วันเวลาปัจจุบัน 25 มิ.ย. 2025, 03:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 187 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 13  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 21:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คนขวางโลก เขียน:
ตอนตั้งกระทู้ผมก็คิดแล้วครับว่า มันจะต้องเป็นอย่างนี้แหละครับคุณไม่สายเกินไป

อ้างคำพูด:
หลวงตาที่ไม่เคยเอ่ยอ้างเรื่องพระไตรปิฏกให้ฟัง มีแต่บอกว่า
พระพุทธเจ้าท่านเป็นตัวอย่างที่ดีนะลูกนะ อยากเป็นคนดีต้องทำดีแบบที่พระพุทธเจ้า
ท่านทำให้ไว้ให้เห็นเป็นตัวอย่างนะลูกนะ


ที่หลวงตาไม่อ้างเรื่องพระไตรปิฎกก็คงเพราะมันเกินวิสัยของคุณวิลัยพรในตอนนั้นมั้งครับ

และบอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่างที่ดี อยากดีก็ต้องทำตามพระพุทธเจ้า แล้วรู้ไหมหละว่าท่านทำอะไรไว้ ก็ไม่รู้เพราะไม่ได้ศึกษา แล้วก็พากันด้นเดาไปทั่วว่า แบบนี้มันต้องใช่ ก็พากันทำตามๆ กันมา
เมื่อคุณวิลัยพรโตพอแล้วก็ไม่คิดจะศึกษาพระไตรปิฎกบ้างเหรอ ว่าสิ่งไหนที่หลวงตาท่านสอนว่า อยากเป็นคนดีต้องทำดีแบบที่พระพุทธเจ้าท่านทำให้ไว้ให้เห็นเป็นตัวอย่างนะลูกนะ ว่ามันคืออะไร อยู่ตรงไหนและกล่าวไว้ว่าอย่างไร

คุณวิลัยพรครับ ถ้าสิ่งที่คุณเอามากล่าวนั้นมันมีแต่ด้านดีอย่างที่คุณว่ามาจริงๆ ก็เอาข้อมูลมานำเสนอครับ เห็นส่วนมากคุณก็พูดซะสวยหรูเลยเพราะคุณก็ว่าสิ่งที่คุณรู้ คุณคิดมันถูกต้องสวยหรูแน่แท้และแน่นอน(ล้อเล่นนะ) ส่วนความคิดของผมมันระเกะระกะ(นี่จริงครับ) คุณก็ลองสละเวลาสักนิดไปศึกษาค้นคว้าในพระไตรปิฎกบ้างสิว่า สิ่งที่ผมทำมันระเกะระกะหรือระรานอยู่นี่ มันไม่ถูกต้อง มันไม่ใช่ มันเป็นสาระ(เลว)อย่างแท้จริง

เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงมันถึงจะยุติด้วยธรรมอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นการเอาชนะคะคานเพื่อความสนุกอะไรหรือถ้าจะชนะก็จะชนะตรงที่ทำให้คนที่หลงผิดได้กลับตัวกลับใจหันมาทำในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่านะครับ :b8:



วิลัย แปลว่า ตาย

วลัย แปลว่า กำไล

ตามพจนานุกรม

ชื่อ วลัยพรค่ะ ไม่ใช่วิลัยพร

ที่คุณกล่าวมาทั้งหมดก็ความคิดของคุณ เราไปห้ามคุณไม่ได้หรอกค่ะ

ก็เขียนบอกไปแล้วว่า ส่วนดีคุณน่ะมี ( ถูกใจ ) ส่วนไม่ดีของคุณก็มี ( ไม่ถูกใจ )

เรานั้นเป็นชาวบ้านธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่ได้มีความรู้ด้านศาสนาอะไรมากมาย

ที่ค้านคือค้านในคำเรียกพระสงฆ์ หรือการที่ชอบนำพระสงฆ์มาต่อว่า

แต่มันก็คือมุมมองของเรา ซึ่งก่อนคุณตั้งกระทู้ คุณก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าจะต้องมีความเห็นที่แตกต่าง

ถ้าคุณขึ้นหัวข้อไว้ว่า ถ้ามีความเห็นแตกต่าง ห้ามออกความเห็น ก็จะไม่ออกความเห็นหรอกค่ะ

หรือแม้ใครจะมีศศรัทธาไม่ว่าจะการสวดมนต์หรือทำทาน นั่นมันก็เรื่องของเขา

กุศลแต่คนสร้างมาไม่เท่ากัน คุณนำอะไรมาเป็นเกณฑ์วัดล่ะ ได้บุญหรือได้บาปน่ะ

เพราะคุณไม่ใช่ผู้กระทำนี่ ผู้กระทำเขากระทำอย่างไร ด้วยจิตเจตนาอย่างไร เขาย่อมได้ผล

ตามที่เขากระทำ ไม่ใช่คนอื่นๆไปรับผลแทนเขาซะเมื่อไหร่ ..

เข้าใจในเจตนาที่คุณหวังดีต่อผู้อื่น แต่ภาษาที่คุณนำมาใช้น่ะมีแต่ข้อติติงเขา

ส่วนมากคุณก็นำเอาความคิดของคุณเป็นตัวตัดสิน .. จริงไหม?

อ้อ .. หลวงตาสอนง่ายๆค่ะ จำขึ้นสมองมาจนถึงทุกวันนี้

ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่พูดโกหก ไม่ขโมยของใคร ไม่ผิดลูกเมียใคร ไม่ดื่มสุรา

หลวงตาบอกว่า จำไว้ให้มั่น จำไว้ให้ขึ้นใจ แล้วทำตามนี้ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง

จะเป็นคนอายุยืน ผีสางและเทวดาจะรักเรา ไปไหนไม่อดตาย

ถึงโตมาจนป่านนี้ก็ยังทำอยู่ ศิลไม่เคยทะลักทะลายลงทะเลหมด

ขอบคุณค่ะสำหรับคำชมที่คุณบอกว่า คำพูดนั้นสวยหรู

เพิ่งมีคนเป็นคนแรกในชีวิตที่ชมค่ะ ส่วนมากเขาจะบอกว่า

เราเป็นคนขวานผ่าซาก เป็นคนพูดจาทื่อๆ ไม่มีนอกไม่มีในกับใครๆ

คิดยังไงก็พูดอย่างนั้น ถึงบอกไงที่ว่าชอบที่คุณพูดตรงๆ

แล้วอีกอย่างมันเป็นเรื่องธรรมดาๆของคนธรรมดาๆอย่างเราที่จะบอกว่า

ใครบ้างล่ะที่จะบอกว่าความคิดของตัวเองไม่ถูกต้อง

ความถูกต้องคืออะไร ความถูกต้องเป็นเพียงแค่ความคิดของแต่ละคน

ซึ่งส่วนมากจะเอาความถูกใจของตัวเองเป็นเกณฑ์ จริงไหมคะ?

เป็นคนไม่มีความรู้มากมายค่ะ มีความสุขกับการได้ทำบุญทำทาน ได้ช่วยคน

ไม่ได้ไปหวังอะไรมากมาย :b1:

ส่วนความคิดของคุณทั้งหมดที่กล่าวมา มันมีความเห็นต่างจากคนอื่นๆไปบ้างมันก็เรื่องธรรมดา

ถ้าเรายอมรับความเห็นต่างคนอื่นไม่ได้ เอาแต่ความเห็นตัวเองเป็นหลักก็คุยไปคนเดียวเถอะค่ะ

เหมือนมีคนมาติงเรา เราก็ชี้แจงในส่วนที่เราพูดแค่นั้นเอง เราไปห้ามความคิดใครๆเขาไม่ได้

ถ้าคนๆนั้นเขายังคิดเหมือนๆเดิม นั่นก็เรื่องของเขา ไม่ไปคิดแทนใคร

คุยได้คุย คุยไม่ได้ถอย ง่ายๆแค่นี้แหละค่ะ บอกแล้วว่าไม่ได้มีความรู้อะไร

แค่ชาวบ้านธรรมดาๆคนหนึ่ง แล้วหนังสือพระไตรปิฎก ขอบคุณที่ห่วงใย :b8:

แค่อ่านในบอร์ดนี่ก็ตาหูทะลุทะลวงแล้วค่ะ แล้วไม่ชอบวิชาท่องจำด้วย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 12 ก.ค. 2009, 22:16, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 21:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
ที่ผมยกอ้างอิงมา ไม่ธรรมดาครับ

อยากทราบว่าท่านอาจารย์ของท่านชาติสยามคือใครครับ

อย่างนี้เป็นของแท้ครับ

คำกล่าวนี้มิใช่แค่คำแสดงความจงรักภัคดีครับ

มิใช่เป็นแค่การถวายความเทิดทูน แต่เป็นความจริงทุกประการครับ


ท่านชาติสยามครับ

อาจารย์ของท่านชาติสยามท่านนี้

ท่านก็เป็นอริยะบุคคลครับ(ไม่ต้องออกนามท่านน่ะครับ เดี๋ยวท่านจะเดือดร้อนครับ)

สาธุ

:b8: :b8: :b8:


ไม่ได้เป็นลูกศิษย์เป็นเรื่องเป็นราวหรอกครับ อาศัยว่าศึกษาจากท่าน
แล้วที่ท่านพูดนี่ ท่านไม่ได้พูดอย่างนี้หรอกครับ ผมเพียงสรุปมาเฉยๆ
ท่านรักษาพระวินัย ท่านไม่พยากรณ์ใครๆว่าเป้นอะไรหรอกครับ
ท่านพูดรัดกุมมาก ผมถ่ายทอดมาถึงต้องบอกว่า "ถอดรหัส"

ที่จริงท่านเล่าว่าเป็นประสบการณ์ของพระอาจารย์ของท่านอีกที
อาจารย์ของท่านเป็นผู้ถวายวิสัชนา คำถามของในหลวงนั้นไม่ธรรมดา
ในหลวงถามว่า รู้ว่ารู้อะไร แต่ไม่รู้ว่ารู้อะไร
วันนั้นพระอริยะเจ้านั่งกันอยู่หลายคน เพราะรับนิมนต์มาพระราชพิธี
แต่ทรงถามโดยมิได้ระบุตัวผู้ตอบ พระอาจารย์(ของพระอาจารย์) จึงแก้เกี้ยวถวายวิสัชนาว่า
รู้ว่ารู้อะไร แต่ไม่รู้ว่ารู้อะไรนั่นแหละ เป็นสุดยอดของการรู้

ผมพูดจากความทรงจำนะครับ
คำพูดอาจจะตกหล่นไม่เป๊ะแบบถอดเทปนะครับ
ปกติท่านไม่ให้เอาคำเทศน์ท่านมาคุยกันน่ะคับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 22:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่าครับ

คนเราจะดีจะชั่วก็อยู่ที่ความคิดนะครับ

:b8:

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 22:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 16:38
โพสต์: 81

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ตอนตั้งกระทู้ผมก็คิดแล้วครับว่า มันจะต้องเป็นอย่างนี้แหละครับคุณ ไม่สายเกินไป

เถียงกันให้มากๆๆๆๆๆๆๆ จะได้รู้ว่า พื้นฐานใครเป็นไงบ้างและความรู้ของผมเป็นไงบ้าง

ผมหวังแค่ให้ผู้ที่มาอ่านได้เห็นสิ่งที่มันมีมุมมองที่แตกต่างกันอยู่ในเรื่องนั้นๆ

แต่เท่าที่ดูๆ อ่านๆ ก็มีส่วนน้อยนะครับที่อ้างอิงพระไตรปิฎกอย่างชัดเจน

ส่วนใหญ่ก็เอาความรู้ ความเข้าใจ หรือความพอใจของตนมาอ้างอิงอย่างนั้นแหละครับ

จะยุติได้ ก็ต้องมีบรรทัดฐานเดียวกันคือ ยุติด้วยธรรม ของพระพุทธองค์เท่านั้น

ซึ่งนี่ก็เป็นวิธีการเรียนรู้ธรรมอีกแบบหนึ่งนะครับ อย่างน้อยก็จะได้แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเองทำอยู่นั้นมันเ็ป็นไง

ถูกต้องหรือผิดจากหลักคำสอนของพระพุทธองค์ หรือไม่อย่างไร......


:b8:ท่านคนขวางโลกค่ะ มันน่าจะเหมือนกับท่านดาบสกับคนพายเรือข้ามฟาก หรือเปล่าค่ะ ลอง ๆ เทียบเคียงดูก็แล้วกันนะค่ะ จำไม่ได้ว่าอยู่พระสูตรไหนค่ะ เพราะผู้คนในเวปนี้เขาจะไปนิพพานกันค่ะ เขาไม่ได้สนใจดูแลพระศาสนาอย่างจริงจังและจริงใจ แต่เขาก็คงท่องทุกวันนะค่ะว่า"ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ " เพราะเขาชอบการสวดมนต์อยู่มากด้วยค่ะ คือสนับสนุนการผิดพระธรรมวินัยแบบครบสูตร เช่นสนับสนุนให้พระรับเงินทอง ข้าวสารอาหาแห้งปลากระป๋อง ซึ่งเป็นการถวายของที่ผิดวินัยพระ และเขาก็ชอบการสวดมนต์แบบไม่รู้เรื่องรู้ความหมายและเป็นปรักปรำดูหมิ่นภาษาไทยอย่างชัดเจน ไม่รู้ว่าชอบพวกปลุกเสกวัตถุอะไรด้วยหรือเปล่า ถ้าชอบก็ผิดศีลข้อโกหกด้วยค่ะ เพราะเขาเอาวัตถุเป็นที่พึ่งที่ระลึก เขาไม่ได้เอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง ....ค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 22:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย่ว่าคนขวางโลกรู้อะไรลึกซึ้ง เช่นรู้ว่าผู้นั้นผู้นี้หลุดพ้นแล้ว นั่นแสดงว่า จิตใจของผู้เห็นเช่นนั้น จะต้องอยู่ในระดับเดียวกันหรือสูงกว่า ถูกไหมครับ

ส่วนผู้ที่มีจิตใจต่ำกว่าจะไม่รู้ได้ กรัชกายกระมั่งที่เป็นไส้เดือนกิ้งกือ :b1:



คุณกรัชกายงับ บางส่วนของคุณก็ตรงนะงับ

แต่บางส่วนก็ไล่คุณขวางโลกมากไปนิด

ที่คุณขวางโลกพูดก็มีส่วนถูกนะงับ

แต่ก็มีผิด

เอาเวลาไปตามรู้กายใจดีกว่างับ






ที่เรากล่าวกันว่าถูกหรือผิดนั้น มันก็เป็นเพียงแค่ความคิดของเรา หาใช่ถูกผิดตามความเป็นจริงไม่

คุณขงเบ้งพูดถูกนะ ( อันนี้ในความคิดของเรา ) ที่คุณพูดว่า เอาเวลาไปตามรู้กายใจดีกว่างับ

เอ่อ ... ถามนิดนึง ...แล้วนี่ทำไมคุณขงเบ้งเข้ามาที่นี่ทำไมล่ะคะ ...

ทำไมคุณไม่ไปตามรู้กายใจของตัวเอง ... เสียเวลาแย่เลย ...

พูดจริงๆนะคะเนี่ย ไม่ได้พูดเล่น :b16:




สาธุงับ ขอบคุนที่เตือนสตินะงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 22:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่สายเกินไป เขียน:
อ้างคำพูด:
ตอนตั้งกระทู้ผมก็คิดแล้วครับว่า มันจะต้องเป็นอย่างนี้แหละครับคุณ ไม่สายเกินไป

เถียงกันให้มากๆๆๆๆๆๆๆ จะได้รู้ว่า พื้นฐานใครเป็นไงบ้างและความรู้ของผมเป็นไงบ้าง

ผมหวังแค่ให้ผู้ที่มาอ่านได้เห็นสิ่งที่มันมีมุมมองที่แตกต่างกันอยู่ในเรื่องนั้นๆ

แต่เท่าที่ดูๆ อ่านๆ ก็มีส่วนน้อยนะครับที่อ้างอิงพระไตรปิฎกอย่างชัดเจน

ส่วนใหญ่ก็เอาความรู้ ความเข้าใจ หรือความพอใจของตนมาอ้างอิงอย่างนั้นแหละครับ

จะยุติได้ ก็ต้องมีบรรทัดฐานเดียวกันคือ ยุติด้วยธรรม ของพระพุทธองค์เท่านั้น

ซึ่งนี่ก็เป็นวิธีการเรียนรู้ธรรมอีกแบบหนึ่งนะครับ อย่างน้อยก็จะได้แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเองทำอยู่นั้นมันเ็ป็นไง

ถูกต้องหรือผิดจากหลักคำสอนของพระพุทธองค์ หรือไม่อย่างไร......


:b8:ท่านคนขวางโลกค่ะ มันน่าจะเหมือนกับท่านดาบสกับคนพายเรือข้ามฟาก หรือเปล่าค่ะ ลอง ๆ เทียบเคียงดูก็แล้วกันนะค่ะ จำไม่ได้ว่าอยู่พระสูตรไหนค่ะ เพราะผู้คนในเวปนี้เขาจะไปนิพพานกันค่ะ เขาไม่ได้สนใจดูแลพระศาสนาอย่างจริงจังและจริงใจ แต่เขาก็คงท่องทุกวันนะค่ะว่า"ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ " เพราะเขาชอบการสวดมนต์อยู่มากด้วยค่ะ คือสนับสนุนการผิดพระธรรมวินัยแบบครบสูตร เช่นสนับสนุนให้พระรับเงินทอง ข้าวสารอาหาแห้งปลากระป๋อง ซึ่งเป็นการถวายของที่ผิดวินัยพระ และเขาก็ชอบการสวดมนต์แบบไม่รู้เรื่องรู้ความหมายและเป็นปรักปรำดูหมิ่นภาษาไทยอย่างชัดเจน ไม่รู้ว่าชอบพวกปลุกเสกวัตถุอะไรด้วยหรือเปล่า ถ้าชอบก็ผิดศีลข้อโกหกด้วยค่ะ เพราะเขาเอาวัตถุเป็นที่พึ่งที่ระลึก เขาไม่ได้เอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง ....ค่ะ :b8:




อ้างคำพูด:
เพราะเขาชอบการสวดมนต์อยู่มากด้วยค่ะ คือสนับสนุนการผิดพระธรรมวินัยแบบครบสูตร เช่นสนับสนุนให้พระรับเงินทอง ข้าวสารอาหาแห้งปลากระป๋อง ซึ่งเป็นการถวายของที่ผิดวินัยพระ และเขาก็ชอบการสวดมนต์แบบไม่รู้เรื่องรู้ความหมายและเป็นปรักปรำดูหมิ่นภาษาไทยอย่างชัดเจน ไม่รู้ว่าชอบพวกปลุกเสกวัตถุอะไรด้วยหรือเปล่า ถ้าชอบก็ผิดศีลข้อโกหกด้วยค่ะ


สวดมนต์ไม่ผิดแต่ทำให้หลงนะงับ

พระรับเงินทองก็ผิดนะงับ

ข้าวสารอาหารแห้ง ต้องดูเรื่อง กาลิก และยาวกาลิกให้ดีนะงับ

ไม่ใช่สุ่มลงไปเลยว่าผิดหรือถูก

สวดมนต์ไม่แปลก็ไม่ผิดนะงับ

ส่วนปลุกเสกก็เป็นความหลงของแต่ละคนนะงับ


อย่างลืนนะงับ เอาเวลาไปตามรู้ความเกิดดับกายใจดีกว่า ไปเพ่งโทษผู้อื่นนะงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 01:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 21:34
โพสต์: 56


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอหนูออกความคิดหน่อยนะคะ :b16:

ชอบเจ้าของกระทู้ที่ รักพระพุทธศาสนา นะคะ+ปกป้องด้วย
ไม่เพียงแค่ห่วงพระพุทธศาสนา ทั้งยังห่วงประเทศด้วย

คือพี่เจ้าของกระทู้บอกให้ถามพระ ถ้าสมมตินะคะ
ว่าพระเป็นพระทุศีลจริง แล้วเค้ายังโกหกพี่ แถมยังเนียนมากๆ
สามารถทำให้พี่เชื่อสนิทใจเลย ว่าเพราะรูปนี้ ไม่ทุศีล

หนูคิดว่า ไม่มีใครอยากจะทำบุญกับพระทุศีลหรอกค่ะ
ข่าวก็ออกมาทุกวันเกี่ยวกับพระทุศีล นักข่าวจะรู้เรื่อง
พวกนี้ได้ยังไงล่ะ ถ้าไม่ได้มาจากชาวบ้าน เข้าใจนะคะ
ว่าพระที่ทุศีลสมัยนี้มีเยอะ แม้แต่หนูก็ยังทำบุญดูวัดดูพระ
ในการทำบุญส่วนใหญ่ของหนูในชีวิตก็มีวัดที่ทำประจำ
แต่ก็ยังเกิดการพลาดในชีวิตเลยค่ะ พลาดเพราะอยาก
จะทำบุญอย่างนึงที่ทางวัดจัดขึ้น แต่ไม่ใช่คนประจำถิ่น
นั้น ทำให้พลาด เสียเงินไปประมาณ500บาทค่ะ ถามว่า
หนูรู้ว่าวัดนี้เป็นอย่างนี้หนูอยากจะกลับไปทำอีกไหม
ไม่ค่ะ เจ็บมากทำบุญครั้งนั้น ไม่มีใครอยากโดนหลอก
อยากเจ็บใจ(ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะแต่เจ็บมากจำไม่ลืม)
ทั้งที่หนูเจ็บขนาดนี้ แต่ก็มีคนสุขใจที่ทำกับพระวัดนี้
เพราะเค้าคิดกันว่า พระที่นี่ดีแล้ว ปฏิบัติดีแล้ว สมควร
แกที่จะเสียเงินนี้แล้ว หนูว่ามันขึ้นอยู่กับว่า เราถูกปลูก
ฝังให้มองยังไงมากกว่าค่ะ ต่อให้หนูคิดดีกับเค้า ไปบอก
ว่าวัดนี้ไม่ดี พระที่นี่ไม่ดี แทนที่หนูจะเป็นคนดีของศาสนา
จะโดนกล่าวให้เป็นมารศาสนาแทนอ่า :b14: :b14:
(พูดทั้งหมดตามที่เข้าใจนะคะ หากเข้าใจผิดชี้แนะด้วยค่ะ)
:b8: :b8:

อ้างคำพูด:
ที่ศาสนาพุทธยังดำรงอยู่ได้ ก็เพราะว่ายังมีพระสงฆ์เหลืออยู่ต่างหากครับ มีพระสงฆ์แท้ๆ คอยเป็นเสาหลักให้พวกสมมติได้เกาะเกี่ยวได้อาศัยบุญบารมี ถ้าหมดสิ้นเสียพระสงฆ์แท้ๆ ไปแล้ว ก็เป็นการยากที่ศาสนาพุทธจะดำรงอยู่ได้ เพราะพวกสมมติสงฆ์ทั้งหลายจะสอนชาวบ้านให้หลง ให้ข้องติดกับกิเลสเพราะตัวเองก็สลัดมันไม่ออก สุดท้ายความประพฤติของพวกสมมติก็ไม่ได้ต่างอะไรกับชาวบ้านธรรมดา ที่นี้ก็ไม่มีใครเคารพใครหละเพราะมันก็เหมือนๆ กัน ไม่แตกต่างกัน ชาวบ้านก็สะสมทรัพย์ พวกนี้ก็สะสมด้วยและชอบทำตัวให้กลมกลืนกับชาวบ้านดีนัก ทำไมนั้นเหรอ ก็เพราะต้องการการยกย่องสรรเสริญ ยอมลดตนเองลงไปรับใช้ชาวบ้าน ชาวบ้านให้ทำอะไรก็ทำโดยไม่สนใจว่าจะผิดกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำหละทีนี้


พระสงฆ์ คือ ผู้ที่ได้บรรลุธรรมแล้ว คือเป็นพระอริยไม่ว่าจะขั้นใดก็ตามจัดเป็นสงฆ์
สมมุติสงฆ์ คือ ผู้ที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมแต่ได้บวชอย่างที่เห็นๆอยู่ทุกวัน

คือ หนูไม่อยากให้พี่เหมารวมว่าสมมติสงฆ์ทุกรูปจะเกาะเกี่ยวอาศัยบุญ
บารมีพระสงฆ์อ่าค่ะ เพราะกว่าจะมีพระสงฆ์ทุกวันนี้ก็ล้วนแต่เป็นสมมติสงฆ์
ทั้งนั้น จริงอยู่ค่ะที่ยังไม่บรรลุธรรมทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่
พยายามที่จะศึกษาที่จะบรรลุนิคะ


อ้างคำพูด:
คิดให้ดีนะท่านผู้ที่คิดจะเอาตัวรอด โดยไม่สนว่าภิกษุจะดีหรือไม่ ผมคิดว่า เราๆ ท่านๆ นี่ คงอีกนานมากๆๆๆๆ หละกว่าจะพ้นไปได้ แล้วทีนี้ถ้าได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งก็จะได้เจอกับภิกษุที่ว่านั่นอีกเป็นแน่ แล้วถ้าได้เจอคำสอนของภิกษุที่ว่านั้นเข้าไปอีก ท่านคิดว่าจะรอดหรือจะร่วงกันแน่ แต่ถ้าบุญเก่าสั่งสมมาดีก็อาจจะมีสติปัญญาดีหาทางเอาตัวรอดไปได้แต่ถ้าสั่งสมมาแบบดีๆ ชั่วๆ มั่วกันไปแบบทุกวันนี้คิดว่าโอกาสรอดคงยากนะ



ใครๆก็รักศาสนา ทุกคนก็พร้อมที่จะปกป้องอ่าค่ะ ก็อย่างว่าล่ะค่ะ แล้วแต่มุมมอง


อ้างคำพูด:
สงสารผู้ตั้งกระทู้จังค่ะ เพราะมาตั้งกระทู้ในเวปนี้..........เวปที่ไม่ค่อยได้ประโยชน์ในการศึกษา คือจะบอกว่าเท่าที่เข้ามาอ่านไม่ค่อยได้ประโยชน์และได้รับความรู้ในการเรียนรู้พระศาสนามากนัก มีแต่ตอบกันด้วย เปลือก กิ่งใบ กระพี้ ตอบกระทู้กันเลอะเทอะมั่วไปหมด ไม่ค่อยได้หลักความจริงอะไร ตอบกันไปมาด้วยอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ความรู้ของตัวเองที่ได้มา เจ้าบทเจ้ากลอน วาทะแต่งเติม พูดภาษาไทยไม่ชัดเจน เช่นคำว่าครับ ก็เป็น งับ เอารูปภาพที่ล้อเล่นบ้าง สวยงามบ้าง ปรุงแต่งไปทั่วมั่วไปหมด ผู้ที่จะเรียกว่าตัวเองเข้าถึงกระแสนิพพานแล้วคงไม่ทำตัวแบบนี้กันหรอกนะคะ และกระทู้นี้ท่านคนขวางโลกเลิกล้มความตั้งใจที่จะได้คำแนะนำดี ๆ เถอะค่ะ เสียสัญญานเปล่า ๆ ผู้ใดเข้ามาอ่านก็ไม่อยากอ่านแล้วหละ จริงอยู่ธรรมะต้องมีการถกเถียงกัน แต่ต้องเอาความจริงมาพูด ให้ได้ความจริง ๆและถูกต้อง แต่ ....อ่านแล้วไม่เกิดประโยชน์ อะไร ทะเลาะ และเอาชนะกันด้วยความรู้ของตัวเอง ทั้งสิ้น ไม่ยกพุทธพจน์มาเปรียบเทียบกันได้ เสียดายที่เป็นเวปที่ใหญ่ แต่ไม่ได้ประโยชน์สูงสุด....



ส่วนตัวหนู เห็นว่าเว็บนี้ได้ประโยชน์นะคะ เพราะมาศึกษาจากที่นี่
ไม่เห็นว่าเค้าจะพูดเลอะเทอะตรงไหนเลยนิคะ เห็นว่าพี่ๆเค้าศีกษา
มาก่อนแล้ว ก็มาบอกกล่าวสั่งสอน ด้วยคำเรียบง่ายกันเอง ไม่อย่าง
นั้นพระทุกรูป ก็ต้องอ้างพุทธพจน์หมดหรอคะ ถ้าหากว่ารู้แล้วว่า
พุทธพจน์เป็นแบบนี้ จะบอกให้เป็นใจความเข้าใจง่ายไม่ได้หรอคะ
ถ้าหากเนื้อหาที่นี่มีน้อย ก็ลองหาในเว็บบอร์ดเก่าสิคะ เนื้อหาเค้าก็
เยอะดี เรื่องภาษาเข้าใจค่ะ ว่ารักษาวัฒนธรรมอันดีงาม แต่
พี่เองก็ยัง เขียนคำว่า เว็บ ผิดเหมือนกันนะคะ ถ้าไม่เชื่อดูใน
google ได้ค่ะ ส่วนตัวเรื่องภาษาเป็นแง่มุมส่วนตัว พี่เองเลือกที่
จะเขียนให้ถูก แต่ก็ไม่ควรไปติงคนอื่นนะคะ คือหนูไม่ได้มาเพื่อเข้าถึงกระแสนิพพาน
หนูแค่พอใจที่อยากจะปฏิบัติสิ่งที่ดีๆ ไหว้พระสวดมนต์ พยายาม
ปฏิบัติสมาธิ ไม่ยึดติด พยายามรักษาศีล5 ไม่ดีพอที่จะบรรลุได้
หลักธรรมก็ไม่ได้เข้าใจอะไรลึกซึ้ง เพียงแต่พยายามที่จะสงบ
อยู่อย่างสงบโดยใช้หลักธรรมต้นๆ และคำสั่งสอนจากสมมติสงฆ์
หรืออาจจะเป็นพระสงฆ์ เข้าใจค่ะว่าถกเถียงโดยใช้หลักธรรมต่างๆ
แต่หากไม่เคยนำมาประยุกต์ใช้ หรือตริตรองให้ดี แล้วใช้
ไปแบบนั้น บางทีมันอาจจะผิดก็ได้นะคะ ที่พี่บอกว่า "จริงอยู่ธรรมะ
ต้องมีการถกเถียงกัน แต่ต้องเอาความจริงมาพูด ให้ได้ความจริงๆ
และถูกต้อง" ก็ที่พี่กรัชกายเค้าทัก ก็เพราะเค้าหวังดีไม่ใช่หรอคะ
ที่เค้าถามต่างๆก็ต้องการรู้ว่าสิ่งที่เจ้าของกระทู้เข้าใจถูกแค่ไหน
เพื่อที่เค้าจะได้นำความจริงมาพูดและเข้าใจอย่างถูกต้อง
หากว่าเจ้าของกระทู้พูดมาถูกต้องอยู่แล้ว ทำไมถึงมีจำนวนคน
เห็นด้วยกับกระทู้นี้น้อยจังคะ?


ถ้าหากว่าคุณเองว่าคนเว็บนี้สนใจแต่ตนเอง ห่วงแต่นิพพาน
สู้เค้าไม่ออกมาตอบไม่ดีกว่าหรอคะ ซุ่มนั่งอ่านคนเดียว เข้า
ใจคนเดียวเพื่อนิพพาน! หนูเองก็ไม่ได้เก่งอะไร เพียงแต่ที่พี่
พูดว่าเค้าต่างๆลองคิดเอาใจเค้ามาใส่ใจเราดูยังคะ?
พี่บอกว่าคนนั้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี คือพี่ลองมองตัวเองรึยังคะ
ว่าดีพอที่จะไปกล่าวว่าคนอื่นป่าว แม้แต่พี่เองหากว่าศึกษามา
แน่แท้แล้ว ทำไมพี่ยังทำผิดศีลข้อ1ล่ะคะ พี่กล่าวว่าคนอื่น โดย
ทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ ก็เท่ากับพี่เบียดเบียนผู้อื่น โดยใช้คำพูด
และพี่ก็ยังก่ออกุศลกรรมนะสิคะ เพราะพี่ได้พูดจาสอดเสียด
คนในเว็บบอร์ด จริงไหมคะ?...

**หากว่าที่กล่าวมาผิดตรงไหนบอกได้นะคะ หรือเข้าใจอะไรผิด
ชี้แนะได้นะคะ ที่หนูพูดไม่ได้ใช้อารมณ์นะคะ เพียงแต่ตามที่เข้าใจ
ถ้าหากว่าที่พูดกระทบถึงจิตใจใครก็ขอโทษล่วงหน้าเลยละกันนะคะ
แค่อยากปกป้องในสิ่งที่คิดว่าดีเท่านั้นค่ะ ยังไงก็ขอเรียกว่าพี่ๆกันทุก
คนไปเลยละกันเพราะดูประสบการณ์เยอะมาก ใครไม่พอใจก็ขอโทษ
อีกทีค่ะ :b8: :b8: :b8: **

.....................................................
๐ การเป็นผู้ฟังบ้างก็ไม่เสียหายอะไร จะได้รู้ว่าสิ่งที่เข้าใจมากนั้นผิดหรือถูก ๐


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 02:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



น้องพลอยใส .... :b16:

เด็กรุ่นใหม่ ... พี่น้ำชื่นชมค่ะ กล้าแสดงความคิดเห็น .. :b4:



น่าจะรุ่นเดียวกับน้องแจม ไว้เจอน้องแจม จะแนะนำให้รู้จักกันนะคะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 02:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 21:34
โพสต์: 56


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ :b18:

ยินดีมากค่ะ หุหุ

ตอนนี้หนูอายุ 19 ปีค่ะ :b19:

.....................................................
๐ การเป็นผู้ฟังบ้างก็ไม่เสียหายอะไร จะได้รู้ว่าสิ่งที่เข้าใจมากนั้นผิดหรือถูก ๐


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 02:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



จ้า .. น้องแจมอายุ 20 ปีค่ะ นี่จะนัดไปวัดมหาธาตุกับพี่น้ำอาทิตย์หน้านี่แหละ

บ้านเขาอยู่แถวพุทธมณฑล เลยช่วยหาครูบาฯและสถานที่ปฏิบัติให้กับน้องเขา

อิอิ .. กุศลนำพาค่ะ น้องแจมนั่งรถต่อเดียวถึงวัดเลย ดีจริงๆเลยค่ะ

พี่น้ำเองอยู่สมุทรปราการค่ะ นั่งรถต่อเดียวเหมือนกันค่ะ

น้องพลอยใสสนใจไปปฏิบัติด้วยกันไม๊คะ :b12:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 02:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


PloYSaii เขียน:
ขอหนูออกความคิดหน่อยนะคะ :b16:

ชอบเจ้าของกระทู้ที่ รักพระพุทธศาสนา นะคะ+ปกป้องด้วย
ไม่เพียงแค่ห่วงพระพุทธศาสนา ทั้งยังห่วงประเทศด้วย

คือพี่เจ้าของกระทู้บอกให้ถามพระ ถ้าสมมตินะคะ
ว่าพระเป็นพระทุศีลจริง แล้วเค้ายังโกหกพี่ แถมยังเนียนมากๆ
สามารถทำให้พี่เชื่อสนิทใจเลย ว่าเพราะรูปนี้ ไม่ทุศีล

หนูคิดว่า ไม่มีใครอยากจะทำบุญกับพระทุศีลหรอกค่ะ
ข่าวก็ออกมาทุกวันเกี่ยวกับพระทุศีล นักข่าวจะรู้เรื่อง
พวกนี้ได้ยังไงล่ะ ถ้าไม่ได้มาจากชาวบ้าน เข้าใจนะคะ
ว่าพระที่ทุศีลสมัยนี้มีเยอะ แม้แต่หนูก็ยังทำบุญดูวัดดูพระ
ในการทำบุญส่วนใหญ่ของหนูในชีวิตก็มีวัดที่ทำประจำ
แต่ก็ยังเกิดการพลาดในชีวิตเลยค่ะ พลาดเพราะอยาก
จะทำบุญอย่างนึงที่ทางวัดจัดขึ้น แต่ไม่ใช่คนประจำถิ่น
นั้น ทำให้พลาด เสียเงินไปประมาณ500บาทค่ะ ถามว่า
หนูรู้ว่าวัดนี้เป็นอย่างนี้หนูอยากจะกลับไปทำอีกไหม
ไม่ค่ะ เจ็บมากทำบุญครั้งนั้น ไม่มีใครอยากโดนหลอก
อยากเจ็บใจ(ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะแต่เจ็บมากจำไม่ลืม)
ทั้งที่หนูเจ็บขนาดนี้ แต่ก็มีคนสุขใจที่ทำกับพระวัดนี้
เพราะเค้าคิดกันว่า พระที่นี่ดีแล้ว ปฏิบัติดีแล้ว สมควร
แกที่จะเสียเงินนี้แล้ว หนูว่ามันขึ้นอยู่กับว่า เราถูกปลูก
ฝังให้มองยังไงมากกว่าค่ะ ต่อให้หนูคิดดีกับเค้า ไปบอก
ว่าวัดนี้ไม่ดี พระที่นี่ไม่ดี แทนที่หนูจะเป็นคนดีของศาสนา
จะโดนกล่าวให้เป็นมารศาสนาแทนอ่า :b14: :b14:
(พูดทั้งหมดตามที่เข้าใจนะคะ หากเข้าใจผิดชี้แนะด้วยค่ะ)
:b8: :b8:

อ้างคำพูด:
ที่ศาสนาพุทธยังดำรงอยู่ได้ ก็เพราะว่ายังมีพระสงฆ์เหลืออยู่ต่างหากครับ มีพระสงฆ์แท้ๆ คอยเป็นเสาหลักให้พวกสมมติได้เกาะเกี่ยวได้อาศัยบุญบารมี ถ้าหมดสิ้นเสียพระสงฆ์แท้ๆ ไปแล้ว ก็เป็นการยากที่ศาสนาพุทธจะดำรงอยู่ได้ เพราะพวกสมมติสงฆ์ทั้งหลายจะสอนชาวบ้านให้หลง ให้ข้องติดกับกิเลสเพราะตัวเองก็สลัดมันไม่ออก สุดท้ายความประพฤติของพวกสมมติก็ไม่ได้ต่างอะไรกับชาวบ้านธรรมดา ที่นี้ก็ไม่มีใครเคารพใครหละเพราะมันก็เหมือนๆ กัน ไม่แตกต่างกัน ชาวบ้านก็สะสมทรัพย์ พวกนี้ก็สะสมด้วยและชอบทำตัวให้กลมกลืนกับชาวบ้านดีนัก ทำไมนั้นเหรอ ก็เพราะต้องการการยกย่องสรรเสริญ ยอมลดตนเองลงไปรับใช้ชาวบ้าน ชาวบ้านให้ทำอะไรก็ทำโดยไม่สนใจว่าจะผิดกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำหละทีนี้


พระสงฆ์ คือ ผู้ที่ได้บรรลุธรรมแล้ว คือเป็นพระอริยไม่ว่าจะขั้นใดก็ตามจัดเป็นสงฆ์
สมมุติสงฆ์ คือ ผู้ที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมแต่ได้บวชอย่างที่เห็นๆอยู่ทุกวัน

คือ หนูไม่อยากให้พี่เหมารวมว่าสมมติสงฆ์ทุกรูปจะเกาะเกี่ยวอาศัยบุญ
บารมีพระสงฆ์อ่าค่ะ เพราะกว่าจะมีพระสงฆ์ทุกวันนี้ก็ล้วนแต่เป็นสมมติสงฆ์
ทั้งนั้น จริงอยู่ค่ะที่ยังไม่บรรลุธรรมทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่
พยายามที่จะศึกษาที่จะบรรลุนิคะ


อ้างคำพูด:
คิดให้ดีนะท่านผู้ที่คิดจะเอาตัวรอด โดยไม่สนว่าภิกษุจะดีหรือไม่ ผมคิดว่า เราๆ ท่านๆ นี่ คงอีกนานมากๆๆๆๆ หละกว่าจะพ้นไปได้ แล้วทีนี้ถ้าได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งก็จะได้เจอกับภิกษุที่ว่านั่นอีกเป็นแน่ แล้วถ้าได้เจอคำสอนของภิกษุที่ว่านั้นเข้าไปอีก ท่านคิดว่าจะรอดหรือจะร่วงกันแน่ แต่ถ้าบุญเก่าสั่งสมมาดีก็อาจจะมีสติปัญญาดีหาทางเอาตัวรอดไปได้แต่ถ้าสั่งสมมาแบบดีๆ ชั่วๆ มั่วกันไปแบบทุกวันนี้คิดว่าโอกาสรอดคงยากนะ



ใครๆก็รักศาสนา ทุกคนก็พร้อมที่จะปกป้องอ่าค่ะ ก็อย่างว่าล่ะค่ะ แล้วแต่มุมมอง


อ้างคำพูด:
สงสารผู้ตั้งกระทู้จังค่ะ เพราะมาตั้งกระทู้ในเวปนี้..........เวปที่ไม่ค่อยได้ประโยชน์ในการศึกษา คือจะบอกว่าเท่าที่เข้ามาอ่านไม่ค่อยได้ประโยชน์และได้รับความรู้ในการเรียนรู้พระศาสนามากนัก มีแต่ตอบกันด้วย เปลือก กิ่งใบ กระพี้ ตอบกระทู้กันเลอะเทอะมั่วไปหมด ไม่ค่อยได้หลักความจริงอะไร ตอบกันไปมาด้วยอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ความรู้ของตัวเองที่ได้มา เจ้าบทเจ้ากลอน วาทะแต่งเติม พูดภาษาไทยไม่ชัดเจน เช่นคำว่าครับ ก็เป็น งับ เอารูปภาพที่ล้อเล่นบ้าง สวยงามบ้าง ปรุงแต่งไปทั่วมั่วไปหมด ผู้ที่จะเรียกว่าตัวเองเข้าถึงกระแสนิพพานแล้วคงไม่ทำตัวแบบนี้กันหรอกนะคะ และกระทู้นี้ท่านคนขวางโลกเลิกล้มความตั้งใจที่จะได้คำแนะนำดี ๆ เถอะค่ะ เสียสัญญานเปล่า ๆ ผู้ใดเข้ามาอ่านก็ไม่อยากอ่านแล้วหละ จริงอยู่ธรรมะต้องมีการถกเถียงกัน แต่ต้องเอาความจริงมาพูด ให้ได้ความจริง ๆและถูกต้อง แต่ ....อ่านแล้วไม่เกิดประโยชน์ อะไร ทะเลาะ และเอาชนะกันด้วยความรู้ของตัวเอง ทั้งสิ้น ไม่ยกพุทธพจน์มาเปรียบเทียบกันได้ เสียดายที่เป็นเวปที่ใหญ่ แต่ไม่ได้ประโยชน์สูงสุด....



ส่วนตัวหนู เห็นว่าเว็บนี้ได้ประโยชน์นะคะ เพราะมาศึกษาจากที่นี่
ไม่เห็นว่าเค้าจะพูดเลอะเทอะตรงไหนเลยนิคะ เห็นว่าพี่ๆเค้าศีกษา
มาก่อนแล้ว ก็มาบอกกล่าวสั่งสอน ด้วยคำเรียบง่ายกันเอง ไม่อย่าง
นั้นพระทุกรูป ก็ต้องอ้างพุทธพจน์หมดหรอคะ ถ้าหากว่ารู้แล้วว่า
พุทธพจน์เป็นแบบนี้ จะบอกให้เป็นใจความเข้าใจง่ายไม่ได้หรอคะ
ถ้าหากเนื้อหาที่นี่มีน้อย ก็ลองหาในเว็บบอร์ดเก่าสิคะ เนื้อหาเค้าก็
เยอะดี เรื่องภาษาเข้าใจค่ะ ว่ารักษาวัฒนธรรมอันดีงาม แต่
พี่เองก็ยัง เขียนคำว่า เว็บ ผิดเหมือนกันนะคะ ถ้าไม่เชื่อดูใน
google ได้ค่ะ ส่วนตัวเรื่องภาษาเป็นแง่มุมส่วนตัว พี่เองเลือกที่
จะเขียนให้ถูก แต่ก็ไม่ควรไปติงคนอื่นนะคะ คือหนูไม่ได้มาเพื่อเข้าถึงกระแสนิพพาน
หนูแค่พอใจที่อยากจะปฏิบัติสิ่งที่ดีๆ ไหว้พระสวดมนต์ พยายาม
ปฏิบัติสมาธิ ไม่ยึดติด พยายามรักษาศีล5 ไม่ดีพอที่จะบรรลุได้
หลักธรรมก็ไม่ได้เข้าใจอะไรลึกซึ้ง เพียงแต่พยายามที่จะสงบ
อยู่อย่างสงบโดยใช้หลักธรรมต้นๆ และคำสั่งสอนจากสมมติสงฆ์
หรืออาจจะเป็นพระสงฆ์ เข้าใจค่ะว่าถกเถียงโดยใช้หลักธรรมต่างๆ
แต่หากไม่เคยนำมาประยุกต์ใช้ หรือตริตรองให้ดี แล้วใช้
ไปแบบนั้น บางทีมันอาจจะผิดก็ได้นะคะ ที่พี่บอกว่า "จริงอยู่ธรรมะ
ต้องมีการถกเถียงกัน แต่ต้องเอาความจริงมาพูด ให้ได้ความจริงๆ
และถูกต้อง" ก็ที่พี่กรัชกายเค้าทัก ก็เพราะเค้าหวังดีไม่ใช่หรอคะ
ที่เค้าถามต่างๆก็ต้องการรู้ว่าสิ่งที่เจ้าของกระทู้เข้าใจถูกแค่ไหน
เพื่อที่เค้าจะได้นำความจริงมาพูดและเข้าใจอย่างถูกต้อง
หากว่าเจ้าของกระทู้พูดมาถูกต้องอยู่แล้ว ทำไมถึงมีจำนวนคน
เห็นด้วยกับกระทู้นี้น้อยจังคะ?


ถ้าหากว่าคุณเองว่าคนเว็บนี้สนใจแต่ตนเอง ห่วงแต่นิพพาน
สู้เค้าไม่ออกมาตอบไม่ดีกว่าหรอคะ ซุ่มนั่งอ่านคนเดียว เข้า
ใจคนเดียวเพื่อนิพพาน! หนูเองก็ไม่ได้เก่งอะไร เพียงแต่ที่พี่
พูดว่าเค้าต่างๆลองคิดเอาใจเค้ามาใส่ใจเราดูยังคะ?
พี่บอกว่าคนนั้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี คือพี่ลองมองตัวเองรึยังคะ
ว่าดีพอที่จะไปกล่าวว่าคนอื่นป่าว แม้แต่พี่เองหากว่าศึกษามา
แน่แท้แล้ว ทำไมพี่ยังทำผิดศีลข้อ1ล่ะคะ พี่กล่าวว่าคนอื่น โดย
ทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ ก็เท่ากับพี่เบียดเบียนผู้อื่น โดยใช้คำพูด
และพี่ก็ยังก่ออกุศลกรรมนะสิคะ เพราะพี่ได้พูดจาสอดเสียด
คนในเว็บบอร์ด จริงไหมคะ?...

**หากว่าที่กล่าวมาผิดตรงไหนบอกได้นะคะ หรือเข้าใจอะไรผิด
ชี้แนะได้นะคะ ที่หนูพูดไม่ได้ใช้อารมณ์นะคะ เพียงแต่ตามที่เข้าใจ
ถ้าหากว่าที่พูดกระทบถึงจิตใจใครก็ขอโทษล่วงหน้าเลยละกันนะคะ
แค่อยากปกป้องในสิ่งที่คิดว่าดีเท่านั้นค่ะ ยังไงก็ขอเรียกว่าพี่ๆกันทุก
คนไปเลยละกันเพราะดูประสบการณ์เยอะมาก ใครไม่พอใจก็ขอโทษ
อีกทีค่ะ :b8: :b8: :b8: **



อ้างคำพูด:
หนูแค่พอใจที่อยากจะปฏิบัติสิ่งที่ดีๆ ไหว้พระสวดมนต์ พยายาม
ปฏิบัติสมาธิ ไม่ยึดติด พยายามรักษาศีล5 ไม่ดีพอที่จะบรรลุได้
หลักธรรมก็ไม่ได้เข้าใจอะไรลึกซึ้ง เพียงแต่พยายามที่จะสงบ
อยู่อย่างสงบโดยใช้หลักธรรมต้นๆ และคำสั่งสอนจากสมมติสงฆ์
หรืออาจจะเป็นพระสงฆ์



ทำดีได้อยู่แล้วงับ แต่ว่า พยายามทำสมาธิ ไม่ยึดติด พยายามรักษาศีล

รักษาศีล 5 ก็ดีอยู่แล้วงับ แต่ที่ว่าไม่ดีพอจะบรรลุธรรมได้ อันนี้ไม่จริงนะงับ

ความจริงแล้ววิปัสสนาง่ายมาก แล้วก็ไปรู้กายใจตามความเป็นจริงนะงับ แล้วยอมรับความจริงทำนั้นละงับ

การเป็นพระอริยเจ้าก็ง่ายมาก ไม่ใช่ยากแบบที่คนคิดนะงับ

แล้วการที่พยายามทำความสงบ อันนี้ไม่ถูกต้องนะงับ เพราะว่าทำความสงบก็เกี่ยวกับพรหมนะงับ

เป็นการทิ้งประโยชน์ที่ได้โชคดีมากมีโอกาสมาเจอพระศาสนา ทิ้งเวลาการปฎิบัติไปเสียเปล่า


สุดท้ายก็ไม่ได้ต่อต้านนะงับ

แต่ขอให้ทำไปนะงับ ตามรู้กายใจ ความความเป็นจริง แล้วยอมรับเท่านั้นละงับ

รอความแก่รอบ แล้วจิตตรัสรู้ไปเอง ทุกข์กำหนดรู้ สมุทัยกำหนดละ นิโรธเกิดเอง มรรคควรเจริญไป

จิตซัดส่ายไปนอก เป็น สมุทัย
ผลที่จิตซัตส่ายไปนอก เป็น ทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็น มรรค
ผลของจิตเห็ฯจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็น นิโรธ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 02:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้อง PloYSaii นอนดีกจังนะครับ :b1:
คุณน้องบอกอายุมา ทำให้พวกพี่ๆ แก่กันไปถนัดตา :b12:
แค่อายุของคุณน้อง ก็ห่างจากข้าพเจ้า 10 ปีพอดี (ตอนนี้ 29 ขวบครับ) :b12:

พี่ๆทีมงานหากได้อ่านความเห็นของคุณน้อง PloYSaii
คงมีกำลังใจกันขึ้นเยอะเลยครับ :b8: :b8: :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 03:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 21:34
โพสต์: 56


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ทำดีได้อยู่แล้วงับ แต่ว่า พยายามทำสมาธิ ไม่ยึดติด พยายามรักษาศีล

รักษาศีล 5 ก็ดีอยู่แล้วงับ แต่ที่ว่าไม่ดีพอจะบรรลุธรรมได้ อันนี้ไม่จริงนะงับ

ความจริงแล้ววิปัสสนาง่ายมาก แล้วก็ไปรู้กายใจตามความเป็นจริงนะงับ แล้วยอมรับความจริงทำนั้นละงับ

การเป็นพระอริยเจ้าก็ง่ายมาก ไม่ใช่ยากแบบที่คนคิดนะงับ

แล้วการที่พยายามทำความสงบ อันนี้ไม่ถูกต้องนะงับ เพราะว่าทำความสงบก็เกี่ยวกับพรหมนะงับ

เป็นการทิ้งประโยชน์ที่ได้โชคดีมากมีโอกาสมาเจอพระศาสนา ทิ้งเวลาการปฎิบัติไปเสียเปล่า


สุดท้ายก็ไม่ได้ต่อต้านนะงับ

แต่ขอให้ทำไปนะงับ ตามรู้กายใจ ความความเป็นจริง แล้วยอมรับเท่านั้นละงับ

รอความแก่รอบ แล้วจิตตรัสรู้ไปเอง ทุกข์กำหนดรู้ สมุทัยกำหนดละ นิโรธเกิดเอง มรรคควรเจริญไป

จิตซัดส่ายไปนอก เป็น สมุทัย
ผลที่จิตซัตส่ายไปนอก เป็น ทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็น มรรค
ผลของจิตเห็ฯจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็น นิโรธ


ขอบคุณ พี่ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ นะคะ ที่ให้การสนับสนุน
แต่ที่พูดไปทั้งหมดยังต้องพยายามอีกไกลเลยค่ะ
ที่บอกว่าตัวเองยังดีไม่พอ เพราะยังอยู่ในระหว่างการปรับตัว
พยายามที่จะศึกษาและปฏิบัติอยู่ค่ะ กิเลสยังเยอะ และอาจจะเป็นเพราะ
วัย เลยยังไม่คิดที่จะมุ่งสู่นิพพาน แค่ไม่สร้างบาป หมั่นสวดมนต์
ปฏิบัติธรรม และสามารถพัฒนาสมาธิตัวเองได้ ก็โอเคแล้วอ่าค่ะ
หากว่าสามารถทำสำเร็จอย่างที่หวังก็จะตั้งเป้าหมายใหม่
ค่อยๆไปทีละขั้น ขั้นน้อยๆของหนูอาจจะถึงนิพพานหรือไม่ ก็ไม่รู้
แต่ก็จะพยายามที่จะก้าวไปเรื่อย :b18: :b18: :b18:


walaiporn เขียน:

จ้า .. น้องแจมอายุ 20 ปีค่ะ นี่จะนัดไปวัดมหาธาตุกับพี่น้ำอาทิตย์หน้านี่แหละ

บ้านเขาอยู่แถวพุทธมณฑล เลยช่วยหาครูบาฯและสถานที่ปฏิบัติให้กับน้องเขา

อิอิ .. กุศลนำพาค่ะ น้องแจมนั่งรถต่อเดียวถึงวัดเลย ดีจริงๆเลยค่ะ

พี่น้ำเองอยู่สมุทรปราการค่ะ นั่งรถต่อเดียวเหมือนกันค่ะ

น้องพลอยใสสนใจไปปฏิบัติด้วยกันไม๊คะ :b12:



ไปกี่วันหรอคะ อยากไปด้วยจังเลยค่ะ คงไม่ได้ไปอ่าค่ะ พอดีพลอยเรียนอยู่ที่ชลบุรี
แต่บ้านอยู่กรุงเทพนะคะ เอาไว้หากพี่ไปปฏิบัติธรมครั้งหน้าดีกว่าค่ะ จังหวะ
ช่วงปิดเทอม พลอยกำลังอยากจะไปปฏิบัติธรรมอยู่เลยค่ะ หาเวลาว่างไปอยู่แต่ว่า
เรียนตอนสี่โมงเย็น-ทุ่มครึ่ง เกือบทุกวันเลยค่ะ วันว่างทั้งวันคงจะมีวันอาทิตย์วันเดียว
ต้องไปตอนปิดเทอมอย่างเดียว พลอยก็คิดอยู่ค่ะว่าจะไปที่วัดอัมพวันยังไม่เคยไปเลยค่ะ
ว่าจะหิ้วน้องไปสักคนสองคน หุหุ หากพี่ไปปฏิบัติในช่วงปิดเทอม รบกวนพี่ชวนพลอย
ด้วยนะคะ ถ้าหากว่าหนูว่างไม่ติดธุระอะไร จะไปให้ได้เลยค่ะ อยากทำแบบจริงๆจังๆ
กับเค้าบ้าง :b32: :b32:

อมิตาพุทธ เขียน:
คุณน้อง PloYSaii นอนดีกจังนะครับ :b1:
คุณน้องบอกอายุมา ทำให้พวกพี่ๆ แก่กันไปถนัดตา :b12:
แค่อายุของคุณน้อง ก็ห่างจากข้าพเจ้า 10 ปีพอดี (ตอนนี้ 29 ขวบครับ) :b12:

พี่ๆทีมงานหากได้อ่านความเห็นของคุณน้อง PloYSaii
คงมีกำลังใจกันขึ้นเยอะเลยครับ :b8: :b8: :b8:


หุหุ เด๋วจะไปนอนแล้วค่ะ ชอบมาอ่านตอนดึกๆเงียบดีค่ะ

แต่ตอนนี้ก็เบลอมากแล้วเหมือนกันค่ะ

งั้นขอตัวลาไปนอนเลยละกันนะคะ ฝันดีค่ะ :b29: :b29:

.....................................................
๐ การเป็นผู้ฟังบ้างก็ไม่เสียหายอะไร จะได้รู้ว่าสิ่งที่เข้าใจมากนั้นผิดหรือถูก ๐


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 05:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ทำดีได้อยู่แล้วงับ แต่ว่า พยายามทำสมาธิ ไม่ยึดติด พยายามรักษาศีล
รักษาศีล 5 ก็ดีอยู่แล้วงับ แต่ที่ว่าไม่ดีพอจะบรรลุธรรมได้ อันนี้ไม่จริงนะงับ
ความจริงแล้ววิปัสสนาง่ายมาก แล้วก็ไปรู้กายใจตามความเป็นจริงนะงับ แล้วยอมรับความจริงทำนั้นละงับ
การเป็นพระอริยเจ้าก็ง่ายมาก ไม่ใช่ยากแบบที่คนคิดนะงับ

แล้วการที่พยายามทำความสงบ อันนี้ไม่ถูกต้องนะงับ เพราะว่าทำความสงบก็เกี่ยวกับพรหมนะงับ

เป็นการทิ้งประโยชน์ที่ได้โชคดีมากมีโอกาสมาเจอพระศาสนา ทิ้งเวลาการปฎิบัติไปเสียเปล่า
สุดท้ายก็ไม่ได้ต่อต้านนะงับ
แต่ขอให้ทำไปนะงับ ตามรู้กายใจ ความความเป็นจริง แล้วยอมรับเท่านั้นละงับ
รอความแก่รอบ แล้วจิตตรัสรู้ไปเอง ทุกข์กำหนดรู้ สมุทัยกำหนดละ นิโรธเกิดเอง มรรคควรเจริญไป
จิตซัดส่ายไปนอก เป็น สมุทัย
ผลที่จิตซัตส่ายไปนอก เป็น ทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็น มรรค
ผลของจิตเห็ฯจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็น นิโรธ



แล้วการที่พยายามทำความสงบ อันนี้ไม่ถูกต้องนะงับ เพราะว่าทำความสงบก็เกี่ยวกับพรหมนะงับ

การเป็นพระอริยเจ้าก็ง่ายมาก ไม่ใช่ยากแบบที่คนคิดนะงับ

ฯลฯ

ขงเบ้ง เราไปคุยประเด็นทั้งหมดเหล่านั้นกันที่

http://www.free-webboard.com/look.php?n ... hat&qid=44

เรื่องจริยะประเพณี เป็นต้นว่า ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ปล่อยนก ปล่อยปลา ปิดทองฝังลูกนิมิต
ทำบุญตามประเพณี ฯลฯ เหล่านี้จำสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้ สืบสานบอกต่อกันได้ แม้จะผิดพลาดบ้างก็ไม่สู้
กระไรนัก


แต่ถ้านำหลักปฏิบัติ โดยเฉพาะที่เป็นหลักการใหญ่หัวข้อใหญ่ (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค) ที่ต้องอธิบาย
ตามหลัก+ประสบการณ์จากการปฏิบัติ ซึ่งตนเพียงได้ยินได้ฟังมาแล้วก็บอกต่อ แบบขงเบ้งเสร็จทุกราย
ไปไม่รอด (พูดตรงๆ) ไปจำขี้ปากเขามาพูด งับๆ ไป

อย่างว่า เมื่อพูดถึงหลักการต้องอิงหลัก ที่เกี่ยวกับข้อปฏิบัติด้วยจะต้องมีประสบการณ์
ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวก็มีผู้จำนำไปพูดต่อ แพร่ขยายลัทธิ (ความเชื่อ)ต่อ

ต่อเมื่อถูกใครซักไซ้ไล่เลียง หาจุดของธรรมข้อนั้นๆ ก็งอน

การเป็นอริยะง่าย ไม่ยากหากเป็นอริยะแต่งตั้ง

แต่อริยะตามหลักของพระพุทธเจ้าไม่ง่ายนัก เพราะการปฏิบัติจะต้องเป็นไปเพื่อละกิเลส แล้วละได้นั่นแหละท่านจึงขนานนามว่า อริยะ



แล้วการที่พยายามทำความสงบ อันนี้ไม่ถูกต้องนะงับ เพราะว่าทำความสงบก็เกี่ยวกับพรหมนะงับ


ดูสิ พูดถึงความสงบ ไพล่โยงขึ้นไปถึงพรหมโน่น
เป็นวิธีหลบคำถามของคนบางคน เขาถามตอบไม่ได้ หนีขึ้นฟ้า ฯลฯ ทำเอาหลักธรรมกลายเป็นของเพ้อๆฝันๆ ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับชีวิตปัจจุบันเลย
การแนะนำคนลักษณะนี้แหละควรหยุดเหมาะกับชื่อกระทู้ “หยุดทำร้ายพระพุทธศาสนาเสียทีได้ไหม” :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 07:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 17:52
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณครับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณทุกความคิดเห็นเลยๆๆๆๆๆๆๆๆ

อย่างน้อยก็มีพวกคุณนี่แหละ พอจะสืบต่อพระศาสนาไปได้(บ้างไม่ได้บ้าง)แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลยสักคน

น้องพลอยใสก็ดีครับ ยังวัยรุ่นอยู่เลยแต่ก็สนใจในคำสอนของพระพุทธองค์เป็นอย่างดีพอสมควร แต่จะให้ดีก็พระไตรปิฎกอย่างให้ห่างนะครับ พี่เองก็กวนๆ เกะกะระรานเขาไปทั่วแหละ อย่ามาเอาสาระอะไรมากเลยนะ ดูพอเป็นสีสรรให้ชีวิตหรือเป็นเครื่องทดสอบของน้องก็แล้วกันนะว่า ถ้ามีคนเขาไม่เห็นด้วยกับเรา ไม่ลงรอยกับเราหรือเห็นไม่ตรงกัน ถกเถียงกันบ้าง น้องจะควบคุมสติของน้องได้ดีไหม หรือจะลงไปลุยเลยหรือจะอยู่เฉยๆ หรือจะ.......มันเป็นการทดสอบภาวะอารมณ์อีกอย่างหนึ่งครับ เพราะยังไง เราก็หนีไม่พ้นสิ่งเหล่านี้ได้อยู่แล้ว

ส่วนท่านผู้รู้(จะมากหรือน้อยก็ถือว่ารู้นะ) เราก็มาต่อกันดีกว่าครับว่า

สิ่งของที่ต้องไม่นำไปถวายพระภิกษุ เล่ม 11 หน้า 310 – 311

...13. เธอเว้นขาดจากการรับทองและเงิน.
14. เธอเว้นขาดจากการรับธัญญาหาร ( ข้าว ) ดิบ.
15. เธอเว้นขาดจากการรับเนื้อดิบ
16. เธอเว้นขาดจากการรับสตรี และกุมารี.
17. เธอเว้นขาดจากการรับทาสี( ทาสหญิง ) และทาส.
18. เธอเว้นขาดจากการรับแพะ และแกะ.
19. เธอเว้นขาดจากการรับไก่ และสุกร.
20. เธอเว้นขาดจากการรับช้าง โค ม้า และลา.
21. เธอเว้นขาดจากการรับไร่นา และที่ดิน.
22. เธอเว้นขาดจากการประกอบทูตกรรม ( การนำข้อความไปแจ้ง ) และการรับใช้.
23. เธอเว้นขาดจากการซื้อ การขาย...
บางตอนนะครับ ขี้เกียจพิมพ์ :b32:

ถ้าบอกว่า ธรรม ของพุทธองค์เป็น อกาลิโก แต่คุณก็กล่าวอีกว่า

เรื่องจริยะประเพณี เป็นต้นว่า ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ปล่อยนก ปล่อยปลา ปิดทองฝังลูกนิมิต
ทำบุญตามประเพณี ฯลฯ เหล่านี้จำสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้ สืบสานบอกต่อกันได้ แม้จะผิดพลาดบ้างก็ไม่สู้กระไรนัก

ตรงที่เน้นนี่มันคืออะไรหละครับ ยกเว้นเอาตาชอบใจเหรอครับ ถ้ามันไม่ดีก็ควรจะบอกว่ามันไม่ดี และถ้าจะทำให้มันดีมันถูกต้องก็ต้องทำแบบนี้ 1 2 3 .....อย่างนี้สิครับท่านกรัชกาย

ถ้างั้นก็คนขายบ้าก็อย่าไปว่าเขาอย่าไปจับเขาสิ เพราะเขาทำเพื่อเลี้ยงครอบครัวของเขาเหมือนกัน
หรือพวกที่เสพยาบ้าก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา เป็นลูกเป็นหลายเป็นญาติพี่น้องก็แล้วแต่อย่าไปยุ่งกับเขาเพราะอย่างน้อยตอนที่เขาเสพเขาก็มีความสุขอยู่ไง ถ้าจะคิดเอาแบบท่านกรัชกายนะ ทำไปเถอะเพราะอย่างน้อยมันก็มีดีอยู่บ้าง เหรอครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 187 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 13  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร