วันเวลาปัจจุบัน 15 ส.ค. 2025, 00:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 27 ธ.ค. 2024, 12:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




Screenshot_20241112-133941_TikTok.jpg
Screenshot_20241112-133941_TikTok.jpg [ 161.79 KiB | เปิดดู 4169 ครั้ง ]
๒๓. วิคตปัจจัย

วิคตะ แปลว่า ปราศจากไป หมายถึงดับไปแล้วนั่นเอง ปัจจัยธรรม อันได้
แก่จิตเจตสิกนั้น ปราศจากไปเเล้ว ที่ดับไปแล้ว ไม่มีแล้ว ปัจจุยุบบันธรรม จึงจะเกิด
ขึ้นได้ หรือจะกล่าวถึงผลก่อน ก็ว่า ปัจจุยุบบันธรรรระจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อปัจจัยธรรม
นั้นปราศจากไปแล้ว ถ้าหากว่าปัจจัยธรรมยังไม่ปราศจากไป และปัจจยุบบันนธรรมก็
เกิดขึ้น ดังนี้ไม่ชื่อว่า วิคตะ และเป็นวิคตปัจจัยไม่ได้
อุปมาหมือน ความสว่างกับความมืด ถ้าแสงสว่างยังมีอยู่ ยังปรากฏอยู่ ความมืดก็
จะมีอยู่ไม่ได้ ต่อเมื่อใดแสงสว่างปราศจากไปไม่มีแล้ว เมื่อนั้นจึงปรากฎเกิดความมืดขึ้น
มาได้ หรือว่า พระอาทิตย์ปราศจากไปแล้ว พระจันทร์จึงปรากฏได้
วิคตปัจจัยนี้ เหมือนกับนัตถิ ปัจจัยทุกประการ และด้วยเหตุที่นัตถิปัจจัย
เหมือนกับอนันตรปัจจัย ดังนั้นวิคตปัจจัยจึงเหมือนกับอนันตรปัจจัยนั่นเอง ฉะนั้นขอให้ดูที่
อนันตรปัจจัยนั้น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสต์ เมื่อ: 14 ม.ค. 2025, 07:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


อุทเทส วิคตปจุจโย เพราะการปราศจากไปเป็นปัจจัย
วิตตะ แปลว่า ปราศจากไป หมายความว่าการปราศจากไปของ
จิตดวงก่อนเป็นปัจจัยให้เกิดจิตดวงหลังสืบต่อกันไป โดยไม่มีระหว่างคั่น
ชื่อว่า วิตตปัจจัย ดังท่านอุปมาวิคตปัจจัยว่า เหมือนพระอาทิตย์และพระ
จันทร์ คือพระอาทิตย์ถ้ายังไม่ลับขอบฟ้าไป แสงพระจันทร์ก็ปรากฏขึ้นไม่
ได้ฉันใด แม้ธรมที่เป็นปัจจัยในวิตตปัจจัยนี้ ถ้าไม่ดับไปเสียก่อน ธรรมที่
ป็นปัจจยุบบันก็เกิดขึ้นไม่ได้ ฉันนั้น เพราะฉะนั้นองค์ธรรมของปัจจัยและ
ปัจจยุบบันในวิคตปัจจัยนี้จึงเหมือนกับนัตติปัจจัยทุกประการ แต่ที่มาแสดง
วิตตปัจจัยอีก ก็เพื่อจะเน้นให้เห็นความสำคัญของนัดถึงจัยว่า ความไม่มี
ของนัตถิปัจจัยนั้นเป็นการไม่มีด้วยการปราศจากไปไม่ใช่ไม่มีเพราะไม่
เคยมีมาก่อน ฉะนั้นการไม่มีของนัตถิปัจจัยนั้นก็คือการปราศจากไปของ
จิตดวงก่อน เพื่อให้โอกาสแก่จิตดวงหลังได้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น การปราศ
จากไปอย่างนั้นจึงเป็นวิคตปัจจัย แต่ถ้าการดับไปของจิตดวงหน้าไม่เป็น
นัตถิปัจจัย คือปราศจากไปโดยไม่มีความหมายแล้ว การปราศจากไปของ
จิตดวงนั้นก็เป็นวิคตปัจจัยไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ การดับไปของจิตดวงหนึ่ง ๆ เป็นปัจจัยให้เกิดอีกดวง
หนึ่งๆ ธรรมเหล่านี้จึงได้เนื่องอยู่ในอนันตรปัจจัย สมนันตรปัจจัย นัตถิ
ปัจจัย และวิคตปัจจัย
หมายความว่าปัจจัยทั้ง ๔ นี้จะต้องเกิดร่วมกันเสมอ
เว้นไว้แต่การดับของจุติจิตพระอรหันด์แล้ว จึงไม่มีปัจจัยทั้ง ๔ นี้เกิด
ร่วมด้วยเลย ฉะนั้นองค์ธรรมที่เป็นปัจจัยและปัจจยุบบันของทั้ง ปัจจัยนี้
จึงเป็นอย่างเดียวกัน คือ นาม -> นาม กาลก็เป็นอดีตกาล คือปัจจัยด้อง
ดับไปก่อน ปัจจยุบบันจึงจะเกิดขึ้นได้ เพราะเป็นปัจจัยกันที่นั่งคขณะในขณะ
ตั้งไปแล้ว ส่วนกิจก็เป็นชนกกิจคือให้เกิดขึ้นได้อย่างเตียว ทำอุปถัมภกกิจ
ไม่ได้เพราะว่าปัจจัยนั้นดับไปแล้ว

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสต์ เมื่อ: 14 ม.ค. 2025, 08:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


สำหรับปัญหาวาระและสภาคะของปัจจัย ก็เหมือนกับอนันตรปัจจัย
ทุกประการ ต่างกันแต่อำนาจของปัจจัยเท่านั้น คือ
อนันตรปัจจัย หมายความว่า จิต เจตสิก ที่เกิดขึ้นก่อนเมื่อดับ
ไปแล้วก็เป็นปัจจัยให้เกิดจิต เจตสิก ดวงหลังโดยไม่มีระหว่างคั่น
สมนันตรปัจจัย หมายความว่า จิต เจตสิก ที่ดับไปแล้ว เป็น
ปัจจัยให้เกิดจิต เจตสิก ดวงหลังโดยไม่มีระหว่างคั่น และไม่สลับลำดับกันด้วย
ส่วนนัตถิปัจจัย หมายความว่า เพราะความไม่มีของจิต เจตสืก"
ดวงก่อน ทำให้เกิดมีจิต เจตสิก ดวงหลังติดต่อกันโดยไม่มีระหว่างค้่น
และวิคตปัจจัย หมายความว่า เพราะความปราศจากไปของจิต
เจตสิกดวงก่อน เป็นปัจจัยให้เกิดจิต เจตสิก ดวงหลังโดยไม่มีระหว่างคั่น
เพราะความเป็นปัจจัยที่คล้ายกันของปัจจัยทั้ง ๔ นี้ ท่านจึงได้
อุปมาปัจจัยทั้ง ๔ นี้ว่า เหมือนกับเครื่องจักร ๔ ตัว คือ เมื่อจักรตัวที่หนึ่ง
เป็นอนันตรปัจจัยหมุนไป จักรตัวตัวที่ ๒-๔ ก็ต้องหมุนตามเป็นลำดับ
ไป แต่ถ้าจักรตัวหน้า คือ อนันตรปัจจัย ยังไม่หมุนไปจักรตัวหลัง ๆ ก็
หมุนไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นการหมุนไปของจักรตัวหน้าจึงเป็นปัจจัยสนับสนุน
หรือเป็นโอกาสให้แก่จักรตัวหลัง ๆ หมุนตามไปฉันใด การเป็นปัจจัยของ
อนันตร สมนันตร นัตถิ และวิคตปัจจัย ก็ฉันนั้น

พระบาลีนิทเทสของวิคตปัจจัย
สมนนฺตรวิคตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปฏปฺปนฺนานํ จิตฺตเจตสิการ
ธมฺมานํ วิคตปจฺจเยน ปจฺจโย (จิตและเจตสิกทั้งหลายที่ปราศจากไป
แล้ว คือดับไปแล้วอย่างหาระหว่างคั่นมิได้โดยลำดับ
จิต และ เจตสิกที่อาศัยจิตดวงก่อนแล้วเกิดขึ้น ด้วยอำนาจ วิคตปัจจัย)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร