วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 18:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 18:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ที่ศึกษาพระธรรมจนเข้าใจระดับหนึ่งแล้ว เริ่มศึกษาตัวสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ

แต่ยังไม่แล้ว คือ ต้องค่อยๆสะสมอบรมความเข้าใจ สะสมสติสัมปชัญญะไปเรื่อยๆ

จนกว่าปัญญาจะสมบูรณ์ จนถึงความเป็นพระอริยะขั้นพระอรหันต์ ซึ่งไม่รู้ว่าอีกกี่

ร้อย อีกกี่พัน อีกกี่แสนชาติ หรืออีกกี่กัป ก็ยังไม่ทราบ ดังนั้นการศึกษา การฟังก็ต้อง

มีต่อไปเรื่อยๆ ครับ
คำว่า สติปัฏฐาน มี ๓ ความหมาย คือ

๑. สติปัฏฐาน เป็นปรมัตถอารมณ์ คือ นามธรรมและรูปธรรมที่สติ

ระลึกรู้

(สติปัฏฐาน ๔)

๒. สติปัฏฐาน เป็นสติเจตสิกที่เกิดกับกามาวจรญาณสัมปยุตตจิต

ซึ่งระลึกรู้อารมณ์ที่เป็นสติปัฏฐาน

๓. สติปัฏฐาน เป็นหนทางที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระ

อริยสาวกดำเนินไปแล้ว



สติปัฏฐาน ก็คือ วิปัสสนา

หากเจริญให้มากจนถึงระดับหนึ่งแล้ว

ก็จะละ สักกายทิฏฐิ ได้

จนไปถึงระดับที่เป็นพระอริยบุคคลได้ครับ

หากเป็นพระอริยบุคคลแล้วถามว่าจะทำอะไรต่อไป

ตอบว่าก็ขึ้นอยู่กับอัธยาศัยของผู้นั้นแล้วหละครับ

ว่าจะเมตตาช่วยเหลือผู้อื่นผู้ยังไม่ถึงความเป็นอริยบุคคลหรือไม่ ?

หากได้เป็นถึงระดับพระอรหันต์ แต่ยังเป็นปุถุชนอยู่ ก็จะดับขันธ์เองภายใน 7 วัน

แต่หากเป็นภิกษุ จะยังไม่ดับขันธ์ก่อน เพราะมีหน้าที่เผยแพร่พระพุทธศาสนาต่อไปครับ
จะเห็นว่าความเข้าใจพระธรรม คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นไม่ได้ขึ้น

กับเชื้อชาติ หรือสถานที่เลย แต่ขึ้นอยู่กับการสะสมปัญญามาพอที่จะเข้าใจพระธรรมที่

สุขุมลุ่มลึก ยากจะรู้ตามเช่นนี้ ได้หรือไม่ แม้ชาวพุทธเองก็ยังแบ่งแยกออกไปหลาย

นิกาย นำคำสอนของพระองค์ไปประยุกต์ตามความเชื่อ ความเข้าใจของตน แม้แต่

นิกายเดียวกัน ความเข้าใจที่ไม่ลึกซึ้งพอ ก็ยังนำพระธรรมมาสอนตามความเข้าใจของ

ตน และมีผู้นับถือมากมาย แต่อย่าลืมว่า พระพุทธศาสนานั้นคือศาสนาของผู้รู้ เมื่อไม่รู้

จริง ก็เป็นเพียงความเชื่ออย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่พระพุทธศาสนา พระธรรมคำสอนนั้น

ไม่สาธารณะสำหรับทุกคนจริงๆ แม้ในครั้งพุทธกาลก็ยังมีความเชื่อหลากหลาย บัดนี้

เวลาผ่านไปสองพันกว่าปี จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เหตุการณ์ของครูทั้ง ๖ ในสมัย

พุทธกาลก็ยังมีปรากฏอยู่

"...แต่อย่าลืมว่า พระพุทธศาสนานั้นคือศาสนาของผู้รู้ เมื่อไม่รู้

จริง ก็เป็นเพียงความเชื่ออย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่พระพุทธศาสนา พระธรรมคำสอนนั้น

ไม่สาธารณะสำหรับทุกคนจริงๆ..."

และ

"...ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตานั้น ต้องเป็นอนัตตาแต่เริ่มต้นทีเดียว

ไม่ใช่ไปบังคับว่าต้องมีวิธีทำอย่างนั้น

อย่างนี้ ปัญญาจึงจะเกิด แต่เพราะศึกษาพระธรรมมากพอที่จะเข้าใจคำสอน...

......จึงจะเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้สติเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรม

ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง แล้วปัญญาจึงจะรู้ชัดในลักษณะนั้นๆ ตรง

ตามที่ทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎกว่า ทุกอย่างเป็นธรรม และ ธรรมนั้นไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่

บุคคล ไม่ใช่ตัวตน คืออย่างไร..."

"...ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตานั้น ต้องเป็นอนัตตาแต่เริ่มต้นทีเดียว

ไม่ใช่ไปบังคับว่าต้องมีวิธีทำอย่างนั้น

อย่างนี้ ปัญญาจึงจะเกิด แต่เพราะศึกษาพระธรรมมากพอที่จะเข้าใจคำสอน...

......จึงจะเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้สติเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรม

ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง แล้วปัญญาจึงจะรู้ชัดในลักษณะนั้นๆ ตรง

ตามที่ทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎกว่า ทุกอย่างเป็นธรรม และ ธรรมนั้นไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่

บุคคล ไม่ใช่ตัวตน คืออย่างไร..."


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒-หน้าที่ 277


การปรินิพพานของพระอานนท์

ดังได้สดับมา พระอานนทเถระ พิจารณาดูอายุสังขารในกาลที่มี


อายุได้ ๑๒๐ ปี ทราบความที่อายุนั้นสิ้นไปรอบ จึงบอกว่า " เราจัก


ปรินิพพานในวันที่ ๗ แต่วันนี้." บรรดามนุษย์ผู้อยู่ที่ฝั่งทั้งสองแห่ง


แม่น้ำโรหิณี ทราบข่าวนั้นแล้ว ผู้ที่อยู่ฝั่งนี้ กล่าวว่า "พวกเรา มี


อุปการะมากแก่พระเถระ, พระเถระจักปรินิพพานในสำนักของพวกเรา."


ผู้ที่อยู่ฝั่งโน้นก็กล่าวว่า " พวกเรามีอุปการะมากแก่พระเถระ, พระเถระ


จักปรินิพพานในสำนักของพวกเรา." พระเถระฟังคำของชนเหล่านั้นแล้ว


คิดว่า "แม้พวกชนผู้ที่อยู่ฝั่งทั้งสองก็มีอุปการะแก่เราทั้งนั้น. เราไม่อาจ


กล่าวว่า ' ชนเหล่านี้ไม่มีอุปการะ' ได้, ถ้าเราจักปรินิพพานที่ฝั่งนี้,


ผู้อยู่ฝั่งโน้นจักทำการทะเลาะกับพวกฝั่งนี้ เพื่อจะถือเอา (อัฐิ) ธาตุ;


ถ้าเราจักปรินิพพานที่ฝั่งโน้น, พวกที่อยู่ฝั่งนี้ ก็จักทำเหมือนอย่างนั้น;


ความทะเลาะแม้เมื่อจะเกิด ก็จักเกิดขึ้นอาศัยเราแน่แท้, แม้เมื่อจะสงบ


ก็จะสงบอาศัยเราเหมือกัน" ดังนี้แล้ว กล่าวว่า "ทั้งพวกที่อยู่ฝั่งนี้


ย่อมมีอุปการะแก่เรา, ทั้งพวกที่อยู่ฝั่งโน้น ก็มีอุปการะแก่เรา. ใคร ๆ


ชื่อว่าไม่มีอุปการะไม่มี; พวกที่อยู่ฝั่งนี้จงประชุมกันที่ฝั่งนี้แหละ, พวก


ที่อยู่ฝั่งโน้นก็จงประชุมกันที่ฝั่งโน้นแหละ." ในวันที่ ๗ แต่วันนั้น


พระเถระนั่งโดยบัลลังก์ในอากาศประมาณ ๗ ชั่วลำตาล ในท่ามกลางแห่ง


แม่น้ำ กล่าวธรรมแก่มหาชนแล้วอธิษฐานว่า "ขอสรีระของเราจงแตก


ในท่ามกลาง, ส่วนหนึ่งจงตกฝั่งนี้, ส่วนหนึ่งจงตกฝั่งโน้น" นั่งอยู่ตาม


ปกตินั่นแหละ เข้าสมาบัติมีเตโชธาตุเป็นอารมณ์. เปลวไฟตั้งขึ้นแล้ว.


สรีระแตกแล้วในท่ามกลาง. ส่วนหนึ่งตกฝั่งนี้; ส่วนหนึ่งตกที่ฝั่งโน้น.


มหาชนร้องไห้แล้ว. เสียงร้องไห้ ได้เป็นราวกะว่าเสียงแผ่นดินทรุด


น่าสงสาร แม้กว่าเสียงร้องไห้ในวันปรินิพพานแห่งพระศาสดา. พวก


มนุษย์ร้องไห้ร่ำไรอยู่ตลอด ๔ เดือน เที่ยวบ่นเพ้ออยู่ว่า " เมื่อพระเถระ


ผู้รับบาตรจีวรของพระศาสดายังดำรงอยู่, ได้ปรากฏแก่พวกเรา เหมือน


การที่พระศาสดายังทรงพระชนม์อยู่, บัดนี้ พระศาสดาของพวกเรา

ปรินิพพานแล้ว."

เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน กำหนดอิริยาบทย่อย
สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม อนุโมทนากับผู้ใส่บาตรตอนเช้าตามถนนหนทางหลายสาย
สักการะพระธาตุ ถวายข้าวพระพุทธรูป ได้ฟังธรรม วันนี้ได้ไปปฏิบัติธรรมนอกสถานที่
ซึ่งป็นป่าไม้ร่มรื่น และได้อุทิศบุญกุศลเจริญอนุสติ 8 อย่าง
และเราตั้งใจว่าจะทำกิจต่างๆของตนเองให้ครบถ้วนตามที่ได้ตั้งไว้เพื่อเป็นการ
ตั้งสัจจะแก่ตนเอง และเพื่อที่จะไม่ทำให้เสียสัจจะในตนเอง
และวันนี้ก็ได้รักษาผู้ป่วยฟรี และตั้งใจว่าจะศึกษาตำราการรักษาโรคต่อไป และวันนี้ก็ได้.
ศึกษาการรักษาโรคจนทำให้เหนื่อยอ่อนเพลียไปตามตามกัน
ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องมีวิริยะเพื่อที่จะได้บารมีมาครบทั้ง 10 อย่าง
และหลังจากได้บารมีตรงนี้มาแล้วก็ทำการอุทิศตลอด และได้อฐิษฐานจิต
ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย





ขอเชิญทัวว์ทำบุญกับวัดป่ากรรมฐานกับ สทท สัญจรจังหวัด เลย หนองบัวลำถู อุดรธานี สกลนคร
และได้นมัสการสังเวชนียสถาน ในวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์-วันอังคารที่ 2 มีนาคม 2553
สนใจติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่ 022592751, 0891431422


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร