรุ่งขึ้น พระราชาทรงกระทำสักการะใหญ่โต ให้ตกแต่งอาสนะ

อันควรค่ามาก ในท้องพระโรงหลวง ฝ่ายพระปัจเจกพุทธเจ้านั้น พากันกระทำ
ปรนนิบัติสรีระในสระอโนดาต เสร็จแล้วกำหนดเวลาพากันมาทางอากาศลงที่
ท้องพระลานหลวง พระราชาและพระโพธิสัตว์ มีใจเลื่อมใส รับบาตรจาก
หัตถ์แห่งพระคุณท่านเหล่านั้น เชิญขึ้นปราสาท ให้นั่งแล้ว ถวายทักษิโณทก

อังคาสด้วยขาทนียะและโภชนียะ อันประณีต ในที่สุดแห่งภัตกิจของพระคุณ-
ท่านเหล่านั้น ก็นิมนต์เพื่อฉันในวันรุ่งขึ้น ๆ ต่อ ๆ กันไป รวมเป็น ๗ วัน
ด้วยวิธีนี้ถวายมหาทานในวันคำรบ ๗ ได้ถวายบริขารทั้งปวง. พระคุณท่าน
เหล่านั้นกระทำอนุโมทนาแล้ว พากันไป ณ เงื้อมเขานันทมูลกะนั้นทางอากาศ.
บริขารทั้งหลายเล่า ก็ไปพร้อมกันกับพระคุณท่านทีเดียวแล.

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้วตรัสย้ำว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย การที่โกรัพยราชผู้อุปัฏฐากของเราถวายวิเจยยทาน (การเลือกแล้วให้)
ไม่น่าอัศจรรย์ บัณฑิตแต่ปางก่อนถึงพระพุทธเจ้า ยังไม่อุบัติ ก็ได้ถวายทาน
แล้วเหมือนกัน ทรงประชุมชาดกว่า พระราชาในครั้งนั้นได้มาเป็นอานนท์
พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย ปรินิพพานแล้ว ส่วนวิธูรบัณฑิต ได้มาเป็น
เราตถาคตแล.
จบอรรถกถาทสพราหมณชาดก

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 17:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงพระปรารภ
กุฎุมพีผู้ใดผู้หนึ่ง ตรัสเรื่องนี้มีคำเริ่มต้นว่า สุขุมาลรูปํ ดังนี้.

เรื่องมีว่า กุฎุมพีนั้นเป็นผู้มีสัทธาเลื่อมใส กระทำมหาสักการะแด่
พระตถาคตเจ้า และแด่พระสงฆ์เนือง ๆ. ครั้นวันหนึ่ง เขาได้คิดว่า เราถวาย
โภชนะอันประณีตและเนื้อละเอียด แด่พระพุทธรัตนะและพระสงฆ์กระทำ
มหาสักการะเนือง ๆ คราวนี้ต้องกระทำมหาสักการะแก่พระธรรมรัตนะบ้าง
เมื่อกระทำสักการะแก่พระธรรมรัตนะนั้นต้องทำอย่างไรเล่าหนอ. เขาถือของ

หอมและมาลาเป็นต้นมาก ไปสู่พระวิหารเชตวัน ถวายบังคมพระศาสดา
กราบทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ปรารถนาจะกระทำ
สักการะแก่พระธรรมรัตนะนั้น ควรกระทำอย่างไรเล่า พระเจ้าข้า. ครั้งนั้น
พระศาสดาตรัสกะเขาว่า ถ้าเธอปรารถนาจะกระทำสักการะแก่พระธรรมรัตนะ

ไซร้ จงกระทำสักการะแก่อานนท์ ผู้เป็นคลังพระธรรมเถิด. เขากราบทูลว่า
สาธุ นิมนต์พระเถระในวันรุ่งขึ้น นำไปสู่เรือนของตนด้วยสักการะใหญ่ ให้
ท่านนั่งเหนืออาสนะมีค่ามาก บูชาด้วยของหอมและมาลาเป็นต้น ถวายโภชนะ
มีรสเลิศต่าง ๆ แล้วได้ถวายผ้าราคาแพง พอแก่ไตรจีวร พระเถรเจ้าก็ดำริว่า
สักการะทั้งนี้กุฎุมพีกระทำแก่พระธรรมรัตนะ ไม่สมควรแก่เรา สมควรแก่

พระธรรมเสนาบดี จึงนำบิณฑบาตและผ้าไปสู่พระวิหาร ถวายแด่พระสารีบุตร-
เถรเจ้า พระคุณท่านนั้นเล่า ก็ดำริว่า สักการะทั้งนี้เขากระทำแก่พระ-
ธรรมรัตนะ ควรแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นเจ้าของแห่งพระธรรม
พระองค์เดียวโดยแท้ จึงถวายแด่พระทศพล พระศาสดาไม่ทรงเห็นผู้ยิ่งกว่า


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* รักต้นไม้ก็เหมือนรักชีวิต เพราะทุกชีวิตจะอยู่ได้ก็เพราะมีต้นไม้
* การปลูกต้นไม้การสร้างนั้นยาก แต่ก็ตัดและทำลายนั้นง่ายมาก
* ต้นไม้ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่พระธรรมและการปฏิบัตินั้นฟอกจิตใจ
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 17:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
พระองค์ จึงเสวยบิณฑบาตทรงรับผ้าจีวร พวกภิกษุยกเรื่องขึ้นสนทนาใน
ธรรมสภาว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย กุฎุมพีชื่อโน้นคิดจะกระทำสักการะแก่พระ-
ธรรมรัตนะ ได้ถวายแด่พระอานนท์เถรเจ้า ผู้เป็นคลังพระธรรม พระเถรเจ้า
ดำริว่า นี้ไม่สมควรแก่ตน ได้ถวายแด่พระธรรมเสนาบดี ถึงท่านนั้นก็ดำริว่า

นี้ไม่สมควรแก่ตน ได้ถวายแด่พระตถาคต ทีนั้นพระตถาคตมิได้ทรงเห็นผู้อื่น
ที่ยิ่งกว่าพระองค์ ทรงพระดำริว่า สักการะนั้นสมควรแก่เราเท่านั้น และทรง
รับผ้าเพื่อจีวร ด้วยอาการอย่างนี้ บิณฑบาตบรรลุถึงพระบาทมูลของพระธรรม
สามีทีเดียว เพราะพระองค์เป็นผู้สมควร พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า ดูก่อน

ภิกษุทั้งหลาย เมื่อกี้พวกเธอสนทนากันด้วยเรื่องอะไร เมื่อพวกภิกษุกราบทูล
ให้ทรงทราบแล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่ในบัดนี้เท่านั้นที่
บิณฑบาต ไปต่อ ๆกันจนถึงผู้ที่สมควรจนได้ ในครั้งก่อน แม้เมื่อพระ
พุทธเจ้ายังไม่อุบัติ ก็ได้ถึงแล้วเหมือนกัน พวกภิกษุพากันกราบทูลอาราธนา
ทรงนำอดีตนิทานมา ดังต่อไปนี้.

ในอดีตกาล พระเจ้าพรหมทัต ทรงละการลุอคติ ไม่ให้
พระราชธรรมทั้ง ๑๐ ประการเสื่อมเสีย เสวยราชสมบัติโดยธรรม ณ พระนคร
พาราณสี เมื่อเป็นเช่นนี้ การวินิจฉัยของพระองค์ไม่ต้องมี เป็นดุจว่างเปล่า
พระราชาทรงแสวงหาโทษของพระองค์ ทรงกำหนดดูแม้ทั้งภายในพระราช
นิเวศน์เป็นต้น มิได้ทรงเห็นผู้กล่าวถึงโทษของพระองค์ ในภายในพระราชวัง

ในภายในพระนคร และในหมู่บ้านใกล้ประตูพระนคร ทรงดำริว่า จักต้อง
แสวงหาในชนบท ทรงมอบราชสมบัติให้แก่มวลอำมาตย์ ปลอมพระองค์จาริก
ไปในกาสิกรัฐกับท่านปุโรหิต ไม่ทรงพบผู้ที่กล่าวโทษของพระองค์เลยสักคน
เสด็จไปถึงนิคมหนึ่งในชายแดน ประทับนั่งที่ศาลานอกประตู ขณะนั้นกุฎุมพี
ผู้มีสมบัติ ๘๐ โกฏิ ชาวนิคมไปสู่ท่าน้ำกับบริวารมากมาย เห็นพระราชาผู้มี


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* รักต้นไม้ก็เหมือนรักชีวิต เพราะทุกชีวิตจะอยู่ได้ก็เพราะมีต้นไม้
* การปลูกต้นไม้การสร้างนั้นยาก แต่ก็ตัดและทำลายนั้นง่ายมาก
* ต้นไม้ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่พระธรรมและการปฏิบัตินั้นฟอกจิตใจ
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 17:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
พระสรีระละเอียดอ่อน มีผิวพรรณเพียงดังทองคำ ประทับนั่งที่ศาลา เกิดความ
สิเนหา เข้าไปสู่ศาลา กระทำปฏิสันถารแล้วทูลว่า เชิญท่านอยู่ตรงนี้เท่านั้น
เถิดนะ ไปเรือนจัดแจงโภชนะมีรสเลิศต่าง ๆ ให้บริวารมากคนถือภาชนะ
ใส่ภัตไป ขณะนั้นดาบสผู้อยู่ในหิมวันตประเทศ ได้อภิญญา ๕ มานั่ง

ณ ศาลานั้นเหมือนกัน ยังมีพระปัจเจกพุทธเจ้ามาทางอากาศ จากเงื้อมเขา
นันทมูลกะ นั่ง ณ ศาลานั้นอีกองค์หนึ่ง กุฎุมพีถวายน้ำชำระพระหัตถ์แก่
พระราชา เตรียมถาดใส่ภัตพร้อมแกงและกับมีรสเลิศต่าง ๆ พลางน้อมเข้า
ไปถวาย พระราชาทรงรับภัตนั้นแล้ว พระราชทานแก่ปุโรหิต พราหมณ์รับ
ถาดภัตนั้นแล้ว ถวายแด่ดาบส ดาบสรับถาดภัตนั้นแล้ว ไปสู่สำนัก

ของพระปัจเจกพุทธเจ้า ถือถาดภัตไว้ด้วยหัตถ์เบื้องซ้าย ถือเต้าน้ำด้วยหัตถ์
เบื้องขวา ถวายทักษิโณทกแล้ว ใส่ภัตลงในบาตร ท่านมิได้เชื้อเชิญ มิได้
ไต่ถามใคร ๆฉันแล้ว ในเวลาที่ท่านเสร็จภัตกิจ กุฎุมพีดำริว่า เราถวายภัต
แก่พระราชา พระราชาพระราชทานภัตแก่ปุโรหิต ปุโรหิตถวายแด่ดาบส

ดาบสถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า ไม่ไต่ถามใครเลยทีเดียว ฉันแล้ว อะไร
เล่าหนอเป็นเหตุบังคับแห่งการให้ของท่านเหล่านี้ ผู้มีเท่านี้ อะไรเล่าเป็น
เหตุบังคับให้มิต้องไต่ถามใคร ๆ ฉันเลย ของพระปัจเจกพุทธเจ้านี้ เรา
ต้องถามท่านเหล่านั้นตามลำดับ เขาเข้าไปหาทีละท่าน ไหว้แล้วถาม. แม้ท่าน
เหล่านั้นก็บอกเขา ดังต่อไปนี้

ข้าพระพุทธเจ้าได้เห็นพระองค์ผู้ทรงเป็นสุขุ-
มาลชาติ เคยประทับในพระตำหนักอันประเสริฐ
ทรงบรรทมเหนือพระยี่ภู่อันใหญ่โต เสด็จจากแว่น
แคว้นมาสู่ดง จึงได้ทูลถวายข้าวสุก อย่างดีแห่งข้าว
สาลีเป็นภัตอันวิจิตร มีแกงเนื้ออันสะอาดด้วยความรัก
ต่อพระองค์ พระองค์ทรงรับภัตนั้นแล้ว มิได้เสวย
ด้วยพระองค์เอง ให้พระราชทานแก่พราหมณ์ ข้าพระ-
พุทธเจ้าขอถวายบังคมพระองค์ ข้อนี้เป็นธรรมอะไร
ของพระองค์.


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* รักต้นไม้ก็เหมือนรักชีวิต เพราะทุกชีวิตจะอยู่ได้ก็เพราะมีต้นไม้
* การปลูกต้นไม้การสร้างนั้นยาก แต่ก็ตัดและทำลายนั้นง่ายมาก
* ต้นไม้ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่พระธรรมและการปฏิบัตินั้นฟอกจิตใจ
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 17:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
พราหมณ์เป็นอาจารย์ของฉัน เป็นผู้ขวนขวาย
ในกิจน้อยกิจใหญ่ทั้งเป็นครู และผู้คอยตักเตือน ฉัน
ควรให้โภชนะ.

บัดนี้ ข้าพเจ้าขอถามท่านพราหมณ์ผู้โคดมอัน
พระราชาทรงบูชา พระราชาทรงพระราชทานภัต อัน
มีแกงเนื้ออย่างสะอาดแก่ท่าน ท่านรับภัตนั้นแล้วได้
ถวายโภชนะแก่ฤาษี ชะรอยท่านจะรู้ว่าตนมิได้เป็น
เขตแห่งทาน ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแก่ท่าน ธรรมข้อนี้
เป็นธรรมอะไรของท่าน.

ข้าพเจ้ายังกำหนัดอยู่ในเรือนทั้งหลาย ต้องเลี้ยง
บุตรและภรรยา ถวายอนุศาสน์แก่พระราชา เชิญให้
เสวยกามอันเป็นของมนุษย์ ข้าพเจ้าควรถวายโภชนะ
แก่ฤาษี ผู้อยู่ในป่าสิ้นกาลนาน ผู้เรืองตบะเป็นวุฒิ-
บุคคลอบรมตนแล้ว.

บัดนี้ ข้าพเจ้าขอถามท่านฤาษีผู้ซูบผอม สะพรั่ง
ไปด้วยเส้นเอ็น มีเล็บและขนรักแร้งอกยาว ฟันเขลอะ
มีธุลีบนศีรษะ ท่านอยู่ในป่าผู้เดียวไม่ห่วงใยชีวิต ภิกษุ
ที่ท่านถวายโภชนะนั้นดีกว่าท่านด้วยคุณข้อไหน.


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* รักต้นไม้ก็เหมือนรักชีวิต เพราะทุกชีวิตจะอยู่ได้ก็เพราะมีต้นไม้
* การปลูกต้นไม้การสร้างนั้นยาก แต่ก็ตัดและทำลายนั้นง่ายมาก
* ต้นไม้ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่พระธรรมและการปฏิบัตินั้นฟอกจิตใจ
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2019, 17:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
อาตมภาพยังขุดเผือก มันมือเสือ มันนก ยัง
เก็บข้าวฟ่างและลูกเดือยมาตากตำ เที่ยวหาฝักบัว
เหง้าบัว น้ำผึ้ง เนื้อสัตว์ พุทรา และมะขามป้อมมา
บริโภค ความยึดถือนั้นของอาตมายังมีอยู่ เมื่ออาตมา
ยังหุงต้ม ก็ควรถวายโภชนะแก่ท่านผู้ไม่หุงต้ม ยังมี
กังวลก็ควรถวายโภชนะแก่ผู้ไม่มีความห่วงใย ยังมี
ความถือมั่น ก็ควรถวายโภชนะแก่ท่านผู้ไม่มีความ
ถือมั่น.


บัดนี้ กระผมขอถามท่านภิกษุผู้นั่งนิ่ง มีวัตร
อันดี พระฤาษีถวายภัตตาหารอันปรุงด้วยเนื้อสะอาด
แก่ท่านดังนั้น ท่านรับภัตตาหารนั้นแล้วนั่งนิ่งฉันอยู่
องค์เดียว ไม่เชื้อเชิญใคร ๆ อื่น กระผมขอนมัสการ
แด่พระคุณท่าน นี้เป็นธรรมอะไรของพระคุณท่าน.

อาตมาไม่ได้หุงต้มเอง ไม่ได้ให้ใครหุงต้ม ไม่
ได้ตัดเอง ไม่ได้ให้ใครตัด ฤาษีรู้ว่าอาตมาไม่มีความ
กังวล เป็นผู้ห่างไกลจากบาปทั้งปวง จึงถือภิกษาหาร
ด้วยมือซ้าย ถือเต้าน้ำด้วยมือขวา ถวายภัตตาหารอัน
ปรุงด้วยเนื้อสะอาดแก่อาตมา บุคคลเหล่านี้ยังมีความ

ห่วงใย ยังมีความยึดถือ จึงสมควรจะให้ทาน อาตมา
เข้าใจเอาว่า การที่บุคคลเชื้อเชิญผู้ให้นั้นเป็นการผิด.


* เวลาจะมีมากขึ้นหากตัดสิ่งที่เป็นอสาระออกจากชีวิตไปบ้าง
* ฝึกตนพ้นภัย ฝึกใจพ้นทุกข์ ยิ่งทุกข์มากหากมิฝึกอบรมกาย วาจา ใจ
* รถติดอากาศเป็นพิษ ชีวิตย่อมจะลำบาก
* รักต้นไม้ก็เหมือนรักชีวิต เพราะทุกชีวิตจะอยู่ได้ก็เพราะมีต้นไม้
* การปลูกต้นไม้การสร้างนั้นยาก แต่ก็ตัดและทำลายนั้นง่ายมาก
* ต้นไม้ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่พระธรรมและการปฏิบัตินั้นฟอกจิตใจ
* รับมาก็มากแล้ว ให้บ้างจะเป็นไรไป
* พ่อแม่มีแต่ให้ แล้วเราล่ะได้ให้อะไรแด่ท่านบ้างหรือยัง
* ความประมาทเป็นพิษ อาจดับชีวิตเราได้

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2685 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 45, 46, 47, 48, 49, 50, 51 ... 179  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร