วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 23:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 00:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


เข้าใจฌาน และ วิโมกข์ 8
ฌานมี 2 แบบคือในทางพระอภิธรรม และ ทางพระสูตร
ฌานสมาบัติในทางพระสูตรจะกล่าวได้ดั้งนี้
ทางพระสูตร ฌานมี 8 ขั้น แบ่งเป็น รูปฌาน 4 และ อรูปฌาน 4
รูปฌาน มี ดั้งนี้ ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุถะฌาน
อรูปฌานมี 4ขั้น คือ
1.อากาสานัญจายตะ คือ อรูปฌานที่หมายเอาว่าอากาศไม่มีที่สิ้นสุด
2.วิญญาณัญจายตะ คือ อรูปฌานที่หมายเอาว่าวิญญาณไม่มีที่สิ้นสุด
3.อากิญจัญญายตนะ คือ อรูปฌานที่หมายเอาว่าในโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรเลย
4.เนวสัญญานาสัญญายตนะ คือ อรูปฌานที่หมายเอามีสัญญาก็ไม่ใช่ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่
องค์ฌาน
วิตก คือ การกำหนดจิตนึกถึงองค์ภาวนา เช่น ใช้องค์ภาวนาพุทโธ ก็เอาจิตมากำหนดอยู่กับพุทโธ
วิจาร คือ การใคร่ครวญอยู่ในองค์ภาวนา เช่น เมื่อใช้องค์ภาวนาพุทโธ ก็ให้รู้แจ้งในองค์ภาวนาพุทโธ
ปิติ คือ ความปลาบปลื้มเอิบอิ่มใจ มีจิตใจชุ่มชื่นเบิกบาน ไม่อิ่มไม่เบื่อในการเจริญภาวนา อารมณ์ผ่องใส
อาการของ ปิติ มี 5 อย่าง คือ
1.ขณิกกาปิติ คือ อาการปิติเพียงเล็กน้อย
2.ขุททกาปิติ คือ อาการปิติน้ำตาลไหล ขนลุกขนชัน
3.โอกกันติกาปิติ คือ อาการปิติตัวโยกตัวโคลงตัวไหว
4.อุเพ็งคาปิติ คือ อาการปิติแบบลอย
5.ผรณาปิติ คือ อาการปิติแบบรู้สึกตัวพอง
สุข คือ ความสุขชื่นบาน เป็นความสุขที่ละเอียดอ่อน ไม่เคยปรากฏการณ์มาก่อนเลยในชีวิต จะนั่งสมาธินานแสนนานก็ไม่รู้สึกปวดเมื่อย อาการปวดเมื่อยจะมีก็ต่อเมื่อคลายสมาธิแล้ว ส่วนจิตใจ มีความสุขสำราญตลอดเวลา สมาธิก็ตั้งมั่นมากขึ้น
เอกัคคตา คือ มีจิตที่เป็นหนึ่ง
องค์ฌานในแต่ละฌาน
1.ปฐมฌาน มี องค์ฌาน คือ วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา
2.ทุติยฌาน มี องค์ฌาน คือ ปิติ สุข เอกัคคตา
3.ตติยฌาน มี องค์ฌาน คือ สุข เอกัคคตา
4.จตุถะฌาน มี องค์ฌาน คือ อุเบกขา เอกัคคตา
ในทางพระอภิธรรม จะมี
1.ปฐมฌาณ มีองค์ฌาน คือ วิตก
2.ทุติยฌาน มีองค์ฌาน คือ วิจาร
3.ตติยฌาน มีองค์ฌาน คือ ปิติ
4.จตุถะฌาน มีองค์ฌาน คือ สุข
5.ปัจมฌาน มีองค์ฌาน คือ เอกัคคตา
รูปฌาน 5 องค์ธรรม
1.ปฐมฌาณ มีองค์ฌาน คือ วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา
2.ทุติยฌาน มีองค์ฌาน คือ วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา
3.ตติยฌาน มีองค์ฌาน คือ ปิติ สุข เอกัคคตา
4.จตุถะฌาน มีองค์ฌาน คือ สุข เอกัคคตา
5.ปัจมฌาน มีองค์ฌาน คือ อุเบกขา เอกัคคตา

วิโมกข์ ( ความหลุดพ้น ) ๘

ทรงแสดงวิโมกข์ ๘ แก่พระอานนท์ต่อไป คือ :-
๑. บุคคลมีรูป เห็นรูป.
๒. บุคคลมีความกำหนดหมายในสิ่งไม่มีรูป เห็นรูปภายนอก.
๓. บุคคลน้อมใจว่า “ งาม .”
๔. บุคคลทำไว้ในใจว่า อากาศไม่มีที่สุด เข้าถึงอากาสานัญจายตนะ.
๕. บุคคลทำไว้ในใจว่า วิญญาณไม่มีที่สุด เข้าถึงวิญญาณณัญจายตนะ.
๖. บุคคลทำไว้ในใจว่า ไม่มีอะไร เข้าถึงอากิญจัญญายตนะ.
๗. บุคคลก้าวล่วงอากิญจัญญายตนะ เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ.
๘. บุคคลก้าวล่วงเนวสัญญานาสัญญายตนะ เข้าถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ. ๘
สรุปเกี่ยวกับวิโมกข์ ๘ ภิกษุเข้าสู่วิโมกข์ ๘ นี้ ได้ทั้งอนุโลม ( ตามลำดับ ) และปฏิโลม ( ถอยกลับจากหลังไปหาหน้า) เข้าได้ออกตามต้องการ ย่อมทำให้แจ้ง ( บรรลุ ) ความหลุดพ้นด้วยสมาธิ ( เจโตวิมุติ ) และความหลุดพ้นด้วยปัญญา ( ปัญญาวิมุติ ) อันไม่มีอาสวะ เพราะสิ้นอาสวะได้ในปัจจุบัน ภิกษุนี้ เรียกว่าอภุโตภาควิมุต ( ผู้พ้นทั้งสองทาง ) ไม่มีอุภโตภาควิมุตอย่างอื่นยอดเยี่ยมกว่า ประณีตกว่า. เมื่อจบพระธรรมเทศนา พระอานนท์ก็ชื่นชมภาษิตของพระของพระผู้มีพระภาค

***********************************************

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 08:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถอดสภาวะออกมาดีกว่า อารมณ์สมาธิ ชั้นขณิกสมาธิเป็นอย่างไร
อุปจารสมาธิเป็นอย่างไร อารมณ์ของฌาณ การหยั่งลงสู่ฌาณ
การถอยออกจากฌาณ และการทรงฌาณ ในระดับต่างๆนั้นเป็นอย่างไร

กางตำรามาร่ายเรียง มันก็เห็นเพียงแค่ตัวตำรา ที่มากมายไร้พลัง
อยากเห็นสภาวะที่เป็นของจริงที่ตัวคุณมี

เนื้อหาจากตำรามีมากมายอยู่แล้วเกลื่อนกร่น
จะตั้งกระทู้ทั้งที อยากได้ที่เป็นของตัวคุณเอง
มีอยู่ในตัวคุณเอง ถอดออกมาจากชีวิตจิตใจ และคุณธรรมภายในของตัวคุณเอง

ขอโทษทีที่อยากกล่าวอะไรตรงๆจากใจบ้าง...........เพราะผมเบื่อตำราเต็มที

:b38: :b38: :b41:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร