วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 19:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 15:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2009, 16:28
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


คือวันนี้ผมทะเลาะกับพี่อ่ะครับ เรื่องเกี่ยวกับที่ว่าเขาทำงานบ้านแล้วก็มาพูดตลอดว่าเขาทำแล้วผมไม่ทำ แต่ว่าตอนที่ผมทำผมก็ไม่ได้ไปบอกใครแล้วก็ไม่มีใครรู้แต่พอผมพูดขึ้นมาทุกคนก็จะหาว่าผมประชด แล้วตอนนั้นแม่เรียกผมลงไปใช้งาน ผมเลยไปพาลตะคอกใส่แม่ว่าทำไมเวลาผมทำงานแล้วไม่ได้บอกใคร ไม่เห็นมีใครเห็นค่าผมเลย พอพี่ผมทำหน่อยล่ะเห็นว่าทำเยอะจัง
พอพูดจบ ผมก็ขึ้นมาชั้นบนผ่านไป1นาที ผมรู้สึกผิดมากๆเลยที่ไปโวยวายใส่แม่บังเกิดเกล้าของผม แต่ว่ามันอัดอั้นตันใจอ่ะครับ แล้วตอนนั้นก็อารมณ์ร้อนด้วย แต่ก็ไม่กล้าไปขอโทดแม่เขา เพราะมันจะเปงเรื่องแปลกมากเลยถ้าผมทำในบ้าน
จะทำยังไงให้ผมมีสติคิดก่อนที่จะทำอะไรเลวอย่างนี้ลงไป ผมก็พยายามควบคุมอยู่นะครับแต่ว่าถึงคราวอย่างงี้ทีไรหลุดไปทำอะไรเลวๆทุกที :b2: :b2: :b2: เสียใจครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 15:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2009, 16:28
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


ละอายกรรม เขียน:
คือวันนี้ผมทะเลาะกับพี่อ่ะครับ เรื่องเกี่ยวกับที่ว่าเขาทำงานบ้านแล้วก็มาพูดตลอดว่าเขาทำแล้วผมไม่ทำ แต่ว่าตอนที่ผมทำผมก็ไม่ได้ไปบอกใครแล้วก็ไม่มีใครรู้แต่พอผมพูดขึ้นมาทุกคนก็จะหาว่าผมประชด แล้วตอนนั้นแม่เรียกผมลงไปใช้งาน ผมเลยไปพาลตะคอกใส่แม่ว่าทำไมเวลาผมทำงานแล้วไม่ได้บอกใคร ไม่เห็นมีใครเห็นค่าผมเลย พอพี่ผมทำหน่อยล่ะเห็นว่าทำเยอะจัง
พอพูดจบ ผมก็ขึ้นมาชั้นบนผ่านไป1นาที ผมรู้สึกผิดมากๆเลยที่ไปโวยวายใส่แม่บังเกิดเกล้าของผม แต่ว่ามันอัดอั้นตันใจอ่ะครับ แล้วตอนนั้นก็อารมณ์ร้อนด้วย แต่ก็ไม่กล้าไปขอโทดแม่เขา เพราะมันจะเปงเรื่องแปลกมากเลยถ้าผมทำในบ้าน
จะทำยังไงให้ผมมีสติคิดก่อนที่จะทำอะไรเลวอย่างนี้ลงไป ผมก็พยายามควบคุมอยู่นะครับแต่ว่าถึงคราวอย่างงี้ทีไรหลุดไปทำอะไรเลวๆทุกที :b2: :b2: :b2: เสียใจครับ


แต่ว่าผมกับแม่ก็ไม่ได้โกรธกันนะครับ ตอนนี้คุยกันปกติ แต่ผมก็กลัวบาปกรรมครับที่ทำไป ไม่อยากทำอ่ะครับ ใครมีวิธียับยั้งอารมณ์ชั่ววูปอย่างงี้ได้มั่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 16:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 19:18
โพสต์: 160

ที่อยู่: นนทบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อก่อนผมก็เป็นอย่างคุณครับ แต่นั่งสมาธิเยอะ ๆ สวดมนต์เยอะ ๆ อ่านหนังสือธรรมะเยอะ ๆ เดี๋ยวก็หายเองครับ ต้องฝึกดูจิตด้วย แนะนำให้อ่านหนังสือเรื่อง "ชนะใจตนเอง" โดยพระอาจารย์มิตสูโอะ คเวสโก ด้วย หรือของหลวงพ่อปราโมทย์ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ฯลฯ จะสอนเรื่องเวลาโกรธดูจิตใจตนเองอย่างไร

เดี๋ยวนี้พอผมโกรธก็รู้ตัวแล้วครับว่าโกรธ :b16: เสร็จแล้วก็หายโกรธเลย :b12:

ดังนั้นต้องเจริญภาวนา ศึกษาธรรมะ และที่สำคัญที่สุด ปฏิบัติให้เยอะ ๆ แล้วสุดท้ายจะดีขึ้นเองครับ

(ตอนนี้ผมจากไม่มีสติเลย ก็เริ่มจะมีสติบ้างแล้ว)

----

สำหรับเรื่องคนอื่นไม่เห็นคุณค่า คิดซะว่า "ปิดทองหลังพระ" ครับ ถึงแม้คนอื่นจะไม่เห็นก็ตามที แต่หากคุณไม่ช่วยทำ พระพุทธรูปก็ไม่มีทางสมบูรณ์ได้

.....................................................
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 16:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องที่คุณไม่กล้าขอโทษคุณแม่นั้น เป็นเพราะว่าเรายึดมั่นถือมั่นอยู่นะครับ
เราก็เลยคิดไปเองว่า ถ้าเราขอโทษคุณแม่ นั่นมันไม่ใช่นิสัยของเรา
ลองปล่อยวางลงบ้างสิครับ ถ้าเรารู้ตัวว่าเราผิด การขอโทษก็ไม่ใช่สิ่งเสียหาย
กลับเป็นผลดีซะอีก แม่ย่อมให้อภัยลูกได้เสมอครับ เราเองก็จะได้สบายใจ
ไม่ต้องมานั่งคิดกังวลเรื่องผลกรรมจากกระทำของเรา


หรือ ไม่ก็ อีกไม่กี่เดือน ก็จะถึงวันแม่ ก็ซื้อพวงมาลัยไหว้ท่าน และก็ถือโอกาส
ใช้ช่วงนั้น ขอโทษท่าน บอกความในใจกับท่านไปก็ได้ครับ


ถ้าหากอาย เพราะเราไม่เคยทำมาก่อน ก็หาโอกาสที่อยู่กับท่าน 2 คน
ขอโทษท่านก็ได้นะครับ
:b12:

:b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 18:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พอพูดจบ ผมก็ขึ้นมาชั้นบนผ่านไป1นาที ผมรู้สึกผิดมากๆเลยที่ไปโวยวายใส่แม่บังเกิดเกล้าของผม แต่ว่ามันอัดอั้นตันใจอ่ะครับ แล้วตอนนั้นก็อารมณ์ร้อนด้วย แต่ก็ไม่กล้าไปขอโทดแม่เขา
--- :b39: :b39:

ว่าพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณถือว่าบาปมากนะ ยังไงไปขอโทษท่านก่อนนะครับ อย่างน้อยก็ทำให้เราสบายใจ
และให้แม่รับรู้อโหสิกรรมที่เราได้พลั้งเผลอไปว่าท่านด้วยความไม่พอใจ (เพราะว่าในใจท่านไม่เคยโกรธลูกตัวเองอยู่แล้ว มีแต่ให้ แล้วก็ไม่ถือสาในสิ่งที่คุณว่า) อีกอย่างหากเราชอบว่าหรือตำหนิพ่อแม่บ่อยๆเราจะทำมาค้าขายไม่ขึ้น ชีวิตมีแต่อุปสรรค ถ้ามาทำกรรมฐานนี่ก็เอาดีไม่ดีเลยนะครับขอฝากไว้

ต้องหัดเป็นคนทำไรเพื่อครอบครัวและพี่น้องบ้าง ".หัดเป็นคนปิดทองหลังพระให้เก่งๆ" อีกเรื่องก็คือ
คุณไม่ถูกกันกับพี่ชาย ก็ปล่อยให้เค้าว่าเถอะ แสดงว่ามันต้องมีส่วนจริงอยู่บ้างไม่งั้นคงไม่ว่าคุณหรอก
ถ้าจริงก็ให้รับฟัง ถ้าไม่จริงๆ ก็เฉยๆแล้วกล่าวชี้แจงเหตุผลตัวเองออกไป แต่ถ้าใครในบ้านไม่ฟังก็เฉยๆเข้าไว้ ก็พี่น้องพ่อแม่เราทั้งนั้นทนไม่ได้บ้างเลยหรอครับ หากทำอย่างที่พูดได้มีน้ำอดน้ำทน ดังภาษิตที่ว่า มะตูมแข็งนอก มะกอกแข็งใน ซึ่งแปลได้ว่าข้างนอกก็อดทนต่อคนที่พูดด่าว่าเราไม่ดีหรืออะไรที่กระทบใจแล้วทำให้โกรธ หงุดหงิด ไม่หวั่นไหวเป็นต้น ข้างในก็เย็นใจเพราะมีธรรมะไว้หล่อเลี้ยงจิตใจเตือนสติให้เราตั้งมั่นอยู่ในความดี ไม่ใช่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว จึงได้ชื่อว่า "แข็งทางข้างนอก แข็งทั้งข้างใน" เป็นต้น เชื่อว่าคนในบ้านจะเปลี่ยนความคิดและทัศนคติต่อตัวคุณใหม่แน่นอนครับ และคุณก็ไม่ต้อง " ละอายกรรม และรู้สึกอึดอัดใจบ่อยๆ ตามชื่อในนี้ของคุณอีกต่อไป."

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 23:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ละอายกรรม เขียน:
ละอายกรรม เขียน:
คือวันนี้ผมทะเลาะกับพี่อ่ะครับ เรื่องเกี่ยวกับที่ว่าเขาทำงานบ้านแล้วก็มาพูดตลอดว่าเขาทำแล้วผมไม่ทำ แต่ว่าตอนที่ผมทำผมก็ไม่ได้ไปบอกใครแล้วก็ไม่มีใครรู้แต่พอผมพูดขึ้นมาทุกคนก็จะหาว่าผมประชด แล้วตอนนั้นแม่เรียกผมลงไปใช้งาน ผมเลยไปพาลตะคอกใส่แม่ว่าทำไมเวลาผมทำงานแล้วไม่ได้บอกใคร ไม่เห็นมีใครเห็นค่าผมเลย พอพี่ผมทำหน่อยล่ะเห็นว่าทำเยอะจัง
พอพูดจบ ผมก็ขึ้นมาชั้นบนผ่านไป1นาที ผมรู้สึกผิดมากๆเลยที่ไปโวยวายใส่แม่บังเกิดเกล้าของผม แต่ว่ามันอัดอั้นตันใจอ่ะครับ แล้วตอนนั้นก็อารมณ์ร้อนด้วย แต่ก็ไม่กล้าไปขอโทดแม่เขา เพราะมันจะเปงเรื่องแปลกมากเลยถ้าผมทำในบ้าน
จะทำยังไงให้ผมมีสติคิดก่อนที่จะทำอะไรเลวอย่างนี้ลงไป ผมก็พยายามควบคุมอยู่นะครับแต่ว่าถึงคราวอย่างงี้ทีไรหลุดไปทำอะไรเลวๆทุกที :b2: :b2: :b2: เสียใจครับ


แต่ว่าผมกับแม่ก็ไม่ได้โกรธกันนะครับ ตอนนี้คุยกันปกติ แต่ผมก็กลัวบาปกรรมครับที่ทำไป ไม่อยากทำอ่ะครับ ใครมีวิธียับยั้งอารมณ์ชั่ววูปอย่างงี้ได้มั่ง


ครั้งต่อไป ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้อีก หายใจยาวๆ เพื่อรวบรวม สติ สัมปชัญญะก่อนค่ะ แล้วรู้ลงไปว่า นี่คือ แม่นะ อย่างน้อยยังช่วยให้เราหยุดการกระทำนั้นได้ชั่วคราวค่ะ

ส่วนเหตุการณ์ที่ได้กระทำไปแล้ว ก็ปกติดีไม่ใช่หรือคะเวลาคุยกับแม่ ถ้าอายพี่น้องหรืออายคนอื่นๆ ก็ดูจังหวะค่ะ เวลาที่อยู่กับแม่สองคน กราบขออโหสิกรรมต่อแม่ค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2009, 11:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญหาในครอบครัว มักเกิดจากการ ไม่สื่อสารพูดคุยกันให้ดี
ชอบเดาใจกันไปกันมา
กะเกณฑ์เอาเองว่าเขาต้องเข้าใจ

สื่อสารกันให้มากขึ้น ก็คงพอจะช่วยบรรเทาได้คับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2009, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นชื่อ"ละอายกรรม"ก็ปลื้มแทนเจ้าของแล้วครับ ... :b12:

อ้างคำพูด:
ผมรู้สึกผิดมากๆเลยที่ไปโวยวายใส่แม่บังเกิดเกล้าของผม


สาธุๆ..นี่หายากมากๆในคนทุกวันนี้ทีจะรู้สึกละอายและเกรงกลัวบาปกรรม แสดงถึงอุปนิสสัยที่เคยสั่งสมมาดีแล้ว แต่ยังไม่กล้าแข็งพอที่จะชนะกิเลสคือโทสะ เพราะได้ปัจจัยอันไม่น่าปรารถนา
........ให้เห็นว่า นี่เป็นการงานของโทสะ ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งการหนุนมาจากกิเลสโลภะ และความถือดี ถือความดีในตน ที่มีกำลังขึ้นมามากนั่นเอง
เป็นลักษณะของธรรมชาติที่เป็นความกระด้าง ว่ายาก..เกิดได้มากแม้ในบุคคลที่ศึกษาธรรม หรือปฏิบัติธรรมมามากก็ได้เหมือนกันนั่นเอง..จิตใจมีโลภะ ทิฏฐิ หรือ มานะ เข้าหนุน ย่อมจะมีความสำคัญตนว่า "ข้าพเจ้า เป็นคนที่แสนดี แสนประเสริฐ ท่านไม่ต้องมาว่ากล่าวตักเตือนข้าพเจ้าหรอก การว่ากล่าวตักเตือนของท่านทำลายความรู้สึกของข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก"
ความกระด้าง เป็นปรปักษ์กับความเมตตา เพราะเป็นไปกับโทสะแล้ว เมื่อเกิดขึ้น ก็ย่อมทำลายความเมตตาที่พึงจะเกิดในบุคคลอื่นๆไปด้วย ....เพราะตนเองขาดเมตตาผู้ให้ ใครๆก็ย่อมหน่ายระอาได้เช่นกัน ....

ปุถุชนคนเรานั้น จะเลือกให้สมบูรณ์ทั้งหมด ....ไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นไปได้
ข้อดีก็มี ข้อเสียก็มี เพราะต่างก็บกพร่องในการประกอบกรรมในอดีตมาแล้วทั้งสิ้น

พึงตั้งใจว่า ต่อไปจะไม่วู่วามด้วยความโกรธไม่ว่าใครจะว่าอะไรก็ตาม และคิดว่าเมื่อถูกเขาว่า เราจะคิดก่อน.. ว่าถ้าเขาพูดถูก เราจักแก้ไข ถ้าเขาพูดผิด เราก็อธิบาย แต่เขาจะฟังหรือยอมรับหรือไม่ ไม่ใช่ธุระของเรา แล้ว เราทำหน้าที่ของเราแล้วคือชี้แจงเท่านั้น..หากบาปกรรมเราทำไว้คือเคยทำให้ใครๆถูกเข้าใจผิดมา ผลคือคนอื่นย่อมเข้าใจเราผิดได้เช่นกัน..ก็ดีืที่อกุศลเกิดแล้ว ผลนั้นย่อมหมดไปหรือลดลงไป..ให้วางใจเช่นนี้เสมอ จะลดความวู่วามลงได้..

อ้างคำพูด:
แต่ก็ไม่กล้าไปขอโทดแม่เขา เพราะมันจะเปงเรื่องแปลกมากเลยถ้าผมทำในบ้าน


ก็น่าแปลกนะ ทีเรื่องร้าย กลับ"มีความกล้าหาญ"ที่จะแสดงออกในครอบครัว น่าแปลกจริงๆ หรือว่า ที่นี่ยอมรับแต่พฤติกรรมเลวร้าย และไม่รับพฤติกรรมที่ตรงข้าม?..คงน่ากลัวพิลึกที่เป็นสมาชิกในที่นี้.?

เอาอย่างนี้นะ..ผมว่าลองปฏิัวัติวัฒนธรรมในครัวเรือนใหม่ ด้วยการ"ฉีกหน้าความชั่ว" โดยเอาดอกไม้ใส่พาน แล้วคลานไปกราบเท้าของแม่ เพื่อขอโทษที่ล่วงเกินไปเมื่อวันก่อน บอกแม่ว่า" ผมขออโหสิกรรมเพราะกลัวบาป" ผมว่า แม่นั้นคงปลื้มใจมากทีเดียว นี่จะเป็นบุญที่มีปัจจัยมาจากบาปที่ก่อไว้นะครับ ...ถ้ากลัวใครหัวเราะ ผมว่างานนี้ทุกคนคงคิดไม่ถึงอาจตะลึงไปทั้งบ้านพร้อมทั้งนึกชมในความ"กล้าหาญ" แบบสวนกระแสของคุณได้ คราวนี้เขาทั้งหลายจะเพิ่มความ"นับถือ"ในตัวคุณมากขึ้น รับรองได้เลย..แต่เขาอาจไม่พูดออกมา คุณก็ไม่ต้องคาดหวังอะไรๆทั้งนั้น คิดเสียว่า ทำดีเพื่อบุญกุศลของตนเองก็พอ..

เอาละ แล้วเลิกกังวลได้แล้ว ยิ่งกังวลนาน บาปยิ่งเพิ่ม จำไว้ครับ...

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 11:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2009, 16:28
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมไปขอโทดแม่มาแล้วครับ แต่ว่าไม่ได้มีของไปให้นะครับ คือ ไปนอนตักแม่แล้วก้บอกแม่ว่าตอนนั้นอารมณ์ร้อนไปเอง แล้วรู้สึกผิดมากๆ แม่เลยบอกว่าไม่ต้องคิดมาก แม่เข้าใจ เพราะแม่ก็เคยเป็นมาก่อน :b17:
(ช่างเป็นแม่ที่เข้าใจลูกจริงๆ) >>>>>รักแม่ที่สูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 13:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


ละอายกรรม เขียน:
ผมไปขอโทดแม่มาแล้วครับ แต่ว่าไม่ได้มีของไปให้นะครับ คือ ไปนอนตักแม่แล้วก้บอกแม่ว่าตอนนั้นอารมณ์ร้อนไปเอง แล้วรู้สึกผิดมากๆ แม่เลยบอกว่าไม่ต้องคิดมาก แม่เข้าใจ เพราะแม่ก็เคยเป็นมาก่อน :b17:
(ช่างเป็นแม่ที่เข้าใจลูกจริงๆ) >>>>>รักแม่ที่สูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


:b17: :b17: :b17:
:b35: :b35: :b35:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 19:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2009, 01:02
โพสต์: 337


 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 33.54 KiB | เปิดดู 5007 ครั้ง ]
:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

ขอร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยครับ :b16:

จะทำยังไงให้ผมมีสติคิดก่อนที่จะทำอะไรเลวอย่างนี้ลงไป ???

การขาดสติของท่านละอายกรรม เกิดจากจิตที่ไม่สงบครับ เหตุที่จิตไม่สงบก็เพราะมีปัจจัยไปปรุงแต่งมัน และควบคุมไม่ได้ เหตุที่ควบคุมไม่ได้เพราะว่าเราไม่ได้ฝึกจิต จึงไม่สามารถควบคุมจิตให้อยู่ในอำนาจเราได้ แนะนำให้ฝึกสมาธิ เจริญสติ วิปัสสนา กรรมฐาน ปฏิบัติธรรม ลองดูครับ...เพราะจิตที่ได้รับการอบรมย่อมพัฒนาขึ้น ดีขึ้น และควรค่าแก่การใช้งานยิ่งขึ้น

----------------------------------------------------------------------------------------------
:b43: :b43: :b43:

".....ภิกษุ ท.! จิตนี้ เป็นธรรมชาติประภัสสร แต่จิต (ที่มีธรรมชาติประภัสสร) นั้นแล เข้าถึงความเศร้าหมองแล้ว เพราะอุปกิเลสอันเป็นอาคันตุกะจรมา เรากล่าวว่า บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมไม่รู้ชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความจริงข้อนั้น เพราะเหตุนั้น จิตตภาวนา ย่อมไม่มีแก่บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ดังนี้
ภิกษุ ท.! จิตนี้ เป็นธรรมชาติประภัสสร แต่จิต (ที่มีธรรมชาติประภัสสร) นั้นแล เป็นจิตพ้นวิเศษจากอุปกิเลสอันเป็นอาคันตุกะจรมานั้นได้ เรากล่าวว่าอริยสาวกผู้มีการสดับ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงซึ่งความจริงข้อนั้น เพราะเหตุนั้นจิตตภาวนา ย่อมมีแก่อริยสาวกผู้มีการสดับ ดังนี้ "

-เอก อ ๒๐/๑๑-๑๒/๕๒-๕๓

----------------------------------------------------------------------------------------------

ขอแสดงความยินดีและชื่นชมด้วยที่ได้กล่าวขอโทษคุณแม่แล้ว (สบายใจขึ้นเยอะเลย) ไม่ยากอย่างที่คิดกลัวใช่ไม๊ครับ และขอแนะนำให้ไปตัดผมซะ (เพราะผมมันเลว) อิ.. อิ..แซวเล่น :b32: :b32:

เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:


:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
ราตรีของผู้ตื่นอยู่นาน...โยชน์ของผู้ล้าแล้วไกล
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 20:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b7: เราก็เป็นนะทุกวันนี้ก็จะเป็น(หงุดหงิด) กับพ่อ เวลาที่ท่านไม่ปล่อยวาง รู้ก็รู้นะว่าท่านแก่แล้ว
ก็เป็นแบบนี้ :b5: แต่พอคิดได้ก็จะเข้าไปบีบๆนวดๆ :b13: ท่านก็หาย แต่แกจะรู้ว่าเรารักแกที่สุด
ไม่ว่าจะอะไร แบบไหน อย่างไร แก่ก็เป็นคนแรกที่เราจะนึกไว้ในใจตลอดเวลา เป็นพ่อพระของเราค่ะ :b8:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 21:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


อมิตาพุทธ เขียน:
ละอายกรรม เขียน:
ผมไปขอโทดแม่มาแล้วครับ แต่ว่าไม่ได้มีของไปให้นะครับ คือ ไปนอนตักแม่แล้วก้บอกแม่ว่าตอนนั้นอารมณ์ร้อนไปเอง แล้วรู้สึกผิดมากๆ แม่เลยบอกว่าไม่ต้องคิดมาก แม่เข้าใจ เพราะแม่ก็เคยเป็นมาก่อน :b17:
(ช่างเป็นแม่ที่เข้าใจลูกจริงๆ) >>>>>รักแม่ที่สูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


:b17: :b17: :b17:
:b35: :b35: :b35:


อนุโมทนาสาธุค่ะ :b8:

นึกภาพออกเลยค่ะ แม่จะให้อภัยต่อลูกเสมอ เขาถึงมีสำนวนกล่าวไว้ว่า ผู้ใหญ่ท่านอาบน้ำร้อนมาก่อนเรา :b8:

คุณนอนหนุนตักแม่ ส่วนตัวเองนั้น ส่วนมากจะเข้าไปกอดแม่ค่ะ แล้วกราบงามๆที่อกแม่ พร้อมกับพูดว่า นู๋ผิดไปแล้ว ขอโทษค่า เท่านี้แม่ก็ยิ้มแล้วแหละค่ะ :b1:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร