คืองงๆ ค่ะ บางคนก็ชอบ บางคนก็เกลียด บางทีเห็นครั้งแรก ก็ไม่ถูกชะตา
บางทีเห็นแล้วมีความรู้สึกชอบ ทั้งชอบธรรมดา และทั้งชอบเชิงชู้สาว
มันมีสาเหตุที่มีทีไปจากอะไรคะ

จาก กรรม ที่ผูกพันมาหลาย ๆ ภพ ชาติ ค่ะ

จากกรรมค่ะ ทั้งกุศลกรรม และอกุศลกรรม

ไม่ต้องไปอินในเซนต์มาก ไม่อินในความรู้สึกมาก ไม่อินในให้ความเห็นความหมายมันว่าอะไร ให้รู้แล้วๆไป ไม่ใสใจไ ม่อะไรกับมันด้วย หรือเรียกว่าไม่ยึดสิ่งรู้สิ่งเห็น ใจก็เรียบง่ายไม่งง เรียกว่าไมสาระวนซะเอง ไม่สร้างเหตุแห่งความวุ่นวายนั้นเอง
ในทางกลับกันรู้แล้วอิน ไม่แล้วๆไป ยึดความเห็นความหมาย สิ่งที่ตามมาคือตัวตนให้ความเห็นความหมายชอบไม่ชอบ ใช่ ไม่ใช่ อะไรของมันอยู่นาน และที่จะตามคือเลือกที่รักมักที่ชังตามมา ทั้งที่เขาเหล่านั้นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดแม้แต่น้อยคุณก็ไปทึกทักเองหมด เพราะความเป็นเดิมแท้ของสรรพสิ่ง สรรพธาตุ ไม่มีสิ่งไหนสมมุติว่ามมันเป็นอะไร อยู่เองแล้ว

เกิดจากกิเลสตัณหามานะอุปาทานของแต่คนครับ ส่วนการเข้าไปเกี่ยวข้องแล้วได้รับเวทนาสุขทุกข์หรืออุเบกขา เรียกว่าเป็น"วิบากของกรรม"ทั้งที่เป็นกุศลและอกุศลครับ

การสัมผัสรับรู้ของจิตมันละเอียด พิสดารสิ่งที่เราสัมผัสได้ไม่ใช่แต่อารมณ์ความรู้เราเท่านั้น อาจเป็นของดวงจิตดวงอื่น คนอื่น บ้างทีเรามีอารมณ์ความรู้สึกของเราธรรมดา ไปอยู่ใกล้คนที่โกรธจัดๆอยู่พลอยทำให้เรามีความรู้สึกหงุดหงิดได้ ยังรวมไปถึงภาวะอย่างอื่นที่ว่าเรื่องชู้สาวเป็นต้น ในทางกลับกัน ขณะที่เราวุ่นวายอยู่เราไปอยู่ใกล้ชิดครูบาอาจารย์ หลวงพ่อ หลวงตา ที่ท่านดับเย็นอยู่เราก็พลอยดับเย็นไปด้วย ในที่นี้จึงให้ธรรมะไปว่าไม่อิน ไม่อะไรกับอะไร ไม่ยึดเอาเป็นประมาณ ในการรู้ขอรับ
ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/

ทุกอย่างย่อมมีเหตุ..มีผล..แต่บางอย่างเราก็บอกเหตุ..บอกผล ของมันไม่ได้..แต่เราแค่เฝ้าระวังจิตระวังใจเรา..มีสติกับใจเราแค่นี้ก็น่าจะพอนะคะ