วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 03:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2009, 20:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


สูตรที่ 1. ท่านใดปวดตามแข้งขาหัวเข่า ให้ใบหญ้านางที่เราแกงใส่หน่อไม้นั้นแหละ นำมาตำในครกหรือใส่เครื่องปั่นก็ได้ให้ละเอียด แล้วกรองด้วยผ้าขาวที่สะอาด ใส่เกลือสักเล็กน้อยเพื่อให้เกิดรสชาติ ทำแช่่ตู้เย็นไว้เลย แล้วดื่มตอนเช้า 1 แก้ว ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ ตอนเย็นก่อนนอน 1 แก้ว ถ้ามันปวดมากเท่าไหร่ให้ดื่มไปอย่าได้หยุด ประมาณอาทิตย์หรือ 10 กว่าวันอาการก็หายปวด และให้ดื่มไปจนได้ 1 เดือน ถ้าหายดีแล้วไม่ต้องดื่มอีกก็ได้

สิ่งที่ควรงดเว้นไม่ว่าจะปวดหรือไม่ก็ตาม อย่าทานของ 3 อย่างนี้ ไก่ หน่อไม้ เนื้อ โดยเฉพาะที่ปวดหัวเข่าอย่าทานหน่อไม้เป็นอันขาด ?

สูตรที่ 2. ให้เอาเม็ดมะรุมที่แห้งอยู่ตามต้น นำมาปอกเอาเม็ดมัน เคี้ยวกินก่อนนอนวันละ 4 เมล็ด กินอยู่ประมาณ 15 วันก็จะหายปวดหัวเข่า และห้ามทานของสามอย่างนั้นเหมือน โดยเฉพาะพวกเป็นโรคเก๊า โรคสิบ อะไรนั้นอย่าทานได้เป็นดีที่สุด

ทานใดนำไปรับประทานหายแล้วช่วยทำบุญสังฆทานไปให้เจ้ากรรมนายเวร พ่อแม่พี่น้องที่มีชีวิตอยู่ก็ดีที่ไม่มีชีวิตอยู่ก็ดี ให้ได้ส่วนบุญที่เราทำไปให้นี้ด้วยเทอญฯ

ป.ล ได้ใช้รักษาตัวเองจนหายเป็นปกติแล้วจึงนำมาบอกเป็นทาน

ในปี 2548 ปวดหัวเข่าบวมทั้งสองข้างไปไหนไม่ได้อยู่เป็นเวลา 3 เดือนกว่า หายาที่ไหนมาทาน

ก็ไม่หาย พอเอาใบหญ้้านางมาปั่นทานเช้าเย็นอยู่ประมาณ20 กว่าวันก็เดินได้เป็นปกติ

จนทุกวันนี้ แต่สิ่งที่ให้เว้นอย่าทานเลยนะ เพราะตัวเองลองทีไรได้เรื่องทุกที่เลย

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2009, 14:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณมากๆ หลายๆ เด้อครับ :b12: ท่าน tanaphomcinta
:b1: :b12: :b16: :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2009, 20:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 16:30
โพสต์: 133

อายุ: 0
ที่อยู่: Uttaradit

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากครับ

.....................................................
" สติปัญญา เราใช้ปัญญาอยู่เสมอก็จริง แต่สตินั้นแท้จริงแล้ว เรานำออกมาใช้น้อยนัก ทั้งที่สตินั้นมีคุณค่าแก่ชีวิต มีคุณค่าอย่างเหลือที่จะประมาณ "


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2009, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: อนุโมทนาขอรับพระคุณเจ้า
และขอโอกาสแก้ภาษาไทยให้ถูกต้องดังนี้ขอรับ
:b5: :b1:

อ้างคำพูด:
สูตรที่ 1. ท่านใดปวดตามแข้งขาหัวเข่า ให้ใบญ้านางที่เราแกงใส่หน่อไม้นั้นแหละ นำมาตำในครกหรือใส่เครื่องปันก็ได้ให้ระเอียด แล้วกองด้วยผ้าขาวที่สะอาด ใส่เกลือสักเล็กน้อยเพื่อให้เกิดรสชาติ ทำแซ่ตู้เย็นไว้เลย แล้วดื่มตอนช้าว 1 แก้ว ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ ตอนเย็นก่อนนอน 1 แก้ว ถ้ามันปวดมากเท่าไหร่ให้ดื่มไปอย่าได้หยุด ประมาณอาทิตย์หรือ 10 กว่าวันอาการก็หายปวด และให้ดื่มไปจนได้ 1 เดือน ถ้าหายดีแล้วไม่ต้องดื่มอีกก็ได้

สิ่งที่ควรงดเว้นไม่ว่าจะปวดหรือ ไม่ก็ตาม อย่าทานของ 3 อย่างนี้ ไก่ หน่อไม้ เนื้อ โดยฉะเพราะที่ปวดหัวเข่าอย่าทานหน่อไม้เป็นอันขาด ?


ใบญ้านาง แก้เป็น หญ้านาง

แซ่ตู้เย็นแก้เป็น แช่ตู้เย็น

ตอนช้าวแก้เป็น ตอนเช้า

โดยฉะเพราะแก้เป็น โดยเฉพาะ

อ้างคำพูด:
สูตรที่ 2. ให้เอาเม็ดมะรุมที่แห้งอยู่ตามต้น นำมาปลอกเอาเมล็ดมัน เคลี้ยวกินก่อนนอนวันละ 4 เมล็ด กินอยู่ประมาณ 15 วันก็จะหายปวดหัวเข่า และห้ามทานของสามอย่างนั้นเหมือน โดยฉะเพราะพวกเป็นโรคเก้า โรคสิบ อะไรนั้นอย่าทานได้เป็นดีที่สุด


เม็ดมะรุม--เอาเมล็ดมันแก้เป็น เม็ดมะรุม--เอาเม็ดมัน

นำมาปลอกแก้เป็น นำมาปอก

โดยฉะเพราะแก้เป็น โดยเฉพาะ

โรคเก้าแก้เป็น โรคเก๊า

อย่างไรก็กราบเรียนเชิญพระคุณเจ้าเป็นผู้นำในการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องด้วยนะขอรับ เพราะเวลานี้ภาษานี้มีการเขียนแปลกขึ้นจนเกือบจำไม่ได้ แล้ว น่าเป็นห่วงมากขอรับ..

กราบขออโหสิกรรมหากเห็นว่าไม่สมควรขอรับ
:b53: :b53: :b53: :b8: :b8: :b8: :b53: :b53: :b53:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2009, 20:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


สาธุสาธุสาธุ และสาธุ ท่าน ddt เอ ท่านdd เฉยๆ ก็จะเอาอะไรกะคน จ.ป.4 น้อ

ขอน้อมรับเอาขุมทรัพย์ที่ท่านได้มอบให้ อย่างนี้สิ ถืงถือว่าคนเรารักกันจริง

มีอะไรก็บอกแนะนำกันอย่างนี้แหละถือว่าเป็นพระคุณอย่างมโหฬารเลยละฮิฮิฮิ

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 07:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กราบขอขมาพระคุณเจ้า ผมก็เป็นคนรักจริง

หรือถ้ายังไม่ได้รักจริงก็อยากเป็นคนรักจริง กับพระคุณเจ้าบ้าง

จึงขออนุญาติแก้ บางประการที่คิดว่าน่าจะผิด เช่น

พระภิกษุ ที่เป็นหมอยา

พระพุทธเจ้าห้าม ให้ภิกษุเป็นหมอยา


:b8: :b8: :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 10:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


บัวศกล เขียน:
กราบขอขมาพระคุณเจ้า ผมก็เป็นคนรักจริง

หรือถ้ายังไม่ได้รักจริงก็อยากเป็นคนรักจริง กับพระคุณเจ้าบ้าง

จึงขออนุญาติแก้ บางประการที่คิดว่าน่าจะผิด เช่น

พระภิกษุ ที่เป็นหมอยา

พระพุทธเจ้าห้าม ให้ภิกษุเป็นหมอยา


:b8: :b8: :b8: :b8: :b8:


:b8: :b8: :b8: ไม่นะ ไม่ได้เป็นหมอยาเลย เป็นแต่เพียงผู้บอกยา

เพราะว่าคนเองได้หายจากโรคนี้ก็เพราะยานี้ๆ ก็เลยบอกต่อให้เป็นทานก็เท่านั้นเอง

ยอมรับว่ามียาออกเหล้าให้เขามาฝนทานเอาเอง เพราะตัวเองไม่มีแรงฝนอิ

แต่ไม่มียาออกจากกิเลสนะอิ ยาออกเหล้าก็พอที่จะสงเคราะห์เขาได้บ้าง

แต่ก็นานๆที ไม่ได้เรียกร้องให้ก็เอา ไม่ให้ก็เอา คือเอาใจใส่เขาเสมอนกันนะฮิฮิฮิ

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 10:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุกับหลวงพ่อด้วยครับ

ผมก็คิดว่าผมทราบว่าหลวงพ่อต้องไม่ใช่พระหมอยาแน่ๆ

จึงลองโยนหินถามทางดู

เมื่อหลวงพ่อตอบออกมาอย่างนี้ คำตอบของหลวงพ่อ
ก็จะช่วยให้ หลวงพ่อ บริสุทธิ์สะอาดไม่ด่างพร้อย
เผื่อว่าผู้ผ่านทางผ่านมา อาจคิดว่าหลวงพ่อเป็นพระหมอยา
เขาจะได้เปลี่ยนความเข้าใจซะใหม่.............ว่าจริงแล้วมิได้เป็นเช่นนั้น


กราบขอบคุณที่ตอบครับ


:b8: :b8: :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 04:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


บัวศกล เขียน:
ขออนุโมทนาสาธุกับหลวงพ่อด้วยครับ

ผมก็คิดว่าผมทราบว่าหลวงพ่อต้องไม่ใช่พระหมอยาแน่ๆ

จึงลองโยนหินถามทางดู

เมื่อหลวงพ่อตอบออกมาอย่างนี้ คำตอบของหลวงพ่อ
ก็จะช่วยให้ หลวงพ่อ บริสุทธิ์สะอาดไม่ด่างพร้อย
เผื่อว่าผู้ผ่านทางผ่านมา อาจคิดว่าหลวงพ่อเป็นพระหมอยา
เขาจะได้เปลี่ยนความเข้าใจซะใหม่.............ว่าจริงแล้วมิได้เป็นเช่นนั้น


กราบขอบคุณที่ตอบครับ


:b8: :b8: :b8: :b8: :b8:



สาธุ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 16:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ.............. :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร