วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 12:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 15:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เชื่อลองกินดูสิ กินต่อไปเรื่อยๆ สักวันก็จะเป็นมะเร็งเพราะสารอดีนลีนในเนื้อวัว ตอนมันจะถูกฆ่ามันดันรู้ตัวแล้วก็กลัวปล่อยสารนี้ออกมาทำให้คนที่กินเข้าไปสะสมสารก่อมะเร็งในตัว ถ้าใครไม่เชื่อก็ต้องไปพิสูจน์กันเอาเองนะจ้ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 16:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: :b12: :b16: :b20:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 18:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

สมแล้วครับที่เป็นผู้ดูแลสัตว์วิเศษ
เพราะท่านชอบพูดถึงเรื่องสัตว์อยู่เรื่อยเชียว


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2009, 22:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


วรานนท์ เขียน:
:b8: :b8: :b8:

สมแล้วครับที่เป็นผู้ดูแลสัตว์วิเศษ
เพราะท่านชอบพูดถึงเรื่องสัตว์อยู่เรื่อยเชียว


:b8: :b8: :b8:

ดูเหมือนจะเป็นคำชม thank you เด้อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 10:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


สารประเภทนี้(เขาเรียกกันว่า อนุมูนอิสระ รึป่าวไม่รู้)มีอยู่ในสัตว์ที่มีวิญญาณครอง ไม่เฉพาะวัว แม้กระทั่งมนุษย์ เมื่อเกิดความเครียดก็จะหลั่งสารประเภทนี้ออกมา แต่ตามธรรมชาติแล้วร่างกายที่สมดุลย์(สมบูรณ์แข็งแรง)จะสามารถขับถ่ายสารเหล่านี้ออกจากร่างกายได้ แต่ก็ได้ตาม อัตตภาพ(ตามสภาพร่างกาย)เพราะร่างกายมันเป็นอนิจจังครับ

การกินเนื้อสัตว์ที่มีความเครียดสูงก่อนตายนั้นก็เป็นธรรมดาที่จะมีสารประเภทนี้สะสมอยู่ในเนื้อเหล่านั้นในปริมาณที่สูง(เพราะไม่ได้ถูกขับถ่ายออก) แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสาเหตุหลักของมะเร็ง เพราะหากคนที่กินเนื้อสัตว์ที่มีสารเหล่านี้สะสม แต่คนๆนั้นเป็นคนที่มีสุขภาพกายดี(สมดุลย์) สุขภาพจิตดี(จิตใจผ่องใส) ร่างกายก็ไมหลั่งสารก่อมะเร็งที่ว่านั่น แล้วไอ้ที่กินเข้าไปก็จะถูกขับถ่ายออกมาหมด
กลับกัน...คนที่ไม่กินเนื้อสัตว์เพราะจิตใจจดจ่ออยู่แต่ว่าไอ้นี่กินไม่ได้เดี๋ยวเป็นโรคนั่น โรคนี่ ระแวงกลัวตาย กลัวเจ็บป่วย กลัวความสูญเสีย ฯลฯ คนเหล่านี้ มีชีวิตอยู่บนความเครียด ร่างกายก็จะหลั่งสารก่อมะเร็งที่ว่านี้ออกมาอยู่เรื่อย ๆ ร่างกายก็จะเสียดุลย์ ระบบขับถ่ายก็ผิดปกติ สารก่อมะเร็งจึงสะสมอยู่ในร่างกายเพราะขับถ่ายออกไม่ทันกับที่หลั่งออกมา และก็เป็นมะเร็งได้เหมือนกัน

ทั้งนี้ไม่ได้มาคัดค้าน จขกท นะครับ

เพราะความจริงแล้วการรักษาสมดุลย์ของร่างกายก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกินเนื้อสัตว์...แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลิกกินเช่นกัน...

และอีกอย่างนึงคือ...ความเจ็บป่วยนั้นเป็นผลกรรมของเราเอง

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 11:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณnatdanai เล่นแจงละเอียด

แล้วท่านผู้เลี้ยงดูสัตว์ประหลาด

ท่านจะเอาหน้าไปซุกมุมไหน



หากคิดเมตตา กรุณาทำไม่รู้ไม่ชี้เสียบ้างนะท่านนะ

:b29: :b29: :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 11:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


หลวงพ่อ (ของผม) เทศน์ สอนเรื่องนี้มากกก..เรื่องกิน..เรื่องมะเร็งนี้..

สรุปได้ว่า..

..อาหาร..ดี :b45:

..อากาศ..ดี :b43:

..อารมณ์..ดี :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2008, 20:41
โพสต์: 448

ที่อยู่: bangkok, Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว




cn0.jpg
cn0.jpg [ 171.54 KiB | เปิดดู 6458 ครั้ง ]
ฟันธงกิน"เนื้อแดง"มาก เพิ่มเสี่ยงป่วยมะเร็ง-โรคหัวใจ





นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานใหม่ยืนยันว่า การกินเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปในปริมาณที่มากเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพ

นักวิจัยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ศึกษาและเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคกว่า 500,000 คน พบว่า ผู้ที่กินเนื้อแดง (เรดมีต) หรือเนื้อแปรรูปประมาณ 160 กรัมต่อวัน หรือเทียบเท่ากับสเต๊ก 6 ออนซ์ มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะโรคมะเร็งและโรคหัวใจ เมื่อเทียบกับผู้ที่กินเนื้อแดง หรือเนื้อแปรรูปแค่วันละ 25 กรัม หรือเทียบเท่ากับเบคอนชิ้นเล็กๆ บางๆ เพียงชิ้นเดียว

ในทางตรงกันข้าม กลุ่มที่กินเนื้อขาว (ไวต์มีต) จำพวกเนื้อสัตว์ปีกและเนื้อปลา จะมีความเสี่ยงลดลงที่จะเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บดังกล่าว ผลการคำนวณยังพบว่า ร้อยละ 11 ของการเสียชีวิตในผู้ชาย และร้อยละ 16 ของการเสียชีวิตในผู้หญิงสามารถป้องกันได้ ถ้าพวกเขาหันมาบริโภคเนื้อแดงให้เหลือแค่วันละ 25 กรัม หรือเท่ากับเบคอนชิ้นบางๆ เล็กๆ 1 ชิ้น

นักวิจัยระบุด้วยว่า สารก่อมะเร็งจะเกิดขึ้นในช่วงที่นำเนื้อแดงไปปรุงเป็นอาหารด้วยอุณหภูมิร้อนจัด เนื้อแดงประกอบไปด้วยไขมันอิ่มตัว ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ การบริโภคเนื้อแดงแต่น้อยจึงทำให้ความเสี่ยงเป็นมะเร็งน้อยลง และลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ เพราะการกินเนื้อแดงน้อย จะส่งผลให้ความดันเลือดและระดับคอเลสเตอรอลลดลง

ข้อมูลจาก นสพ มติขน รายวัน

1 เมษายน 2552

ฟันธงกิน"เนื้อแดง"มาก เพิ่มเสี่ยงป่วยมะเร็ง-โรคหัวใจ - สาเหตุทำไมชาวอเมริกันมีผู้ป่วยโรคมะเร็ง และ หัวใจ สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
****************************************

เวปน่าสนใจ มีสาระ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า เพื่อลด ความเสี่ยงจากโรคมะเร็งร้าย


http://www.watisan.com/showdetail.asp?boardid=1080

เอกสาร งานวิจัย ที่น่าสนใจจาก ตปท เพื่อสุขภาพที่ดี กว่า ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งร้าย

for your healthy life เพื่อสุขภาพที่ดี กว่า ลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งร้าย โรคหัวใจ

http://www.watisan.com/showdetail.asp?boardid=1080
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 12:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2008, 20:41
โพสต์: 448

ที่อยู่: bangkok, Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว




cn10.jpg
cn10.jpg [ 125.41 KiB | เปิดดู 6448 ครั้ง ]
งานวิจัยล่าสุดเรือง โรคมะเร็งร้าย



-----
Red meat links to various kinds of Cancer risk esp the Breast Cancer
in women and also the colon cancer - new finding from the latest study
and research by several international renowned medics institues and
the World Cancer Research Forum

*****************************************************************************

จากผลการศึกษา วิจัยล่าสุดจากหลาย ๆ หน่วยงานศึกษา
วิจัยโรคมะเร็ง ได้ข้อมูลใหม่ ๆ ว่า เนื้อสัตว์แดง มีส่วนสำคัญ
เป็นอย่างยิ่งต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม และ
มะเร็งลำไส้ ที่ผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศ
ตะวันตก และรุกลามมาทางแถบเอเซีย ปีละหลาย ๆ สิบล้าน
คน ในไทย ตกว้นละกว่า 200 คน หรือปีละนับเกือบแสนราย

นอกจากนี้ยังข้อมูลใหม่ ของโรคมะเร็งตับอ่อน และ มะเร็ง
ต่อมน้ำเหลือง มีส่วนโยงไยถึงการบริโภคเนื้อสัตว์ จากการ
เก็บข้อมูล และ วิจัยจากผู้ป่วยหลาย ๆ แสนคน จากข้อมูล
ล่าสุดโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาวาด สหรัฐ ที่มีการศึกษา
วิจัยจากผู้ป่วยโรคมะเร็งกว่า 500000 คน ใช้เวลากว่า 7 ปี



ยังมีข้อมูลอีกมากมาย จากผลศึกษาทางวิทยาศาสตร์ และ
ทางการแพทย์ โดยคณะผู้เชียวชาญโรคมะเร็ง

ทางการไทยไม่ค่อยยอมที่จะเปิดเผยข่าวที่มีการศึกษาวิจัย
ล่าสุดทางการแพทย์ เนื่องจากหลายหน่วยงานราชการมี
ส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์การค้าขายยาข้ามชาติ ซึ่ง
มีผลประโยชน์ตอบแทนมหาศาล นับแสนล้านบาทต่อปี

ระวังอันตรายโรคมะเร็งร้าย มีโอกาสรักษาและรอดชีวิตไม่
มากถึงแม้จะเสียค้าใช้จ่ายนับล้าน บาท เพียงเพือพยุงชีวิต
หรือต่ออายุเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น

น้อยคนนักที่จะรู้ว่ายังมีคนไทยป่วยโรคมะเร็ง นับล้าน
คน หรืออาจมากกว่า 3 ล้าน คน ที่รอการบำบัดรักษา
****************************************************

ภัยเงียบ...มะเร็งลำไส้ใหญ่ / อ.นพ.วรมินทร์ เหรียญสุวรรณ ศัลยแพทย์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 สิงหาคม 2551 08:27 น.

คอลัมน์สายตรงสุขภาพกับศิริราช

ทุกวันนี้ โรคมะเร็ง ยังเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของคนในโลกรวมทั้งในประเทศไทย ยิ่งมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยแล้ว มีแนวโน้มผู้ป่วยด้วยโรคนี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วรำ

มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคที่มีอุบัติการณ์สูงในประเทศแถบตะวันตก เช่น สหรัฐอเมริกา และ ประเทศทางยุโรป ในสหรัฐอเมริกา ประชากรมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ตลอดชีวิตประมาณร้อยละ 6 หรือ 1 ต่อ 20 ของประชากร ประมาณการว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้น 138,000 รายต่อปี และจะมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ประมาณ 60,000 คนต่อปี



มะเร็งลำไส้ใหญ่และการตรวจสวนแป้งลำไส้ใหญ่ (Barium Enema)


สำหรับประเทศไทย มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีอุบัติการณ์ต่ำกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว จากสถิติของสถานวิทยามะเร็ง โรงพยาบาลศิริราชพบว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีอุบัติการณ์สูงเป็นอันดับ 4 ในเพศชาย (รองจากมะเร็งตับ ปอด และ ต่อมลูกหมาก) ส่วนในเพศหญิงพบมากเป็นอันดับ 3 (รองจากมะเร็งปากมดลูกและ เต้านม)
ใครมีโอกาสเสี่ยงสูง

ถึงแม้ว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจเกิดขึ้นได้ในทุกอายุ แต่อัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะสูงขึ้นในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะถูกวินิจฉัยในช่วงอายุระหว่าง 50-70 ปี นอกจากนี้อัตราเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคลำไส้อักเสบบางชนิด (Crohn’s disease และ Ulcerative colitis) ผู้ที่มีประวัติมีติ่งเนื้องอก (Polyp) ในลำไส้ใหญ่ หรือมีประวัติโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว

อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่จำนวนมากจะไม่มีอาการให้เห็นในระยะแรกๆ จนกว่าตัวเนื้องอกจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ หากสามารถตรวจพบก้อนเนื้องอกในระยะเริ่มแรกหรือพบในขณะที่เป็นติ่งเนื้องอก (Polyp) ผลการรักษาจะดีและมีโอกาสหายขาดได้ ดังนั้นจึงมีคำแนะนำให้มีการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งแต่ไม่มีอาการ

อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่พบบ่อย ได้แก่ อาการถ่ายอุจจาระมีมูกปน หรือมีเลือดออกทางทวารหนัก มีการถ่ายอุจจาระที่ผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ท้องผูก ท้องเสียที่ไม่หายหลังได้รับการรักษา หรือมีท้องผูกสลับท้องเสีย อาการอื่นๆที่อาจจะพบได้คือ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร สำหรับมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนต้นอาจตรวจพบว่ามีอาการซีดซึ่งเกิดจากการเสียเลือดโดยที่ไม่มีเลือดออกในอุจจาระให้เห็นได้ด้วยตาเปล่า อาจคลำพบก้อนที่บริเวณท้องน้อยด้านขวา ผู้ป่วยบางรายอาจมาพบแพทย์ด้วยอาการของลำไส้อุดตันซึ่งจะมีอาการปวดท้อง ท้องอืด อาเจียน และถ่ายอุจจาระ หรือผายลมลดลง



การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)


การรักษา
มะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถรักษาโดยการผ่าตัดเอาลำไส้ส่วนที่มีมะเร็งรวมถึงเส้นเลือดและต่อมน้ำเหลืองบริเวณเนื้องอกออก ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ลำไส้จะถูกต่อเข้าหากันใหม่และผู้ป่วยจะสามารถถ่ายอุจจาระทางทวารหนักได้ตามปกติ โดยปกติการผ่าตัดจะทำผ่านแผลผ่าตัดทางหน้าท้อง ในปัจจุบันศัลยแพทย์สามารถทำการผ่าตัดโดยใช้ กล้อง(Laparoscopic Surgery) ในผู้ป่วยที่มีเนื้องอกขนาดเล็ก ซึ่งจะทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลงและผู้ป่วยจะมีอาการปวดบริเวณแผลหลังผ่าตัดลดลง
ถ้ามะเร็งเกิดขึ้นที่บริเวณลำไส้ตรงส่วนปลาย หรือทวารหนัก และก้อนเนื้องอกอยู่ในระยะเริ่มแรก การผ่าตัดสามารถทำได้โดยตัดเอาเนื้องอกออกผ่านทางทวารหนัก อย่างไรก็ตามถ้าก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่และใกล้ปากทวารหนักมาก การผ่าตัดอาจจะต้องผ่าตัดเอาทั้งลำไส้ตรงและทวารหนักออกทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถต่อลำไส้เข้าหากันได้ ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องมีลำไส้เทียมมาเปิดที่ผนังหน้าท้องสำหรับการถ่ายอุจจาระ

หากตรวจพบว่ามะเร็งกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองแล้ว ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาเพิ่มเติมโดยการให้ยาเคมีบำบัดและถ้าเนื้องอกอยู่ในตำแหน่งลำไส้ตรงส่วนปลายหรือทวารหนัก ผู้ป่วยอาจจะต้องได้รับการฉายรังสีเพิ่มเติม
ป้องกันได้หรือไม่

แนวทางการป้องกันโรคนี้คือ ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงเช่น ผักและผลไม้ รวมไปถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันต่ำจะช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดลง อย่างไรก็ตามเป็นที่ยอมรับว่า การตรวจคัดกรองสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ในผู้ที่ไม่มีอาการและไม่มีปัจจัยเสี่ยงควรเริ่มต้นที่อายุ 50 ปี สำหรับผู้ที่มีประวัติมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว ควรเริ่มตรวจคัดกรองที่อายุ 40 ปีหรือที่อายุ 5 ปีก่อนอายุของคนในครอบครัวที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนผู้ที่มีประวัติเป็นลำไส้อักเสบชนิด Crohn’s disease และ Ulcerative colitis หรือ ผู้ป่วยที่มีติ่งเนื้องอกจำนวนมาก (Polyposis Coli) การตรวจอาจเริ่มในอายุที่เร็วขึ้นโดยสามารถปรึกษาแพทย์ของท่านได้



ติ่งเนื้องอก (Polyp) และการตัดติ่งเนื้องอกผ่านทางกล้อง (Polypectomy)


วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่มีหลายวิธีดังนี้
* การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) ทุก 5 ถึง 10 ปี หรือ
* ตรวจอุจจาระหาเลือดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (Fecal Occult Blood Test) ทุกปี หรือ
* การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย (Sigmoidoscopy) ร่วมกับ การตรวจสวนแป้งลำไส้ใหญ่ (Barium Enema) ทุก 5 ปี
จะเห็นได้ว่าการตรวจคัดกรองมีความสำคัญ เนื่องจากก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ขึ้น จะมีความผิดปกติเริ่มจากการเกิดมีติ่งเนื้องอก (Polyp) ขึ้นมาก่อน ดังนั้นถ้าสามารถส่องกล้องลำไส้ใหญ่และตรวจพบติ่งเนื้องอกได้ตั้งแต่ไม่มีอาการ แพทย์จะสามารถตัดติ่งเนื้องอกผ่านทางกล้อง (Polypectomy) โดยไม่ต้องทำผ่าตัดซึ่งจะเป็นการป้องกันการเกิดเป็นมะเร็งขึ้น

โดยสรุปหากแก้ไขพฤติกรรมการบริโภคและหมั่นสำรวจสุขภาพระบบขับถ่ายของคุณ จะทำให้มะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่สามารถทำร้ายคุณได้

หลีกเลี่ยง ลด ละ เลิกบริโภคเนื้อสัตว์ ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร้งร้ายนานาชนิด
คำยืนยันจาก ทีมคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังแห่งสหรัฐ
สถาบันศึกษา และ วิจัยโรคมะเร็ง สหรัฐ





-----
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 15:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว




34_20080626110718_.jpg
34_20080626110718_.jpg [ 28.33 KiB | เปิดดู 6434 ครั้ง ]
บัวศกล เขียน:
คุณnatdanai เล่นแจงละเอียด

แล้วท่านผู้เลี้ยงดูสัตว์ประหลาด

ท่านจะเอาหน้าไปซุกมุมไหน



หากคิดเมตตา กรุณาทำไม่รู้ไม่ชี้เสียบ้างนะท่านนะ

:b29: :b29: :b29:

คุณนั่นแหละ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ :b32: :b32: :b32:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 15:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว




horse-picture-brazil-a-velhaca-Eduardo-Amorim-horse-best-picture-gallery.jpg
horse-picture-brazil-a-velhaca-Eduardo-Amorim-horse-best-picture-gallery.jpg [ 177.01 KiB | เปิดดู 6430 ครั้ง ]
aongkod.jpg
aongkod.jpg [ 56.8 KiB | เปิดดู 6427 ครั้ง ]
Naruto_Kyubi_contre_sasuke_by_Itakusama.jpg
Naruto_Kyubi_contre_sasuke_by_Itakusama.jpg [ 56.5 KiB | เปิดดู 6424 ครั้ง ]
natdanai เขียน:
สารประเภทนี้(เขาเรียกกันว่า อนุมูนอิสระ รึป่าวไม่รู้)มีอยู่ในสัตว์ที่มีวิญญาณครอง ไม่เฉพาะวัว แม้กระทั่งมนุษย์ เมื่อเกิดความเครียดก็จะหลั่งสารประเภทนี้ออกมา แต่ตามธรรมชาติแล้วร่างกายที่สมดุลย์(สมบูรณ์แข็งแรง)จะสามารถขับถ่ายสารเหล่านี้ออกจากร่างกายได้ แต่ก็ได้ตาม อัตตภาพ(ตามสภาพร่างกาย)เพราะร่างกายมันเป็นอนิจจังครับ

การกินเนื้อสัตว์ที่มีความเครียดสูงก่อนตายนั้นก็เป็นธรรมดาที่จะมีสารประเภทนี้สะสมอยู่ในเนื้อเหล่านั้นในปริมาณที่สูง(เพราะไม่ได้ถูกขับถ่ายออก) แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสาเหตุหลักของมะเร็ง เพราะหากคนที่กินเนื้อสัตว์ที่มีสารเหล่านี้สะสม แต่คนๆนั้นเป็นคนที่มีสุขภาพกายดี(สมดุลย์) สุขภาพจิตดี(จิตใจผ่องใส) ร่างกายก็ไมหลั่งสารก่อมะเร็งที่ว่านั่น แล้วไอ้ที่กินเข้าไปก็จะถูกขับถ่ายออกมาหมด
กลับกัน...คนที่ไม่กินเนื้อสัตว์เพราะจิตใจจดจ่ออยู่แต่ว่าไอ้นี่กินไม่ได้เดี๋ยวเป็นโรคนั่น โรคนี่ ระแวงกลัวตาย กลัวเจ็บป่วย กลัวความสูญเสีย ฯลฯ คนเหล่านี้ มีชีวิตอยู่บนความเครียด ร่างกายก็จะหลั่งสารก่อมะเร็งที่ว่านี้ออกมาอยู่เรื่อย ๆ ร่างกายก็จะเสียดุลย์ ระบบขับถ่ายก็ผิดปกติ สารก่อมะเร็งจึงสะสมอยู่ในร่างกายเพราะขับถ่ายออกไม่ทันกับที่หลั่งออกมา และก็เป็นมะเร็งได้เหมือนกัน

ทั้งนี้ไม่ได้มาคัดค้าน จขกท นะครับ

เพราะความจริงแล้วการรักษาสมดุลย์ของร่างกายก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกินเนื้อสัตว์...แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลิกกินเช่นกัน...

และอีกอย่างนึงคือ...ความเจ็บป่วยนั้นเป็นผลกรรมของเราเอง

บ้านป้าคุณสิ เชิญกินเข้าไปเหอะ จะได้เป็นมะเร็งสมใจ ถ้าคุณมั่นใจนักหน่ะนะ คุณมันไม่มีค่าให้ผมแคหรอก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 15:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว




White_Lion.jpg
White_Lion.jpg [ 148.72 KiB | เปิดดู 6418 ครั้ง ]
บัวศกล เขียน:
คุณnatdanai เล่นแจงละเอียด

แล้วท่านผู้เลี้ยงดูสัตว์ประหลาด

ท่านจะเอาหน้าไปซุกมุมไหน



หากคิดเมตตา กรุณาทำไม่รู้ไม่ชี้เสียบ้างนะท่านนะ

:b29: :b29: :b29:

มันเป็นเรื่องของคุณตรงไหนเหรอ อย่า............. หน่อยเลยน่า
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 15:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b10: :b10: :b10:

ป้ากระผมนับถือเจ้าแม่กวนอิม....ไม่ทานเนื้อวัวครับ....และเขาก็อยู่บ้านเฉยๆ คุณจะไปยุ่งกะท่านทำไมครับ :b10:

และเริ่มจะรู้สึกว่าคุณไม่มีปัญญามากพอที่จะพิจารณาธรรมที่กระผมแสดงไป..... :b6: :b6:

พระจึงมักเตือนว่า

"ธรรมสูงอย่าแสดงกับคนปัญญาต่ำ"

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 15:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว




คำอธิบาย: ไอ้กิ้งก่าเปลี่ยนสีได้ เข้าใจไหมไอ้โง่
1143293268.jpg
1143293268.jpg [ 21.44 KiB | เปิดดู 6408 ครั้ง ]
natdanai เขียน:
:b10: :b10: :b10:

ป้ากระผมนับถือเจ้าแม่กวนอิม....ไม่ทานเนื้อวัวครับ....และเขาก็อยู่บ้านเฉยๆ คุณจะไปยุ่งกะท่านทำไมครับ :b10:

และเริ่มจะรู้สึกว่าคุณไม่มีปัญญามากพอที่จะพิจารณาธรรมที่กระผมแสดงไป..... :b6: :b6:

พระจึงมักเตือนว่า

"ธรรมสูงอย่าแสดงกับคนปัญญาต่ำ"

พระท่านเตือนผมต่างหาก ว่าอย่าแสดงธรรมกับคุณ เพราะคุณหาเรื่องก่อน อย่ามาบังอาจทำผิดไม่ยอมรับผิดนะ มันเป็นการกระทำของสวะ พวกเห็นแก่ตัว คุณมันก็แค่คนเห็นแก่ตัวที่ว่าคนอื่นได้แต่คนอื่นว่ากลับไม่ได้ ผมไม่ได้ด่าป้าคุณ ผมด่าคุณ แต่ผมเอ่ยถึงบ้านป้าคุณไม่ได้เอ่ยถึงป้าคุณ อ่านภาษาไทยไม่ออกเหรอ ไอ้คนปัญญาต่ำ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 15:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
:b10: :b10: :b10:

ป้ากระผมนับถือเจ้าแม่กวนอิม....ไม่ทานเนื้อวัวครับ....และเขาก็อยู่บ้านเฉยๆ คุณจะไปยุ่งกะท่านทำไมครับ :b10:

และเริ่มจะรู้สึกว่าคุณไม่มีปัญญามากพอที่จะพิจารณาธรรมที่กระผมแสดงไป..... :b6: :b6:

พระจึงมักเตือนว่า

"ธรรมสูงอย่าแสดงกับคนปัญญาต่ำ"

จำไว้เลยนะ ว่าแกมันใจหยาบช้ามากเลย ที่เขียนวิทยาศาสตร์บวมๆของแกนั่นหน่ะ
ข้าก็เรียนวิทย์โว้ย ของแกหน่ะมันข่าวเก่าแล้ว หัดศึกษาเพิ่มเติมเสียบ้างสิ แล้วมาหาว่าที่แกเขียนมันสูงส่ง สูงในยุคแกหน่ะสิ ไอ้ตกยุคเอ้ย เขียนแบบนี้ก็สวยสิวะ เป็นไงเป็นกันโว้ย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร