วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 12:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 11:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: เรียนท่าน จขกท.คะ
เราต่างเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ในสังสารวัฏ
ตั้งแต่เกิดจนถึงเดี๋ยวนี้...ทุกข์เพราะจากเป็นและจากตายมาตั้งไม่รู้กี่ครั้ง
ไหนจะเรื่องเรียน งานการ ปากท้อง
โรคภัยไข้เจ็บก็มากมาย โรคไข้หวัดนก ไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่
มาวันนี้ทุกข์หนักกับไข้หวัด 2009 อีก
ก็ได้แต่เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันนะคะ

ทั้งความทุกข์และความสุข...ไม่มีอะไรอยู่กับเราตลอดไป และจากเราไปตลอดกาลหรอกค่ะ
เรื่องการเกิดแก่เจ็บตายเป็นอนิจจัง หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างเราๆ ไม่มีทางเลี่ยงได้พ้น จริงแท้แน่นอน
ถ้ารู้สึกว่าทุกข์มากๆ ลองหาอุบายเพื่อปรับเปลี่ยนความรู้สึกดูนะคะ
เช่น มองคนที่เขาทุกข์มากกว่าเรา คนที่เขาอดอยากยากแค้น สภาพของเด็กที่มีแต่หนังหุ้มกระดูก
เชื่อว่าทุกปัญหาต้องมีทางออกไม่ช้าก็เร็ว หากยังหาไม่เจอเราอาจวางไว้ก่อน แล้วหันไปทำอย่างอื่นก่อน
ใจเย็นนะคะ กัลยาณมิตรที่นี่มีกำลังใจให้ค่ะ :b44: สติมา ปัญญาเกิด :b44:
ขอให้มองโลกมุมบวกนะคะ

ดิฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่รู้จักสละความทุกข์ออกจากตัว
ร้องไห้เพราะความสูญเสียมาตั้ง 6-7 เดือนแล้วค่ะ
ร้องมันทุกวัน แต่ก็ได้เรียนรู้ว่าคนเรามันไม่ได้ทุกข์อยู่ตลอด 24 ชั่วโมงหรอก
ดิฉันก็มองหาอุบายสละความทุกข์จากใจให้ตัวเองเหมือนกัน
การสละทาน ทำบุญ ให้ทาน ปล่อยชีวิตสัตว์ สวดมนต์ ปฏิบัติจิตภาวนา
ถือศีล แผ่เมตตา คิดดีกับคนและสิ่งรอบข้าง สารพัด ...

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 19:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านไล่ลงมาๆๆ ก็ดีครับ

แต่ถึง 6 บรรทัดล่างไมตัวเล็กกว่าข้างบนอ่ะคับ แม่มด มองไม่ค่อยเห็น :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2009, 15:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อาจารย์คะ :b8:

:b3: อายๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่ะ

:b15: เห็นมั้ยคะ กิเลสหนามากๆๆ เลยค่ะ

:b33: ต้องฆ่าให้ตาย ตัวกิเลสเนี่ย

:b48: :b47: :b49: :b51: :b52: :b53: :b49: :b50: :b48: :b47:

:b44: ใจดวงเก่า ภาวนาพุทโธ :b44:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2009, 23:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


เจอสาระธรรมดีๆ มาแบ่งปันค่ะ

viewtopic.php?f=5&t=23281

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2009, 05:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ดิฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่รู้จักสละความทุกข์ออกจากตัว
ร้องไห้เพราะความสูญเสียมาตั้ง 6-7 เดือนแล้วค่ะ
ร้องมันทุกวัน แต่ก็ได้เรียนรู้ว่าคนเรามันไม่ได้ทุกข์อยู่ตลอด 24 ชั่วโมงหรอก
ดิฉันก็มองหาอุบายสละความทุกข์จากใจให้ตัวเองเหมือนกัน
การสละทาน ทำบุญ ให้ทาน ปล่อยชีวิตสัตว์ สวดมนต์ ปฏิบัติจิตภาวนา
ถือศีล แผ่เมตตา คิดดีกับคนและสิ่งรอบข้าง สารพัด ...

อาจารย์คะ
อายๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่ะ
เห็นมั้ยคะ กิเลสหนามากๆๆ เลยค่ะ
ต้องฆ่าให้ตาย ตัวกิเลสเนี่ย


ดิฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่รู้จักสละความทุกข์ออกจากตัว
ร้องไห้เพราะความสูญเสียมาตั้ง 6-7 เดือนแล้วค่ะ
ร้องมันทุกวัน แต่ก็ได้เรียนรู้ว่าคนเรามันไม่ได้ทุกข์อยู่ตลอด 24 ชั่วโมงหรอก



ผู้ต้องการรู้แจ้งเข้าใจสัจธรรมหรือธรรมชาติ พึงทำปริญญากิจ หรือ กำหนดรู้อย่างนั้น ทุกๆขณะจิต ปฏิบัติอย่างนี้เรื่อยไป รู้สึกอย่างไรกำหนดรู้อย่างนั้น ตามที่มันเป็น ตามที่รู้สึก

มิใช่หลบๆเลี่ยงๆธรรมชาติ หรือเบียนหนีความจริง ไม่กล้าสู้หน้าความจริง แล้วจะรู้ความสัจจธรรมความจริง
ได้อย่างไร จะรู้เหตุแห่งทุกข์ได้อย่างไร

หลักอริยสัจ เมื่อประสบทุกข์ พึงสาวหาเหตุแห่งทุกข์ ด้วยการกำหนดรู้ตามนั้น เพื่อให้สัญญา สติ ปัญญญาเป็นต้นได้ทำหน้าที่ (ดูศัทพ์และความหมายได้ที่กระทู้ ลิงค์ที่เคยให้ไว้)

การกำหนดรู้ตามที่ธรรมชาติมันเป็นนั้น คือ มรรค หรือ วิธี, อุบาย, ข้อปฏิบัติ,หนทาง


กรัชกายอ่านเห็นอยู่ รู้แล้ว แต่แกล้งแซวเล่น ไม่เห็นหน้าอายที่ร้องไห้ผิดหวัง ใครบ้างไม่เคยร้องไห้
เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ฯลฯ กรัชกายเคยร้อง แต่ข้างในก็กำหนดรู้ตามนั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2009, 09:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 22:19
โพสต์: 271

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็เรายังไม่ป็นโสดาบันนี่หน่าก็ต้องทำอะไรตามๆกันไป แต่ผมเคยเหมือนกันไปดูดวงตามแฟนพาไปหมอดูบอกว่าผมดวงไม่ดีมากเลยถึงขั้นชะตาขาดจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการแก้ไข กลับมาบ้านผมบอกแฟนว่าถ้าผมจำเป็นต้องตายมันก็ต้องตายไม่เห็นจะต้องแก้เลยมันแก้ได้หรือ ไม่ต้องกลัวนะการตายเป็นการเปิดโอกาสให้เรามีโอกาสได้พ้นทุกข์ ไม่ตายก็ไม่มีโอกาสได้ไปสวรรค์และนิพพานนะครับสู้ๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2009, 10:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


บางส่วนจาก....ทุกข์ที่สุด จะหลุดได้อย่างไร
http://www.dhammajak.net/dhamma/1.html

ในเรื่องความทุกข์ที่สุดนี้ ธรรมะในพระพุทธศาสนาสอนให้เราแก้เรื่องนี้ได้ทันที ด้วยความเข้าใจ ด้วยความรู้ที่เราไตร่ตรองเองได้ และด้วยประสบการณ์ในอดีตของเราทุกคน ในกาลามสูตรพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่อด้วยเหตุ 10 อย่าง เช่นด้วยเหตุผลว่าผู้สอนเป็นครูของเรา และอื่นๆ รวมสิบประการ แต่จะให้เชื่อก็ต่อเมื่อไตร่ตรองรู้ได้ด้วยตนเองจึงเชื่อ การจะไตร่ตรองให้รู้ได้ด้วยตนเอง จะมีได้ก็ต่อเมื่อเรามีประสบการณ์ในเรื่องนั้นมาแล้ว ดังนั้นประสบการณ์ในอดีตจึงเป็นธรรมะที่เราตรึกตรองได้เช่นกัน

เมื่อความทุกข์ที่สุดมาถึง สิ่งที่ควรระลึกถึงมีสองสามอย่างคือ หนึ่ง อย่ากลัวว่าความทุกข์นั้นจะมีตลอดไป เพราะมันจะไม่คงอยู่ตลอดไป เดี๋ยวมันก็จางไป สอง อย่าคิดว่าไม่มีทางแก้ไขให้ดีขึ้นได้ เพราะจะมีทางแก้ไขเสมอ เพียงแต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเท่านั้น สาม อย่านึกว่าต่อไปนี้เราจะไม่ได้รับสิ่งดีๆ อีก เพราะเมื่อทุกข์ผ่านไป เราจะยังมีความสุข สนุกสนาน ได้อย่างเดิมแน่นอน และสุดท้ายคือ ให้นึกถึงคนข้างหลัง ที่เขาจะต้องเศร้า ได้รับการกระทบกระเทือน จากการกระทำด้วยอารมณ์ของเรา เมื่อทุกข์ที่สุดมาถึงสิ่งที่เราต้องทำทันที ในขณะที่ยังตั้งตัวปรับใจไม่ทันก็คือ รีบหาทางเปลี่ยนอารมณ์ เมื่อเราไปเจอคนอื่นทุกข์สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือช่วยเปลี่ยนอารมณ์เขาก่อน จากนั้นสติจึงจะตามมา
ความทุกข์ที่มากสุดจะแก้ได้เร็วและง่ายที่สุด ด้วยการเปลี่ยนอารมณ์ ดึงอารมณ์ออกจากสถานการณ์นั้นก่อน อาจง่ายๆ เพียงแค่ทำอะไรที่ชอบ ฟังเพลง ดูหนัง หาของอร่อยกิน ชวนเพื่อนไปเที่ยว ชวนคุยเรื่องอื่น ลืมเรื่องทุกข์ไปชั่วคราวก่อน บางทีก็เบาบางได้เอง ที่สำคัญถ้ามีเพื่อนดี จะเบาบางไปได้มากที่สุด ที่ไม่ควรทำคือดื่มสุรา หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ควรหันไปดื่มเหล้าเบียร์ เพราะการกินเหล้าก็ดับทุกข์ได้ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่จะมีข้อเสียกว่าคือ จะยิ่งโกรธง่าย น้อยใจง่ายและโมโหง่ายกว่าเดิม และไม่มีสติยับยั้งความโกรธ หรืออารมณ์ที่รุนแรงเหล่านั้น เมื่อเปลี่ยนอารมณ์ได้ ใจจะเข็มแข็งมากพอที่จะแก้ในขั้นต่อไป

ขั้นต่อไปคือพยายามตั้งใจใช้สติคิดว่าจะแก้ได้อย่างไร อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล สายไปแค่ไหนแล้วและแก้ได้หรือไม่ ทำให้ดีขึ้นได้หรือไม่ ถ้าแก้ไม่ได้ ขั้นสุดท้ายคือ ทำให้ใจของเรายอมรับสิ่งนั้นให้ ได้ ใจของเราจะยอมรับได้ คิดได้ ปลงตกได้ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ :b44:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2009, 11:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: เรียน อาจารย์กรัชกายคะ

ที่อายไม่ใช่เพราะสูญเสีย>>ทุกข์>>ร้องไห้

:b46: ที่ผ่านมาดิฉันเป็นพุทธศาสนิกเพียงแต่ในนาม ทำบุญบ้างตามโอกาส ศึกษาธรรมะ งูๆ ปลาๆ (อายอย่างที่ 1)
:b46: ถือศีลห้าก็ไม่ครบทุกข้อ ไม่ต้องถามถึงศีลแปด (อายอย่างที่ 2)
:b46: เป็นคนอ่านเยอะนะคะทั้งบทความทั่วไปและบทความธรรมะของพระธรรมกถาจารย์หลายท่าน
แต่...เมื่อมาถึงวันหนึ่งได้เผชิญเข้ากับตัวเองบ้างกลับ สละ ไม่ออก (รู้ทั้งรู้ แต่ทำไม่ได้ น่าอายที่สุด :b19: )

ที่ดิฉันเที่ยวไปโพสต์เอาไว้ตามกระทู้ของกัลยาณมิตรหลายท่านก็ไม่ได้ตั้งใจจะสอน แนะนำ หรือปลอบใจอะไรหรอกนะคะ
เพราะเจียมตัวเสมอว่าเราอยู่ในฐานะเพื่อนร่วมทุกข์ จึงไม่อาจใช้คำว่า สงสาร ใครๆ ได้ ก็ได้แต่เห็นอกเห็นใจกันไป ตามนั้นค่ะ

:b46: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากทุกข์ครั้งนี้คือ อริยสัจ๔ และอริยมรรคมีองค์


รูปภาพ
รูปภาพ

:b44: เห็นทุกข์จึงเห็นธรรม :b44:
...กำลังพยายามปฏิบัติค่ะ กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก มีความสุขกับปัจจุบันขณะให้ได้...
.....ขอแค่ดับทุกข์ในใจให้ได้ก่อน :b7: ตอนนี้จึงยังไม่หวังนิพพานค่ะ :
b20:

:b8: สาธุค่ะอาจารย์ :b13:


:b41: การปรับเปลี่ยนอารมณ์เมื่อทุกข์สาหัส ก็แค่ดับทุกข์เพียงชั่วคราว :b41:

:b42: อริยมรรคคือของแท้ :b42: ดิฉันเข้าใจถูกต้องใช่มั้ยคะอาจารย์ :b6:

:b48: อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเราไม่ได้ทุกข์อยู่ตลอด 24 ชม. ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
.... :b48:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร