วันเวลาปัจจุบัน 30 ก.ค. 2025, 06:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 2685 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 66, 67, 68, 69, 70, 71, 72 ... 179  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 21:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ดูก่อนท่านพราหมณ์ เดือน ๕ ในคิมหันตฤดู
ย่อมสวยงามยิ่งกว่าเดือนอื่น ๆ ด้วยต้นไม้และดอกไม้
ฉันใด สัมภวกุมารแม้ยังเป็นเด็กก็ฉันนั้น ย่อมไพโรจน์
ล่วงบัณฑิตทั้งหลาย เพราะประกอบด้วยปัญญา
ดูก่อนพราหมณ์ ท่านยังไม่ได้ถามสัมภวกุมาร อย่า
เพิ่งเข้าใจว่าเธอเป็นเด็ก ท่านถามสัมภวกุมารแล้ว
จะพึงรู้อรรถและธรรมได้

ดูก่อนท่านพราหมณ์ หิมวันตบรรพต ชื่อว่า
คันธมาทน์ ดารดาษไปด้วยไม้ต่าง ๆ พันธุ์ เป็นที่อยู่
อาศัยแห่งทวยเทพ ย่อมสง่างามและหอมตลบไป
ทั่วทิศ ด้วยทิพยโอสถ ฉันใด สัมภวกุมารแม้ยังเป็น
เด็กก็ฉันนั้น ย่อมไพโรจน์ล่วงบัณฑิตทั้งหลาย เพราะ
ประกอบด้วยปัญญา ดูก่อนท่านพราหมณ์ ท่านยังไม่ได้
ถามสัมภวกุมาร อย่าเพิ่งเข้าใจว่าเธอเป็นเด็ก ท่านถาม
สัมภวกุมารแล้วจะพึงรู้อรรถและธรรมได้.

ไฟป่ามีเปลวรุ่งเรือง ไหม้ลามไปในป่าไม่อิ่ม
มีแนวทางดำ คุเรื่อยไป มีเปรียงเป็นอาหาร มีควัน
เป็นธง ไหม้แนวไพรสูง ๆ เวลากลางคืนสว่างลุกโชน
อยู่บนยอดภูเขา ฉันใด สัมภวกุมารแม้ยังเป็นเด็กก็ฉัน
นั้น ย่อมไพโรจน์ล่วงบัณฑิตทั้งหลาย เพราะประกอบ
ด้วยปัญญา ดูก่อนพราหมณ์ ท่านยังไม่ได้ถามสัมภว-
กุมาร อย่าเพิ่งเข้าใจว่าเธอเป็นเด็ก ท่านถามสัมภวกุมาร
แล้ว จะพึงรู้อรรถและธรรมได้.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 21:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ม้าดีจะรู้ได้เพราะฝีเท้า โคพลิพัทธ์จะรู้ได้
เพราะเข็นภาระไป แม่โคนมจะรู้ได้เพราะน้ำนมดี
และบัณฑิตจะรู้ได้เมื่อเจรจา ฉันใด สัมภวกุมารแม้ยัง
เป็นเด็กก็ฉันนั้น ย่อมไพโรจน์ล่วงบัณฑิตทั้งหลาย
เพราะประกอบด้วยปัญญา ดูก่อนท่านพราหมณ์ ท่าน
ยังไม่ได้ถามสัมภวกุมาร อย่าเพิ่งเข้าใจว่าเธอเป็นเด็ก
ท่านถามสัมภวกุมารแล้ว จะพึงรู้อรรถและธรรมได้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ชฺา แปลว่า จักได้รู้. บทว่า จนฺโท
ได้แก่ พระจันทร์ในวันเพ็ญ. บทว่า วิมโล ความว่า ปราศจากมลทินมี
หมอกเป็นต้น. บทว่า เอวมฺปิ ทหรูเปโต ความว่า สัมภวกุมารแม้เข้าถึง
ความเป็นเด็กก็ฉันนั้น ย่อมงามเกิน คือไพโรจน์ล่วงได้แก่สว่างไสว ล่วง
บัณฑิตที่เหลือ ในพื้นชมพูทวีปทั้งสิ้น เพราะประกอบด้วยปัญญา.

บทว่า รมฺมโก ได้แก่ เดือน ๕. บทว่า อเตวฺเหิ ความว่า
งามกว่าเดือนทั้ง ๑๑ เดือน อื่นๆ ยิ่งนัก. บทว่า เอวํ ความว่า แม้
สัมภวกุมาร ก็ฉันนั้น ย่อมงดงาม เพราะประกอบด้วยปัญญา. บทว่า หิมวา
ความว่า ภูเขา มีชื่อว่า หิมะ เพราะประกอบไปด้วยหิมะ ในสมัยหิมะตก
อนึ่ง ชื่อว่า คายหิมะ เพราะคายหิมะ ในคิมหฤดู ภูเขาชื่อว่า คันธมาทน์

เพราะย่ำยีชนผู้มาประจวบเข้าด้วยของหอม. บทว่า มหาภูตคณาลโย แปลว่า
เป็นที่อยู่อาศัยของทวยเทพ. บทว่า ทิสา ภาติ ความว่า ภูเขาคันธมาทน์
นั้นย่อมทำทิศทั้งปวงให้สว่างไสว เป็นอันเดียวกัน. บทว่า ปวาติ ความว่า
ย่อมฟุ้งไปตลอดทิศ ทั้งปวงด้วยของหอม.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 21:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
บทว่า เอวํ ความว่า สัมภวกุมารแม้ยังเป็นเด็กก็ฉันนั้น ย่อมสว่าง
ไสวและหอมฟุ้งไปทั่วทิศทั้งปวง เพราะประกอบด้วยปัญญา. บทว่า ยสสฺสิมา
ความว่า ไฟป่าชื่อว่า ยสสฺสิมา มีเปลว เรืองโรจน์ เพราะถึงพร้อมด้วย
เดช. บทว่า อจฺจิมาลี ความว่า ไฟป่าประกอบไปด้วยเปลว. บทว่า ชลมา-
โน วเน คจฺเฉ ความว่า ย่อมลามไหม้ไปในป่าใหญ่ กล่าวคือ กอไม้.

บทว่า อนโล แปลว่า ไม่อิ่ม. ชื่อว่า เป็นแนวดำ เพราะทางที่ไฟไหม้ไป
แล้วดำ. ชื่อว่า มีเปรียงเป็นอาหาร เพราะกินเปรียง ด้วยสามารถแห่งเครื่อง
บูชา ในยัญพิธี. ชื่อว่า มีควันเป็นธง เพราะยังกิจแห่งธงให้สำเร็จ. บทว่า
อุตฺตมาเหวนนฺทโห ความว่า ไฟป่า ย่อมไหม้ไพรสณฑ์สูง ๆ ที่เรียก
กันว่า ป่าทึบ. บทว่า นิสฺสิเว แปลว่า ในเวลาค่ำคืน. บทว่า ปพฺพตคฺคสฺมึ

แปลว่า บนยอดภูเขา. บทว่า พหุเตโช แปลว่า มีฤทธิ์เดชมากมาย. บทว่า
วิโรจติ ความว่า ย่อมส่องสว่างทั่วทิศทั้งปวง. บทว่า เอวํ ความว่า
สัมภวกุมารน้องชายของข้าพเจ้า แม้จะเป็นเด็ก ก็ฉันนั้น ย่อมไพโรจน์ล่วง
บัณฑิตทั้งหลาย เพราะประกอบด้วยปัญญา. บทว่า ภทฺรํ ความว่า ชน
ทั้งหลาย รู้จักม้าอาชาไนยตัวเจริญ เพราะประกอบไปด้วยฝีเท้า มิใช่เพราะ

รูปร่าง หน้าตา. บทว่า วาหิเย ความว่า ชนทั้งหลายรู้จักโคพลิพัทธ์
ว่าโคนี้ ประเสริฐแท้ เพราะนำภาระไปได้ ในเมื่อมีภาระที่จะพึงนำไป.
บทว่า โทเหน ความว่า รู้จักแม่โคนมว่ามีน้ำนมดี เพราะถึงพร้อมด้วย
น้ำนม. ในบทว่า ภาสมานํ นี้ ความว่า รู้จักว่าเป็นบัณฑิต เมื่อพูด
เรื่องราวต่าง ๆ. นักปราชญ์พึงนำสูตรว่าด้วยบัณฑิตกับคนพาลมาแสงประกอบ.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 21:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
เมื่อสัญชยกุมาร สรรเสริญสัมภวกุมารอยู่อย่างนี้ สุจีรตพราหมณ์
คิดว่า เราถามปัญหาดูแล้ว จักรู้กัน ดังนี้ แล้วจึงถามว่า ดูก่อนกุมาร
น้องชายของเจ้าอยู่ไหนเล่า? ลำดับนั้น สัญชยกุมารจึงเปิดสีหบัญชร ชี้มือ
บอกสุจีรตพราหมณ์ว่า นั่น สัมภวกุมาร คนที่มีผิวพรรณผ่องใสคล้ายทองคำ
กำลังเล่นอยู่กับเพื่อนเด็ก ๆ ระหว่างถนนริมประตูปราสาท นี้คือน้องชายของ

ข้าพเจ้า เชิญท่านไปหาแล้วไต่ถามเขาดู เขาจักบอกปัญหาแก่ท่านได้ โดย
ลีลาแห่งพระพุทธเจ้า สุจีรตพราหมณ์ ฟังคำของสัญชยกุมารแล้ว ลงจาก
ปราสาท ไปยังสำนักของสัมภวกุมาร. มีคำถามสอดเข้ามาว่า ไปเวลาไหน?
แก้ว่า ไปในเวลาที่สัมภวกุมาร ยืนเปลื้องผ้านุ่งออกพาดไว้ที่ตอ เอามือทั้งสอง
กอบฝุ่นเล่น.

เมื่อพระบรมศาสดา จะทรงกระทำเนื้อความนั้นให้แจ่มแจ้ง จึงตรัส
พระคาถา ความว่า

มหาพราหมณ์ ภารทวาชโคตร นั้นได้ไปยัง
สำนักของสัมภวกุมาร เห็นเธอกำลังเล่นอยู่นอกบ้าน.
ฝ่ายพระมหาสัตว์เจ้า เห็นพราหมณ์มายืนอยู่ข้างหน้า จึงถามว่า ข้า
แต่ท่านพ่อ ท่านมาด้วยประสงค์สิ่งไร เมื่อสุจีรตพราหมณ์บอกว่า พ่อกุมาร
เราเที่ยวไปในพื้นชมพูทวีป ก็ไม่พบผู้ที่สามารถจะแก้ปัญหาที่เราถามได้ จึง
ได้มายังสำนักของเจ้าดังนี้แล้ว จึงคิดว่า ทราบว่า ปัญหาที่ใคร ๆ วินิจฉัย

ไม่ได้ในสกลชมพูทวีป ตกมาถึงสำนักของเรา เราเป็นคนแก่ด้วยความรู้ ดังนี้
รู้สึกละอายใจ จึงทิ้งฝุ่นที่อยู่ในกำมือเสีย ดึงผ้าที่ตอมามานุ่ง แล้วปวารณา
โดย สัพพัญญุตญาณว่า เชิญถามเถิดท่านพราหมณ์ ข้าพเจ้าจักบอกท่านโดย
ลีลาแห่งพระพุทธเจ้า.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 21:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ลำดับนั้น สุจีรตพราหมณ์ ถามปัญหาด้วยคาถา ความว่า
เราเป็นราชทูตของพระเจ้า โกรัพยราช ผู้ยงยศ
ทรงส่งมา พระองค์ผู้ยุธิฏฐิลโคตร ดำรัสถามถึงอรรถ
และธรรม ได้ตรัสแล้วดังกล่าวมา ดูก่อนสัมภวกุมาร
ท่านถูกถามแล้ว ขอจงบอกอรรถและธรรมนั้นเถิด.

ใจความแห่งปัญหานั้นว่า เกียรติคุณแห่งสัมภวบัณฑิต ได้ปรากฏ
เหมือนพระจันทร์ในวันเพ็ญ ท่ามกลางแห่งดวงดาวฉะนั้น.
ลำดับนั้น สัมภวกุมาร จึงกล่าวว่า ถ้าเช่นนั้นท่านจงคอยฟัง เมื่อ
จะวิสัชนาธัมมยาคปัญหา กล่าวคาถา ความว่า

เชิญฟัง ข้าพเจ้า จักแก้ปัญหาแก่ท่าน อย่างนัก
ปราชญ์ อนึ่ง พระราชาย่อมทรงทราบอรรถและ
ธรรมนั้นได้ แต่จักทรงทำตามหรือไม่ ไม่ทราบ.

เมื่อสัมภวกุมารยืนแสดงธรรมอยู่ระหว่างถนน ด้วยเสียงอันไพเราะ
เสียงกึกก้องไปทั่วพระนครพาราณสี ประมาณ ๑๒ โยชน์ ลำดับนั้น พระ
ราชาและอุปราชเป็นต้นทั้งหมด มาประชุมกันแล้ว พระมหาสัตว์เจ้า จึงเริ่ม
แสดงธรรมเทศนา ในท่ามกลางมหาชน.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตคฺฆ เป็นคำเชิญให้สดับการพยากรณ์
ปัญหาแง่เดียว. บทว่า ยถาปิ กุสโล ความว่า พระมหาสัตว์เจ้า แสดง
ธรรมแก่สุจีรตพราหมณ์ว่า พระสัพพัญญูผู้ทรงฉลาดยิ่ง ตรัสบอกฉันใด
ข้าพเจ้าก็จักบอกแก่ท่านโดยส่วนเดียวฉันนั้น. บทว่า ราชา จ โข ตํ

ความว่า ข้าพเจ้าจักบอกปัญหานั้น โดยประการที่พระราชาของท่านจะทรง
ทราบได้ ยิ่งกว่านั้น พระราชา ย่อมทรงทราบอรรถธรรมนั้นได้อย่างนี้ พระ
องค์จะทรงกระทำตาม หรือไม่ทรงกระทำตามก็ตาม ปัญหานั้นจักเกิดมีแก่
ท้าวเธอ ผู้ทรงกระทำตาม หรือไม่ทรงกระทำตามทีเดียว แต่โทษผิดของเรา
ไม่มี.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 21:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ครั้นสัมภวกุมาร ปฏิญาณการกล่าวแก้ปัญหา ด้วยคาถาอย่างนี้แล้ว
บัดนี้ เมื่อจะกล่าวธัมมยาคปัญหาต่อไป จึงกล่าวคาถา ความว่า
ข้าแต่สุจีรตพราหมณ์ บุคคลผู้ถูกพระราชา
ตรัสถามแล้ว พึงทูลกิจที่ควรทำในวันนี้ ให้ทำในวัน
พรุ่งนี้ พระเจ้ายุธิฏฐิละ อย่าได้ทรงทำตาม ในเมื่อ
ประโยชน์เกิดขึ้น.

ข้าแต่ท่านสุจีรตะ เมื่อบุคคลถูกพระราชาดำรัส
ถาม พึงกราบทูลธรรมภายในเท่านั้น ไม่พึงให้เสด็จ
ไปยังหนทางผิด ดุจคนโง่หาความคิดมิได้ฉะนั้น.
กษัตริย์ไม่ควรลืมพระองค์ ไม่ควรประพฤติ
อธรรม ไม่ควรข้ามไปในที่มิใช่ท่า ไม่พึงทรงขวนขวาย
ในสิ่งอันไม่เป็นประโยชน์.

อนึ่ง กษัตริย์พระองค์ใด ทรงทราบว่า ควรจะ
ทำฐานะเหล่านี้ กษัตริย์พระองค์นั้น ย่อมทรงพระเจริญ
ทุกเมื่อ ดุจพระจันทร์ ในสุกปักษ์ ฉะนั้น.
กษัตริย์พระองค์นั้น ย่อมเป็นที่รักใคร่ของพระ-
ประยูรญาติทั้งหลายด้วย ย่อมทรงรุ่งโรจน์ในหมู่มิตร
ด้วย ท้าวเธอมีพระปรีชา เมื่อสวรรคตแล้วย่อมเข้าถึง
โลกสวรรค์.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สํเสยฺย ได้แก่ พึงกราบทูล. ท่านกล่าว
คำอธิบายไว้ดังนี้ ข้าแต่ท่านสุจีรตะ ถ้าหากใครถูกพระราชาของท่านดำรัสถามว่า
วันนี้เราจะให้ทาน รักษาศีล กระทำอุโบสถดังนี้ไซร้ พึงกราบทูลว่า
ขอเดชะ ข้าแต่มหาราชเจ้า วันนี้พวกข้าพระพุทธเจ้าจะฆ่าสัตว์ จะบริโภคกาม

จะดื่มสุราก่อน ต่อพรุ่งนี้จึงจักทำบุญทำกุศล พระราชาผู้ยุธิฏฐิลโคตรของท่าน
ถึงจะทรงกระทำตามคำของอำมาตย์ แม้ผู้ยิ่งใหญ่นั้นแล้ว ก็อย่าได้อยู่อย่าง
ยังวันนั้นให้ล่วงไปด้วยความประมาท ในเมื่อประโยชน์เช่นนั้นเกิดขึ้น อย่า
ทรงกระทำตามคำของเขา รักษากุศลจิตที่เกิดขึ้นแล้วอย่าให้เสื่อม จงทรง
บำเพ็ญกรรมอันปฏิสังยุตด้วยกุศลอย่างเดียว ท่านควรกราบทูลคำนี้แด่พระราชา
ของท่าน.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ด้วยคาถานี้ พระมหาสัตว์เจ้า แสดงภัทเทกรัตตสูตรว่า อชฺเชว
กิจฺจมาตปฺปํ โกชฺา มรณํ สุเว เป็นอาทิ ความว่า ควรทำความเพียร
เสียในวันนี้ ใครเล่าจะรู้ความตายว่าจะมีในวันพรุ่งนี้ และแสดงโอวาทเกี่ยวด้วย
ความไม่ประมาทว่า อปฺปมาโท อมตํ ปทํ ปมาโท มจฺจุโน ปทํ
เป็นอาทิความว่า ความไม่ประมาทเป็นทางไม่ตาย ความประมาทเป็นทางแห่ง

ความตาย ด้วยประการฉะนี้. บทว่า อชฺชตฺเว ความว่า ท่านสุจีรตะ
ท่านถูกพระราชาดำรัสถามว่า สัมภวบัณฑิตถูกท่านถามในธัมมยาคปัญหา
กล่าวแก้อย่างไร? พึงกราบทูลอัชฌัตธรรมอย่างเดียว แด่พระราชา คือ
พึงกราบทูลถึงเบญจขันธ์อันเป็นนิยกัชฌัตธรรมว่า เป็นของไม่เที่ยงโดยความ
เป็นของไม่มี.

ด้วยคำเพียงเท่านี้ พระมหาสัตว์เจ้า ทรงแสดงอนิจจตาธรรมแจ่มแจ้ง
ด้วยคาถาอย่างนี้ ความว่า
เมื่อใดบัณฑิตพิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า สังขาร
ทั้งหลายไม่เที่ยง เมื่อนั้น ย่อมหน่ายในทุกข์ สังขาร
ทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีความเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็น
ธรรมดา ครั้นเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป ความเข้าไประงับ
สังขารเหล่านั้นเสียได้เป็นสุข.

บทว่า กุมฺมคฺคํ ความว่า ข้าแต่ท่านพราหมณ์ อันธพาลปุถุชน
คนงมงายไม่มีความคิด ย่อมซ่องเสพทางผิดคือทิฏฐิ ๖๒ ประการฉันใด พระ-
ราชาของท่านไม่ควรซ่องเสพทางผิดฉันนั้น จงซ่องเสพเฉพาะกุศลกรรมบถ ๑๐
อันเป็นนิยยานิกธรรม ท่านควรกราบทูลพระองค์อย่างนี้. บทว่า อตฺตานํ

ความว่า กษัตริย์ไม่ควรละเลยอัตภาพอันดำรงอยู่ในสุคติ ชนทั้งหลายละเลย
กุศลสมบัติ ๓ ประการในกามภพ แล้วบังเกิดในอบายเพราะกรรมใด กษัตริย์
ไม่ควรทำกรรมนั้น. บทว่า อธมฺมํ ความว่า ไม่ควรประพฤติอธรรมกล่าวคือ
ทุจริต ๓ อย่าง. บทว่า อติตฺเถ ความว่า ไม่ควรข้าม คือ ไม่ควรหยั่งลง
ในที่มิใช่ท่า กล่าวคือทิฏฐิ ๖๒ ประการ. ปาฐะว่า น ตาเรยฺย ดังนี้ก็มี.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 21:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ความก็ว่า ไม่ควรยังชนผู้ถึงทิฏฐานุคติของของตนให้หยั่งลง. บทว่า อนตฺเถ
ได้แก่ ในสิ่งที่มิใช่เหตุ. บทว่า น ยุโต ความว่า ไม่ควรขวนขวาย
(ในสิ่งไร้เหตุผล). ในข้อนี้มีคำอธิบายว่า ถ้าว่าพระราชาของท่านทรงประสงค์
จะประพฤติในธัมมยาคปัญหา ก็จงทรงประพฤติในโอวาทนี้ ท่านควรกราบทูล
ท้าวเธอด้วยประการฉะนี้.

บทว่า สทา ได้แก่ ตลอดกาลเป็นไปติดต่อ. ท่านกล่าวอธิบาย
ไว้ดังนี้ พระขัตติยราชพระองค์ใดทรงทราบเพื่อจะทำเหตุเหล่านี้ พระขัตติย-
ราชพระองค์นั้นย่อมทรงเจริญทุกเมื่อ ดุจพระจันทร์ในข้างขึ้นฉะนั้น. บทว่า
วิโรจติ ความว่า ย่อมทรงงดงามไพโรจน์ท่ามกลางมิตรและอำมาตย์ของ
พระองค์ ด้วยคุณทั้งหลายมีศีล มรรยาท และญาณ เป็นต้น.

พระมหาสัตว์เจ้า กล่าวแก้ปัญหาแก่พราหมณ์โดยลีลาแห่งพระพุทธเจ้า
ดุจยังพระจันทร์ให้ปรากฏขึ้น ณ พื้นอากาศ ด้วยอาการอย่างนี้. มหาชน
ต่างบันลือโห่ร้องตบมือ กระทำสาธุการพันครั้ง ยังการยกธงและการดีดนิ้วมือ
ให้เป็นไป ทั้งซัดไปซึ่งวัตถุมีเครื่องประดับมือเป็นต้น. ทรัพย์สินที่มหาชน
ซัดไปแล้วอย่างนี้ นับได้ถึงโกฏิ. แม้พระราชาก็ทรงโปรดปรานพระราชทาน

ยศใหญ่ แก่สัมภวกุมารนั้น ฝ่ายสุจีรตพราหมณ์ ทำการบูชาด้วยทองคำพันลิ่ม
แล้วจารึกคำวิสัชนาปัญหาลงในแผ่นทองคำด้วยชาดกับหรดาล แล้วเดินทาง
ไปยังอินทปัตตนครกราบทูลธัมมยาคปัญหาแด่พระราชา. พระราชาทรงประ-
พฤติในธรรมนั้น แล้วยังเมืองสวรรค์ให้แน่นบริบูรณ์.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 21:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
พระบรมศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว ตรัสว่าดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ก็หามิได้ แม้ในปางก่อน ตถาคตก็มี
ปัญญามากเหมือนกัน ดังนี้แล้ว ทรงประชุมชาดกว่า พระเจ้าธนัญชยโกรัพย-
ราชในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระอานนท์ สุจีรตพราหมณ์ ได้มาเป็นพระอนุ-
รุทธะ วิธุรพราหมณ์ ได้มาเป็นพระอริยกัสสป ภัทรการกุมารได้มาเป็น
พระโมคคัลลานะ สัญชยมาณพ ได้มาเป็นพระสารีบุตร สัมภวบัณฑิต
ได้มาเป็นเราผู้ตถาคต ฉะนี้แล.
จบอรรถกถาสัมภวชาดก

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
อรรถกถามหากปิชาดก

พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรง
พระปรารภการกลิ้งศิลาของพระเทวทัต ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า
พาราณสิยํ อหุ ราชา ดังนี้.

ความโดยย่อว่า เมื่อภิกษุทั้งหลายพากันกล่าวติเตียนพระเทวทัต
เพราะใช้นายขมังธนู เพราะกลิ้งศิลาในเวลาต่อมา พระศาสดาจึงตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ก็หามิได้ แม้ในชาติก่อน พระเทวทัต
ก็กลิ้งศิลาเพื่อฆ่าเราเหมือนกัน แล้วทรงนำอดีตนิทานมาตรัส ดังต่อไปนี้.

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ ในพระนครพา-
ราณสี ในหมู่บ้านกาสิกคาม พราหมณ์ชาวนาผู้หนึ่ง ไถนาเสร็จแล้วปล่อยโคไป
เริ่มทำการงานขุดหญ้าพรวนดินด้วยจอบ. ฝูงโคเคี้ยวกินใบไม้ที่พุ่มไม้แห่งหนึ่ง
พลางพากันหนีเข้าไปสู่ดงโดยลำดับ. พราหมณ์นั้นคะเนว่าถึงเวลาแล้ว ก็วาง
จอบเหลียวหาฝูงโคไม่พบ เกิดความโทมนัส จึงเที่ยวค้นหาในดงเข้าไปจนถึง

ป่าหิมพานต์. พราหมณ์นั้นหลงทิศทางในป่าหิมพานต์ อดอาหารถึงเจ็ดวัน
เดินไปพบต้นมะพลับต้นหนึ่ง จึงขึ้นไปเก็บผลรับประทาน พลัดตกลงมาจาก
ต้นมะพลับ เลยตกลงไปในเหวดุจขุมนรกลึกตั้ง ๖๐ ศอก. พราหมณ์ตกอยู่ใน
เหวล่วงไปได้สิบวัน. คราวนั้น พระโพธิสัตว์บังเกิดในกำเนิดวานร กำลัง
เคี้ยวกินผลาผล เหลือบเห็นบุรุษนั้นเข้า จึงผูกเชือกเข้าที่หิน ช่วยบุรุษนั้น
ขึ้นมาได้. เมื่อวานรโพธิสัตว์กำลังหลับ พราหมณ์ได้เอาหินมาทุ่มลงที่ศีรษะ


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 22:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
พระมหาสัตว์เจ้ารู้การกระทำของเขาแล้ว จึงกระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้ กล่าวว่า
แน่ะบุรุษผู้เจริญ ท่านจงเดินไปตามพื้นดิน ข้าพเจ้าจักเดินบอกหนทางแก่ท่าน
ไปทางกิ่งไม้ แล้วพาบุรุษนั้นออกจากป่าจนถึงหนทาง จึงเข้าไปสู่บรรพต
ตามเดิม. บุรุษนั้นล่วงเกินพระมหาสัตว์เจ้าแล้วเกิดโรคเรื้อน กลายเป็นมนุษย์
เปรตในปัจจุบันทันตาเห็นทีเดียว. เขาถูกความทุกข์เบียดเบียนอยู่เจ็ดปี เที่ยว

เร่ร่อนไปถึงมิคาชินอุทยาน เขตพระนครพาราณสี ลาดใบตองลงภายในกำแพง
นอนเสวยทุกขเวทนา. คราวนั้น พระเจ้าพาราณสีเสด็จประพาสพระราช-
อุทยาน เสด็จเที่ยวไปพบเขา ณ ที่นั้น แล้วดำรัสถามว่า เจ้าเป็นใคร ทำ
กรรมอะไรไว้ จึงต้องรับทุกข์เช่นนี้? ฝ่ายเปรตนั้นได้กราบทูลเรื่องราวทั้งมวล
โดยพิสดาร.

พระบรมศาสดาเมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น ตรัสพระคาถา
ความว่า
พระราชาแห่งชนชาวกาสี ผู้ทรงยังรัฐสีมา
มณฑลให้เจริญ ในพระนครพาราณสี ทรงแวดล้อม
ไปด้วยมิตรและอำมาตย์ผู้มีความภักดีมั่นคง เสด็จไป
ยังมิคาชินอุทยาน.

ณ ที่นั้นได้ทอดพระเนตรเห็นพราหมณ์ ซึ่ง
เป็นโรคเรื้อน ขาวพราวเป็นจุด ๆ ตามตัว มากไปด้วย
กลากเกลื้อน เรี่ยราดด้วยเนื้อที่หลุดออกมาจากปาก-
แผล เช่นกับดอกทองกวาวที่บาน ในเรือนร่างทุกแห่ง
มีเพียงกระดูกซูบผอม สะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น.

ครั้นทอดพระเนตรเห็นคนที่ตกยาก ถึงความ
ลำบากน่าสงสารยิ่งนักแล้ว ทรงหวั่นหวาดพระทัย
จึงตรัสถามว่า ท่านเป็นยักษ์ประเภทไหน ในจำพวก
ยักษ์ทั้งหลาย.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 22:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
อนึ่ง มือและเท้าของท่านขาว ศีรษะยิ่งขาวกว่า
นั้น ตัวของท่านก็ด่างพร้อย มากไปด้วยเกลื้อนกลาก.
หลังของท่านก็เป็นปุ่มเป็นปม ดุจเถาวัลย์อันยุ่ง
อวัยวะของท่านบ้างก็ดำ บ้างก็หงิกงอ คล้ายเถาวัลย์
มีข้อดำ ดูไม่เหมือนคนอื่น ๆ.
เท้าเปรอะเปื้อนด้วยธุลี น่าหวาดเสียว ซูบผอม
สะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น หิวระหาย ร่างกายซูบซีด
ท่านมาจากไหน และจะไปไหน.

แลดูน่าเกลียด รูปร่างก็อัปลักษณ์ ผิวพรรณ
ชั่วช้า ดูหน้ากลัว แม้มารดาบังเกิดเกล้าของท่าน ก็ไม่
ปรารถนาจะดูแลเจ้าเลย.
ในชาติก่อน ท่านทำกรรมอะไรไว้ ได้เบียดเบียน
ผู้ที่ไม่ควรเบียดเบียนไว้อย่างไร ได้เข้าถึงทุกข์นี้
เพราะทำกรรมอันหยาบช้าอันใดไว้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า พาราณสฺยํ ได้แก่ ในพระนครพาราณสี.
บทว่า มิตฺตามจฺจปริพฺยุฬฺโห ความว่า ทรงแวดล้อมไปด้วยมิตร และ
อำมาตย์ผู้มีความภักดีมั่นคง. บทว่า มิคาชินํ ได้แก่ พระอุทยานที่มีนาม
อย่างนี้. บทว่า เสตํ ความว่า ได้ทอดพระเนตรเห็นพราหมณ์นอนอยู่ใน
ใบตอง ชื่อว่าขาว เพราะเป็นโรคเรื้อนขาว พราวเป็นจุด ๆ ชื่อว่าเป็นหิต
เพราะเป็นหิตเปื่อยแตกเยิ้ม เสวยทุกขเวทนา.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 22:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
บทว่า วิทฺธสฺตํ โกวิลารํว ความว่า เรี่ยราดไปด้วยเนื้อที่หลุด
ออกจากปากแผล เช่นกับดอกทองกวาวที่บานแล้ว. บทว่า กีสํ ความว่า
ในบางส่วนจะมีเรือนร่างเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ผอมสะพรั่งไปด้วยแถวแห่ง
เส้นเอ็น. บทว่า พฺยมฺหิโต ความว่า พระราชาทรงหวั่นเกรง คือ หวาดหวั่น
พระทัย. บทว่า ยกฺขานํ ความว่า พระราชาได้ตรัสถามว่า ในระหว่าง

พวกยักษ์ทั้งหลาย ท่านเป็นยักษ์ประเภทไหน. บทว่า วฏฺ€นาวลิสงฺกาสา
ความว่า ในที่ด้านหลังของท่านเป็นปุ่มเป็นปม คล้ายเถาวัลย์ที่ยุ่ง. บทว่า
องฺคา ความว่า อวัยวะทั้งหลายของท่านดำ หงิกงอ คล้ายเถาวัลย์ที่มีข้อดำ.
บทว่า นาฺํ ความว่า เราไม่เห็นคนอื่น ๆ มีลักษณะเหมือนเช่นนี้. บทว่า
อุคฺฆฏฺ€ปาโท ได้แก่ มีเท้าเปรอะเปื้อนไปด้วยธุลี.

บทว่า อาทิตฺตรูโป ได้แก่ มีร่างกายซูบซีด. บทว่า ทุทฺทสี
ความว่า มองดูน่าเกลียด. บทว่า อปฺปกาโรสิ ความว่า มีร่างกายไร้สง่า
ราศรี คือมีรูปร่างเลวทราม. บทว่า กึ กมฺมมกรา ความว่า ในชาติก่อน
แต่ชาตินี้ ท่านได้ทำกรรมอะไรไว้. บทว่า กิพฺพิสํ ได้แก่ กรรมอันหยาบช้า.
ต่อจากนั้น พราหมณ์จึงกล่าวคาถากราบทูลว่า

ขอเดชะ ขอเชิญพระองค์ทรงสดับ ข้าพระองค์
จักกราบทูลอย่างคนที่ฉลาดทูล เพราะว่าบัณฑิต
ทั้งหลายในโลกนี้ ย่อมสรรเสริญคนที่พูดจริง.
เมื่อข้าพระพุทธเจ้า เที่ยวตามโคที่หายไปคนเดียว
ได้หลงทางเข้าไปในป่าหิมพานต์ อันแสนจะกันดาร
เงียบสงัด อันหมู่กุญชรชาติท่องเที่ยวไปมา.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ข้าพระองค์หลงทางเข้าไปในป่าทึบ อันหมู่มฤค
ร้ายกาจท่องเที่ยวไปมา ต้องทนหิวระหาย เที่ยวไป
ในป่านั้นตลอด ๗ วัน.
ณ ป่านั้น ข้าพระพุทธเจ้ากำลังหิวจัด ได้เห็น
ต้นมะพลับต้นหนึ่ง ตั้งอยู่หมิ่นเหม่ เอนไปทางปากเหว
มีผลดกดื่น.

ทีแรก ข้าพระพุทธเจ้า เก็บผลที่ลมพัดหล่นมา
กินก่อน เมื่อข้าพระพุทธเจ้ากินผลที่หล่นมาเหล่านั้น
รู้สึกพอใจ ยังไม่อิ่มจึงปีนขึ้นไปบนต้น ด้วยหวังใจว่า
จะกินให้สบายบนต้นนั้น.
ข้าพระพุทธเจ้ากินผลที่หนึ่งเสร็จแล้ว ปรารถนา
จะกินผลที่สองต่อไป เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเหยียดมือ
คว้าเอาผลที่ต้องการ ทันใดนั้น กิ่งไม้ที่ขึ้นเหยียบอยู่
นั้น ก็หักขาดลง ดุจถูกตัดด้วยขวานฉะนั้น.

ข้าพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยกิ่งไม้นั้น ตีนชี้ฟ้า
หัวหกตกลงไปในห้วงเหวภูเขาอันขรุขระ ซึ่งไม่มีที่
ยึดที่เหนี่ยวเลย.
ข้าพระพุทธเจ้าหยั่งไม่ถึงเพราะน้ำลึก ต้องไป
นอนไร้ความเพลิดเพลิน ไร้ที่พึ่งอยู่ในเหวนั้น ๑๐
ราตรีเต็ม ๆ.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2019, 22:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
Quote Tipitaka:
ภายหลังมีลิงตัวหนึ่ง มีหางดังหางโค เที่ยวไป
ตามซอกเขา เที่ยวไต่ไปตามกิ่งไม้ หาผลไม้กิน ได้
มาถึงที่นั้น มันเห็นข้าพระพุทธเจ้าผอมเหลือง ได้
กระทำความเอ็นดูกรุณาในข้าพระพุทธเจ้า.
จึงถามว่า พ่อชื่อไร ทำไมจึงมาทนทุกข์อยู่ที่นี่
อย่างนี้ เป็นมนุษย์หรืออมนุษย์ ขอได้โปรดแนะนำตน
ให้ข้าพเจ้าทราบด้วย.

ข้าพระพุทธเจ้าจึงได้ประนมอัญชลีไหว้ลิงตัวนั้น
แล้วกล่าวว่า เราเป็นมนุษย์ถึงแล้วซึ่งหายนะ เราไม่มี
หนทางที่จะไปจากที่นี่ได้ เพราะเหตุนั้น เราจึงบอก
ให้ท่านทราบไว้ ขอท่านจงมีความเจริญ อนึ่ง ขอ
ท่านโปรดเป็นที่พำนักของข้าพเจ้าด้วย.

ลิงตัวองอาจ เที่ยวไปหาก้อนหินก้อนใหญ่ใน
ภูเขามา แล้วผูกเชือกไว้ที่ก้อนหิน ร้องบอกข้าพระ-
พุทธเจ้าว่า
มาเถิดท่าน จงขึ้นมาเกาะหลังข้าพเจ้า เอามือ
ทั้งสองกอดคอไว้ เราจักพาท่านกระโดดขึ้นจากเหว
โดยเต็มกำลัง.

ข้าพระพุทธเจ้าได้ฟังคำของพญาพานรินทร์ ตัวมี
สิรินั้นแล้ว จึงขึ้นเกาะหลัง เอามือทั้งสองโอบคอไว้.
ลำดับนั้น พญาวานรตัวมีเดชมีกำลัง ก็พาข้า
พระพุทธเจ้ากระโดดขึ้นจากเหว โดยความยากลำบาก
ทันที.
ครั้นขึ้นมาได้แล้ว พญาวานรตัวองอาจ ได้ขอร้อง
ข้าพระพุทธเจ้าว่า แน่ะสหาย ขอท่านจงคุ้มครอง
ข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าจักงีบสักหน่อย.


+ทานข้าวเป็นได้ประโยชน์ ทานไม่เป็นย่อมเกิดโทษทุกข์ตามมา
+ มีของดีแต่มิเคยนำมาใช้ มีไว้ไม่นานคงต้องลางเลือนหาย
+ กลัวเพราะไม่กล้า กล้าเพราะไม่กลัว
+ มัวแต่กลัวคงไม่เกิดความกล้าหาญ
หากต้องการความกล้าหาญก็ต้องไม่กลัว
+ ทุกข์เป็นของคู่กัน เหมือนกับสว่างกับความมืด
+ ประโยชน์ตนทำได้ง่าย ประโยชน์ท่านทำได้ยาก
ประโยชน์ทั้ง ๒ ทำได้ยากกว่า ประโยชน์คือพระนิพพาน
ทำได้ยากยิ่งนัก
+ ขาดศีลขาดธรรม นำชีวิตให้ตกต่ำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2685 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 66, 67, 68, 69, 70, 71, 72 ... 179  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร