วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 04:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 39 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2009, 12:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


สายอีสานตั้งนิ่ง เขียน:
ถ้าเรารู้ว่า ผู้ร้าย คือใครเราก็จับ หรือประหารผู้ร้ายให้สิ้นได้ ดังนั้น ขอท่านผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อย อะไรคือสมุทัย จะได้ประหารมัน เราจะได้หมดปัญหาเสียที


natdanai เขียน:
ตน




มีคนเฉลยแล้วว่าใครเป็นผู้ร้าย
อ้าว เร็วๆ รีบประหาร จะได้หมดปัญหาไวๆ
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2009, 14:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
ตน


หุ หุ หุ

ไอ้ตนหน่ะ มัน ตน ยังไงล่ะเปื้อน....

:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2009, 20:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ตัณหา คือเหตุเกิดทุกข์

แต่พอมาถึงยุคปัจจุบัน ไหงมีเหตุเกิดทุกข์ ตัวใหม่ที่ไม่เหมือนที่พระพุทธเจ้าท่านค้นพบละหว่า

รึว่า คนยุคใหม่สมัยใหม่ เริ่มค้นพบบทธรรมที่ลึกกว่าพระพุทธเจ้า

จึงสามารถมองเข้าไปถึง เหตุเกิดทุกข์ที่แท้จริง ที่ไม่ใช่คำตอบเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า

ก็ในเมื่อ พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ โดยความเป็นสัจจธรรม ที่ผู้ใดก็ไม่อาจต่อต้าน
ค้านแย้งปฏิเสธได้ ว่า สมุทยอริยสัจจ์ คือ ตัณหา

แล้วทำไม จึงมี สมุทยอริยสัจจ์ ที่ไม่ใช่ตัณหา เกิดขึ้นมากมายในยุคนี้หนอ

หรือคนยุคนี้ ละเอียดกว่าพระพุทธเจ้า จึงมาย่ออริยสัจจ์พระพุทธองค์ได้ตามใจชอบของตน

ตลอด45ปี ของการตรัสรู้ และสั่งสอนเวไนยสัตว์ พระพุทธองค์ย่อมทรงกลั่นกรอง
ตัดส่วนที่เกิน เพิ่มส่วนที่ขาด และทรงฉลาดในการรวบลัดย่อขนาดของคำสอนอย่าง
ที่สุดแล้ว เพื่อให้คนเข้าใจง่าย เพราะพระองค์ย่อมเจอจริตของคนมาทุกประเภท

และถึงแม้จะย่อ รวบลัด บทธรรมหลายหลากนัยเพียงใด
เหตุเกิดทุกข์ ที่พระพุทธองค์ทรงสอนโดยมิเคยต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมคือ ตัณหา
พระองค์ไม่เคย ไปย่อไปเปลี่ยน สัจจธรรมที่พระองค์ค้นพบเลย
ผ่านเวลามา45ปี พระองค์ก็ยังทรงสอนว่า ตัณหา เป็นเหตุเกิดทุกข์

เพราะทรงค้นพบว่า แท้จริง ตัณหา คือเหตุเกิดทุกข์ คือนายช่างก่อเรือนแห่งความทุกข์
ดังนั้น การจะเอาสิ่งอื่นมาเป็นเหตุเกิดทุกข์ แทนความหมายแห่งตัณหา
ย่อมเป็นการทำให้ อริยสัจจธรรม ของพระองค์ ถูกเบี่ยงเบนออกจากความเป็นจริง


ผมมักสงสัยอยู่หลายครั้ง ว่าทำไมจึงมีครูอาจารย์มากมาย และใครต่อใคร
พยายามจะจับอริยสัจจ์ของพระพุทธองค์ มาย่อขนาดกันนัก
เพราะเท่าที่ทรงแสดงไว้ นั่นก็คือย่อเอาไว้จนถึงที่สุดแล้ว
มายุคหลังๆ ยังจะมีมาย่อได้ พิสดารกว่าพระพุทธเจ้าซะอีก
แถมได้รับความนิยมล้นหลามซะอีกด้วย

อีกหน่อย อริยสัจจ์อย่างที่พระองค์ทรงแสดงไว้ คงหมดคนนิยม
เพราะ อริยสัจจ์เวอชั่นใหม่ ดูง่ายกว่า ปฏิบัติก็ง่ายกว่ามีเต็มเกลื่อนไปหมด
อ้อ.....หรือเพราะมนุษย์เรา มักชอบของแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำซากจำเจ



ต้องขออภัยหากไปกระทบโดนใครต่อใครเข้า
เพราะนี่คือ มุมมองส่วนตัวของผม

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2009, 22:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




100_3028_resize.JPG
100_3028_resize.JPG [ 113.98 KiB | เปิดดู 4425 ครั้ง ]
tongue คุณบัวสกลยึดบัญญัติมากเกินไปจะไม่ได้พบกับปรมัตถ์ที่แท้จริงนะครับ

ความทุกข์ สุข ร้อน หนาว ลำบาก สบาย ตัณหา อัตตา เมื่อ 2 พันหกร้อยปีก่อนโน้น กับที่เป็นอยู่กับมนุษย์ในปัจจุบันนี้ ก็ยังคงเป็นอันเดียวกัน แต่ใช้บัญญัติต่างกันไปตามภาษาและยุคสมัย

ธรรมมะ ในคำภีร์นั้นถ้าแปลมาถูกต้อง ก็ใช่แล้ว ดีแล้ว แต่อย่างไรก็เป็นเพียง สุตตมยปัญญา มาช่วยเสริมจินตมยปัญญา และสัมมาทิฐิโดยทฤษฎี เมื่อลงมือปฏิบัติไปตามหลักทฤษฏี พิสูจน์ความจริง จนประจักษ์แก่ใจด้วยภาวนามยปัญญาแล้ว เกิดสัมมาทิฐิโดยการปฏิบัติจริงแล้วหลักทฤษฏีเหล่านั้นจึงจะให้ประโยชน์

พระธรรมในคำภีร์ เหมือนสูตรยารักษาโรคอันวิเศษ คือรักษาโรคทุกข์และโรคเกิด แก่ เจ็บ ตาย จะเรียนรู้ ท่องจำ สวด บ่น บริกรรมสักแค่ไหน นานสักเท่าใด ก็จักไม่เกิดสรรพคุณรักษาโรคภัยที่กล่าวมาได้

ต้องลงมือปรุงยาตามสูตร แล้วดื่ม กินยานั้นลงไปจึงจะเกิดผล

ต้องปรุงยา กินยานะครับ คุณจะได้รู้ว่า เวลาปรุงยาเพื่อจะนำมากินจริงๆนั้น มันมีอีกหลายเรื่องหลายอย่างที่พระพุทธองค์มิได้ทรงกล่าวไว้ แต่ผู้ปฏิบัติจักพบเห็นได้ในการปฏิบัติจริง

คุณบัวศกลลองบอกวิธีที่คุณบัวศกล เอาตัณหาออกจากใจโดยภาษาง่ายๆ แบบชาวบ้านชาวบ้านให้ฟังหน่อยจะได้ไหมครับ

เพราะมีผัสสะ จึงทำให้เกิด เวทนา เพราะมีเวทนา จึงทำให้เกิดตัณหา นี่ว่าตามปฏิจจสมุปบาท คุณบัวศกลจะทำอย่างไรมิให้ตัณหาเกิด กันทีผัสสะ หรือชำระที่เวทนา คุณจะทำอย่างไรเวทนาจึงจะไม่เกิด
ที่สำคัญคือสุขเวทนาหรือโสมนัสอันทำให้เกิดอภิชฌา ทุกขเวทนาหรือโทมนัส อันทำให้เกิด โทมนัสสัง คุณจะเอาออกเสียให้ได้โดยวิธีใด
ถ้าไม่เอาความเห็นผิดว่าเป็นอัตตา ตัวกู ของกู ออก

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2009, 22:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
เอาตัณหาออกจากใจโดยภาษาง่ายๆ แบบชาวบ้านชาวบ้านให้ฟังหน่อยจะได้ไหมครับ

เพราะมีผัสสะ จึงทำให้เกิด เวทนา เพราะมีเวทนา จึงทำให้เกิดตัณหา นี่ว่าตามปฏิจจสมุปบาท จะทำอย่างไรมิให้ตัณหาเกิด กันทีผัสสะ หรือชำระที่เวทนา คุณจะทำอย่างไรเวทนาจึงจะไม่เกิด
ที่สำคัญคือสุขเวทนาหรือโสมนัสอันทำให้เกิดอภิชฌา ทุกขเวทนาหรือโทมนัส อันทำให้เกิด โทมนัสสัง คุณจะเอาออกเสียให้ได้โดยวิธีใด
ถ้าไม่เอาความเห็นผิดว่าเป็นอัตตา ตัวกู ของกู ออก





คุณอโศกะ :b8:

ขอร่วมตอบคำถามด้วยนะคะ cool

สติ สัมปชัญญะไงคะ สติเป็นเครื่องกั้นความอยากทุกชนิด
เมื่อผัสสะเกิด ขอเพียงมีสติ สัมปชัญญะค่ะ มันจะสักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าดู สักแต่ว่าเห็น
คือ สักแต่ว่า .....

นำบัญญัติมาเล่าสู่กันฟังเหมือนกัน smiley

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2009, 23:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว


tongue ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดมีแก่คุณวลัยพรและคุณบัวศกล

คุณวลัยพรกำลังก้าวหน้าในธรรมยิ่งๆขึ้นแล้วลองเอาการบ้านนี้ไปค้นหาคำตอบมาว่า

1.สติ เป็นอะไรในมรรค 8 ทำหน้าที่อย่างไร

2.สัมปชัญญะ เป็นอะไรในมรรค 8 แบ่งออกเป็นอะไรบ้าง แต่ละอย่างทำหน้าที่อย่างไร

ถ้าได้คำตอบที่ถูกต้องคุณวลัยพรจะได้หลักของการเจริญวิปัสสนาภาวนา หรือการเจริญมรรค 8 ตลอดจนการเจริญสติปัฏฐาน 4 ด้วยเลยเชียวครับ


แนะนำให้ไปค้นที่เวบ portee.in.th หรือจะลองไปค้นดูที่ http://www.free-webboard.com/home.php?nm=asoka2552 นะครับ หรือที่อื่นที่คุณถนัด

สำหรับคุณบัวศกล อนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบอาจารย์ใหญ่ ที่ตัวอาจารย์ใหญ่นั้นของจริงแน่ๆ แต่ระวังอย่าให้ได้มรรคปลอมมาก็แล้วกัน
เพราะที่นั่นถ้าคุณมีปัญญา มีความสังเกตพิจารณาดี คุณจะได้ของจริง เข้าไม่ถูกทางจะได้ของปลอม เพราะคนเยอะเหลือเกิน
Onion_L

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2009, 23:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
tongue ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดมีแก่คุณวลัยพรและคุณบัวศกล

คุณวลัยพรกำลังก้าวหน้าในธรรมยิ่งๆขึ้นแล้วลองเอาการบ้านนี้ไปค้นหาคำตอบมาว่า

1.สติ เป็นอะไรในมรรค 8 ทำหน้าที่อย่างไร

2.สัมปชัญญะ เป็นอะไรในมรรค 8 แบ่งออกเป็นอะไรบ้าง แต่ละอย่างทำหน้าที่อย่างไร

ถ้าได้คำตอบที่ถูกต้องคุณวลัยพรจะได้หลักของการเจริญวิปัสสนาภาวนา หรือการเจริญมรรค 8 ตลอดจนการเจริญสติปัฏฐาน 4 ด้วยเลยเชียวครับ


แนะนำให้ไปค้นที่เวบ portee.in.th หรือจะลองไปค้นดูที่ http://www.free-webboard.com/home.php?nm=asoka2552 นะครับ หรือที่อื่นที่คุณถนัด

สำหรับคุณบัวศกล อนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบอาจารย์ใหญ่ ที่ตัวอาจารย์ใหญ่นั้นของจริงแน่ๆ แต่ระวังอย่าให้ได้มรรคปลอมมาก็แล้วกัน
เพราะที่นั่นถ้าคุณมีปัญญา มีความสังเกตพิจารณาดี คุณจะได้ของจริง เข้าไม่ถูกทางจะได้ของปลอม เพราะคนเยอะเหลือเกิน
Onion_L





อ่ะ!!!! .... ม่ายอ่ะคะ ขี้เกียจท่องจำ :b32:

ยินดีที่ได้สนทนากันค่ะ tongue

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 13 ต.ค. 2009, 23:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 06:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
tongue คุณบัวสกลยึดบัญญัติมากเกินไปจะไม่ได้พบกับปรมัตถ์ที่แท้จริงนะครับ
คุณบัวศกลลองบอกวิธีที่คุณบัวศกล เอาตัณหาออกจากใจโดยภาษาง่ายๆ แบบชาวบ้านชาวบ้านให้ฟังหน่อยจะได้ไหมครับ

เพราะมีผัสสะ จึงทำให้เกิด เวทนา เพราะมีเวทนา จึงทำให้เกิดตัณหา นี่ว่าตามปฏิจจสมุปบาท คุณบัวศกลจะทำอย่างไรมิให้ตัณหาเกิด กันทีผัสสะ หรือชำระที่เวทนา คุณจะทำอย่างไรเวทนาจึงจะไม่เกิด
ที่สำคัญคือสุขเวทนาหรือโสมนัสอันทำให้เกิดอภิชฌา ทุกขเวทนาหรือโทมนัส อันทำให้เกิด โทมนัสสัง คุณจะเอาออกเสียให้ได้โดยวิธีใด
ถ้าไม่เอาความเห็นผิดว่าเป็นอัตตา ตัวกู ของกู ออก

อนุโมทนาครับท่านอโศกะ ได้อ่านความเห็นท่านแล้วรู้สึกสนใจ
จึงอยากให้ท่านอธิบาย เรื่องตัณหา ตัวกูของกู อัตตาอะไรพวกนี้
....เอาแบบตามความเข้าใจของท่าน อธิบายเป็นภาษาพูดจะได้เข้าใจ
กันทั่วๆเหมือนกับที่ท่านแนะนำสมาชิกท่านอื่น ว่าอย่ายึดบัญญัติ
ขอเพิ่มอีกหน่อยนะครับ อย่าใช้สำนวนด้วยครับเดี๋ยวต้องตีความกันอีก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 07:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บัว-ซา-กล...
โดน ซา-กิด...

:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 08:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บางครั้ง การรู้ไม่ถึงเขา

อาจทำให้คิดไปว่า เขาไม่รู้ก็ได้ ใครจะรู้

คนเข้าถึงจุดไหน ก็จะเห็นได้แต่เฉพาะจุดที่ตนยืนเหยียบ
และจุดที่ตนผ่านมาแล้ว และรวมถึง เออ ออ กับคนที่ยืนอยู่จุดเดียวกับตนได้ทุกเรื่อง
เพราะอยู่ที่เดียวกันย่อมเห็นสิ่งเดียวกัน

แต่กับจุดที่สูงขึ้นไป เกินกว่าที่ตนเคยสัมผัสถึง
ก็ได้แต่ คาดการไปต่างๆนาๆ

แล้วยังอาจ มั่นหมายกับความรู้จากการคาดการนั้นว่าต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนั้นอยู่ร่ำไป



:b11: :b11: :b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


แหม เดี๋ยวนี้คุณ บัวศกล นี่
สำนงสำนวน แจ่มขึ้นทุกวันนะ
smiley :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณครับท่านชาย

นี่ท่านชายกำลังชม รึกำลังสอนสั่งอย่างนักปราชญ์ขอรับ

กระผมก็ตั้งใจว่าจะลบข้อความที่ว่านี้ออกไปอยู่พอดี

ไหนๆท่านชายก็เข้ามาสะกิดแล้ว

กระผมคงต้องทิ้งเอาไว้ ตามแต่เวรแต่กรรมก็แล้วกันเนอะ

:b6: :b6: :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ชมจ๊ะ :b32:

แต่อย่าชมชาตินะ ชาติบ้ายอ แพ้กิเลสตัวบ้ายอ :b32: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 09:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว


tongue เจริญธรรมครับ น้องวลัยพร คุณ TAKSA ท่าน yahoo คุณบัวศกลและคุณชาติสยาม

สำหรับน้อง วลัยพร ที่พูดว่า อ่ะ!!!! .... ม่ายอ่ะคะ ขี้เกียจท่องจำ

ยินดีที่ได้สนทนากันค่ะ


อโศกะตอบ :b27:
ต้องระมัดระวังหน่อยแล้วนะครับ ขี้เกีจ เป็นตั ถีนะ ในนิวรณ์ 5 เดี๋ยว มิทธะ ความง่วงเหงา เซาซึมจะตามมานะครับ นิวรณ์ 5 นั้นเขากางกั้นสัตว์โลก อันรวมถึงเรามนุษย์ทั้งหลาายด้วย มิให้เข้าถึงความดี ครับ :b16:

smiley สำหรับคุณTAKSA ถ้าสนใจธรรมมะนอกตำรา เชิญพบปะ พูดคุยและเยี่ยมชมที่เวบบอร์ดนี้นะครับ
http://www.free-webboard.com/home.php?nm=asoka2552 ที่นั่นมีอิสระเสรีจริงๆ ในการแสดงความคิดเห็นทางธรรมครับ
:b8:

อนุโมทนากับท่าน yahoo คุณบัวศกล และ คุณชาติสยาม
ช่วยกันเผยแพร่ธรรมมะคำสอนอันถูกต้องของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
ทั้งบัญญัติและปรมัตถ์ ชักชวนคนเข้ามาปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา เจริญมรรค 8 กันเยอะๆ โลกนี้จะได้ร่มเย็น เป็นสุขนะครับ สาธุ
smiley :b8:

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ต.ค. 2009, 11:29
โพสต์: 15

แนวปฏิบัติ: พุทโธ
งานอดิเรก: หลายหลาก
อายุ: 0
ที่อยู่: ภาคอีสาน

 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="อโศกะ"]tongue สวัสดีครับคุณสายอีสานตั้งนิ่ง คุณนี่เป็นคนฉลาดถามจริงๆ มาลองภูมิชาวลานธรรมจักรใช่ใหมครับ

สวัสดีครับคุณอโศกะ และเพื่อนร่วมบอร์ดและกัลยาณมิตรทุกท่าน
ตอบคำถามคุณอโศกะก่อนนะครับ
- ที่ว่าฉลาดถาม ข้อนี้ ไม่กล้ารับไว้ครับ ฉลาดถามไม่สู้ฉลาดตอบ ฉลาดตอบคนอื่น ไม่สู้ฉลาดตอบตัวเองขอรับ

- ที่ว่า มาลองภูมิชาวลานธรรมจักรใช่ใหม? ข้อนี้ตอบว่าไม่มีเจตนาอย่างนั้นขอรับ อธิบายดังนี้เพราะผมคิดว่า

ถามเขาก็เหมือนถามเรา ถามเราก็เหมือนถามเขา
ตอบเราก็เหมือนตอบเขา ตอบเขาก็เหมือนตอบเรา
เรายังตอบเราไม่ได้ ก็ไม่รู้จะตอบเขายังไง
เรายังไม่ลงใจในคำตอบเรา เขาจะลงใจในคำตอบเราได้อย่างไร


ทุกคำถาม-คำตอบ ของเราและท่าน ผมเห็นว่ามีประโยชน์ ถ้าเอามาพิจารณาที่ใจเรา
ทุกคำแนะนำ-คำตอบ ผมว่าถูกนะ ถูกในแง่ของแต่ละคน เหมือนคนตาบอดคลำช้างนะครับ ถ้าเราตาดีละก็หมดปัญหา
หลายคำแนะนำ มีประโยชน์นะ ให้เราได้ฉุกคิด หยิบไปพิจารณาหรือปฏิบัติ อย่างคำแนะนำของคุณชาติสยาม (ขออนุญาติยกตัวอย่างหน่อยนะครับ) เป็นต้น
ทุกคำตอบที่ผมตอบ ไม่ได้ต้องการหักล้างความคิดใคร ไม่ได้อยากให้ใครเห็นคล้อยตาม แต่แสดงความคิดเห็นไว้เพื่อ บางทีอาจจะมีประโยชน์บ้างสำหรับคนอื่น เหมือนกับที่เราได้ประโยชน์ จากกระทู้อื่นๆ
อือ.. อีกอย่าง ขออนุโมทนา และชื่นชมกับ กระทู้ของคุณ สาวิกาน้อยครับ ผมเข้าไปอ่านประจำ..เพราะตามอ่านประวัติและปฏิปทาครูจารย์กระทู้ที่เขาเขียนจึงรู้จักเวปนี้ บอร์ดนี้ครับ .. ขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจครับ

.....................................................
..อือ ... อ้อ..


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 39 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร