วันเวลาปัจจุบัน 27 ส.ค. 2025, 05:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 05:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s005
ขออนุญาตถามท่านเปลี่ยนชิ่อใหม่
เกี่ยวกับการนั่งสมาธิว่าเป็นอย่างไร
แม้บางท่านทำสมาธิตลอดชีวิตก็ไม่สงบ
อย่างน้อยถึงจตุตฌานถึงวิปัสสนาได้เรื่อง
:b31: :b31:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 08:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
s005
ขออนุญาตถามท่านเปลี่ยนชิ่อใหม่
เกี่ยวกับการนั่งสมาธิว่าเป็นอย่างไร
แม้บางท่านทำสมาธิตลอดชีวิตก็ไม่สงบ
อย่างน้อยถึงจตุตฌานถึงวิปัสสนาได้เรื่อง
:b31: :b31:


ผมก็ไม่ค่อยนั่งสมาธิเลยครับ

นานๆทำทีครับ ทำสมถะ พองหนอยุบหนอ

ส่วนมากเน้น สมาธิ ในชีวิตประจำวันครับ เห็นกายเคลื่อนไหว หรือ เห็นความคิด เกิดดับ มีใจเป็นคนดู

แต่พอเจอ พวกราคะ ผมก็ดูไม่ทัน จึงรู้ว่าต้องอาศัยการนั่งสมาธิช่วย เพื่อให้จิตมีกำลังมากกว่านี้

แต่ก็ไปติดขี้เกียจด้วยครับ เลยไม่ก้าวหน้า และแถมยังถอยหลังด้วยครับ

:b34: :b34: :b34:

ขี้เกียจนี้ก็ตัวอันตรายเลยครับ

จตุตฌานคือไร ผมไม่รู้เรื่องพวกนี้นะครับ s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 11:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
Rosarin เขียน:
s005
ขออนุญาตถามท่านเปลี่ยนชิ่อใหม่
เกี่ยวกับการนั่งสมาธิว่าเป็นอย่างไร
แม้บางท่านทำสมาธิตลอดชีวิตก็ไม่สงบ
อย่างน้อยถึงจตุตฌานถึงวิปัสสนาได้เรื่อง
:b31: :b31:


ผมก็ไม่ค่อยนั่งสมาธิเลยครับ

นานๆทำทีครับ ทำสมถะ พองหนอยุบหนอ

ส่วนมากเน้น สมาธิ ในชีวิตประจำวันครับ เห็นกายเคลื่อนไหว หรือ เห็นความคิด เกิดดับ มีใจเป็นคนดู

แต่พอเจอ พวกราคะ ผมก็ดูไม่ทัน จึงรู้ว่าต้องอาศัยการนั่งสมาธิช่วย เพื่อให้จิตมีกำลังมากกว่านี้

แต่ก็ไปติดขี้เกียจด้วยครับ เลยไม่ก้าวหน้า และแถมยังถอยหลังด้วยครับ

:b34: :b34: :b34:

ขี้เกียจนี้ก็ตัวอันตรายเลยครับ

จตุตฌานคือไร ผมไม่รู้เรื่องพวกนี้นะครับ s006

:b12:
ความสงบของจิตเป็นพื้นฐาน
จะเห็นผลของสมาธิต้องนั่งหลับตา
สมาธิเป็นชื่อผลจากการทำสมถภาวนา
การพิจารณาที่ใช้ความคิดคือวิปัสสนาภาวนา
การกำหนดอานาปานสติก็ดีอยู่แต่จะดีกว่าถ้าให้มีคำบริกรรม
จิตจะชอบคิดเรื่องต่างๆไปตามการเห็นคือคิดฟุ้งไปกับสิ่งภายนอก
แนะนำการทำสมถะที่นั่งหลับตามือขวาทับมือซ้ายกำหนดคำบริกรรมพุทโธ
ก่อนนั่งสมาธิให้เปิดเทศนาธรรมไปด้วย ต้องทำให้จิตทำงานยุ่งงานหลายอย่างพร้อมกัน
โดยขณะที่นั่งสมาธิฟังธรรมให้กำหนดลมหายใจที่ปลายจมูก+กำหนดเข้าว่าพุท-กำหนดว่าโธ
การฟังแม้จะไม่เข้าใจในเนื้อความก็ไม่เป็นไร จุดสำคัญคือเป็นการทำให้จิตรู้ว่างานยุ่งอยู่ตลอดเวลา
ไม่ส่งใจไปรู้ตามเสียงแต่ให้จิตอยู่กับตัวรับรู้ความดังของเสียงก็พอ เมื่อจิตสงบจะรู้ได้ชัดเจนมากกว่าเดิม
ส่วนจตุตฌานนั้นเป็นการทำสมาธิที่ระดับจิตขั้นรูปฌานสูงสุดที่ได้จิตรวมสงบรู้อารมณ์เดียวแบบเอกัคตาจิตค่ะ
:b1:
ถึงแม้จะไม่หวังผลก็ตามแต่ถ้าเริ่มทำเหตุที่ถูกผลย่อมเกิด
ก็เหมือนปลูกต้นส้มผลก็ย่อมจะได้ผลส้ม
จะได้ความรู้จริงของจิตแน่นอน
:b31: :b31: :b31:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 15:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ทุกคำในพระไตรปิฎก คุณเปลี่ยนชื่อใหม่ไม่ต้องไปกังวลเรื่องการไม่เข้าใจ
ยิ่งศึกษาล่วงหน้าก็ยิ่งงงและเพิ่มความสงสัย ที่สำคัญที่สุดตอนนี้ที่ต้องทำ
วางชื่อของสภาพธรรมต่างๆลงให้หมดไม่ต้องไปยึดติด ฝึกนั่งสมาธิให้เป็น
คำว่านั่งสมาธิให้เป็นแปลว่าไม่ต้องเอาเป็นเอาตายจนต้องอดหลับอดนอน
ให้สังเกตุดูจิตที่เป็นไปจากการนั่งสมาธิแต่ละครั้งจะมีความแตกต่างกันมาก
ต้องอาศัยความลึกที่หยั่งลงไปหาความสงบภายในจิตเปรียบเหมือนขุดบ่อน้ำ
จิตก็เปรียบเหมือนที่ดินผืนหนึ่งของเรา ซึ่งในแต่ละพื้นที่ตาน้ำอยู่ลึกไม่เท่ากัน
ต้องอาศัยเครื่องมือที่เรามีค่อยๆขุดลงไปให้เจอตาน้ำก่อนถึงจะได้น้ำจึงหยุดขุด
การนั่งสมาธิก็เช่นกัน ถ้ายังทำสมาธิได้ไม่ถึงความสงบจริงๆ ก็หยุดนั่งไม่ได้เหมือนขุด
แต่ถ้าถึงความสงบคือถึงตาน้ำแล้วไม่ขุดต่อน้ำก็เต็มขึ้นมาในบ่อของเราได้นั่นเอง
เมื่อได้ความสงบที่มั่นคงแล้ว วิปัสสนานี่เวลาเป็นอัตโนมัติแล้วนี้หยุดคิดไม่ได้เลย
ขนาดที่ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนเลย จึงจำเป็นต้องใช้การนั่งสมาธิเพื่อให้จิตได้พักผ่อน
การเข้าถึงความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงต้องทำควบคู่กันทั้งสมถะและวิปัสสนาค่ะ
:b16: :b12:
:b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 16:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ทุกคำในพระไตรปิฎก คุณเปลี่ยนชื่อใหม่ไม่ต้องไปกังวลเรื่องการไม่เข้าใจ
ยิ่งศึกษาล่วงหน้าก็ยิ่งงงและเพิ่มความสงสัย ที่สำคัญที่สุดตอนนี้ที่ต้องทำ
วางชื่อของสภาพธรรมต่างๆลงให้หมดไม่ต้องไปยึดติด ฝึกนั่งสมาธิให้เป็น
คำว่านั่งสมาธิให้เป็นแปลว่าไม่ต้องเอาเป็นเอาตายจนต้องอดหลับอดนอน
ให้สังเกตุดูจิตที่เป็นไปจากการนั่งสมาธิแต่ละครั้งจะมีความแตกต่างกันมาก
ต้องอาศัยความลึกที่หยั่งลงไปหาความสงบภายในจิตเปรียบเหมือนขุดบ่อน้ำ
จิตก็เปรียบเหมือนที่ดินผืนหนึ่งของเรา ซึ่งในแต่ละพื้นที่ตาน้ำอยู่ลึกไม่เท่ากัน
ต้องอาศัยเครื่องมือที่เรามีค่อยๆขุดลงไปให้เจอตาน้ำก่อนถึงจะได้น้ำจึงหยุดขุด
การนั่งสมาธิก็เช่นกัน ถ้ายังทำสมาธิได้ไม่ถึงความสงบจริงๆ ก็หยุดนั่งไม่ได้เหมือนขุด
แต่ถ้าถึงความสงบคือถึงตาน้ำแล้วไม่ขุดต่อน้ำก็เต็มขึ้นมาในบ่อของเราได้นั่นเอง
เมื่อได้ความสงบที่มั่นคงแล้ว วิปัสสนานี่เวลาเป็นอัตโนมัติแล้วนี้หยุดคิดไม่ได้เลย
ขนาดที่ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนเลย จึงจำเป็นต้องใช้การนั่งสมาธิเพื่อให้จิตได้พักผ่อน
การเข้าถึงความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงต้องทำควบคู่กันทั้งสมถะและวิปัสสนาค่ะ
:b16: :b12:
:b44:



เคยพยายามทำอยู่ช่วงนึงครับ ตอนตื่นนอน กลับก่อนนอน หลังๆ รู้ตัวอีกทีมันก็เลิกทำไปเฉยเลยครับ

:b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 18:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทุกคำในพระไตรปิฎก คุณเปลี่ยนชื่อใหม่ไม่ต้องไปกังวลเรื่องการไม่เข้าใจ
ยิ่งศึกษาล่วงหน้าก็ยิ่งงงและเพิ่มความสงสัย ที่สำคัญที่สุดตอนนี้ที่ต้องทำ
วางชื่อของสภาพธรรมต่างๆลงให้หมดไม่ต้องไปยึดติด ฝึกนั่งสมาธิให้เป็น
คำว่านั่งสมาธิให้เป็นแปลว่าไม่ต้องเอาเป็นเอาตายจนต้องอดหลับอดนอน
ให้สังเกตุดูจิตที่เป็นไปจากการนั่งสมาธิแต่ละครั้งจะมีความแตกต่างกันมาก
ต้องอาศัยความลึกที่หยั่งลงไปหาความสงบภายในจิตเปรียบเหมือนขุดบ่อน้ำ
จิตก็เปรียบเหมือนที่ดินผืนหนึ่งของเรา ซึ่งในแต่ละพื้นที่ตาน้ำอยู่ลึกไม่เท่ากัน
ต้องอาศัยเครื่องมือที่เรามีค่อยๆขุดลงไปให้เจอตาน้ำก่อนถึงจะได้น้ำจึงหยุดขุด
การนั่งสมาธิก็เช่นกัน ถ้ายังทำสมาธิได้ไม่ถึงความสงบจริงๆ ก็หยุดนั่งไม่ได้เหมือนขุด
แต่ถ้าถึงความสงบคือถึงตาน้ำแล้วไม่ขุดต่อน้ำก็เต็มขึ้นมาในบ่อของเราได้นั่นเอง
เมื่อได้ความสงบที่มั่นคงแล้ว วิปัสสนานี่เวลาเป็นอัตโนมัติแล้วนี้หยุดคิดไม่ได้เลย
ขนาดที่ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนเลย จึงจำเป็นต้องใช้การนั่งสมาธิเพื่อให้จิตได้พักผ่อน
การเข้าถึงความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงต้องทำควบคู่กันทั้งสมถะและวิปัสสนาค่ะ
:b16: :b12:
:b44:



เคยพยายามทำอยู่ช่วงนึงครับ ตอนตื่นนอน กลับก่อนนอน หลังๆ รู้ตัวอีกทีมันก็เลิกทำไปเฉยเลยครับ

:b5:

Kiss
ถ้าทำที่บ้านแล้วรู้สึกว่าเบื่อ
ก็ให้ไปวัดที่ท่านพานั่งสมาธิก็ดีค่ะ
มีครูอาจารย์กำลังใจดีกว่าทำคนเดียว
เดี๋ยวนี้่มีวัดที่เปิดสอนครูสมาธิทุกจังหวัด
ถึงไม่ได้ลงะเบียนเรียนก็ไปร่วมได้ไม่เสียเงิน
ที่เป็นหลักสูตรหลวงพ่อวิริยังค์ก็ดีกว่าทำเองนะคะ
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
Rosarin เขียน:
s005
ขออนุญาตถามท่านเปลี่ยนชิ่อใหม่
เกี่ยวกับการนั่งสมาธิว่าเป็นอย่างไร
แม้บางท่านทำสมาธิตลอดชีวิตก็ไม่สงบ
อย่างน้อยถึงจตุตฌานถึงวิปัสสนาได้เรื่อง
:b31: :b31:


ผมก็ไม่ค่อยนั่งสมาธิเลยครับ

นานๆทำทีครับ ทำสมถะ พองหนอยุบหนอ

ส่วนมากเน้น สมาธิ ในชีวิตประจำวันครับ เห็นกายเคลื่อนไหว หรือ เห็นความคิด เกิดดับ มีใจเป็นคนดู

แต่พอเจอ พวกราคะ ผมก็ดูไม่ทัน จึงรู้ว่าต้องอาศัยการนั่งสมาธิช่วย เพื่อให้จิตมีกำลังมากกว่านี้

แต่ก็ไปติดขี้เกียจด้วยครับ เลยไม่ก้าวหน้า และแถมยังถอยหลังด้วยครับ

:b34: :b34: :b34:

ขี้เกียจนี้ก็ตัวอันตรายเลยครับ

จตุตฌานคือไร ผมไม่รู้เรื่องพวกนี้นะครับ s006

:b12:
ความสงบของจิตเป็นพื้นฐาน
จะเห็นผลของสมาธิต้องนั่งหลับตา
สมาธิเป็นชื่อผลจากการทำสมถภาวนา
การพิจารณาที่ใช้ความคิดคือวิปัสสนาภาวนา
การกำหนดอานาปานสติก็ดีอยู่แต่จะดีกว่าถ้าให้มีคำบริกรรม
จิตจะชอบคิดเรื่องต่างๆไปตามการเห็นคือคิดฟุ้งไปกับสิ่งภายนอก
แนะนำการทำสมถะที่นั่งหลับตามือขวาทับมือซ้ายกำหนดคำบริกรรมพุทโธ
ก่อนนั่งสมาธิให้เปิดเทศนาธรรมไปด้วย ต้องทำให้จิตทำงานยุ่งงานหลายอย่างพร้อมกัน
โดยขณะที่นั่งสมาธิฟังธรรมให้กำหนดลมหายใจที่ปลายจมูก+กำหนดเข้าว่าพุท-กำหนดว่าโธ
การฟังแม้จะไม่เข้าใจในเนื้อความก็ไม่เป็นไร จุดสำคัญคือเป็นการทำให้จิตรู้ว่างานยุ่งอยู่ตลอดเวลา
ไม่ส่งใจไปรู้ตามเสียงแต่ให้จิตอยู่กับตัวรับรู้ความดังของเสียงก็พอ เมื่อจิตสงบจะรู้ได้ชัดเจนมากกว่าเดิม
ส่วนจตุตฌานนั้นเป็นการทำสมาธิที่ระดับจิตขั้นรูปฌานสูงสุดที่ได้จิตรวมสงบรู้อารมณ์เดียวแบบเอกัคตาจิตค่ะ
:b1:
ถึงแม้จะไม่หวังผลก็ตามแต่ถ้าเริ่มทำเหตุที่ถูกผลย่อมเกิด
ก็เหมือนปลูกต้นส้มผลก็ย่อมจะได้ผลส้ม
จะได้ความรู้จริงของจิตแน่นอน
:b31: :b31: :b31:
onion onion onion
อานาปานสติมีคำบริกรรมด้วยเหรอครับ นี่แต่งเพิ่มหรือเปล่า

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2015, 13:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อาณาปานะสติมีคำบริกรรม ต้องเข้าใจคำว่าบริกรรมเสียก่อน จึงจะรู้ว่ามีหรือไม่มี
คำว่าบริกรรม หมายถึง การสังเกตเห็นว่า ต้นลมก็รู้ว่าต้นลม กลางลมก็รู้ว่ากลางลม สุดลมก็รู้ว่าสุดลม อย่างนี้เรียกว่าบริกรรม จะท่องหรือไม่ท่องก็ได้ เพราะว่า มันเป็นบริกรรมออกมาจากวจีสังขาร จากการนึกคิด
ลมหายใจเข้า พอเข้าสุดก็ดับ ลมหายใจออก พอสุดก็ดับ จะคิดกำหนดจะคิดดับๆ
พระพุทธเจ้าสอนว่าเราต้องดับทั้งๆ ที่รู้ ถ้าดับลงไปด้วยความไม่รู้ก็จะดับผิดพลาดไปด้วยสมาธิบ้าง ด้วยปิติบ้าง ด้วยปัสสธิบ้าง ด้วยถีนนะมิธธะบ้าง ถ้าดับให้ถูกต้องต้องดับด้วยการสังเกตจะคิดดับๆ รู้อัตโนมัติโดยเป็นธรรมชาติ เค้าเรียกว่าการดับด้วยอริยมรรค อริยผล และเห็นการดับความนึกคิดนั้นได้ด้วย เรียกว่า ดับวจีสังขาร แบบหมดความสงสัยและไม่ต้องไปถามใคร สมกับที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ ถ้าเธอรู้ทัน เขาจะดับ ถ้ารู้ไม่ทันเขาก็ไม่ดับ เรียกว่าดับบริกรรมเข้าสู่ปรมัตธรรม 1 ขณะจิตบ้าง 2 ขณะจิตบ้าง เค้าเรียกว่าได้ดวงตาเห็นธรรม รู้ชัดว่า ธรรมอันใดอันหนึ่งใดเกิดขึ้นมาเป็นธรรมดา ธรรมนั้นทั้งปวงย่อมดับไปเป็นธรรมดา แล้วจะเลิกสงสัยในสภาวะธรรมตลอดชีวิต มีศีล 5 โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องสมาทาน แล้วก็ไม่หลงกลเชื่อมงคลตื่นข่าวร่ำลือวิจิตรพิสดารใดๆ ในโลกอีกแล้ว..
จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2015, 20:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
Rosarin เขียน:
s005
ขออนุญาตถามท่านเปลี่ยนชิ่อใหม่
เกี่ยวกับการนั่งสมาธิว่าเป็นอย่างไร
แม้บางท่านทำสมาธิตลอดชีวิตก็ไม่สงบ
อย่างน้อยถึงจตุตฌานถึงวิปัสสนาได้เรื่อง
:b31: :b31:


ผมก็ไม่ค่อยนั่งสมาธิเลยครับ

นานๆทำทีครับ ทำสมถะ พองหนอยุบหนอ

ส่วนมากเน้น สมาธิ ในชีวิตประจำวันครับ เห็นกายเคลื่อนไหว หรือ เห็นความคิด เกิดดับ มีใจเป็นคนดู

แต่พอเจอ พวกราคะ ผมก็ดูไม่ทัน จึงรู้ว่าต้องอาศัยการนั่งสมาธิช่วย เพื่อให้จิตมีกำลังมากกว่านี้

แต่ก็ไปติดขี้เกียจด้วยครับ เลยไม่ก้าวหน้า และแถมยังถอยหลังด้วยครับ

:b34: :b34: :b34:

ขี้เกียจนี้ก็ตัวอันตรายเลยครับ

จตุตฌานคือไร ผมไม่รู้เรื่องพวกนี้นะครับ s006

:b12:
ความสงบของจิตเป็นพื้นฐาน
จะเห็นผลของสมาธิต้องนั่งหลับตา
สมาธิเป็นชื่อผลจากการทำสมถภาวนา
การพิจารณาที่ใช้ความคิดคือวิปัสสนาภาวนา
การกำหนดอานาปานสติก็ดีอยู่แต่จะดีกว่าถ้าให้มีคำบริกรรม
จิตจะชอบคิดเรื่องต่างๆไปตามการเห็นคือคิดฟุ้งไปกับสิ่งภายนอก
แนะนำการทำสมถะที่นั่งหลับตามือขวาทับมือซ้ายกำหนดคำบริกรรมพุทโธ
ก่อนนั่งสมาธิให้เปิดเทศนาธรรมไปด้วย ต้องทำให้จิตทำงานยุ่งงานหลายอย่างพร้อมกัน
โดยขณะที่นั่งสมาธิฟังธรรมให้กำหนดลมหายใจที่ปลายจมูก+กำหนดเข้าว่าพุท-กำหนดว่าโธ
การฟังแม้จะไม่เข้าใจในเนื้อความก็ไม่เป็นไร จุดสำคัญคือเป็นการทำให้จิตรู้ว่างานยุ่งอยู่ตลอดเวลา
ไม่ส่งใจไปรู้ตามเสียงแต่ให้จิตอยู่กับตัวรับรู้ความดังของเสียงก็พอ เมื่อจิตสงบจะรู้ได้ชัดเจนมากกว่าเดิม
ส่วนจตุตฌานนั้นเป็นการทำสมาธิที่ระดับจิตขั้นรูปฌานสูงสุดที่ได้จิตรวมสงบรู้อารมณ์เดียวแบบเอกัคตาจิตค่ะ
:b1:
ถึงแม้จะไม่หวังผลก็ตามแต่ถ้าเริ่มทำเหตุที่ถูกผลย่อมเกิด
ก็เหมือนปลูกต้นส้มผลก็ย่อมจะได้ผลส้ม
จะได้ความรู้จริงของจิตแน่นอน
:b31: :b31: :b31:
onion onion onion
อานาปานสติมีคำบริกรรมด้วยเหรอครับ นี่แต่งเพิ่มหรือเปล่า

s004
เพิ่มงานให้จิตทำหลายอย่างแต่งอะไรหรา
1ฟังเทศนาธรรม
2กำหนดลมหายใจ(อาณาปานสติ)
3คิดคำบริกรรมพุทโธ
4นั่งสมาธิหลับตามือขวาทับมือซ้าย
onion onion onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร