27217.สอบถามครับ รู้และปฏิบัติแค่นี้พอหรือเปล่า?

sbth

สอบถามผู้รู้ครับ

หากคนๆ หนึ่งเป็นพระสงฆ์ หรือเป็นชาวบ้าน ที่เขาไม่ได้รู้อะไรมาก รู้แค่เพียง เรื่อง ทาน, ศีล, ภาวนา(ฝึกสมาธิ,ฝึกวิปัสสนา) หรือรู้เพียงศีล-สมาธิ-ปัญญา เพียงแค่นี้ แล้วเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ...

คำถามคือว่า

1. เขาจะบรรลุอริยบุคคลจนถึงพระอรหันต์ได้หรือเปล่าครับ

2. สมมุตว่าเขาบรรลุได้ เขาจะรู้ทุกอย่างหรือเปล่าครับ

3. ถ้าใครถามเขาว่าเป็นพระอรหันต์หรือเปล่า แล้วเขาก็นิ่ง(หมายถึงตอบรับว่าใช่) จากนั้นก็ลองภูมิถามอะไรๆ ด้านอภิธรรม หรือเรื่องยากๆ แล้วเขาก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนรู้ด้านอภิธรรม หรือคำศัพท์เหล่านั้น แล้วอย่างนี้จะไม่โดนปรามาสหรือหาว่าพระอรหันต์หรืออริยบุคคลปลอมหรือครับ

4. พระอรหันต์แบบนี้ คงไม่มีใครยอมรับใช่หรือเปล่าครับ สมมุติว่าท่านจะมาสอนใครให้บรรลุบ้าง เท่าที่มีความรู้อยู่

รบกวนด้วยนะครับ :b12:

bbb

คนที่จะบรรลุได้ด้วยตัวเองนั้นยากมากนะครับ
ถ้าบรรลุด้วยตัวเอง เรียกว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ

ถ้ามีแนวทาง ได้รับการชี้แนะ จากใคร ๆ เรียกว่า พระอริยะ

ถ้าตัดกิเลสได้ (ทั้งหมด)

ผมตอบไม่ได้นะครับว่าบรรลุหรือยัง?(ใครจะไปรุ้)
แต่อ่านหนังสือของท่านพุทธทาสนะ
ท่านบอกไว้ว่า ให้ละเว้นจาก ตัวกู-ของกู ให้ได้หมดอะ
"สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น"
ไม่ลองถามท่านเรื่องอารมณ์ ความรุ้สึกดูล่ะครับ (ที่ไม่ใช่วิชาการน่ะ)
ถ้าท่านแนะแนวทางให้ยังไง ก็ลองทำดู ถ้าเป็นจริงก็น่านับถือนะ :b32:

Rosarin

...การบรรลุธรรมไม่ได้ขึ้นกับสถานภาพ...และสีเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม...
...พระพุทธเจ้าประกาศธรรมแก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา...
...การเป็นพระหรือเป็นฆราวาส(ชาวบ้าน)...แล้วยังรู้ทาน ศีล ภาวนา...
...แล้วยังปฏิบัติธรรมอีกด้วย...ฐานะที่ปฏิบัติได้คือได้ความเป็นมนุษย์...
...แม้ผู้ที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว...ถือพรหมจรรย์โดยไม่ออกบวชก็เป็นฐานะ...
...อย่างสัตว์เดรัจฉานไม่อยู่ในฐานะ...เห็นไหมล่ะที่พญานาคปลอมมาบวช...

:b16:

ตอบข้อ1...น่าจะรู้ได้เพราะถึงไม่เรียนปริยัติก็รู้เห็นธรรมได้จากการปฏิบัติ...
...ผู้เรียนปริยัติ(ทฤษฎี)เพื่อเป็นแนวทางให้กระตือรือร้นค้นคว้าด้วยการปฏิบัติ...
...ปริยัติ...ปฏิบัติ...จึงกิดปฏิเวธ...เรียนให้ถึงนิพพานมันก็แค่เรียนในตำรา...
...พระสงฆ์บางรูปที่อ่านหนังสือไม่ออก...หรือคนตาบอดปฏิบัติก็รู้ได้...
...เปรียบเหมือนสร้างแบบแปลนบ้านมาอย่างดี...ไม่ลงมือสร้าง...ก็ไม่เห็นตัวบ้าน...

:b6:

ตอบข้อ2...ก็น่าจะรู้ได้...ที่เคยได้ฟังเทศน์มาชาวนายังบรรลุอรหันต์ได้ก็มีอยู่นา...

:b3:

ตอบข้อ3...ในพระธรรมบทการนิ่งเงียบแปลได้หลายอย่าง...
...นิ่งเพราะไม่รู้จึงไม่ตอบ...นิ่งเพราะไม่อยากแสดงตัวจึงไม่ตอบ...นิ่งเพราะตอบก็ไม่เกิดประโยชน์...
...กรณีที่ผู้ตั้งกระทู้ถามมาไม่ชัดเจน...ข้าพเจ้าไม่อยู่ในสถานการณ์ก็ไม่ขอสรุป...

:b1:

ตอบข้อ4...พระปัจเจกพุทธเจ้า...บรรลุธรรมได้แต่ไม่สามารถบอก/สอนให้ผู้อื่นรู้ตามได้...

:b4:

...ได้ข้อคิดบ้างรึป่าวน๊า... :b19:

sbth

Rosarin เขียน:

tongue
...ได้ข้อคิดบ้างรึป่าวน๊า... :b19:

ได้ข้อคิดมากเลยครับ ลืมบอกไปอีกอย่างว่า คำถามนั้นเป็นคำถามของพระสงฆ์หรือชาวบ้านที่รู้ธรรมะมาจากการฟังอาจารย์เทศหรือศึกษาจากสื่อต่างๆ น่ะครับ ไม่ได้รู้หลักปฏิบัติขึ้นมาเองอย่างพระพุทธเจ้า

ถามเพราะอยากรู้น่ะครับ เอาไว้ใช้กับตัวเอง เห็นว่าธรรมะมีมากมายเสียจริง .......... เท่านี้เพียงพอหรือเปล่า ตามคำถามข้างบนน่ะครับ

จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์

sbth เขียน:

สอบถามผู้รู้ครับ

หากคนๆ หนึ่งเป็นพระสงฆ์ หรือเป็นชาวบ้าน ที่เขาไม่ได้รู้อะไรมาก รู้แค่เพียง เรื่อง ทาน, ศีล, ภาวนา(ฝึกสมาธิ,ฝึกวิปัสสนา) หรือรู้เพียงศีล-สมาธิ-ปัญญา เพียงแค่นี้ แล้วเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ...

คำถามคือว่า

1. เขาจะบรรลุอริยบุคคลจนถึงพระอรหันต์ได้หรือเปล่าครับ

2. สมมุตว่าเขาบรรลุได้ เขาจะรู้ทุกอย่างหรือเปล่าครับ

3. ถ้าใครถามเขาว่าเป็นพระอรหันต์หรือเปล่า แล้วเขาก็นิ่ง(หมายถึงตอบรับว่าใช่) จากนั้นก็ลองภูมิถามอะไรๆ ด้านอภิธรรม หรือเรื่องยากๆ แล้วเขาก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนรู้ด้านอภิธรรม หรือคำศัพท์เหล่านั้น แล้วอย่างนี้จะไม่โดนปรามาสหรือหาว่าพระอรหันต์หรืออริยบุคคลปลอมหรือครับ

4. พระอรหันต์แบบนี้ คงไม่มีใครยอมรับใช่หรือเปล่าครับ สมมุติว่าท่านจะมาสอนใครให้บรรลุบ้าง เท่าที่มีความรู้อยู่

รบกวนด้วยนะครับ :b12:

ถ้าไม่รู้อะไรมาก ก็บรรลุธรรมไม่ได้ จะบรรลุธรรมได้ ก็ต้องรู้มาก
ศีล สมาธิ ปัญญา
ไม่ได้มีความหมายว่า มีศีล มีสมาธิ แล้วจะมีปัญญา
แต่ ศีล สมาธิ ปัญญา หมายถึง
การที่บุคคล ปฏิบัติตาม ข้อศึล
ปฏิบัตสมาธิ
ศึกษาเล่าเรียน ความรู้ เพื่อให้เกิดป้ญญา
บรรดา เกจิอาจารย์ หรือผู้ที่ตั้งตัวเป็นอาจารย์ในสำนักต่างๆ เมื่อได้เข้ามาอ่านสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนไปนี้ ก็ให้แก้ไข คือแก้ไขทั้งตัวของท่านเอง และผู้อื่น

yodchaw

มันเลยความพอดีของธรรมชาติไป รู้แล้วปฏิบัติ ในฐานะบุคคลที่ไม่สามารถตรัสรู้เองได้ นั้น มีแต่รู้แล้วดับตาม รู้แล้ววางตาม รู้แล้วจบตาม รู้แล้วไม่เป็นเหตุตาม และสิ่งนี้เกิดจากการฟัง ธรรม

ขอเชิญฟังสนทนาธรรมออนไลน์ ผ่าโลก ผ่าธรรม จบโลกจบธรรม จบกรรม จบการปฏิบัติ
โดยหลวงพ่อโพธิศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม ที่ท่านได้เฉลย ไขข้อข้องใจ ให้แก่เหล่าบรรดาลูกศิษย์ภายในวัด พระสงฆ์จากวัดสวนโมกข์ และบุคคลอื่นฯที่เข้าไปเรียนถามธรรมะ
http://audio.palungjit.com/f29/สัจธรรม-ธรรมะบรรลุฉับพลัน-3964.html#post14499

ขออนุโมทนา

Rosarin

อ้างคำพูด:

Rosarin เขียน:
...ได้ข้อคิดบ้างรึป่าวน๊า...

อ้างคำพูด:

sbth...เขียน

ได้ข้อคิดมากเลยครับ ลืมบอกไปอีกอย่างว่า คำถามนั้นเป็นคำถามของพระสงฆ์หรือชาวบ้านที่รู้ธรรมะมาจากการฟังอาจารย์เทศหรือศึกษาจากสื่อต่างๆ น่ะครับ ไม่ได้รู้หลักปฏิบัติขึ้นมาเองอย่างพระพุทธเจ้า

ถามเพราะอยากรู้น่ะครับ เอาไว้ใช้กับตัวเอง เห็นว่าธรรมะมีมากมายเสียจริง .......... เท่านี้เพียงพอหรือเปล่า ตามคำถามข้างบนน่ะครับ

...ธรรมะของพระพุทธเจ้ามีไว้สอนเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย...การรู้ในบุคคลก็มีอยู่ดังบัว 4 เหล่า...
...มีทั้งผู้ที่รู้ได้อย่างรวดเร็ว...เหมือนวัวปากคอกพอเปิดประตูก็พร้อมเดินหน้าออกมาพ้นประตูทันที...
...บุญทำกรรมแต่งฉันใด...การจะปฏบัติให้รู้ธรรมจริงๆ...มันขึ้นกับจริตแต่ละบุคคลว่าเหมาะกับสิ่งใด...
...แม้ในครั้งพุทธกาลก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย...สิ่งที่ข้าพเจ้าพยายามสื่อเป็นการสั่งสมความรู้ต่างๆ
...ในการปฏิบัติข้าพเจ้าก็ศึกษาจากหลายที่...ของวัดพระธรรมกายก็ดี...ชอบรูปแบบที่มีเพลงประกอบ
:b15:

...ในครั้งพุทธกาลตอนที่พระพุทธเจ้าสอนก็ไม่มีตำรา...ผู้รู้ตามก็ได้จากฟังพระพุทธเจ้าเทศน์...
...พระอรหันต์คือผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า...เมื่อท่านเทศน์ก็เป็นธรรมแบบเดียวกัน...
...เพียงแต่ต่างกันที่ตรงเวลา...สถานที่เท่านั้น...แม้พระพุทธเจ้ายังไม่มาอุบัติก็มีแบบนี้มาดั้งเดิม...
...ข้าพเจ้าก็แสวงหาตัวเองไปไม่หยุด...ค้นคว้าดูจิตตัวเองสม่ำเสมอ...ใช้ชีวิตระมัดระวังมากขึ้น...
...ด้วยการหมั่นทำบุญให้ทาน...รักษาศีลให้บริสุทธิ์...ถ้ามีโอกาสก็เข้าวัดไปบวชชีพรามหณ์บ้าง...
...ทางโลกก็จบสูงกว่าปริญญาตรี...แต่ทางธรรมก็ยังด้อยปัญญาอยู่มากมาย...รู้ไม่มากแต่ก็พอจะรู้...
...ผิดถูกอย่างไร...ก็แนะนำติเตียนได้เจ้าค่ะ...ชอบการมีเหตุผลที่เหมาะสมสมควรตามเหตุตามผล...
:b13:

natdanai

sbth เขียน:

สอบถามผู้รู้ครับ

หากคนๆ หนึ่งเป็นพระสงฆ์ หรือเป็นชาวบ้าน ที่เขาไม่ได้รู้อะไรมาก รู้แค่เพียง เรื่อง ทาน, ศีล, ภาวนา(ฝึกสมาธิ,ฝึกวิปัสสนา) หรือรู้เพียงศีล-สมาธิ-ปัญญา เพียงแค่นี้ แล้วเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ...

คำถามคือว่า

1. เขาจะบรรลุอริยบุคคลจนถึงพระอรหันต์ได้หรือเปล่าครับ

ได้ครับ... :b13:

sbth เขียน:

2. สมมุตว่าเขาบรรลุได้ เขาจะรู้ทุกอย่างหรือเปล่าครับ

ไม่ต้องสมมติ....เพราะเขาบรรลุได้ครับ
และเขาก็จะรู้ทุกอย่างครับ(รู้ว่าทุกอย่างเป็น อนัตตา) :b32:

sbth เขียน:

3. ถ้าใครถามเขาว่าเป็นพระอรหันต์หรือเปล่า แล้วเขาก็นิ่ง(หมายถึงตอบรับว่าใช่) จากนั้นก็ลองภูมิถามอะไรๆ ด้านอภิธรรม หรือเรื่องยากๆ แล้วเขาก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนรู้ด้านอภิธรรม หรือคำศัพท์เหล่านั้น แล้วอย่างนี้จะไม่โดนปรามาสหรือหาว่าพระอรหันต์หรืออริยบุคคลปลอมหรือครับ

ถึงโดนก็ไม่เดือดร้อนครับ :b13:

เพราะเขาอยู่กับ อนัตตา

sbth เขียน:

4. พระอรหันต์แบบนี้ คงไม่มีใครยอมรับใช่หรือเปล่าครับ สมมุติว่าท่านจะมาสอนใครให้บรรลุบ้าง เท่าที่มีความรู้อยู่

ไม่ใช่ครับ...คงต้องมีทั้งคนที่ยอมรับ และไม่ยอมรับ ครับ

murano

sbth เขียน:

สอบถามผู้รู้ครับ
1. เขาจะบรรลุอริยบุคคลจนถึงพระอรหันต์ได้หรือเปล่าครับ

2. สมมุตว่าเขาบรรลุได้ เขาจะรู้ทุกอย่างหรือเปล่าครับ

3. ถ้าใครถามเขาว่าเป็นพระอรหันต์หรือเปล่า แล้วเขาก็นิ่ง(หมายถึงตอบรับว่าใช่) จากนั้นก็ลองภูมิถามอะไรๆ ด้านอภิธรรม หรือเรื่องยากๆ แล้วเขาก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนรู้ด้านอภิธรรม หรือคำศัพท์เหล่านั้น แล้วอย่างนี้จะไม่โดนปรามาสหรือหาว่าพระอรหันต์หรืออริยบุคคลปลอมหรือครับ

4. พระอรหันต์แบบนี้ คงไม่มีใครยอมรับใช่หรือเปล่าครับ สมมุติว่าท่านจะมาสอนใครให้บรรลุบ้าง เท่าที่มีความรู้อยู่

พอดีไปตอบที่อีกเว็บหนึ่ง เลยก๊อปมาแปะที่นี่ด้วย ตอบว่า...

1. ได้
2. ไม่, อรหันต์ (ไม่จำเป็นต้องเป็นพระ แต่โดยมากหรือแทบทั้งหมด จะเป็นพระ) คือ การตัดกิเลส ละอุปทาน, รู้ทั้งหมดคือ ตรัสรู้
3. ตามข้อ 2 อรหันต์ไม่ใช่ตรัสรู้
4. การยอมรับขึ้นอยู่กับคน พระพุทธเจ้ายังเคยโดนโจรไล่ทำร้าย...

tonnk

1. เขาจะบรรลุอริยบุคคลจนถึงพระอรหันต์ได้หรือเปล่าครับ

ได้ครับถ้าเขาลงมือปฏิบัติ ไม่คุยโว หรือ พูดมาก

2. สมมุตว่าเขาบรรลุได้ เขาจะรู้ทุกอย่างหรือเปล่าครับ

คำว่าทุกอย่างใช่ไหมครับ ผมว่าไม่ บางอย่างมันเป็นอจินไตย
นอกจากพระสัพพัญญู

3. ถ้าใครถามเขาว่าเป็นพระอรหันต์หรือเปล่า แล้วเขาก็นิ่ง(หมายถึงตอบรับว่าใช่) จากนั้นก็ลองภูมิถามอะไรๆ ด้านอภิธรรม หรือเรื่องยากๆ แล้วเขาก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนรู้ด้านอภิธรรม หรือคำศัพท์เหล่านั้น แล้วอย่างนี้จะไม่โดนปรามาสหรือหาว่าพระอรหันต์หรืออริยบุคคลปลอมหรือครับ

ถ้าคุณเป็นอรหันต์ คุณจะประกาศหรือเปล่าล่ะว่าผมเป็นอรหันต์ ถ้าเขาเป็นอรหันต์ก็คือหมดกิเลสแล้ว แล้วจะไปศึกษาอะไรอีก เมื่อถึงจุดหมายแล้ว

4. พระอรหันต์แบบนี้ คงไม่มีใครยอมรับใช่หรือเปล่าครับ สมมุติว่าท่านจะมาสอนใครให้บรรลุบ้าง เท่าที่มีความรู้อยู่

ยอมรับหรือไม่ยอมรับผมไม่รู้ แต่ผมก็เป็นคนนึงแหละที่จะขอเป็นศิษย์ท่าน

sabye

sbth เขียน:

สอบถามผู้รู้ครับ

หากคนๆ หนึ่งเป็นพระสงฆ์ หรือเป็นชาวบ้าน ที่เขาไม่ได้รู้อะไรมาก รู้แค่เพียง เรื่อง ทาน, ศีล, ภาวนา(ฝึกสมาธิ,ฝึกวิปัสสนา) หรือรู้เพียงศีล-สมาธิ-ปัญญา เพียงแค่นี้ แล้วเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ...

คำถามคือว่า

1. เขาจะบรรลุอริยบุคคลจนถึงพระอรหันต์ได้หรือเปล่าครับ

2. สมมุตว่าเขาบรรลุได้ เขาจะรู้ทุกอย่างหรือเปล่าครับ

3. ถ้าใครถามเขาว่าเป็นพระอรหันต์หรือเปล่า แล้วเขาก็นิ่ง(หมายถึงตอบรับว่าใช่) จากนั้นก็ลองภูมิถามอะไรๆ ด้านอภิธรรม หรือเรื่องยากๆ แล้วเขาก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนรู้ด้านอภิธรรม หรือคำศัพท์เหล่านั้น แล้วอย่างนี้จะไม่โดนปรามาสหรือหาว่าพระอรหันต์หรืออริยบุคคลปลอมหรือครับ

4. พระอรหันต์แบบนี้ คงไม่มีใครยอมรับใช่หรือเปล่าครับ สมมุติว่าท่านจะมาสอนใครให้บรรลุบ้าง เท่าที่มีความรู้อยู่

รบกวนด้วยนะครับ :b12:

ดูท่าน เว่ย หล่าง เป็นตัวอย่างนะครับ คนที่รู้ไม่จำเป็นจะต้องเรียนจากตัวหนังสือ หากแต่เรียนจากธรรมชาตินั่นแหละ เรียนจากตัวจากตนนั่นแหละครับ คนที่เรียนแล้วจมอยู่กับตัวหนังสือมัวแบกอรรถโดยไม่วางลงมีมากมาย
เรียนเพื่อรู้ รู้เพื่อละ ละเพื่อรับรู้ รับรู้เพื่อรู้จริง

อินทรีย์5

อ้างคำพูด:

หากคนๆ หนึ่งเป็นพระสงฆ์ หรือเป็นชาวบ้าน ที่เขาไม่ได้รู้อะไรมาก รู้แค่เพียง เรื่อง ทาน, ศีล, ภาวนา(ฝึกสมาธิ,ฝึกวิปัสสนา) หรือรู้เพียงศีล-สมาธิ-ปัญญา เพียงแค่นี้ แล้วเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ...

ที่อ้างอิง หรือที่จขกท.บอกมานั่นแหละ เป็นหนทางที่เดินไปสู่คำว่า "อรหันต์"
พระอรหันต์องค์เดียว ท่านตอบคำถามปุถุชนทุกๆคนได้หมดนั่นแหละ เพียงแต่จะอยากตอบหรือไม่อยากตอบเท่านั้นตามความเหมาะสมและกาลเทศะและภูมิปัญญาของคนที่จะรับ แต่คำถามเดียวที่พระอรหันต์ตั้งขึ้น คนปุถุชนทั่วไปไม่มีใครตอบได้หรอก ยกเว้นว่าตัวเองถึงขั้นนั้นแล้ว ผ่านขั้นนั้นมาแล้ว:b54: :b55:

และปฏิบัติเท่านี้ถือว่าพอไหม ผมบอกได้เลยว่า "เกินพอ" ถ้าหากทำตามที่พูดไว้ มีสัจจะตามที่ตั้งใจไว้
เพราะที่ผู้เขียนเล่ามาประกอบด้วย ขันติบารมี สัจจะบารมี เนกขัมมะบารมี และบารมีอื่นๆ ที่จะตามมาด้วย

เคยได้ยินคำพูดนี้ไหมว่า หากที่ใดมีพระอรหันต์ ที่นั่นจะเจริญรุ่งเรือง หากท่านไปอยู่วัดไหนเล็กๆเก่าๆ
วัดนั้นก็จะมีการบูรณะ และคนก็จะมากราบไหว้นมัสการเป็นจำนวนมาก และเลื่องชื่อไปทั่ว เหมือนกลิ่นหอมดอกไม้ป่าที่ส่งกลิ่นขจรขจายไปทั่วป่าดงดิบ

natdanai

sabye เขียน:

ดูท่าน เว่ย หล่าง เป็นตัวอย่างนะครับ คนที่รู้ไม่จำเป็นจะต้องเรียนจากตัวหนังสือ หากแต่เรียนจากธรรมชาตินั่นแหละ เรียนจากตัวจากตนนั่นแหละครับ คนที่เรียนแล้วจมอยู่กับตัวหนังสือมัวแบกอรรถโดยไม่วางลงมีมากมาย
เรียนเพื่อรู้ รู้เพื่อละ ละเพื่อรับรู้ รับรู้เพื่อรู้จริง

เว่ย หล่าง ..... :b32:

กบนอกกะลา

natdanai เขียน:

sabye เขียน:

ดูท่าน เว่ย หล่าง เป็นตัวอย่างนะครับ คนที่รู้ไม่จำเป็นจะต้องเรียนจากตัวหนังสือ หากแต่เรียนจากธรรมชาตินั่นแหละ เรียนจากตัวจากตนนั่นแหละครับ คนที่เรียนแล้วจมอยู่กับตัวหนังสือมัวแบกอรรถโดยไม่วางลงมีมากมาย
เรียนเพื่อรู้ รู้เพื่อละ ละเพื่อรับรู้ รับรู้เพื่อรู้จริง

เว่ย หล่าง ..... :b32:

ตาลาย....แล้วมา...ป่วย...
ยิ้ม..แล้ว..มาว่า

เว่ย หล่าง..

แล้วก็มา..หัวเราะ..นี้มันหมายความยังงัยท่าน Nat..ฮือ.. :b12:

natdanai

กบนอกกะลา เขียน:

ตาลาย....แล้วมา...ป่วย...
ยิ้ม..แล้ว..มาว่า

เว่ย หล่าง..

แล้วก็มา..หัวเราะ..นี้มันหมายความยังงัยท่าน Nat..ฮือ.. :b12:

งงครับเลยตาลาย....พอตาลายมากรู้สึกวิงเวียนก็เลยป่วย....แต่ป่วยมันก็ไม่เที่ยงครับพอมันจากไปสุขเวทนามันก็มาก็เลยยิ้มครับ....อารมณ์ดีขึ้นมาก็เลยระลึกถึงสหายคนนึงที่ชอบยกตัวอย่าง "เว่ย หล่าง" และ ท่านบัวสบาย ก็กล่าวถึง "เว่ย หล่าง" ทำให้กระผมรู้สึกเหมือนว่าสหายท่านนั้นไม่หายไปไหนก็เลยหัวเราะ :b13:

27217.สอบถามครับ รู้และปฏิบัติแค่นี้พอหรือเปล่า?

ผู้ใช้งานขณะนี้