วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 00:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2009, 19:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจตพัฒน์ เขียน:
smiley อย่าทะเลาะกันเลยครับ...เรื่องนี้มันไม่มีอะไรผิดถูกหรอกนะ....

ใจเย็นๆก้อได้นี่น่า :b12:

เจตพัฒน์ เขียน:
พระมหาชนกว่ายน้ำในทะเลที่มองไม่เห็นฝั่ง ก็ไม่ยอมหยุดว่าย

นางเทพธิดาถามว่า ท่านจะว่ายไปทำไม ในเมื่อไม่มีหวังจะรอด

พระมหาชนกตอบว่า เราตายด้วยความพยายามดีกว่าตายโดยไม่พยายาม

ก่อนอื่นผมขอย้ำกับคุณหมออีกครั้งนะครับว่า การที่ผมเข้ามาแสดงความเห็นในกระทู้นี้
จุดประสงค์ก็เพื่อสนทนาธรรมเพียงอย่างเดียว ธรรมอันไหนที่พอเข้าใจก็อยากจะเล่าสู่
กันฟังหรืออธิบายในข้อธรรมนั้นๆ การอธิบายความส่วนใหญ่ของผมนั้น มันแย้งกับเพื่อน
สมาชิก และฟังดูห้วนๆ เลยดูคล้ายกับจะทะเลาะกัน ในส่วนของผมรับรองได้ไม่มีแน่นอน
......แต่สำหรับเพื่อนสมาชิกผมไม่ทราบได้ แต่เท่าที่สังเกตุดู มันจะเป็นอย่างที่คุณหมอบอก
เพราะตั้งแต่คุณหมอตั้งกระทู้และผมแสดงความเห็นเข้ามา มันก็นานแล้วจนกระทู้เกือบจะตกไป
พอมีผู้แสดงความเห็นคล้ายกับจะไม่พอใจผมเข้า หนึ่งคนเพิ่มเป็นสองและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใจผม
ไม่รู้สึกโกรธเลยครับ ตรงกันข้ามกลับรู้สึกตลกขบขัน กับการกระทำของท่านนั้นๆ ตอนแรก
ท่านเหล่านั้นผมเดาว่าจะกลัวๆกล้าๆ แต่พอรู้สึกว่ามีพวกแล้ว ทีนี้มากันใหญ่เลยครับ แล้วที่
เข้ามาแทนที่จะมาถกกันเรื่องธรรม ให้มันตรงกับจุดประสงค์ของห้องสนทนาธรรม บางท่านแค่เข้า
มาให้กำลังใจคุณหมอ จะมีใจความที่ให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมะก็ไม่มี ผมว่าแค่กดปุ่มอนุโมทนา
ให้คุณหมอก็พอ จะได้ไม่เปลื้องหน้ากระทู้ครับ
เจตพัฒน์ เขียน:
พระมหาชนกว่ายน้ำในทะเลที่มองไม่เห็นฝั่ง ก็ไม่ยอมหยุดว่าย

นางเทพธิดาถามว่า ท่านจะว่ายไปทำไม ในเมื่อไม่มีหวังจะรอด

พระมหาชนกตอบว่า เราตายด้วยความพยายามดีกว่าตายโดยไม่พยายาม

เรื่องพระมหาชนกนี้ เป็นชาดกที่สอนให้เรามีความเพียร
เมื่อยังมีโอกาสแม้จะน้อยนิดก็ต้องสู้ เรื่องในทศชาติชาดก
ผมพอจะรู้และเข้าใจครับ แปลกใจอยู่อย่างคุณหมอยกเรื่องนี้
ขึ้นมาทำไมครับ ในที่นี้ใครเปรียบเหมือนพระมหาชนกครับ
เป็นคุณหมอหรือคนไข้ของคุณหมอครับ ผมมาดูแล้วไม่ว่า
จะเปรียบกับใคร ก็ไม่ใช่สักคนครับ ดูจากเหตุการณ์ข้างบน
พระมหาชนกจะต้องหาทางเอาชีวิตรอด และต้องอาศัยความเพียร
ถ้าคุณหมอบอก ตัวคุณหมอเป็นพระมหาชนกกำลังใช้ความเพียรอยู่
คุณหมอกำลังช่วยตัวเองให้มีชีวิตรอดหรือก็เปล่า ยิ่งถ้าไปเปรียบกับคนไข้
ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ ในเรื่องพระมหาชนกนั้นท่านมีเจตนา
ที่จะสอนชาวพุทธทั้งหลายให้มีความเพียรในหน้าที่การงานของตน และต้องคำนึง
ถึงผลของมันด้วยว่าจะเป็นไปได้มั้ย ตัวอย่างพระมหาชนกยังพอมีทางรอดถ้า
ว่ายน้ำให้ถึงฝั่งได้ แต่สำหรับคนไข้คุณหมอหนทางมันอยู่ที่ไหนกันครับ พระธรรม
คำสอนของพระพุทธเจ้ามีมากมาย เราต้องดูด้วยว่าสมควรใช้ธรรมใดกับเหตุการณ์ไหน
.....คุณหมอครับส่วนตัวแล้วผมยกย่องนับถือคุณหมอนะครับ
เรื่องความเห็นต่างๆของผมนั้นมันแค่การคุยกันหรือถกข้อธรรมกันครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2009, 20:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


น้ำใสในบึง เขียน:
ใครทำใครได้ค่ะคุณหมอ
คุณหมอทำหน้าที่ของแพทย์สุดความสามารถ นั้นคือช่วยชีวิตคนไข้ให้อยู่รอดนานที่สุด
คุณหมอได้รับอานิสงฆ์นี้แน่นอนค่ะ ขอโมทนาบุญด้วย
ส่วนคนไข้เค้าทำกรรมมาแน่นอน เพราะโรคทุกอย่างเกิดจากกรรมทั้งสิ้น ทำกรรมดีก็ได้รับกรรมดี
ทำกรรมชั่วก็ได้รับกรรมชั่ว

ถ้าหากว่าคนไข้ท่านนี้ยังมีชีวิตอยู่คุณหมอช่วยแนะนำเค้าให้หน่อยน่ะค่ะว่า เมื่อเค้ายังพอมีสติรู้
ตัวอยู่ขณะเจ็บป่วย ให้เค้าภาวนาสมาธิอุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่กำลังตามทันในขณะนี้ ให้อโหสิ
กรรมกันไปในชาตินี้ และเมื่อขอให้อาราธนาศีล5 แม้ในขณะที่กำลังจะหมดลม เค้าจะได้ไปเกิด
ในภพภูมิที่ดีค่ะ

คุณน้ำใสในบึงครับ ผมรู้สึกข้องใจกับคำว่า "โรคทุกอย่างเกิดจากกรรมทั้งสิ้น
ทำกรรมดีก็ได้รับกรรมดี ทำกรรมชั่วก็ได้รับกรรมชั่ว" ผมว่าเรื่องนี้คุณยังมีความ
เข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่นะครับ คุณเคยได้ยินคำว่า ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าวมั้ยครับ
จากคำอ้างอิงด้านบนเหมือนคุณจะบอกว่า กายเป็นผู้กระทำกรรมจึงเป็นโรคเพราะผลกรรมนั้น
ในความเป็นจริงแล้วกรรมทุกอย่างเกิดจากใจเป็นผู้สั่ง หรือจะเรียกว่าเป็นผู้กระทำกรรมก็ว่าได้
......ผมข้อแนะนำให้คุณหมั่นปฏิบัติทำกรรมฐานบ้าง จะได้เข้าใจถึงรูป นาม การเกิดขึ้น
ตั้งอยู่และดับไป ตลอดจนสภาวะแห่งไตรลักษณ์ ถ้าคุณยังไม่มีความเข้าใจดีพอ ผมใคร่
ขอร้องให้คุณอย่าได้ยกข้อธรรมขึ้นมาอ้าง เพราะเด็กเล็กมาอ่านจะเกิดการสับสน และอาจ
กระทบไปถึงครูบาอาจารย์
......โรคที่คุณเข้าใจว่าเกิดขึ้นเพราะไปทำกรรมไว้ กายก็ส่วนกายใจก็ส่วนใจ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดกับกาย หรือโรคที่ว่านี้ มันไม่ใช้ผลของกรรมดีเลว แต่มันเป็น
กฎของวัฏสงสาร เป็นสภาวะไตรลักษณ์ สิ่งที่ว่านี้เราทุกคนจะต้องเจอไม่ว่าดีว่าชั่ว
........ผมขอบอกคุณไว้เพื่อเป็นความรู้ครับ คุณคงไม่รู้หรอกว่าก่อนที่พระพุทธเจ้า
พระบรมศาสดาของเรา ก่อนที่พระองค์จะปรินิพพาน สังขารหรือกายของพระองค์
ก็ทรงป่วยด้วยโรคร้ายอยู่ แต่เนื่องด้วยพระองค์บรรลุแล้ว จึงสามารถแยกเวทนาได้
.........ฉะนั้นคุณอย่าได้มากล่าวเป็นอันขาดว่า โรคภัยที่เป็นเกิดจากกรรมดีหรือไม่ดี
ของคนนั้นๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 06:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจตพัฒน์ เขียน:
ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นเลยครับ เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมากๆๆเลย การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายนี่นะ
ตอนนี้คนไข้ก้ออยู่ดี กำลังใจดี เตรียมตัวเดินทาง....
ยังมีสติครบดี กายพอขยับไหว ผมสอนให้นับลมหายใจไปเรื่อยๆๆ เขาก้อพยายามทำ แต่ต้องค่อยๆเป็นค่อยไป เพราะเกิดมาไม่ค่อยเข้าวัดทำสามธิเลย มันก้อต้องยากกันบ้าง

นานาจิตตัง ต่างคนต่างความคิด...แต่คนไข้ก้ออยู่ในความรับผิดชอบของผม

นี้แหละครับเป็นสิ่งที่คุณหมอสมควรทำมากที่สุด ในช่วงเวลาที่เหลือก็ให้คนไข้
เจริญสติภาวนา ให้คนไข้ได้รู้ว่า ความตายเป็นสัจจธรรมเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคน
ต้องพบเจอ ให้คนไข้อยู่กับความจริงอย่าสร้างความหวังใหม่ เพราะจะทำให้จิต
ไม่นิ่งมันเกิดทุกข์ใหม่
.....ครับนานาจิตตังแน่ๆสำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่ผู้ที่
เข้าใจแล้ว ความเห็นย่อมไปในทางเดียวกันหมดครับ
.....ผมไม่รู้นะว่าโรงพยาบาลที่คุณหมออยู่ จะมีคนไข้เท่าไร แต่ผมว่าคงไม่น้อย
เพราะเป็นโรงพยาบาลในต่างจังหวัด ส่วนใหญ่หมอน้อยคนไข้มาก ไม่เข้าใจว่า
คุณหมอจะเอาเวลาส่วนไหนมาดูแลคนไข้อื่นได้ทั่วถึง เพราะรู้สึกว่าเวลาของคุณหมอ
ส่วนใหญ่จะหมดไปกับคนไข้โรคมะเร็งรายนี้
......ไหนๆคุณหมอเอยถึงเรื่องนาๆจิตตังแล้ว ก็ขอกล่าวต่อนะครับ
สิ่งที่คุณหมอคิดกับคนอื่นคิด เหตุผลอาจไม่เหมือนกันครับ เหมือนอย่างที่คุณหมอ
ไปขอความช่วยเหลือกับบุคคลอื่นแล้วมีอุปสรรค นี่เป็นตัวอย่างอันดีที่ชี้ให้เห็นว่า
ความคิดหรืออารมณ์ร่วมของเหตุการณ์ต่างๆไม่เหมือนกัน ฉะนั้นในองค์กรที่ต้องรับ
ผิดชอบต่อคนหมู่มาก จำเป็นต้องมีขอบข่ายหน้าที่ ไว้ควบคุมบุคลากรในองค์กรนั้นๆ
เป็นการป้องกัน ไม่ให้เกิดผลเสียกับบุคคลอื่นที่อยู่ในความรับผิดชอบ
......ถ้าคุณหมอทำหน้าที่ในรพ.ในส่วนของหมออย่างเต็มที่ เป็นสิ่งที่น่ายกย่องสรรเสริญ
แล้วละครับ แต่ถ้าเป็นการทำนอกเหนือหน้าที่ ก็ต้องมาพิจารณาดูอีกที่ ว่าเหตุใดถึง
ต้องทำ ความเหมาะสมความพอดีมันอยู่ตรงไหน เพราะส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกดึงให้มามีส่วน
เกี่ยวข้องแบบไม่เต็มใจหรือไม่เห็นด้วย มันหนีไม่พ้นต่อความคิดในแง่ลบที่ว่า ผู้มาขอ
ความช่วยเหลือ ทำไปเพื่อสนองตัณหาตัวเอง(ขออภัยไม่ได้ว่าคุณหมอนะครับ พูดเป็น
เชิงศึกษาครับ) แล้วไอ้ตัวตัณหาที่ว่าก็คืออารมณ์ที่เป็นทุกข์ของผู้ร้องขอครับ
......ทำไมคุณหมอไม่ไปช่วยญาติพี่น้องผู้ป่วยที่ยากจน เพราะจะทำให้ผู้ป่วยจากไปอย่างสงบ
ไม่ต้องห่วงหน้าผะวงหลัง หรือไม่ก็เอาเวลาหลังหมดหน้าที่ ไปหาวิธีที่จะได้เครื่องไม้เครื่องมือ
ดีๆในการวินิจฉัยโรค เพื่อรักษาโรคได้ทันท่วงที่ ที่เป็นกุศลจริงๆก็คือไปตรวจรักษาคนไข้นอก
สถานที่แบบไม่คิดเงิน ก็แล้วแต่นะครับมันเป็นนานาจิตตัง แบบที่คุณหมอบอกนั้นละครับ
.........สุดท้ายขอบังอาจแนะนำคุณหมอหน่อยครับ คุณหมอเป็นหมอของโรงพยาบาลรัฐ
คนไข้ทุกคนต้อง ได้รับการดูแลรักษาอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ซึ่งมันขึ้นกับโรคและความจำเป็นแห่ง
โรคนั้น สรุปว่าอย่าลืมหน้าที่นั้นแหละครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 10:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ต.ค. 2009, 11:23
โพสต์: 24

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากแนะนำกัลณมิตรทุกท่านอ่านหนังสือของแม่ชีทศพร บุญเทวาพิทักษ์ธรรม
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกน่ะค่ะ ท่านเขียนออกมาไว้หลายเล่มค่ะ ท่านพูดถึงเรื่องกฏแห่งกรรม
อ่านแล้วทำให้เรารู้สึกเกรงกลัวต่อบาป ละอายที่จะทำบาป ละอายที่จะทำผิดศีล 5
เพราะไม่ว่าจะทำอะไรที่ผิดศีล 5 เราคิดว่ามันเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย แต่กรรมเกิดขึ้นแล้วค่ะ
กรรมมาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร และส่งผลอะไรต่อชีวิตเรา

ถ้าจะให้ตอบข้อถามของคุณหมอว่าเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมหรือไม่นั้น ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เชื่อค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่า คนป่วยเขาก็ยังพอมีส่วนแห่งบุญรักษาอยู่บ้างนะครับ

ที่มาเจอ พ่อพระอย่างคุณหมอ

ขอให้คุณหมอมีความสุขมากๆครับ


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 15:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ย. 2009, 17:47
โพสต์: 58

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เราไม่จำเป็นต้องใช้ธรรม พรหมวิหาร 4 เพียงข้อใดข้อหนึ่งเพียงข้อเดียว คุณหมอที่มีเมตตา กรุณา ก็ขออนุโมทนาด้วย และ คุณ TAKSA คุณ เพชร ที่ให้ข้อคิดคุณหมอในเรื่อง อุเบกขา ก็ขออนุโมทนาด้วยเช่นกัน สัตว์ย่อมเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นผู้มีกรรมเป็นของตนเอง เป็นผู้รับผลของกรรม เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กระทำกรรมอันใดไว้ ดี หรือ ชั่ว จักเป็นผู้รับผลกรรมนั้น ขอร่วมช่วยค่าอาหารคนไข้รายนี้ของคุณหมอ อาทิตย์ละ 1วัน 1800 บาท/ต่อสัปดาห์ จนกว่าจะหาย ถ้าคนไข้มีแรงใจพอ หรือ ตาย ขอให้คุณหมอช่วยสอน อาณาปาณสติ กรรมฐาน ให้เขาด้วยเพราะเคยได้อ่านเจอว่าจะช่วยให้คลายความเจ็บปวดและอาจหายได้ ขอให้คนไข้ระลึกถึง องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ดังตัวอย่างลูกชาย พราหมณ์คนหนึ่งในพระไตรปิฎก (เท่าที่จำได้) ที่นอนป่วยจะตายในวันนั้น องค์สัมมามันพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดก่อนตายยังบรรลุโสดาบัน ตายอย่างมีสติ และไปเกิดในชั้นเทวโลก

ขอคุณหมอ ส่งรายละเอียดความช่วยเหลือมาที่ seeone190@hotmail.com

ขออนุโมทนาบุญของทุกๆ ท่าน ณ. ที่นี้ด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2009, 01:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านในเรื่องที่คุณหมอเล่ามาทั้งหมดทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่ว่านี้ครับ
"เรื่องสวรรค์ของคนบาป"
http://board.agalico.com/showthread.php?t=9915

ผมขอเป็นกำลังใจให้กับอุตาสาหะ + เมตตามธรรมต่อเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก
แม้แต่เวลาที่คนไข้ใกล้จะไม่รอด ก็ยังคิดถึงวิธีหาพระมาโปรด ถือเป็นเรื่องดีๆ ที่ไม่ใช่
จะเกิดขึ้นได้ง่ายเลย กับคนไข้ที่มีทุกขเวทนาอย่างหนักก่อนตาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2009, 18:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นธรรม ย่อมเห็นเรา เขียน:
ผมขอตอบคุณหมอ"เจตพัฒน์" ดังนี้ครับ.........................................................................


เห็นชื่อของท่านแล้วเหมือนเห็นสหายเก่าเลยอ่ะ.... :b32: :b32:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 10:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
เห็นธรรม ย่อมเห็นเรา เขียน:
ผมขอตอบคุณหมอ"เจตพัฒน์" ดังนี้ครับ.........................................................................


เห็นชื่อของท่านแล้วเหมือนเห็นสหายเก่าเลยอ่ะ.... :b32: :b32:


ประจำสถานีรบด่วน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2009, 09:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
natdanai เขียน:
เห็นธรรม ย่อมเห็นเรา เขียน:
ผมขอตอบคุณหมอ"เจตพัฒน์" ดังนี้ครับ.........................................................................


เห็นชื่อของท่านแล้วเหมือนเห็นสหายเก่าเลยอ่ะ.... :b32: :b32:


ประจำสถานีรบด่วน


ใจเย็นๆครับท่าน ติดใบเหลืองอยู่ เข้าสกัดพรวดพราดไปเดี๋ยวจะโดนเหลืองที่ 2 นะครับ :b32: :b32:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2009, 05:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


คนไข้ของคุณหมอ เป็นอย่างไรบ้างค่ะ?
อนุโมทนา เจริญในธรรม :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2009, 16:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ต.ค. 2009, 22:09
โพสต์: 59

ชื่อเล่น: นุ่น
อายุ: 17
ที่อยู่: นนทบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุนะค่ะ


สำหรับความคิดเห็นดีๆทั้งนั้น
:b8: :b8: :b8: :b8: :b8:

.....................................................
การให้ธรรมะเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2009, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ใช่แค่มีจริง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดกับใครๆหรืออะไรๆ แม้แต่นิสัย แม้แต่รูปร่าง เกิดจากกรรมทั้งหมดค่ะ

สติระลึกรู้ดีรู้ชั่ว แล้วละจากการกระทำไม่ดี เมื่อตอบแทนกรรมทีทำมาในอดีตแล้ว ก็จะค่อยๆหมดไป และเมื่อไม่ก่อชั่วอีก ก็จะไม่เจออชุั่วในอนาคต สำคัญที่สติ ตัดสินการกระทำ

กรรม เกิดจาก การกระทำ เท่านั้น และเจตนา

มีเจตนาดี ทำกรรมดี อะไรๆก็จะดีตาม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 20:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 เม.ย. 2008, 22:21
โพสต์: 112

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนไข้เสียชีวิตแล้วครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 เม.ย. 2008, 22:21
โพสต์: 112

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้เวลาอันสมควรแล้ว....

ขอปิดกระทู้นี้นะครับ

ขอบคุณทุกความเห็น..............

Keep On Walking""


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร