โรคนี้ชื่อว่าโรคอยากเป็นอาจารย์กรรมฐาน

หรือมีชื่ออื่นว่าโรคอยากเป็นผู้ชื่อว่ามีความรู้ธรรมอย่างมาก

โรคนี้ร้ายยิ่งกว่าความตาย
เป้นมะเร้ง เมื่อตายแล้ว มะเร้งก้จบ ไม่ตามไปราวี

แต่ว่าโรคนี้ร้ายกว่านั้น คือแม้ว่าตายแล้ว
ยังต้องต้องทรมานจากวิบากของโรคนี้อีกหลายภพหลายชาตินับไม่ถ้วน

โดยเฉพาะว่าไปแนะนำมั่วซั่ว สอนมั่วซั่ว
จนผู้คนเขาได้รับผลร้ายจากการสอนของเรา
ความหิวในความฉลาดของเรา
อยากประกาศตนให้รู้ว่าเราฉลาดในธรรม

โรคนี้เป็นกันมากในหมู่ผู้ที่สนใจในธรรม

ด้วยความหวังดีแต่ปากร้าย
จาก.. คนที่เกือบหายแล้ว

สาธุคะยังมีอีกหลายโรคที่ร้ายมากๆที่เกิดขึ้นในใจของโดเรมีที่เห็นบ่อยๆนะคะ
โรคอัตตาที่เกิดเมื่อกระทบคะ
โรคพอใจ
โรคไม่พอใจ
โรคหลงคิด
โรคไม่อยู่กับปัจจุบัน
โรคไม่รู้กายใจตนเอง
โรคชอบกล่าวโทษผู้อื่น
โรคไม่ยอมรับความเป็นจริง
โรคที่เห็นแล้วไม่เพียงแค่รู้
โรคทุกโรคที่เกิดจากกิเลสคะ
ความรู้สึกว่าร้ายมากคะ

โรคคุณรักษาไม่ยากหรอกเพราะคุณรู้ว่าคุณเป็นโรค บางคนไม่รู้ว่าดัวเองเป็นโรดก็เลยไม่ได้ไปหาหมอ

อิ้อหือ มาแป๊บๆ
อนุโมทนาด้วยอย่างยิ่งเลยนะครับ
ถ้าครูบาร์อาจารย์ได้ยินพูดอย่างนี้คงชื่นใจ

"รู้"ว่า"ไม่รู้" ก็คือ"รู้"
รู้แค่นี้ก็พอแล้ว แล้วจะได้ที่สุดแห่งการรู้

พระไตรปิฏกทั้ง 84000 พระธรรมขันธ์
รวมความแล้วก็ให้ทำแค่"รู้" เท่านั้นเอง

พุืทธ แปลว่ารู้

ก็เห็นสอนกันเกือบทุกคนเลยนี่ แล้วไง

อีกไม่นาน นรกคงเต็ม

ความเห็นของคุณทำให้เราได้ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
อย่างประหลาด...
อิ อิ

ไม่เป็นไรๆ อย่าวิตกเจ้าพวกมนุษย์ เดี๋ยวอาตมุยจะถือธงนำ มุ่งสู่อเวจีขุมนรก... จงมาๆ

ไม่ไปค่ะ

นับถือๆ คิดแล้วสยอง

อ้าว...แล้วก็มีนรกจริง ๆ ด้วย...มันเต็มไม่ได้หรอกค่ะเพราะเต็มแล้วขยาย..ได้อย่างรวดเร็ว..เอ..แล้วท่านกรัชกายจะเชื่อไหมหนอ...มีผู้มายืนยันแล้วนะคะว่ามี...นรก แต่..สวรรค์ก็มีนะคะถ้าจิตระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว....และยอมตายเพื่อ ความเจริญของ"พุทธ"บุญกุศลที่ยอมถวายชีวิตต่อ "พุทธะ" ยมบาลคงเห็นความดีบ้าง หละค่ะ เพราะปัจจุบันผู้คนในพระศาสนาพุทธะ พากันลืมคำตรัสของพุทธะ อย่าง........ไ ...ย...อ...

ที่ว่าก็เห็นสอนกันทุกคนนี่ น่าคิดนะนี่

"สอนกรรมฐาน" กับ "ชักนำให้มีศีลมีธรรม" มันต่างกันนะจ๊ะ

สอนกรรมฐานนี่ก็เช่น นั่งอย่างนี้ ทำอย่างนี้ อาการอย่างนี้คืออะไร แล้วทำอะไรต่อไป
อันนี้มีศัพย์เรียกว่าอย่างนี้ อันนั้นคืออย่างนั้น ถึงขั้นนั้นขั้นนี้
เรียกว่าสอนคนทำสมาธิ สอนกรรมฐาน

สอนกรรมฐานเป็นงานฝีมือที่ยากที่สุดในโลกก้ว่าได้
เป็นงานฝีมือในทางจิต

คนที่จะเป็นอาจารย์สอนกรรมฐานได้นั้นต้องถึงขั้นจริงๆ
เป็นผู้รู้แจ้งในพฤติแห่งจิต ถึงจะไปบอกใครๆให้วางใจอย่างไรอย่างไร
อย่างไรเป็นโทษ อย่างไรเป็นคุณ พาเขาล่องไปในทางที่ถูกที่ควรได้

รู้แจ้งนะ ไม่ใช่รู้จำ รู้คิด
รู้แจ้งคือรู้อย่างแตกฉานอะไรแบบนั้น ทำได้แล้ว ทำได้จริง ทำได้ตรง

สมัยนี้ถึงกับมีการพาเข้าพาออกนิิพานกันแล้ว
มีเมืองนิพพาน มีลายไทยด้วย

แถวนี้ก้มีอุตริสอนโง่ๆเพราะไปอ่านมาเจอมาแล้วเอามาแพร่เชื่อบ้าๆบอๆ
ขอเชิญทัศนา
viewtopic.php?f=2&t=24272