วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 11:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2022, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว




cloud-psd-443400.png
cloud-psd-443400.png [ 50.56 KiB | เปิดดู 420 ครั้ง ]
๑๓๗
ถามว่า : ปริญญา คืออะไร
ตอบว่า : ปริญญา (การู้ชัด)คือ การรู้ชัดเข้าใจอย่างนี้ว่า ธรรมนี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล
นี้เป็นธรรมมีโทษ นี้เป็นธรรมที่ไม่มีโทษ นี้เป็นธรรมดำ นี้เป็นธร่มขาว นี้เป็นธรรมควรเสพ
นี้เป็นธรรมที่ไม่ควรเสพ ธรรมเหล่านี้อันบุคคลหยั่งเห็นแล้วอย่างนั้น(โดยความเป็นไตรลักษณ์)
ย่อมยังผล(มีอุทยัพพยญาณเป็นต้น)นั้นให้เกิดขึ้นประโยชน์คือ(คือการแทงตลอดสัจจะ)
นี้ย่อมมีแก่อัทยัพพยญาณเป็นต้นที่ดำเนินไปอย่างนี้

(คำว่า ปริญญาที่กล่าวในที่นี้ หมายเอาเฉพาะตีรณปริญญา คือการรู้ชัดด้วยการหยั่งเห็น
สามัญญลักษณะ คือ ลักษณะที่ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน หมายถึง สัมมสนญาณ
และอุทยัพพยญาณ ดังนั้น ผู้ปฏิบัติธรรมที่หยั่งเห็นรูปนามโดยลักษณะเฉพาะของตนด้วย
นามรูปปริจเฉทญาณ และหยั่งเห็นปัจจัยของรูปนามด้วยปัจจยปริคคญาณ จึงเกิดปัญญา
หยั่งเห็นพระไตรลักษณ์ได้)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2022, 11:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว




1-white-clouds-png-image-thumb.png
1-white-clouds-png-image-thumb.png [ 17.22 KiB | เปิดดู 420 ครั้ง ]
เมื่อบุคคลกำหนดรู้อย่างนี้แล้ว ธรรม ๓ ประการที่เหลือ ย่อมเป็นธรรมอันบุคคล
พึงละ พึงเจริญ และพึงกระทำให้แจ้ง

ถามว่า : ธรรมที่บุคคลพึงละในเรื่องนั้น คือ อะไร
ตอบว่า : คือ อกุศล(สมุทัยสัจ)(เพราะอกุศลทั้งหมดอยู่ในฝ่ายสมุทัยสัจ)

ถามว่า : ธรรมที่พึงควรเจริญ คือ อะไร
ตอบว่า : คือ กุศล (อริยมรรคมีองค์ ๘ คือ สัมมาทิฏฐิเป็นต้น)

ถามว่า : ธรรมที่ทำให้แจ้งคือ อะไร
ตอบว่า : คือ อสังขตธาตุ(สภาวะที่ไม่ถูกใจปรุงแต่ง คือ นิพพาน)

บุคคลผู้รู้เห็นอย่างนี้ย่อมเรียกว่า ผู้ฉลาดในเหตุ(ธรรมที่เป็นปัจจัย) ผู้ฉลาดในผล(ธรรมที่เป็นปัจจยุบัน)
ผู้ฉลาดในกัลยาณธรรม(ความเหมาะสม) ผู้ฉลาดในประโยชน์ ผู้ฉลาดในความเจริญ
ผู้ฉลาดในความเสื่อม ผู้ฉลาดในอุบาย ผู้กอปรด้วยความฉลาดอันยิ่งใหญ่ สมจริงดังพระพุทธดำรัสว่า

"ฉลาดในธรรมทั้งปวง"

(ข้อความนี้กล่าวถึงพระขีณาสพผู้หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงว่าท่านเป็นผู้ฉลาดในเหตุ เป็นต้น
และเป็นผู้ฉลาดในความเจริญเป็นต้น เพราะมีปัญญาไพบูลย์ เนื่องจากละอวิชชาได้โดยสิ้นเชิง)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร