วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 19:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2009, 19:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับคุณ mes ขอบคุณสำหรับมิตรไมตรีที่มีค่าครับ
และขอบคุณอีกครั้งที่นำข้อความเห็นของผมไป แสดงในที่อื่นอีก
ถึงแม้จะมีใคร แสดงอาการไม่เห็นด้วย ผมก็ไม่มีข้อตำหนิอะไรกับใครหรอกครับ

แต่ละคนย่อมมีพลังในการเข้าใจไม่เท่ากัน จะเข้าใจไม่ตรงกันบ้างก็ไม่ว่ากัน
และถึงผมจะโดนว่า เพราะเข้าใจไม่ตรงกับเขา ก็ไม่เป็นไร เพราะเขาคงหวังดี


สำหรับคุณพลศักดิ์ ที่พยายามเหลือเกิน จะให้ผมเป็นพวกแหกตำรากล่าวอ้างตู่
พระพุทธเจ้า หาว่าพระพุทธองค์ไม่เคยแสดง ว่า วิญญาณในปฏิจจสมุปบาท
หมายถึงวิญญาณ6 ซึ่งก็คือ จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ
กายวิญญาณ และมโนวิญญาณ

ดังนั้นจึงตำหนิผมด้วยคิดว่าผมกล่าวเอาเอง ผมจึงต้องเชิญคุณไปเปิดพระไตรปิฎกดูเอง

ให้คุณพลศักดิ์เปิด ไปที่ สูตรที่ 2 พุทธวรรค นิทานสังยุตต์ 16/2/4 ตรัสแก่ภิกษุที่เชตวัน
ว่าด้วยความหมายของปฏิจจสมุปบาทแต่ละอาการ

กลับไปเปิดดู ซะให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยกลับมาคุยกับผมใหม่

:b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 01:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


apisit555 เขียน:
พี่mesเอาข้อความคนอื่นไปลง ตามด้วยข้อความเลียแข้งเลียขาของพี่ ผมเห็นแล้วสยอง

พี่พลศักดิ์ไม่ได้ไปด่าใคร เพียงแต่กระแทกพี่บัวศกลแรงๆ ให้เขาเลิกนำความคิดของตนเองใส่พระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

มีแต่ผลดีครับ.... ไม่เช่นนั้นพระพุทธศาสนาจะโดนบิดเบือนไปเรื่อยๆจากผู้ที่เข้าไม่ถึงธรรม

พี่mesสมควร อนาถใจจริงๆ กับตัวเองได้แล้วครับ คนดีๆต้องเสียและโดนขับไล่ออกจากเว็บเพราะคำยุยงปลุกปั่นของพี่mes



พระพุทธศาสนากำลังโดนบิดเบือนไปเรื่อยๆจากผู้ที่เข้าไม่ถึงธรรม..อย่างคุณพลศักดิ์..นี้แหละครับ..แล้วไม่เห็นคุณ apisit555 ปกป้องพระศาสนาตรงไหน..มัวแต่สาลวนยกคุณพลศักดิ์ท่าเดียว..ความเลวกลับไม่เห็น..คนที่ไม่เห็นความเลวเลยนี้เพราะมีแต่ความหลงอยู่เต็มหัวใจของมันนั้นแหละ..มันเลวมากนะครับ..ถ้าอยากดีต้องเห็นความเลวในตัวเองให้ได้..ไม่งั้นจะกลายเป็นท่านใบลานเปล่า..หาคุณค่าอะไรไม่ได้เลย..นะครับคุณ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 03:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาเถอะครับ เมื่อคุณหาไม่เจอ พระสูตรที่พระพุทธองค์ตรัสแก่ภิกษุที่เชตวัน
เกี่ยวกับ ความหมายแต่ละอาการของ ปฏิจจสมุปบาท ผมก็คงต้องยอมรับ
ว่าผมไม่มีความสามารถพอที่จะ ทำให้คุณเห็นได้ว่า พระพุทธองค์กล่าวถึง
ความหมายของปฏิจจสมุปบาท ไว้ว่า วิญญาณอันมีปัจจัยมาจาก สังขาร3
คือ จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ
มโนวิญญาณ ได้

ทั้งที่หนังสือ หน้าที่ผมกล่าวถึง ก็วางอยู่ตรงหน้าผมเนี่ย

ผมไม่ทราบว่าที่คุณ กล่าวว่า คุณหาไม่เจอ ไม่มีดังที่ผมยกมาแสดง
นั้นเพราะว่า หนังสือหลอกผม หรือคุณกำลังมุสากันแน่

แต่ผมก็คิดว่าคงพอสมควรแล้ว กับการอธิบายกับคุณ เพราะแค่ศีลคุณยังไม่มี
แล้วคุณจะยังมีคุณธรรมเบื้องสูงอะไรได้

