วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 04:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 09:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 10:01
โพสต์: 200

โฮมเพจ: http://www.watpanonvivek.com/
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www




.gif
.gif [ 64.42 KiB | เปิดดู 6444 ครั้ง ]
การเป็นอยู่ของคนในปัจจุบันนั้นมีมากมายหลายเรื่องให้เราคิด แล้วคิดกันอย่างไรให้ใจเป็นสุขครับ..(เป็นธรรมทานนะครับ โมทนาสาธุล่วงหน้า) :b8:

.....................................................
พอใจในสิ่งที่ตนมีตนได้
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 12:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สุขที่สามารถควบคุมความคิดได้ ดังใจปรารถนา
ย่อมประเสริฐกว่า การมองหาความเพลิดเพลินจากการคิด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


คิดให้เป็นไปกับ ทาน ศีล และภาวนาครับ

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 13:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 10:01
โพสต์: 200

โฮมเพจ: http://www.watpanonvivek.com/
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


สาธุ :b8: :b8:

.....................................................
พอใจในสิ่งที่ตนมีตนได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 14:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ลำพังแต่คิดกุศล มีผลเป็นความสุข
ลำพังแต่คิดอกุศล มีผลเป็นความเดือดร้อน
การมีสติรู้ความคิด มีผลเป็นอิสรภาพ
เหนือสุข เหนือทุกข์ ได้ในที่สุด
เป็น "ปรมัง สุขัง" คือสุขที่เหนือสุข

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 14:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 10:01
โพสต์: 200

โฮมเพจ: http://www.watpanonvivek.com/
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


คามินธรรม เขียน:
ลำพังแต่คิดกุศล มีผลเป้นความสุข
ลำพังแต่คิดอกุศล มีผลเป็นความเดือดร้อน
การมีสติรู้ความคิด มีผลเป็นอิสรภาพ เหนือสุข เหนือทุกข์ ได้ในที่สุด เป็น "ปรมัง สุขัง" คือสุขที่เหนือสุข


โมทนาสาธุครับ..ที่เข้าเวปก็ต้องการศึกษาธรรมะ..เพราะต้องการให้ใจอยู่เป็นสุข.. :b8: :b8:

.....................................................
พอใจในสิ่งที่ตนมีตนได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: คิดตามคำตอบของท่านผู้รู้ก็ที่นำเสนอ ก็เป็นความคิดที่เป็นกุศลแล้วค่ะ :b36:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขยายความนิดนึงนะ

การที่เราโหยหาแต่ความสุขเข้ามาสู่ใจ
เพราะต้องการหย่อนใจ ต้องการวางใจไว้ในที่อันเป้นสุข
อันนี้เรียกว่า เป็นพิณสายหย่อน หรือ กามสุขัลนุโยค
พระพุทธเจ้าก็ถูกบำเรอด้วยความสุขตั้งแต่เกิด
แต่สุดท้ายความทุกข์เช่นความเบื่อ ก็ยังมาเยือนอยู่ดี

ท่านเลยลองออกบวช แล้วไปทรมานตัวเอง
กะว่าจะเอาชนะความทุกข์ความเจ็บปวดทั้งหลาย
เลยทำทุกรกริยาอยู่ 9 ปี แต่ก็ไม่ชนะมันสักที
จนเกือบตาย นี่เป็นพิณสายตึง เป็นอัตกิลมถานุโยค

ทุกข์นี้ อยู่สบายแค่ไหนก็ไม่มีใครหนีพ้น
ก้เลยไปหาความสุขมาเสพแก้ทุกข์ แล้วมันก็แก้ได้จริงๆ
เช่นเบื่อๆ เลยไปดูหนังที่ชอบ มันแก้ได้ทันใจ
แต่ในที่สุด ความเบื่อก็มาอีก จนตายก็หนีไม่พ้น อะไรทำนองนี้

ท่านเลยพบทางสายกลาง คือการอยู่เหนือสุข อยู่เหนือทุกข์
พระองค์ค้นพบว่า ที่จริงทุกข์ของคนไม่ได้มาจากไหนหรอก

ทุกมันมีสองแบบ ทุกข์ของกาย กับทุกข์ของใจ
ทุกข์ของกาย ไม่มีใครหนีพ้น เกิด แก่ เจ็บไข้ ตาย
ปวดขา หิวข้าว ฯลฯ ล้วนมีทุกคน
พระพุทธเจ้าก็ป่วยเป้น หิวข้าวเป็น หนีความตายไม่พ้นเหมือนกัน
ท่านเลยยอมรับความจริงอันนี้

แต่ทุกข์ที่ทุกข์กันอยู่นี้เป้นทุกข์ของใจ
ท่านพบว่า ที่จริงคนเรานี้เผลอปรุงยาพิษขึ้นมากินเอง
แล้วไปหายามาแก้ยาพิษ
กล่าวคือ จิตสร้างความทุกขืขึ้นมาเพราะไม่รู้เท่าทัน
แล้วจิตก็ไปปรุงความสุขมากลบเกลื่อนความทุกข์อีกที
เหมือนที่ จขกท กำลังโหยหาความสุข เพื่อแก้ไขความทุกข์ของตัวเอง

ทีนี้ อยู่เหนือสุข เหนือทุกข์ทำไง
ก็ทำสิ่งที่เรียกว่า "เจริญสติ" ซึ่งเป็นทางสายกลาง
คือวางใจเป้นกลางต่อสุขทุกข์ทั้งปวงที่ใจปรุงขึ้น
เมื่อไม่ยึดทั้งสุข ไม่ยึดทั้งทุกข์
ก็ไม่ต้องเดือดร้อนที่จะหาความสุขเข้ามา หรือไล่ความทุกข์ออกไป

เอาเท่านี้ก่อน เพราะมันกว้างขวางลึกซึ้ง
แต่ขอให้ให้ความสำคัญกับคำว่าเจริญสติ แล้วพยามศึกษาตรงนี้ให้มาก

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 18 เม.ย. 2009, 14:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2009, 19:51
โพสต์: 58

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b17: คิดแต่เรื่องที่ทำให้เรามีความสุข คิดในแง่บวกมากกว่าแง่ลบ มองโลกในแง่ดี ไม่คิดร้าย :b4:

.....................................................
ถ้าเราไม่เป็นผู้ให้ก่อนแล้วเราจะเป็นผู้รับได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 14:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 10:01
โพสต์: 200

โฮมเพจ: http://www.watpanonvivek.com/
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www




..gif
..gif [ 2.74 KiB | เปิดดู 6353 ครั้ง ]
shimai เขียน:
:b17: คิดแต่เรื่องที่ทำให้เรามีความสุข คิดในแง่บวกมากกว่าแง่ลบ มองโลกในแง่ดี ไม่คิดร้าย :b4:

:b16: สาธุ

.....................................................
พอใจในสิ่งที่ตนมีตนได้
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 14:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณบอกคนอื่นได้แต่คุณทำเองไม่ได้ :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 14:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: แต่ทุกข์ที่ทุกข์กันอยู่นี้เป้นทุกข์ของใจ
ท่านพบว่า ที่จริงคนเรานี้เผลอปรุงยาพิษขึ้นมากินเอง แล้วไปหายามาแก้ยาพิษ
กล่าวคือ จิตสร้างความทุกขืขึ้นมาเพราะไม่รู้เท่าทัน
แล้วจิตก็ไปปรุงความสุขมากลบเกลื่อนความทุกข์อีกที
เหมือนที่ จขกท กำลังโหยหาความสุข เพื่อแก้ไขความทุกข์ของตัวเอง
:b8:
:b8: คุณคามินธรรม เข้าใจหาบทความอ่านแล้วใจก็เป็นสุขนะคะ :b16:
ถ้าคนเรารู้ทันกายใจเรา สุข ทุกข์ ก็ปฏิบัติได้ไม่ยากเลยค่ะ ตัวเราของเราใจเรา ไม่ต้องไปหาที่ไหนเลย
เราก็ฝึกอยู่ เพื่อแก้ไขใจให้หมั่นตามรู้ตามดู ตอนนี้ก็ค่อยได้ขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งค่ะ :b12: :b12:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 15:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 10:01
โพสต์: 200

โฮมเพจ: http://www.watpanonvivek.com/
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www




parkodoom.gif
parkodoom.gif [ 94.83 KiB | เปิดดู 6320 ครั้ง ]
ขออนุโมทนาส่วนบุญในธรรมทานกับทุกท่านครับ.. :b8:

.....................................................
พอใจในสิ่งที่ตนมีตนได้
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 15:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


ความคิด เป็นคำที่กว้างมากในภาษาไทย

ถ้าเป็นภาษาบาลี จะตรงกับ คำว่า สังขารขันธ์


เราห้ามความคิดไม่ได้
จะสั่งให้คิดเฉพาะเรื่องที่ดี เรื่องที่คิดแล้วเป็นสุข ก็ไม่ได้
เราจึงทุกข์กับความคิด

ความคิดที่สำคัญ คือ ความคิดปรุงไปในทางเกิดทุกข์ (จิตตสังขารในปฏิจจสมุปบาท)

เราท่าน จะมีทั้ง ความคิดปรุงไปในทางเกิดทุกข์ (จิตตสังขารในปฏิจจสมุปบาท) และ ความคิดปรุงที่ไม่ไปในทางเกิดทุกข์

ถ้ามีสติ จิตจะไม่คิดปรุงไปในทางเกิดทุกข์
ถ้าขาดสติ จิตจะคิดปรุงไปในทางเกิดทุกข์
ยิ่งมีสติมากเท่าใด ทุกข์ก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น


พระอรหันต์ท่านมีสติสมบูรณ์พร้อม ท่านจึงสิ้นทุกข์


เราจึงต้องมาเจริญสติปัฏฐานกัน ไงล่ะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 21:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2008, 17:19
โพสต์: 139

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ทิ้งค่ะ ... แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะผ่านไปหมด ถ้าเราไม่ใส่ใจกับมัน :b12:
ไม่ว่านาทีนี้จะมีความสุขแค่ไหน ทุกข์แค่ไหน โกรธแค่ไหน หรือกำลังอร่อยแค่ไหน
มันก็จะผ่านไป แล้วก็มีของใหม่เข้ามาอีก ทั้งสุข ทุกข์ ดีใจ เสียใจ โกรธเคือง
โลกธรรม 8 ไม่ละเว้นใครๆเลย.. :b4:

.....................................................
สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
สิ่งนั้นย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร