วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 06:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2009, 23:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


ในครั้งพุทธกาลเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับศีลธรรม หรือพระวินัย แล้วมีผู้ไปถามพระพุทธเจ้า เช่น มีภิกษุไปตัดไม้ ไม้ตกลงมาโดนเพื่อนภิกษุตาย หรือ มีภิกษุใช้มือปัดโดนมดตาย

พระผู้มีพระภาคเจ้าจะสอบสวนเขาโดยถามคำถามเดียว คือ พระพุทธองค์จะถามว่า ตอนที่ท่านทำสิ่งนั้นลงไป ในใจของท่านมีเจตนาเช่นไร

...ถ้าเขาตอบว่า คันที่แขน เลยเอามือไปเกาและปัด พระผู้มีพระภาคเจ้าตอบว่า ท่านไม่ได้มีเจตนาฆ่ามด จะถือว่าทำบาปกรรมได้ยังไง

ในกรณีภิกษุไปตัดไม้ ไม้ตกลงมาโดนเพื่อนภิกษุตาย พระพุทธเจ้าสอบสวนแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "ภิกษุคนนี้มีเจตนาอย่างอื่น ไม่ได้มีเจตนาฆ่าเพื่อน จึงไม่ผิด"

การสอบสวนโดยวิธีของพระพุทธองค์ใช้หลักการข้อเดียวว่า เจตนาเป็นตัวกรรม ถ้าคนไหนไม่ได้มีจิตเจตนาอกุศลในการทำสิ่งนั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นบาปกรรมแต่อย่างใด กล่าวโดยสรุป การกระทำใดๆจะผิด วินัย/ศีล หรือไม่ จะมีโทษหรือไม่ โทษหนักเบาเพียงใด ขึ้นกับเจตนาของผู้กระทำเท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 07:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณพลศักดิ์ :b1:

ไม่ได้เจอกันนาน ออกจะคิดถึง :b17:

ยังขยันเหมือนเดิมนะคะ :b12:

ที่จริงตัวที่ต้องเน้นสีคือตรงนี้ค่ะ การกระทำใดๆจะผิด วินัย/ศีล หรือไม่ จะมีโทษหรือไม่ โทษหนักเบาเพียงใด ขึ้นกับเจตนาของผู้กระทำเท่านั้น

จริงไหมคะที่บอกว่าคุณควรจะเน้นตรงข้อความนี้มากกว่า ... โทษนั้นจะหนักจะเบา ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้กระทำ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 10:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


เอ่อออ อันนี้จริง จริงกว่าเอายาไปฉีดยุงตายแล้วบอกว่าไม่บาป :b12: :b12: :b12:

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
สวัสดีค่ะคุณพลศักดิ์ :b1:

ไม่ได้เจอกันนาน ออกจะคิดถึง :b17:

หยอดเป็นขนมครกเลย :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 12:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


กามโภคี เขียน:
เอ่อออ อันนี้จริง จริงกว่าเอายาไปฉีดยุงตายแล้วบอกว่าไม่บาป :b12: :b12: :b12:


ผมไม่เคยบอกว่า "เอายาไปฉีดยุงตายแล้วไม่บาป" นะครับ

แต่ผมบอกว่า "เอายาไปฉีดยุงตาย นอกจากไม่บาปแล้ว ยังเป็นบุญกุศลใหญ่ด้วย" สาเหตุเพราะว่า:

1. คนผู้นั้นรู้ว่าผิดศีล 5 ข้อปาณา
2. เขายังยอมทำ เพื่อเห็นแก่ลูกเมียและคนในบ้านทั้งหมด

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เจตนาเป็นตัวกรรม" เจตนาทางกายคือ ฆ่าแน่นอน แต่บาป-บุญเป็นเรื่องของจิตเจตนาทางใจ ถ้าจิตเจตนาทางใจเป็นกุศล การฆ่าก็เป็นบุญ แต่ถ้าไม่คิดเป็นบุญเป็นบาป บุญบาปก็ไม่มี เช่น ลูกคุณป่วยคุณพาไปหาหมอฉีดยาและกินยา คุณกับหมอก็ร่วมกันฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่น แต่ทำไมคุณไม่บอกล่ะว่า คุณกับหมอก็ร่วมกันฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่น การฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่น เป็นบาปไม่ใช่หรือ?

ในกรณีภิกษุไปตัดไม้ ไม้ตกลงมาโดนเพื่อนภิกษุตาย พระพุทธเจ้าสอบสวนแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "ภิกษุคนนี้มีเจตนาอย่างอื่น ไม่ได้มีเจตนาฆ่าเพื่อน จึงไม่ผิด"

ตอนนี้คุณเข้าใจหรือยังว่า การฆ่าทางกายไม่ได้บาป ถ้าจิตไม่คิดเป็นอกุศล ถ้าจิตคิดเป็นกุศล การฆ่านั้นก็กลับกลายเป็นบุญด้วยซ้ำ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
ในครั้งพุทธกาลเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับศีลธรรม หรือพระวินัย แล้วมีผู้ไปถามพระพุทธเจ้า เช่น มีภิกษุไปตัดไม้ ไม้ตกลงมาโดนเพื่อนภิกษุตาย หรือ มีภิกษุใช้มือปัดโดนมดตาย

พระผู้มีพระภาคเจ้าจะสอบสวนเขาโดยถามคำถามเดียว คือ พระพุทธองค์จะถามว่า ตอนที่ท่านทำสิ่งนั้นลงไป ในใจของท่านมีเจตนาเช่นไร

...ถ้าเขาตอบว่า คันที่แขน เลยเอามือไปเกาและปัด พระผู้มีพระภาคเจ้าตอบว่า ท่านไม่ได้มีเจตนาฆ่ามด จะถือว่าทำบาปกรรมได้ยังไง

ในกรณีภิกษุไปตัดไม้ ไม้ตกลงมาโดนเพื่อนภิกษุตาย พระพุทธเจ้าสอบสวนแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "ภิกษุคนนี้มีเจตนาอย่างอื่น ไม่ได้มีเจตนาฆ่าเพื่อน จึงไม่ผิด"

การสอบสวนโดยวิธีของพระพุทธองค์ใช้หลักการข้อเดียวว่า เจตนาเป็นตัวกรรม ถ้าคนไหนไม่ได้มีจิตเจตนาอกุศลในการทำสิ่งนั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นบาปกรรมแต่อย่างใด กล่าวโดยสรุป การกระทำใดๆจะผิด วินัย/ศีล หรือไม่ จะมีโทษหรือไม่ โทษหนักเบาเพียงใด ขึ้นกับเจตนาของผู้กระทำเท่านั้น

เหมือนที่เราคิดเลย จริงๆด้วย นี่คือการเดินสายกลาง บางคนนะ งี่เง่ามาก บอกว่าไม่กล้าตบยุง
ก็มันกัดเราเราคันก็เลยเผลอไง ว่ามั้ย จขกท


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
สวัสดีค่ะคุณพลศักดิ์ :b1:

ไม่ได้เจอกันนาน ออกจะคิดถึง :b17:

ยังขยันเหมือนเดิมนะคะ :b12:

ที่จริงตัวที่ต้องเน้นสีคือตรงนี้ค่ะ การกระทำใดๆจะผิด วินัย/ศีล หรือไม่ จะมีโทษหรือไม่ โทษหนักเบาเพียงใด ขึ้นกับเจตนาของผู้กระทำเท่านั้น

จริงไหมคะที่บอกว่าคุณควรจะเน้นตรงข้อความนี้มากกว่า ... โทษนั้นจะหนักจะเบา ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้กระทำ


ผมไม่ได้หายไปไหนครับ เพียงแต่นำเรื่องมาลงหลายต่อหลายครั้ง ส่วนใหญ่โดนแบน ลบกระทู้ทิ้ง ผมก็เลยไปหาวิธีที่จะไม่โดนแบน ไม่โดนลบกระทู้ ก็เลยพบวิธีการ นำเรื่องที่พระพุทธเจ้าสอบสวนมาลง ทีมงานเว็บมาสเตอร์เขาจะได้ไม่บังอาจลบกระทู้ทิ้งอีก มีเด็กที่ไม่รู้ธรรมะแท้จริง มาคุมเว็บธรรมะ คนที่รู้ธรรมะแท้จริงจะชี้แนะสอนอะไรก็ไม่ได้ เด็กพวกนี้ลบทิ้งหมด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 12:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
walaiporn เขียน:
สวัสดีค่ะคุณพลศักดิ์ :b1:

ไม่ได้เจอกันนาน ออกจะคิดถึง :b17:

ยังขยันเหมือนเดิมนะคะ :b12:

ที่จริงตัวที่ต้องเน้นสีคือตรงนี้ค่ะ การกระทำใดๆจะผิด วินัย/ศีล หรือไม่ จะมีโทษหรือไม่ โทษหนักเบาเพียงใด ขึ้นกับเจตนาของผู้กระทำเท่านั้น

จริงไหมคะที่บอกว่าคุณควรจะเน้นตรงข้อความนี้มากกว่า ... โทษนั้นจะหนักจะเบา ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้กระทำ


ผมไม่ได้หายไปไหนครับ เพียงแต่นำเรื่องมาลงหลายต่อหลายครั้ง ส่วนใหญ่โดนแบน ลบกระทู้ทิ้ง ผมก็เลยไปหาวิธีที่จะไม่โดนแบน ไม่โดนลบกระทู้ ก็เลยพบวิธีการ นำเรื่องที่พระพุทธเจ้าสอบสวนมาลง ทีมงานเว็บมาสเตอร์เขาจะได้ไม่บังอาจลบกระทู้ทิ้งอีก มีเด็กที่ไม่รู้ธรรมะแท้จริง มาคุมเว็บธรรมะ คนที่รู้ธรรมะแท้จริงจะชี้แนะสอนอะไรก็ไม่ได้ เด็กพวกนี้ลบทิ้งหมด

นานาจิตตัง ใครจะนับเชื่ออะไรขึ้นอยู่กับตัวเขา เราจะไปบังคับทำไมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 12:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ boom_manman ครับ

เหมือนที่เราคิดเลย จริงๆด้วย นี่คือการเดินสายกลาง บางคนนะ งี่เง่ามาก บอกว่าไม่กล้าตบยุง
ก็มันกัดเราเราคันก็เลยเผลอไง ว่ามั้ย จขกท


ตนงี่เง่าบางคนเขาเป็นเว็บมาสเตอร์หรือเป็นทีมงานเว็บ เขาท่องจำแค่ศีล 5 โดยไม่เข้าใจที่มาของศีล 5 ว่ามาจากใจคิดเป็นอกุศล และมีเจตนาทำกรรมลงไป จึงจะเรียกว่า "บาป" พระบางคนก็เข้าใจผิดว่า ไม่ว่าจิตเป็นอกุศลหรือเป็นกุศล ถ้าผิดสีล 5 ก็ถือเป็นบาปทั้งนั้น อันนี้ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าครับ แต่เป็นคำสอนของมารที่สิงใจเขา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 12:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
คุณ boom_manman ครับ

เหมือนที่เราคิดเลย จริงๆด้วย นี่คือการเดินสายกลาง บางคนนะ งี่เง่ามาก บอกว่าไม่กล้าตบยุง
ก็มันกัดเราเราคันก็เลยเผลอไง ว่ามั้ย จขกท[/quote]

ตนงี่เง่าบางคนเขาเป็นเว็บมาสเตอร์หรือเป็นทีมงานเว็บ เขาท่องจำแค่ศีล 5 โดยไม่เข้าใจที่มาของศีล 5 ว่ามาจากใจคิดเป็นอกุศล และมีเจตนาทำกรรมลงไป จึงจะเรียกว่า "บาป" พระบางคนก็เข้าใจผิดว่า ไม่ว่าจิตเป็นอกุศลหรือเป็นกุศล ถ้าผิดสีล 5 ก็ถือเป็นบาปทั้งนั้น อันนี้ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าครับ แต่เป็นคำสอนของมารที่สิงใจเขา[/quote]
ได้ใจมากครับ สุดยอดเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 12:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ม.ค. 2009, 21:10
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเราเจตนาดี ไม่อยากให้ตัวเราเป็นไข้เลือดออก แล้วตบยุง บาปไหมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 12:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


หล่อ ลูกแม่อ้วน เขียน:
ถ้าเราเจตนาดี ไม่อยากให้ตัวเราเป็นไข้เลือดออก แล้วตบยุง บาปไหมครับ

Hi ไม่บาปหรอก "นินนิน"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 12:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ม.ค. 2009, 21:10
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วถ้าแอบรักคนที่มีเจ้าของละ แบบว่ายังไม่มีอะไรนะ แค่แอบฝันถึงนะจะบาปไหม

นิน นิน....thank you


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 13:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


หล่อ ลูกแม่อ้วน เขียน:
แล้วถ้าแอบรักคนที่มีเจ้าของละ แบบว่ายังไม่มีอะไรนะ แค่แอบฝันถึงนะจะบาปไหม

นิน นิน....thank you



ผมยังแอบรักแฟนเก่า แอบฝันถึงเขาอยู่เลย ทั้งๆที่เขามีลูกมีผัวไปเกือบ 13 ปีแล้ว บาปหรือเปล่าล่ะครับ .... ผมตอบตัวเองและตอบคุณเลยว่า ไม่บาป เพราะสัญญาหรือความจำ มันลบออกไปไม่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 13:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


boom_manman เขียน:
หล่อ ลูกแม่อ้วน เขียน:
ถ้าเราเจตนาดี ไม่อยากให้ตัวเราเป็นไข้เลือดออก แล้วตบยุง บาปไหมครับ

Hi ไม่บาปหรอก "นินนิน"


นอกจากไม่บาปแล้ว ยังได้บุญด้วยครับ คุณต้องรู้ความจริงว่า ยุง ปลวก ฯลฯ เหล่านั้นโดนวิบากกรรมทำให้เขาต้องเกิดเป็นยุง เป็นปลวก เป็แมลงสาบ ฯลฯ 500 ชาติ เขาต้องเกิดมาเพื่อรับกรรมจึงมาเบียดเบียนมนุษย์ จึงต้องรับผล คือ ความตาย คุณฉีดยาฆ่าเขา ก็ช่วยทำให้เขารับกรรม จบชีวิตไปอีกชาติหนึ่ง

ผมเป็นโรคแพ้ทางผิวหนัง เลยทำกรรมฐานแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรไป 5 ครั้ง ปรากฏว่าวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้นมาหาผม เป็นวิญญาณปลวกเป็นล้านๆตัว คลานออกจากปากของผม เหตุที่เจ้ากรรมนายเวรของผมเป็นวิญญาณปลวก เพราะผมให้คนมาฉีดยาฆ่าปลวกที่บ้านของผมหลายหลังหลายครั้ง การกระทำนั้นไม่ได้เป็นบาปก็จริง แต่ก็เป็นกรรมที่สักแต่ว่าทำ หรือกรรมไม่เจตนา (กตัตตากรรม)
จะรับผลเมื่อกรรมอื่นๆที่เป็นกรรมที่มีเจตนาให้ผลไปหมดแล้ว

ดังนั้น บาปกรรมที่ตบยุงตายไม่มี เพราะทำตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อเราก่อเวรกับเขาแล้ว มันก็กลายเป็นกรรมไม่เจตนา (กตัตตากรรม) จะรับผลเมื่อกรรมอื่นๆที่เป็นกรรมที่มีเจตนาให้ผลไปหมดแล้ว แต่ไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะถ้ากตัตตากรรมให้ผล ตอนนั้นก็อาจจะเป็นชาติสุดท้ายหรือก่อนสุดท้ายที่คุณจะอยู่ในสังสารวัฏฏ์แล้วล่ะครับ เช่น พระพุทธเจ้าไม่ให้ความกินน้ำที่ขุ่น เป็นเจตนาดี แต่ก็เป็นกตัตตากรรม ทำให้พระพุทธองค์ต้องกระหายน้ำครั้งหนึ่ง พระอานนท์ไปหาน้ำมาให้ นำนั้นก็ขุ่น จนกินไม่ได้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร