ดิฉัน เป็นหญิงขายบริการ เพื่อหาเงินเลี้ยงลูกที่เกิดมา
ดิฉันเองก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้ แต่เนื่องจากยากจน
แต่ก็มีความเกรงกลัวต่อบาป เคยคิดคำถามนี้ขึ้นมาหลายครั้ง
แต่ก็ยังไม่ทราบคำตอบ ว่าอาชีพที่ดิฉันทำอยู่เป็นบาปไหมคะ
ถือว่าดิฉันทำผิดศีลข้อ3หรือเปล่า ช่วยตอบให้ทางสว่างแก่ดิฉันด้วยนะคะ
ขอขอบคุณค่ะ

เป็นกท.ที่ถามมาแล้วตอบยากจริงๆ
ให้ดูลิ้งค์นี้ดีกว่าทำให้เข้าใจชีวิตขึ้น
http://www.agalico.com/board/showthread.php?p=173582

หญิงงามเมืองสมัยพุทธกาล ก็มีมากมายที่ท้ายสุดได้บรรลุธรรม

อาชีพอย่างนี้ เหมือนกำลังเสวยผลแห่งวิบากกรรมแต่ปางก่อนอยู่ในทีแล้ว
ชีวิตเหมือนตกจมอยู่ในห้วงของความดำมืด หม่นหมอง และเศร้ากังวล

กรรม เป็นวิถีธรรมชาติที่มีความวิจิตร ยอกย้อน และละเอียดอ่อนเร้นลับ
จนยากที่ใครจะสามารถเข้าถึงความรู้จริงได้ อย่างแท้จริง เพราะกรรมเป็นอจินไตย

สิ่งที่คิดว่าบาปอาจไม่บาป สิ่งที่คิดว่าไม่มีอะไรแต่ก็มีอะไร

หากจิตมีกังวล หม่นหมอง และรู้สึกกินแหนงต่อการกระทำ
และถ้ายังไม่มีอิสระพอที่จะเป็นตัวของตัวเอง ไ่ม่มีพลังจะสลัดหลุดจากวงจรชีวิตที่เป็นอยู่

ก็ให้ตั้งใจอย่างเข้มแข็งที่จะก้าวให้พ้น จากวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ ให้รู้สึกรังเกียจ
สยะแสยงต่ออาชีพที่จำเป็นต้องเป็น ควรพยายามสร้างโอกาส และสร้างกำลังใจ
ให้ตัวเองสำหรับก้าวพ้นออกไปให้โดยเร็ว

หมั่นขยันที่จะแสวงบุญ ให้มากทั้งจากการให้ทาน การสำรวมในศีล และการเจริญภาวนา
สร้างกุศลทุกทางทุกอย่างเมื่อมีโอกาสจะได้ทำ และควรทำให้ได้ ทำให้มาก ทำให้บ่อย

สิ่งดีๆ เมื่อหมั่นสร้าง ก็จะกลายเป็นส่วนแห่งบุญ ที่คอยเกื้อหนุน ให้หลุดพ้น
จากห้วงอันหม่นหมอง

เรื่องร้ายๆบางอย่าง หากยังเว้นขาดทันทีไม่ได้
ก็ควร หาโอกาสสร้าง กุศลธรรมความดีงามให้มีอยู่เป็นคู่กันไปในวิถีชีวิต

เมื่อกุศลมีพลังที่มากกว่า มีปริมาณมากกว่าเมื่อไร
เรื่องร้ายๆ วิบากร้ายทั้งหลาย ก็จะเบาบางจางไป และกลับร้ายเป็นดี

ขอเป็นกำลังใจให้คุณ ฟันฝ่าผ่านสิ่งร้ายๆ มาประสพสิ่งประเสริฐ
และพบสุขที่สะอาดมั่นคง ได้โดยเร็ววัน

สวัสดีครับ

บาปไม่บาปอันนี้ไม่ทราบ แต่ผมว่าน่าจะหาอาชีพที่ดีกว่านี้ทำนะครับ งานสุจริตในประเทศไทยยังมีให้ทำอีกเยอะนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ ขอให้พบแสงสว่าง ในการดำเนินชีวิต แนะนำให้ศึกษา หลัก อริยสัจ 4 จากผู้รู้นะครับ


"เป็นกำลังใจให้ท่าน นำหลักธรรมสอนของพุทธองค์ มากำจัดกิเลสให้หมดสิ้น แล้วพบพระนิพานเทอญ"

ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ เรื่องความบาป หรือ ไม่ อันนี้ดิฉันว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อคุณอายุเยอะๆ แต่ด้วยเหตุว่า ที่ทำไปเพราะความยากจน และต้องเลี้ยงดูบุตร ดิฉันเข้าใจว่า โอกาสของแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน แต่เราสามารถเลือกอาชีพที่ดีกว่านี้ได้ อาชีพทุกอาชีพย่อมมีความเหนื่อยยากเหมือนกันแต่อาจจะแตกต่างกันที่เหตุการณ์ อาชีพที่คุณทำอยู่ คุณเองก็ทำโดยที่ไม่ได้ยินยอมพร้อมใจ แต่ด้วยเหตุผลที่คุณกล่าวมา คุณเองก็รู้สึกว่า ไม่ชอบและอาจจะรังเกลียดตัวเองอยู่ สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ บุญและบาป อยู่ที่ใจของคุณ

ดิฉันอยากให้คุณคิดถึงลูกๆ วันหนึ่งพวกเค้าโต และเค้ารับรู้ว่าคุณทำอาชีพอะไร ปัญหาจะเกิดขึ้นแล้ว นี้ก็คือ ผลของการกระทำของคุณสร้างมาเอง

คุณแม่ของดิฉัน ต้องเลี้ยงลูก 2 คน หย่ากับคุณพ่อตั้งแต่ดิฉันเล็กๆ บ้านก็ไม่มีอยู่ ต้องระหกระเหินไปอยู่ภาคใต้ (เดิมเป็นคนภาคกลาง) ความเป็นอยู่แรกๆ ลำบากมากๆ โดนรังแกสาระพัด คุณแม่ดิฉันอ่านหนังสือก็ไม่ออก ทำงานทุกอย่าง เป็นคนรับใช้, กรรมกร จนปัจจุบันนี้ คุณแม่ดิฉันสร้างเนื้อสร้างตัว มีบ้านหลังใหญ่ , มีหอพักให้เช่า และลูกๆ ของท่านก็เรียนจบปริญญาตรีทุกคน ปัจจุบันดิฉันทำงานในตำแหน่งระดับหัวหน้า ,พี่สาวดิฉันเป็นข้าราชการ

ดิฉันและพี่สาว ภูมิใจคุณแม่ของดิฉันมาก ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ไม่มีความรู้ สามารถเลี้ยงลูกได้ดี และคุณแม่ก็ไม่เคยคิดแต่งงานใหม่เลย ทั้งๆ ที่มีคนมาชอบพอมากมาย เพราะคุณแม่ตอนสาวๆ เป็นคนหน้าตาดี แต่ที่ท่านไม่ตกลงปลงใจกับใคร เพราะท่านห่วงลูก และลูกก็เป็น ผู้หญิง กลัวทำนองพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงค่ะ

เรื่องที่เล่ามา เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ที่ดิฉันต้องการสื่อให้คุณรับทราบ ถึงปัญหาของแต่ละครอบครัว แต่ปัญหานั้น ทุกคนมีโอกาสเลือกที่จะฝ่าฟันไปในทางที่ถูกต้อง และสังคมยอมรับ

เพื่อความสุขของคุณในอนาคต ดิฉันอยากให้คุณคิดไตร่ตรอง และตัดสินใจใหม่นะค่ะ เลิกทำอาชีพนี้เถอะค่ะ มันยังไม่สายไปที่คุณจะทำในสิ่งที่ดีที่สุด นะค่ะ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ นะค่ะ

เจริญในธรรมค่ะ

เมื่อมีโอกาสเลิกก็ให้รีบคว้า...ออกจากตรงนี้ได้ย่อมดีกว่า

ความจริงแล้วสิ่งจำเป็นในการดำรงอยู่ก็มีเพียงปัจจัย 4 นอกเหนือจากนั้นไม่มีก็ยังอยู่ได้

เอาใจช่วยนะคะ อย่าให้จิตใจเศร้าหมอง เก็บเงินเก็บทอง ออกมาจากวงจรนี้ไวไว ตั้งตัวให้ได้

ไม่ทราบจะตอบอย่างไรดี ถ้ามองให้ดีก็ดูเป็นอาชีพที่เสียสละในการใช้ร่างกายเพื่อให้ความสุขกับคนอื่นถึงแม้จะแลกกับเงินก็ตาม แต่หากมองอีกทีถ้าชายที่มาซื้อบริการของเรามีภรรยา แล้วภรรยาเขาไม่พอใจก็อาจทำให้เรามีบาปได้นะคะ (ไม่แน่ใจหรอกนะ)

ไม่ทราบจะตอบอย่างไรดี ถ้ามองให้ดีก็ดูเป็นอาชีพที่เสียสละในการใช้ร่างกายเพื่อให้ความสุขกับคนอื่นถึงแม้จะแลกกับเงินก็ตาม แต่หากมองอีกทีถ้าชายที่มาซื้อบริการของเรามีภรรยา แล้วภรรยาเขาไม่พอใจก็อาจทำให้เรามีบาปได้นะคะ (ไม่แน่ใจหรอกนะ)
ไม่ทราบจะตอบอย่างไรดี ถ้ามองให้ดีก็ดูเป็นอาชีพที่เสียสละในการใช้ร่างกายเพื่อให้ความสุขกับคนอื่นถึงแม้จะแลกกับเงินก็ตาม แต่หากมองอีกทีถ้าชายที่มาซื้อบริการของเรามีภรรยา แล้วภรรยาเขาไม่พอใจก็อาจทำให้เรามีบาปได้นะคะ (ไม่แน่ใจหรอกนะ)

อย่างที่ดิฉันบอกว่า เราต้องคิดให้ถูก คิดให้เป็น และจะดับทุกข์ได้ หากคุณคิดว่าเป็นอาชีพที่เสียสละในการใช้ร่างกายเพื่อให้ความสุขกับคนอื่น ประโยคนี้ ให้คุณทบทวนอีกที่ว่า ตามหลักพระพุทธศาสนาสอนให้คนเราเป็นคนดี และการกระทำต้องถูกจารีตประเพณี และสังคมต้องยอมรับ เพราะฉะนั้น อาชีพขายบริการทางเพศ ก็ตกประเด็น คำว่าถูกต้องตามจารีตประเพณี และสังคมยอมรับค่ะ

เจริญในธรรมนะค่ะ

คุณMinyyค่ะ เราขอเป็นกำลังใจให้คุณนะค่ะ
ขอให้ชีวิตของคุณและลูก ได้เจอกับแสงสว่างในชีวิต
และขอให้คุณ ได้หลุดพ้นกับสิ่งที่คุณไม่ต้องการ
ที่จะให้เกิดขึ้นกับชีวิตของคุณ ในเร็วๆนี้ด้วยน่ะค่ะ
ชีวิตจะมีทั้งมืดและสว่างค่ะ

ก็บาปไม่มาก-น้อยไปกว่าอาชีพบาปทั้วๆไปเช่นชาวประมง, คนผลิตเหล้า,ขายเหล้า, คนผลิต,ขายหวย
ซึ่งถ้าเปลี่ยนเป็นอาชีพที่ไม่บาปได้ก็ควรเปลี่ยน จะได้ไม่เป็นที่เศร้าหมองกับตนเองและครอบครัว

ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ หากผิดพลาดหรือใครอ่านแล้วไม่เห็นด้วยประการใดแจ้งได้ค่ะ

ตามกระทู้ที่ถามมา หากกล่าวในแง่ของศีล 5 น่าจะจัดว่าเป็นการผิดศีลข้อ 3 ค่ะ

ผิดลูกผิดเมียหรือผิดของๆผู้อื่น หรือแม้แต่การอยู่ในกามตัณหาไม่ว่าจะยินดีหรือไม่ยินดี

ย่อมจัดว่าผิดศีล 3 (ศีล 5รักษาไว้เถิด..เป็นเกราะกันภัย)

สัมมาอาชีพ คือการดำรงชีพด้วยงานที่ถูกต้อง เหมาะสม ไม่เบียดเบียนผู้อื่นและไม่ทำลายผู้อื่น

เพราะฉะนั้นการเลือกประกอบอาชีพก็ควรจะเหมาะสม และถูกทั้งในศีลธรรมและกฎโลก

จะว่าไปอาชีพหญิงโสเภณี หรือหญิงให้บริการก็มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล

และก็มีหญิงงามเมือง(โสเภณี) มีหน้าที่ให้ความบันเทิงแก่บุรุษในสมัยพระพุทธองค์

ที่สามารถบันลุโสดาบันได้ เช่น นางสิริมา หญิงงามเมืองผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา

นั่นแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าชายหรือหญิงทุกคนมีสิทธิเข้าถึงนิพพานเท่าๆกัน

ขึ้นอยู่กับว่าท่านจักเห็นดวงตาธรรมชักแจ้งแค่ไหน...

แต่หากมองในแง่ของมารดา ต้องทำงานหาชีพเลี้ยงบุตรย่อมถูกต้อง...

(ขอเคารพนับถือคุณแม่ที่เลี้ยงดูลูกด้วยตัวเองทุกท่าน)

แต่อาชีพนี้ก็มีผลกระทบหลายๆอย่างทั้งทางด้านจิตใจของผู้ประกอบอาชีพเอง ตลอดจนถึงจิตใจลูก

ดิฉันอยากให้คุณแม่นึกถึงจิตใจของลูกๆน่ะค่ะว่าเมื่อเวลาเด็กโตมาแล้วแกจะรู้สึกอย่างไร....

หากคุณแม่ไม่อยากให้ลูกต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ก็ควรหาทางเปลี่ยนอาชีพที่เหมาะสม

อย่างที่หลายๆท่านแสดงความเห็น อาชีพมีเยอะมากมายอาจลำบาก และเหนื่อยมากกว่านี้แต่ก็เป็น

อาชีพที่สุจริต...และลูกก็จะรู้สึกว่าแม่เขานี้ลำบากกว่าจะหาเลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่....

ปลูกฝังความคิดเด็กให้ดีๆค่ะ.....ตัวคุณแม่เองก็ทำใจให้สบายนะคะหมั่นรักษาศีล 5 แผ่เมตตาทุกๆวัน

ดิฉันเชื่อว่า กรรมดีจะช่วยส่งเสริมให้หลุดจากวังวนที่ไม่ดีเหล่านี้ค่ะ ดีกว่าประกอบกรรมชั่วผิดศีลต่อไป

ชีวิตก็จะวนอยู่ในความทุกข์ค่ะ ขอให้คิดถึงลูกมากๆนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

เห็นด้วยกับ Shinzz ทุกประการ

และรู้สึกสงสาร และเห็นใจเจ้าของกระทู้จับใจ...

เอาใจช่วย..ขอให้พบหนทางที่ดีพบแสงสว่าง..ในเร็ววัน