ตรงหน้าผม มีหนังสือปฏิจจสมุปบาท จากพระโอษถ์ อยู่หนึ่งเล่ม
เป็นหนังสือที่รวบรวมคำตรัสเกี่ยวกับเรื่องปฏิจจสมุปบาทที่ตรัสจากพระโอษถ์ของพระพุทธเจ้า
โดยตรงทุกแง่มุมเท่าที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก

ถึงแม้ผมจะไม่ได้ไปเปิดจากพระไตรปิฎกโดยตรง แต่ทุกเนื้อความที่มีนำมาแสดง
ก็จะบอกที่มาสำหรับอ้างอิงไว้อย่างครบถ้วน

และผมก็ได้บอกคุณเท่าที่ตนเองได้ทราบแล้ว เมื่อคุณยังไม่ทราบอีก
ผมก็คงได้แต่ปล่อยให้เป็นเรื่องของคุณ

ขออภัยด้วย ที่ผมจะไม่พยามเพื่อมานั่งเอาชนะคุณ เพราะผมไม่ได้มาอธิบายยืดยาว
ด้วยอยากมาข่ม หรือหักล้างกับคุณ แค่คิดว่าควรบอกกล่าวเท่าที่ผมทราบแก่คุณ
และเมื่อบอกไปแล้ว คุณก็ยังยืนยันอย่างที่คุณรู้ ผมก็ไม่จำเป็นต้องมาโต้เถียงอะไรอีก

:b41: :b41: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 14:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัดวัฏสงสารที่วงล้อปฏิจสมุปบาทนี่แหละ

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 16:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


dhama เขียน:
ตัดวัฏสงสารที่วงล้อปฏิจสมุปบาทนี่แหละ


สาธุ แจ่มๆ :b12: :b12: :b9: :b9: :b16: :b16:

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 18:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


apisit555 เขียน:

เมื่ออยู่ในภาวะหลับสนิทไม่ฝัน ในขณะนั้นไม่มีการรับรู้ใดๆ ชีวิตทั้งหมดกลับลงสู่ความเป็นธาตุ คือ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ
........
........


ที่พี่ว่ามาไม่เข้าใจเลยค่ะ
เข้าใจแค่ บรมสุข กับ สุขบรม
และทำใจให้มุ่งไปในทิศทางอันเหมาะสม ขอเป็นผู้มักน้อยค่ะ
คำสองคำที่เขียนเหมือนกันแท้ ๆ แต่แค่สลับกันอยู่
ความนัยที่ฉายแววออกมาในถ้อยคำ
ก็ต่างกันได้ ราวฟ้ากับเหว...

ก็แค่หวังไว้ว่า ผู้ที่เดินทางในธรรม จะค้นพบวิถีที่จะนำทางไปสู่ บรมสุข ค่ะ


:b23: :b23: :b23:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 20:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


apisit555 เขียน:
ทุกท่านครับ

ผมเขียนอธิบายมายาวเหยียด ท่านคงอ่านไม่ค่อยเข้าใจ อธิบายเป็นภาษาขาวบ้านง่ายนิดเดียว

ร่างกายของท่านทำงานและรับรู้สิ่งต่างๆได้ เพราะท่านมีวิญญาณขันธ์อยู่ พอท่านตาย วิญญาณขันธ์ท่านก็ตายไป ท่านก็กลับไปสู่ความเป็นวิญญาณธาตุ คือ ผี หรือ เทวดา หรือ เปรต


ผี หรือ เทวดา หรือ เปรต คือการกลับไปสู่ความเป็น วิญญาณธาตุ ..นี้คือธรรมในจิตนาการล้วน ๆ จิตนมัยปัญญาที่ตั้งอยู่บนมิฉาทิฐิ ทั้งแท่ง

อ้างคำพูด:
ไอ้วิญญาณธาตุที่ตอนท่านตายเป็นผี หรือ เทวดา หรือ เปรต เป็นการพัฒนาการที่เลวลง เพราะแต่เดิมวิญญาณธาตุของท่านคือ ธรรมกายที่บริสุทธิ์ ท่านเคยอยู่ในนิพพานมาแล้ว แต่ทะลึ่งออกมารับรู้ภพภูมิอื่น สุดท้ายท่านเลยกลายเป็นผี หรือ เทวดา หรือ เปรต แม้แต่สัตว์นรกไป

ด้วยเหตุนี้เอง ทุกท่านจึงต้องเริ่มปรับจิตให้ดีขึ้นมาใหม่ เมื่อบริสุทธิ์ ไม่มีราคะ โทสะ โมหะเมื่อไร ท่านจึงจะสามารถกลับไปบ้านเก่าของท่าน คือ นิพพาน ได้


นี้คือธรรมในจิตนาการล้วน ๆ จิตนมัยปัญญาที่ตั้งอยู่บนมิฉาทิฐิ ทั้งแท่ง หาความเป็นอริยะไม่มี..อิ..อิ..อิ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร