วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 01:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 20:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2009, 23:48
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเคยไปปฏิบัติธรรมที่บ้านทิพย์ปฏิบัติธรรม 6 ซ.สันติรักษ์ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นการฝึกสอนเกี่ยวกับมโนมยิทธิซึ่งมีผู้ที่เป็นคนสอนคือ คุณแม่เกษร สุทธจิต จันทร์ประภาพซึ่งได้แนะนำว่านิพพานนั้นไปง่าย เพียงแค่รับแสงทิพย์แล้วก็สามารถเป็นพระอริยะเจ้าได้เลย ไม่ต้องไปนั่งสมาธิให้เมื่อย ทำไมการไปนิพพานง่ายจัง?
แนบไฟล์:
คำอธิบาย: คุณแม่เกษร
Gaysorn1.jpg
Gaysorn1.jpg [ 35.12 KiB | เปิดดู 8142 ครั้ง ]

อีกทั้งยังมีการทำหนังสือธรรมะแจกซึ่งผู้สอนบอกว่าเป็นหนังสือที่สอนแนวทางการไปนิพพานง่ายๆและก็มีการเน้นย้ำว่าให้อ่านหนังสือเล่มนี้บ่อยๆ ประมาณ 10 รอบขึ้นไปจะช่วยให้เพิ่มบุญบารมี ทำให้ไปนิพพานเร็วขึ้นอีกด้วย แล้วคุณแม่เกษรยังบอกด้วยว่าสามารถติดต่อพูดคุยกับหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ(พระราชพรหมยาน)วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ได้อีกด้วยรวมทั้งยังบอกด้วยว่าพระเบื้องบนบอกให้จัดงานบรวงสรวงปีละครั้งเพื่อเป็นการสักการะบูชา และขอบคุณพระเบื้องบนอีกด้วยแล้วยังมีคนที่ยืนยันว่าคุณแม่เกษรว่าเป็นพระอริยะเจ้า

การปฏิบัติก็ง่ายๆ ก็ให้ฝึกการดูจิตว่าแม่เกษรนั้นเป็นพระอริยะเจ้าขั้นไหนแล้ว ในหนังสือหรือในเว็ปของคุณแม่เกษร ยังบอกด้วยว่าใครไม่เชื่อคุณแม่เกษรหรือปรามาสคุณแม่เกษรจะได้รับบาปมาก คนที่เข้ามาปฏิบัติธรรมถ้าใครบอกว่าสามารถติดต่อหรือพูดคุยกับพระเบื้องบน หรือพูดธรรมะได้ คุณแม่เกษรก็จะตั้งให้เป็นอาจารย์สอนธรรมะแล้วเอาชื่อใส่ไว้ในหนังสือธรรมะ


ผมพบข้อความนี้ในหนังสือธรรมะประทานพร เล่ม 1 หน้า 6 หัวข้อที่ 10 เป็นไฟล์ในเว็ป >> http://www.sangthipnipparn.com/download/word/tampratanpon%201.doc ของคุณแม่เกษรครับ
อ้างคำพูด:
ลูกเกษรจะได้รับอภิญญาเต็มอีกไม่นานอีกไม่นานก็ได้อยู่พระนิพพานกับเสด็จพ่อพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าดังที่ตั้งใจไว้ เราอย่าทำใจเป็นเปล แกว่งไป ไกวมา ไม่หนักแน่นในพระธรรม อย่าตามใจอารมณ์กิเลส ให้เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าสนใจคำพูดของคน เจ้าจะต้องเป็นผู้นำ เป็นผู้นำจำไว้ เจ้าลูกเกษร เจ้าเป็นคนที่มีจิตสะอาด บริสุทธิ์ เจ้านั่นแหละจะเป็นผู้นำประชาชนให้มีจิตนับถือเจ้า

อ้างอิงอีกไฟล์หนึ่งที่มีเขียนบอกไว้อย่างชัดเจน >> http://www.abhinyayai.com/images/sub_1256386270/sangthip.pdf หน้า 7 บรรทัดที่ 6 นับจากข้างล่าง
อ้างคำพูด:
พ่อได้มองดูลูกทุกคนในโลกนี้ไม่มีใครทำได้ดีเช่นเจ้า ลูกเกษร ลูกนั่นแหละเป็นผู้นำเป็นหัวหน้า ในพลัง แสงทิพย์อริยธรรม ใครจะทำงานยิ่งใหญ่วิเศษสุดแบบเจ้าได้ จิตลูกอย่าหวั่นไหวว่าใครจะว่าเจ้าเพี้ยนออกนอกลู่นอกทาง จากพระธรรมคำสอน ลูกจงสังวรไว้ ไม่ช้าเขาจะเห็นคุณงามความดีของเจ้า เจ้ามีจิตเข้มแข็งทำงานได้อย่างจริงจัง ให้ลูกทำต่อไปจนกว่าจะหมดอายุขัย พ่อสำรวจดูลูกๆแล้ว ไม่มีใครที่จิตใจสะอาดมีเมตตา มีพลังปัญญาเช่นเจ้า ใครเขาไม่เห็นดีตำหนิ ติเตียน ผู้นั้นจะมีผลบาปกรรม ตามสนองในชาตินี้

ใครที่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมะโปรดช่วยดูให้หน่อยเถอะครับว่า จะเป็นความจริงแต่ประการใด ผมจะได้เข้าใจอย่างถูกต้อง
** กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งใจจะใส่ร้ายหรือกล่าวหาแต่ประการใด เพียงแค่ผมต้องการรู้สิ่งที่ถูกต้องแค่นั้นเอง ว่าในเอกสารเหล่านั้นพระเบื้องบนบอกอย่างนั้นจริงๆเหรอคับ **

By. คนอยากรู้


แก้ไขล่าสุดโดย kemtid เมื่อ 23 ธ.ค. 2009, 22:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 20:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ไม่ออกความเห็น ต้องอธิบายรึเปล่าว่าทำไมถึงเลือกข้อนั้น ๆ ...น่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 22 ธ.ค. 2009, 20:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 07:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2008, 09:20
โพสต์: 349


 ข้อมูลส่วนตัว


:b10: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 08:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ไม่ขอออกความเห็นเช่นกัน
แต่อยากแสดงความคิดเห็นนิดหนึ่งค่ะ
พระพุทธเจ้า กว่าท่านจะตรัสรู้ได้ ท่านทรงบำเพ็ญเพียร
ภาวนา หกปีถึงจะสำเร็จ แล้วก่อนหน้านั้นท่าน
ทรงต้องเสวยชาติอีกตั้งไม่รู้เท่าไหร่? ต่อสู้กับกิเลส
ประหัตถ์ประหารกับตัณหา มากี่ชาติกี่ภพ ถ้าแค่รับแสง
แล้วสำเร็จได้ เชื่อว่าท่านก็คงประทานให้สัตว์โลกทั้งหลาย
ไม่ต้องมีใครทุกข์ทรมานอยู่ให้ห้วงวัฎฎะจักรหรอกมังค่ะ
(ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ ถ้าใช้คำไม่ถูกต้องขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย)

:b41: :b42: :b41: :b42: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝากลิงค์นี้ไว้ด้วย

:b1: viewtopic.php?f=2&t=19015&p=86087#p86087

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 10:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ย. 2009, 07:32
โพสต์: 95

แนวปฏิบัติ: หลักวิถีธรรมชาติ - อานาปานสติ,บริกรรมภาวนา
ชื่อเล่น: นุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การฝึกมโนมยิทธิ(เช่น การไปดูนรก-ดูสวรรค์) เป็นอุบายอย่างนึง ให้ผู้ปฎิบัติ รู้จัก บาป บุญ คุณ โทษ

ส่วนการรับแสงทิพย์แล้วก็สามารถเป็นพระอริยะเจ้าได้เลย ผมไม่ขอออกความเห็นครับ เพียงแต่ขอยกตัวอย่าง ในสมัยพุทธกาล เช่น

-พระนางวิสาขา-มหาอุบาสิกา ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านเหล่านั้น ก็ รักษาศีล บำเพ็ญสมาธิภาวนา (ทั้งในอดีตชาติ) จนได้มาเกิดในยุคขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้ฟังธรรม ประกอบกัปป์ บุศกุศลที่ท่านได้ปฎิบัติมาในอดีตชาติ(ให้ทาน รักษาศีล บำเพ็ญสมาธิภาวนา) เมื่อได้ฟังธรรม ทำให้ท่านได้ดวงตาเห็นธรรม คือ บรรลุโสดาปัตติผล สำเร็จเป็น พระโสดาบัน

-ท่านอัญญาโกณฑัญญะ เมื่อได้ฟังธรรมแล้ว ก็ได้เกิดความรู้ความเห็นว่า
...สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ...สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา
ทำให้ท่านบรรลุ เป็นพระโสดาบัน เช่นเดียวกัน หลังจากนั้นท่านก็ได้ บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา และได้ปฎิบัติธรรมจนได้บรรลุเป็นพระอรหันต์

.....................................................
จงทำศีลให้เป็น อธิศีล
ทำจิตให้เเป็น อธิจิต
ทำปัญญาให้เป็น อธิปัญญา


พื้นฐานคุณธรรมความเป็นมนุษย์คือ ศีล๕ กุศลกรรมบถ๑๐ หิริโอตัปปะ และความกตัญญู กตเวทิตา

จุดสูงสุดของการรู้ธรรม เห็นธรรม ก็คือ
...สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ...สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา


แก้ไขล่าสุดโดย ภาวิตา-พหุลีกตา เมื่อ 23 ธ.ค. 2009, 10:55, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 11:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 09:55
โพสต์: 405


 ข้อมูลส่วนตัว


จากโพลที่ถาม ไม่มีตัวเลือกที่ต้องการจะตอบ ที่ต้องการจะตอบ คือ "ไม่รู้" ครับ

แต่เท่าที่อ่านเนื้อความแล้ว ที่บอกว่า...

"นิพพานนั้นไปง่าย เพียงแค่รับแสงทิพย์แล้วสำเร็จเป็นพระอริยะเจ้าได้เลย ไม่ต้องไปนั่งสมาธิให้เมื่อย"

มองในแง่ดีอาจจะเป็นกุศโลบายในการปฏิบัติ หรือเทคนิคอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่เคยปฏิบัติตามแนวนี้ก็บอกไม่ได้ว่าจริงหรือไม่?

แต่ที่รู้จริงๆ ก็คือ ผู้ที่บรรลุอริยบุคคลนั้น จะวัดกันที่...

๑. ศีลสมบูรณ์ : อย่างน้อยต้องศีล ๕ และมีสัมมากัมมันตะ, สัมมาวาจา, สัมมาอาชีวะ สมบูรณ์อย่างเป็นปกติ
๒. สมาธิปานกลางถึงสมบูรณ์ : อย่างน้อยจะต้องได้ปฐมฌาน จะเข้าเมื่อไร เข้าได้ทันที อยู่ได้นานตามต้องการ
๓. ปัญญาปานกลางถึงสมบูรณ์ : อย่างน้อยต้องรู้อริยสัจจ์ และเข้าใจในปฏิจจสมุปบาทอย่างท่องแท้ มีญาณเป็นเครื่องอยู่เป็นปกติ
๔. ละสังโยชน์ได้ : อย่างน้อย ๓ ประการขึ้นไป ได้แก่ สักกายทิฐิ, วิจิกิจฉา, สีลัพพตปรามาส ฯ


ดังนั้นใครจะปฏิบัติแบบนั้น เสร็จแล้วลองสำรวจว่ามีคุณสมบัติว่าครบตามที่กล่าวไปข้างต้นหรือไม่ หากไม่ครบก็ให้ถือว่ายังไม่ใช่อริยบุคคลครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


มันบ้าน่ะ.. อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 21:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2009, 00:02
โพสต์: 111

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: แสงทิพย์ที่ว่ามีสีอะไร ? เป็นแสงที่เห็นตอนนั่งสมาธิหรือเปล่า?
ดิฉันเคยนั่งสมาธิที่แล้วเกิดนิมิตเป็นแสงสีม่วงสดใส สว่างมาก อาบทั่วร่างเหมือนคนเอาไฟสปอร์ตไลท์ดวงใหญ่ ๆ มาส่อง แสงนั่นปกคลุมทั่วร่างกาย รู้สึกมีความสุขทั่วทุกรูขุมขน ดูดีๆ แล้วจึงรู้ว่าเป็นดวงกลมมีวงแหวนสีขาวล้อมรอบดวงกลมนั้น รัศมีประมาณช่วงไหล่ซ้าย-ขวา จิตยิ่งสงบขึ้นเรื่อยๆ ดวงสีม่วงที่ว่าก็เข้มขึ้นเรื่อยๆ แล้วเปล่งประกายรัศมีโดยรอบ สว่างยิ่งกว่าแสงดวงจันทร์ จิตสงบลงไปอีก
ดวงนั้นเริ่มมีประกายระยิบระยับเหมือนโรยด้วยกากเพชรสีเงินสีทอง ต่อไปเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองทั้งดวง
อ้อ.. ลืมบอกไป ว่าที่จิตสงบลงเรื่อยๆ เพราะตรงจุดศูนย์กลางของดวงกลมซึ่งอยู่ประมาณกึ่งกลางหน้าผากนั้นเป็นเหมือนรูน้ำวนเล็กๆ แล้วเรากำหนดจิตตามเข้าไปดู สมาธิตั้งมั่นไม่หวั่นไหวทีเดียว สภาวจิตตอนนั้นไม่รู้สึก นึกคิดปรุงแต่งใดๆ จับลมหายใจเข้าออกไม่ได้ เหมือนไม่ร่างกาย กำหนดจิตออกไปหน้าบ้านเหมือนมีผู้คนมากมายเดินลากเท้าไป-มา กำหนดจิตออกไปไกลกว่านั้นก็ได้ยินคนเขากำลังนั่งคุยกันเสียงปกติธรรมดา แต่เหมือนเขามาคุยกันอยู่ใกล้ได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ ทั้งที่วันนั้นฝนตกปรอยแรงพอประมาณ ซึ่งปกติแม้ว่าฝนไม่ตกดิฉันก็ไม่เคยได้ยินเขาคุยกันเลย เพราะบ้านอยู่ห่างกันพอประมาณ
พอออกจากสมาธิมีความรู้สึกเฉยๆ ไม่อยากยิ้ม ไม่อยากหัวเราะ แม้ว่าอยู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนที่คุยกันสนุกสนาน ไม่รู้สึกอิจฉา ไม่รู้สึกเกลียด หรือไม่พอใจ แม้ว่าคนที่เรารู้สึกไม่ชอบเขามากๆ มานั่งใกล้ๆ
ซึ่งปกติพอเจอคนคนนี้ทีไร ถ้าเป็นปรอทก็คงระเบิด อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด มีสภาพจิตที่เป็นอุเบกขาเช่นนั้นอยู่เกือบ 2 สัปดาห์ (อุปมา เหมือน หินทับหญ้า)
:b42: :b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 22:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2009, 23:48
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: แสงทิพย์ก็เป็นแสงของพระพุทธเจ้านั่นแหละคับ แต่ว่ารับมาแล้วผมก็ยังสงสัยว่าได้เป็นพระอริยะเจ้าเลยรึเปล่า? เพราะเท่าที่เห็นคุณแม่เกษร ที่ อ.แสงทิพย์เค้าร่ำลือว่าเป็นพระอรหันต์ เน้นแต่ให้ทุกคนพูดแต่ธรรมะอย่างเดียว เน้นนิพพานแต่ไม่เคยสอนนั่งกรรมฐานเลยซักที :b7:

:b8: แต่ที่คุณนั่งแล้วเห็นเป็นแสงๆ ตอนแรกๆผมคิดว่าน่าจะเป็นอาการของปีติ อาการหลังๆน่าจะอาการของฌานนะคับ เท่าที่ผมอ่านมา ลองไปหาอ่านดูวิธีฝึกกรรมฐานด้วยตัวเองแบบง่ายๆ คำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำดีกว่าคับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 23:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2009, 00:02
โพสต์: 111

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: พระอริยเจ้า หมายถึง โสดาบัน สกฑาคามี อนาคามี พระอรหันต์ เขาวัดกันที่ใครมีกิเลส
ตัณหา อุปาทาน น้อยกว่ากันไม่ใช่หรือ อยากเป็นพระอริยเจ้าต้องหมั่นเพียรละ ต้องรู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง เข้าใจอริยสัจ 4 อย่างถ่องแท้ (ตนเองย่อมพิจารณาได้เองว่าถ้าไม่ลงมือปฏิบัติสมถวิปัสสนากรรมฐานย่อมหลุดพ้นไม่ได้)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2009, 01:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


เท่าที่สังเกตุและทราบมาจากการอ่านหนังสือ
ท่านที่ปฏิบัติจนบรรลุธรรมไม่ว่าจะขั้นไหน? ไม่เห็นมีใครออกมาประกาศ
ตัวว่า "ข้าพเจ้าบรรลุธรรมถึงขั้นสกิทาคามี หรืออรหันต์ หรือฯลฯแล้ว
นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป" สักท่านเลยค่ะ ที่ประกาศโครมๆนั้น ลองสนทนา
แล้วยั่วให้โมโหดูซิค่ะ..ว่าเก็บอาการอยู่กันไหม?...หรือง่ายที่สุดก็ดูที่ตา
เวลาสนทนา คนธรรมดาอย่างเราๆอาจจะเห็นอะไรดีๆ(ไม่ดี)ก็ได้
อนุโมทนาค่ะ :b8:
(ความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ)

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร