วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 21:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 19:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12:

สืบเนื่องจาก คำตอบของ จานป้อ มันมาจุดประกายความอยากรู้อยากเห็น

กรัชกาย เขียน:

หัวใจมี ๔ ห้อง แล้วแต่ว่าจะเปิดใช้ห้องไหนอ่ะคับ ห้องนี้เป็นที่เคยรักเคยเจ็บเพราะพิษรักก็เป็น

งี้ :b2: :b7: แบบนี้

ห้องอื่นๆจากนี้ก็เป็นแบบอื่น :b9: :b32: :b11: :b20: ฯลฯ อารมณ์เปลี่ยนได้

ขอรับ :b12:


:b32: :b32: :b32: :b32:

จริง ๆ เคยตั้งกระทู้ ประมาณว่า ความรักกับการปฏิบัติธรรม มันไปกันได้หรือไม่ ประมาณนี้ล่ะ
และจานป้อ ก็เคยเข้าไปร่วมแสดงความเห็นด้วย...


กรัชกาย เขียน:
เอรากอน เขียน:
การปฏิบัติธรรม กับความรัก...มันเดินไปด้วยกันไม่ได้จริง ๆ หรือคะ


ใครบอกคุณเอรากอนครับ เขาบอกรายละเอียดว่าไงครับ
แต่เท่าที่รู้ว่า ในครั้งพุทธกาลอริยบุคคลที่เป็นคฤหัสถ์มีมากมาย เช่น วิสาขามหาอุบาสิกา ท่านอนาถ-
บิณฑิกเศรษฐี พระเจ้าปเสนทิโกศล หมอชีวกโกมารภัจจ์ ฯลฯ และที่มีคุณูปการต่อพระศาสนาอย่างมากหลังจากพุทธปรินิพพานแล้ว คือ พระเจ้าอโศกมหาราช ประวัติไม่แน่ใจว่าเป็นอริยบุคคลหรือไม่



ชิ...ตอนนั้นยังเป็น คุณเอรากอน ดี ๆ ตอนนี้เป็น ไบกอน ไปเรียบร้อยแล้ว ดูถั่วะ... :b32: :b32:

และชอบคำตอบของท่าน ดิดี๋ ค่ะ

-dd- เขียน:
ความรักก็สามารถเกื้อหนุนการปฏิบัติธรรมได้ครับ

ส่วนผู้ปฏิบัติถึงระดับสูงสุด ความเกี่ยวข้องด้วยกามจะหมดไป ท่านย่อมไม่ติดข้องในเรื่องรักอันเป็นไปเพื่อความยืดเยื้อแห่งวัฏฏะของท่านครับ

ผู้ที่มีคนรักที่มีศีลและปัญญาเสมอกันย่อมเกื้อกูลกันได้ในทางธรรม ส่วนผู้ที่ไม่มีศีล ไม่มีปัญญา การที่จะชักชวนกันให้มาทางธรรมก็ไม่ใชฐานะที่จะเป็นได้ครับ ดังนั้นจึงต้องดูอุปนิสสัยปัจจัยของคนรักว่าเป็นไปในทางใด ในบางครั้ง เหตุปัจจัยถึงพร้อม แม้เขาอาจไม่เคยสนในธรรมะมาก่อน แต่เมื่อถูกกระตุ้นก็กลับคิดได้เกิดโยนิโสมนัสสิการ พาตนเข้าหาที่พึ่งอันเกษมนี้ได้ก็มี ..ใครๆจะปฏิบัติธรรมหรือไม่ ไม่ใช่ความสำคัญสำหรับเรา แต่เราพึงปฏิบัติธรรม นี่สำคัญที่สุดครับเพราะธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมเสมอครับ



ก็เลยนึกอยากปัดฝุ่น แต่เป็นคำถามใหม่ค่ะ

:b16: :b16: :b16:

เมื่อเรารัก รักอย่างไรจึงจะเป็นรักที่เป็นกุศลธรรม รักอย่างไรจึงจะไม่เป็นโทษ

รักอย่างไร จึงจะเป็นรักที่เกื้อหนุนต่อการศึกษาและปฏิบัติธรรม น่ะค่ะ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 19:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นกระทู้ไบกอน นึกถึงคำถามของคนๆหนึ่ง (บอร์ดไหนจำไม่ได้แล้ว) ตั้งคำถามว่ประมาณว่า

ตัวเขาเองอยู่กับแฟน แต่ชอบฝึกสมาธิก่อนนอน เลิกฝึกสมาธิแล้วจะนอนกับแฟนได้ไหม?...

กรัชกายตอบว่า มันคนละตอนคนล่ะขณะกัน เราไม่ได้ทำเวลาเดียวกัน ขณะนั่งสมาธิก็นั่งสมาธิไม่ได้นอน

กับแฟน ขณะนอนกับแฟนก็ไม่ได้นั่งสมาธิ

ไม่ใช่นักบวช หรือสมาทานอุโบสถศีลนี่ ไม่ผิดอะไรนี่ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 19:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ความรักกับการปฏิบัติธรรม
ความรักแบบหนุ่มสาว ถ้ารักกันแล้วๆมาปฏิบัติธรรมก้คงได้
แต่ถ้าไม่สมหวังความรักแล้วมาปฏิบัติเพื่อให้คนรักหวนกลับคงเปนไปไม่ได้

การปฏิบัติส่งเสริมในเรื่องความรกัแน่ๆๆ แต่ความรักอย่างเดียวไม่แน่ว่าจะส่งเสริมการปฏิบัติด้วย
หรืออาจฉุดการปฏิบัติก้เปนไปได้

จะเลือกอันไหนก็เลือกสักอย่างจะดีกว่า เลือกสองอย่าง อาจทำไม่ได้ แต่ถ้าทำได้ก้ถือว่าเยี่ยม
แต่น้อยคนที่จะได้พร้อมกัน2อย่าง :b9: :b9: :b9: :b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เมื่อเรารัก รักอย่างไรจึงจะเป็นรักที่เป็นกุศลธรรม รักอย่างไรจึงจะไม่เป็นโทษ

รักอย่างไร จึงจะเป็นรักที่เกื้อหนุนต่อการศึกษาและปฏิบัติธรรม น่ะค่ะ...



หากให้เป็นดังคำถามนั้น ทั้งคู่ต้องมีคุณธรรมเสมอกันหรือใกล้เคียงกัน มีความเห็นสอดคล้องกันในเรื่องนี้

หากไม่ถึงขนาดนั้น ก็ไม่ขัดกันหรือฝืนกัน เช่นบุคคลตัวอย่างดังกล่าวก่อนหน้านั่นแหละ จึงจะเกื้อหนุนกัน

ในการศึกษาและปฏิบัติธรรม

พูดให้เข้าใจง่ายแบบสำนวนที่ได้ยินบ่อยๆ คืองานหลวงไม่ให้ขาด งานราษฏร์ก็ไม่ทิ้งไม่ให้บกพร่อง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 20:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: :b16: :b16: ฮริ..ฮริ..ไม่ขอออกความเห็นค่ะ

แต่ก็จริงอย่างจารย์ว่าในสมัยพุทธกาลนั้นมีอยู่.... :b8:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 20:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พึงขยายความรู้ต่อไปอีก

ไตรสิกขา (สิกขา ๓ ) ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา

คำว่า สิกขา แปลว่า การศึกษา การสำเหนียก การฝึก ฝึกปรือ ฝึกอบรม

ความหมายของสิกขา ก็คือ การฝึก(ตน)

ระบบของสิกขาสำหรับฝึกคน คือฝึกจากภายนอกหยาบๆ เข้าไปหาภายในซึ่งเป็นขั้น

ละเอียดลึกซึ้งอีกชั้นหนึ่ง (แต่ก็หนุนกัน หมายความว่า ฝึกภายนอกหนุนภายใน)


ศีลกินความกว้าง (ศีล รวมอาชีวะด้วย) คือการฝึกตน (ฝึกกาย วาจา) รวมถึงการจัดระเบียบ

ภายนอกสภาพแวดล้อมทั่วๆไปด้วย ตัวอย่าง เช่น เราจัดที่อยู่อาศัยให้เรียบร้อยก็เรียกว่าเป็นคนมีศีล

กวาดบ้านถูพื้นให้สะอาดก็เรียกว่าเป็นคนมีศีล จัดเก็บสิ่งของเข้าที่เข้าทางดูเป็นสัดเป็นส่วนก็เรียกผู้นั้นว่า

เป็นคนมีศีล

ผู้ประกอบอาชีพสุจริต ไม่หลอกลวงไม่คดโกงก็เป็นผู้มีศีล

สำรวมกายใช้วาจาเรียบร้อย คือไม่เบียดเบียนทางกายและวาจา เป็นคนมีศีล ฯลฯ

:b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42:

ศึกษาเรืองศีลรวมๆที่
viewtopic.php?f=2&t=27485

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 05 ธ.ค. 2009, 07:33, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 20:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใครที่มีครอบครัว อย่าพึงปฏิบัติธรรมจนบ้านแตก ครอบครัวแตกแยก จะเสียหายแก่ธรรม

มีนะภรรยาเข้าวัดปฏิบัติธรรม ปฏิบัติกรรมฐาน แล้วจิตถึงสภาวะเอนเอียง รู้สึกเบื่อๆ...แล้วยึดติดภาวะนั้น

พึงระวัง

ผู้ชายก็มีที่จิตถึงภาวะนั้น เบื่อเมียเบื่อครอบครัว ไม่อยากทำงาน ไม่อยากเห็นหน้าลูกเมีย พึงระวัง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 20:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เดี๋ยวดิ่....จานป้อ....ก้อ....

แบบว่า...ทำไมมีแต่ความรักแบบเป็นครอบครัวแล้ว...หร่ะ :b5: :b5:
เผื่อมุมมองสำหรับวัยที่ยังกระหนุ๋งกระหนิ๋ง....บ้างสิ...ธ่อ...จานป้อ...ก้อ

แจกไพ่ใบแรก ก็ไปเรื่องมุ้งเลย... :b14: :b14:

แบบทีละ step ได้รึเปล่าคะ เริ่มจาก เบบี๋ น่ะ...
แบบว่าตั้งแต่เราเริ่มสบตาปิ๊ง ๆ เลย...น่ะ
เราควรจะรู้เท่าทันความรักในแต่ละ step อย่างไร
และควรจะบริหารความรักในแต่ละ step อย่างไร
เราจะตามรู้เท่าทัน ตามสำรวมใจอย่างไร...
เพื่อจะได้เป็นผู้ที่ รู้จักรักอย่างชาญฉลาดน่ะ
....และสอดคล้องกับธรรม น่ะ....

:b14: :b14: :b14:

:b2: :b2: :b2:

โผล่มาเป็นเรื่องมุ้งเลย... :b32: :b32: :b32:

ธ่อ...จานป้อ...คิดถึงเด็กวัยรุ่นบ้างสิ่คะ อย่าคิดถึงตัวเอง... :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 21:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็ความรัก มันมักจะมีกิเลส ตัณหา มาปน หน่ะ...

จะเอาบทธรรมแบบ ความรักที่ไม่เป็นไปเพื่อหล่อเลี้ยงอัตตา
ความรักที่ไม่เป็นไปเพื่อสนองกิเลส ตัณหา หน่ะ...

:b2: :b2: :b2:

ไบกอน...วางแผนอนาคตไว้แล้วว่าจะปลีกวิเวก...หง่ะ

รักแบบไม่ปลีกวิเวก...จานป้อ...เก็บไว้ทีหลัง

เอารักที่เป็นไปเพื่อสนับสนุนหนทางแบบปลีกวิเวกมาก่อนได้ป่าวว... :b2: :b2:

ไม่เข้าใจวัยรุ่นมุ่งศึกษาธรรมเลย จานป้อ...นี่ก้อ...


:b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 04 ธ.ค. 2009, 21:15, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ธ่อ...จานป้อ...คิดถึงเด็กวัยรุ่นบ้างสิ่คะ อย่าคิดถึงตัวเอง


พูดให้สุดขอบของธรรมก่อนแล้ว หากใครต้องการพูดบีบให้แคบเข้ามาก็พูดได้พูดไป

อาจพูดได้ง่ายเข้าใจธรรมกว้างขึ้นด้วยซ้ำนะขอรับ หรือไม่จริง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 21:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
ก็ความรัก มันมักจะมีกิเลส ตัณหา มาปน หน่ะ...

จะเอาบทธรรมแบบ ความรักที่ไม่เป็นไปเพื่อหล่อเลี้ยงอัตตา

ความรักที่ไม่เป็นไปเพื่อสนองกิเลส ตัณหา หน่ะ...

ไบกอน...วางแผนอนาคตไว้แล้วว่าจะปลีกวิเวก...หง่ะ

รักแบบไม่ปลีกวิเวก...จานป้อ...เก็บไว้ทีหลัง

เอารักที่เป็นไปเพื่อสนับสนุนหนทางแบบปลีกวิเวกมาก่อนได้ป่าวว

ไม่เข้าใจวัยรุ่นมุ่งศึกษาธรรมเลย จานป้อ...นี่ก้อ...


จะปลีกเวกแบบไหน จะไปบวชชีหรือจะอยู่เป็นโสดจนตาย ก็ไม่มีปัญหาเป็นสิทธิที่เราเลือกดำเนินชีวิตได้ขอรับ

ในสองอย่างนั้นไบกอนปลีกตัวแบบไหนล่ะ


จะเอาความรักที่ดังว่า ก็อย่างที่บอกก่อนหน้า ทั้งสองคนต้องมีทัศนะมีความเห็นเข้ากันได้

เราต้องการแบบนั้น แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการแล้วจะไปกันได้ฤา

การที่ไม่มีอัตตา อยู่ที่การเข้าใจชีวิตคือตัวเอง มิใช่ไม่เอาอัตตา แต่ไม่รู้ไม่เข้าใจความหมายอัตตา

เห็นในนี้พูดกันแทบจะตีกันตาย :b9: :b32: ยังตกลงกันไม่ได้เลย :b9:

สรุปว่าไบกอนจะปลีกวิเวกแบบไหน บวชชี หรือ เป็นโสดจนตาย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 21:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ธ่อ...จานป้อ...คิดถึงเด็กวัยรุ่นบ้างสิ่คะ อย่าคิดถึงตัวเอง


พูดให้สุดขอบของธรรมก่อนแล้ว หากใครต้องการพูดบีบให้แคบเข้ามาก็พูดได้พูดไป

อาจพูดได้ง่ายเข้าใจธรรมกว้างขึ้นด้วยซ้ำนะขอรับ หรือไม่จริง :b1:


:b32: จานป้อ... แต่ยังงง ๆ กับสำนวน จานป้อ อยู่บ้าง
อย่างกะ กินข้าวต้องเริ่มกินจากขอบจาน...

อุ๊...ไบกอนใจร้อนไปอีกแล้วนะสิ่... :b34: นี่แนะ...ขอทุบตัวเองก่อน

ขอโทษค่ะ :b8: จานป้อ...

ไม่โวยวายแล้ว :b16: กลับมานั่งฟังอย่างเรียบร้อยแล้วค่ะ... :b12: :b12:

:b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 21:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
จะปลีกเวกแบบไหน


ก็ไม่รู้...ว่าสิ่งไหนจะอำนวย เห็นว่าที่ภาคเหนือมีสถานที่มี ภิกษุณี ไม่ใช่หรือคะ


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 04 ธ.ค. 2009, 21:35, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อุ้ย กระทู้ปูทางเตรียมจะแต่งงานตอนเป้นพระอรหันต์รึเปล่าคับเนียะ
จะมีก็มีตอนนี้แหละ
กว่าจะรอหันแล้วมาแต่ง โอย ขวานบิ่นแล้ว เจอไม้งามก็เปล่าประโยชน์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 21:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
อุ้ย กระทู้ปูทางเตรียมจะแต่งงานตอนเป้นพระอรหันต์รึเปล่าคับเนียะ
จะมีก็มีตอนนี้แหละ
กว่าจะรอหันแล้วมาแต่ง โอย ขวานบิ่นแล้ว เจอไม้งามก็เปล่าประโยชน์


:b34: :b34:

นี่แนะ....ไม่ต้องมาแซว...
ยังไม่คิดจะร่างพระธรรมฉบับใหม่...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร