วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 11:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2010, 14:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 13:22
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เด็กไก่ทอดให้เราไม่คบ 1 ชิ้นที่แถม เราโทรกลับไปถาม สักพักเด็กส่งไก่ทอดนำไก่กลับมาส่ง และขอให้เราโทรกลับไปโกหกว่าเราหาไก่ไม่เจอเอง ไม่เช่นเขาจะถูกไล่ออกเพราะทำงานวันเเรก เขาพูดด้วยวาจาสุภาพนะค่ะ ถ้าเป็นคุณจะทำยังไงค่ะ :b18: :b24: :b25: :b26: ?

.....................................................
ทำไมต้องปล่อยว่าง
เพราะทุกอย่างมี ความว่าง มาแต่เดิม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2010, 15:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ถ้าเป็นคุณจะทำยังไงค่ะ


โทรไปขอบคุณบริการของเด็ก กล่าวถึงความประทับใจ ไม่ควรโกหกเพราะเขาทราบอยู่แล้วว่ามันไม่จริง..

หาคำพูดทำนองขอร้องให้เด็กได้รับโอกาสพิสูจน์ผลงานในระยะยาว..เพราะความใหม่จึงอาจผิดพลาดได้..

เหตุที่คุณไม่พึงโกหกเพราะ..
๑. นี่เป็นบาป ที่มีผลไม่ดีต่อคุณเองในภายหน้า คุณเท่านั้นจะเป็นผู้รับผล หาใช่ใครอื่นไม่


๒. คุณจะไม่มีส่วนร่วมเพิ่มบาปของเด็กที่แนะนำให้คุณโกหก หากคุณทำตามที่เขาขอร้อง เขาย่อมจะล่วงอกุศลกรรมบทครบองค์แห่งการมุสาวาท เป็นบาปภัยแก่เขาเพิ่มด้วย..พระพุทธองค์ตรัสสอนว่า คนที่สามารถโกหกใครๆได้ ที่จะไม่ทำชั่วอย่างอื่นๆไม่ได้นั้น ไม่มี คุณจึงพึงสงเคราะห์ให้เด็กไม่ทำบาปหนักโดยไม่จำเป็น(เพราะมีเจตนาโกหกด้วยตนเอง มิหนำซ้ำยังชักชวนคนอื่นให้ร่วมด้วย..)..คุณเองก็ไม่ทราบว่าแม้โกหกแล้ว เด็กจะไม่ถูกไล่ออก ดังนั้นจึงต้องวางใจว่า หากเเม้เขานั้นจะถูกออกจากงาน ก็เพราะเหตุแห่งวิบากที่ไม่ดีของเขาเอง แต่เราได้มีจิตกรุณาขอร้องนายเขาให้เอ็นดูเขาแล้ว หน้าที่ดีที่เราทำแล้วนี้ย่อมไม่เป็นโทษภัยแก่ใครๆ แล้ววางอุเบกขาด้วยใจกรุณานั้น..

:b47: :b48: :b47:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 28 ก.พ. 2010, 16:17, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2010, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเป็นเราเหรอ... อืมม...
น้อง พี่คงไม่เข้าไปข้องเกี่ยวอะนะ น้องจัดการเองเถอะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2010, 20:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 13:53
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


คิดดี ทำดี พูดดี เขียน:
เด็กไก่ทอดให้เรา"ไม่คบ" 1 ชิ้นที่แถม เราโทรกลับไปถาม สักพักเด็กส่งไก่ทอดนำไก่กลับมาส่ง และขอให้เราโทรกลับไปโกหกว่าเราหาไก่ไม่เจอเอง ไม่เช่นเขาจะถูกไล่ออกเพราะทำงานวันเเรก เขาพูดด้วยวาจาสุภาพนะค่ะ ถ้าเป็นคุณจะทำยังไงค่ะ :b18: :b24: :b25: :b26: ?


ตรงที่ผมเน้นสีแดงหมายความว่ายังไงครับ เด็กไก่ทอดไม่ให้ จขกท.ไปคบกับเขา หรือ ไม่ให้ จขกท.ไปคบกับคนอื่นครับ เผอิญผมเป็นประเภทโง่เขลาเบาปัญญาน่ะครับ เข้าใจอะไรยาก ขนาดร้อยเข็มขัดผมยังร้อยไม่"ครบ"เลยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2010, 21:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 08:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ไม่โทรไปทวงถาม
ตั้งแต่ได้ไก่ "ไม่ครบ" แล้วค่ะ
แต่ถ้าจะโทรถาม..ก็จะขอพูดกับน้อง
ที่เป็นคนส่งไก่ :b5: ....

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ไม่โทรไปทวงถาม
ตั้งแต่ได้ไก่ "ไม่ครบ" แล้วค่ะ
....


นั่นจิ่...
แต่บางที...สถานการณ์มันพาไป...
อย่างเช่น...สั่งมาตามจำนวน ซึ่งรวมของแถมแล้ว พอดีคน...

ซึ่งคนที่พอดีนั้น เป็นฝูงเด็ก ๆ วัยกิน วัยซน วัยแสบ...บรรลัย... :b23: :b23:

จริง ๆ การที่คนส่งมากล่าวอย่างนี้...เอกอน...ตั้งข้อสังเกตว่ามันมีสิ่งผิดปกติ...
มันไม่สมเหตุสมผล...ด้วยหลักการจ้างงาน...
ไม่สมเหตุสมผล...ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง...

1 คนรับ order คนจัดสินค้า คนส่งสินค้า... ไม่น่าจะเป็นคน ๆ เดียวกัน...
2 คนที่ทำงานวันแรก... ถ้ามาในตำแหน่งคนส่งสินค้า...
ไม่น่าจะได้รับมอบหมายให้... จัดสินค้าด้วย...
เพราะ...การจะจัดสินค้าได้ จะต้องเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์
องค์ประกอบของ set ผลิตภัณฑ์

แต่ถ้าได้ทำ...จะเป็นการปฏิบัติในลักษณะ on the job training
จะมีรุ่นพี่... หัวหน้า... ผู้ช่วยฯ ... คอยดูแล

:b1: :b1: :b1:


:b1: :b1: :b1:

:b1: :b1: :b1:

ซึ่งโดยปกติ...วิสัยผู้รับบริการ...
จะรู้ว่า...การส่งสินค้า...ต้องใช้เวลา....
จะกินอยู่เดี๋ยวนี้อยู่แล้ว...จะรออีกชิ้นซึ่งเป็นชิ้นของแถม...ติ๊กตอก ติ๊กตอก...
ซึ่ง...คนส่งจะต้องกลับไปเอาสินค้า และวนกลับมาส่งใหม่...และเป็นชิ้นของแถม...
ถ้าเป็นคนทั่ว ๆ ไป... เขาจะมองเห็นเป็นเรื่องที่...ช่างมันเถอะ...ได้ง่าย
คือ...ไม่โทร...

ส่วนพนักงาน...
เมื่อเขากลับไปเอาสินค้า...ก็ต้องมีคนเห็น...
จะกลับไปเอาอีกท่าไหน...พนักงานอื่นก็...วนเวียนกันอยู่ตรงนั้น...
พนักงานใหม่...การจะทำอะไร...ในพื้นที่ทำงาน ย่อมยังเงอะ ๆ งัก ๆ...
การจะหยิบไก่สักชิ้นออกมาจากที่ที่เตรียมการจำหน่าย...รวมถึงขั้นตอนต่าง ๆ
ในการนำมันออกมานอกพื้นที่ได้นั้น...ไม่ใช่เรื่องง่าย...สำหรับทั้งมือเก่า...
เพราะ...ทุกพื้นที่การจำหน่าย...จะมี ผู้จัดการร้าน...อยู่ในบริเวณนั้นด้วย...
มีผู้ช่วยผู้จัดการร้าน... เหอะ เหอะ...
และ ยิ่งมือใหม่... ผู้ซึ่งยังไม่รู้จักมักจี่กับใครสักคน.... :b1: :b1:

คือ...จริง ๆ จขกท. เล่าได้ไม่ละเอียดนัก...

แต่ถ้าเขามาส่งที่บ้านเอกอน... ถือว่าเป็นดวงดี หรือ ดวงซวยของเขาก็ไม่รู้นะ...
คงได้เจอ...สอบสวน...

เจ้าของกิจการในลักษณะนี้....เน้น "มาตรฐานคุณภาพบริการ..."

ดังนั้น... การให้บริการ สะดวก ถูกต้อง ครบถ้วน รวดเร็ว เป็นมิตร คือหัวใจสำคัญของการให้บริการ...

3 น้อยมาก...ที่คนเราจะถูกไล่ออก ตั้งแต่วันแรกที่ทำงาน ด้วยเหตุผลในลักษณะนี้ อย่างมากก็...เรียกไปคุย ไปสอน ไปแนะแนว...

ความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่...หลาย ๆ อย่าง...เจ้าของกิจการ...มักจะยอมรับได้...
แต่จะมีบทลงโทษ...เป็นกรณี ๆ ไป... ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของผลกระทบ...
และเจตนา..ของผู้กระทำผิด....

แต่สิ่งหนึ่งที่เจ้าของกิจการใด ๆ ก็ยอมรับไม่ได้....ออกสถานเดียว...ก็คือ...ทุจริต

อีกสิ่งหนึ่งที่เจ้าของกิจการใด ๆ ก็ยอมรับไม่ได้...ออกสถานเดียว...ก็คือ...การกระทำอันก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของกิจการ "brand name...."

อีกสิ่ง... การทำให้ข้อมูลสำคัญทางการค้ารั่วไหล...

อีกสิ่ง... การ... :b1: :b1: :b1: คือหลายอย่าง...

กรณี...ที่จัดเป็นภัยอันร้ายแรงต่อความอยู่รอดของกิจการ....

ดังนั้น.... การได้รับบริการไม่เป็นไปตาม...นโยบาย

คือ........"สะดวก ถูกต้อง ครบถ้วน รวดเร็ว เป็นมิตร"... จนไม่ได้รับความพึงพอใจ...

ลูกค้า....สามารถโทรแจ้งได้....ทุกกรณี....
เพราะนั่นคือ...ข้อมูลที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าของกิจการ..

การที่...ลูกค้าเห็น...ของแถมเป็นสิ่งเล็กน้อย...
จนเปิดช่องโหว่ให้กับ...พนักงาน...ในการกระทำการทุจริต...
เป็น เคสที่...เคยเกิดมาแล้ว...และยังเกิดอยู่...แม้จะเอาออกไปแล้วหลายราย...ก็ตาม...

อันนี้...เป็นเคส...ที่ผู้ได้รับบริการจาก...ธุรกิจผู้ให้บริการต่าง ๆ...
พึงตระหนักในสิทธิในการได้รับบริการ...อันชอบ...ตามความเหมาะสม...

พึงเป็นหูเป็นตาซึ่งกันและกัน...
เพราะ...ถ้ากิจการสามารถลดการทุจริตลงไปได้...

จะทำให้กิจการลดค่าใช้จ่าย...ส่วนหนึ่งไปได้...และนั่นคือ...รายได้กลับมา...
ให้กับกิจการ...และเป็นโบนัสพนักงาน(บุคลากรอันทรงคุณค่า) และก็เป็น
ทุนในการพัฒนากิจการ...ทุนในการทำสาธารณะประโยชน์ และ...อีกมากมาย
เป็นรายได้รัฐ...(จากภาษี)

กำลังของเรา...อาจทำได้แค่พลิกไข่เจียวในกระทะ... :b14: :b14: ...แหะ แหะ :b9:
แต่...เพราะไข่เจียวในกระทะ..ที่เรากำลังพลิกไปพลิกมานั่นล่ะ...
ทำให้บ้านข้าง ๆ รู้ว่า...เรากำลังเจียวไข่.... :b9: :b9: หุ้ย... :b9: :b9:

นึกถึง...เวลาที่เราได้กลิ่นไข่เจียวลอยมาสิ่...
มันจึงเกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่...

:b9: :b9:


อันนี้...ไม่ได้แนะว่าคุณควรจะโทรไป หรือ ไม่โทรไป... จะโกหก หรือ ไม่โกหก...นะ
เพราะ...เราไม่รู้รายละเอียดที่ชัดเจน...

ดังนั้น...สิ่งที่เรานำมา
คือ...ความรู้ทั่วไป...น่ะ...


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 01 มี.ค. 2010, 16:07, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 15:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2010, 10:36
โพสต์: 32

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บางครั้งการโกหกก็เพื่อให้เหตุการบางเหตุการผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ ผมเคยโกหกและอนาคตก็คงมีโอกาสโกหกแต่จะใช้ในโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวผมครับ... :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 21:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 13:22
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


LOCOMOTIVE เขียน:
คิดดี ทำดี พูดดี เขียน:
เด็กไก่ทอดให้เรา"ไม่คบ" 1 ชิ้นที่แถม เราโทรกลับไปถาม สักพักเด็กส่งไก่ทอดนำไก่กลับมาส่ง และขอให้เราโทรกลับไปโกหกว่าเราหาไก่ไม่เจอเอง ไม่เช่นเขาจะถูกไล่ออกเพราะทำงานวันเเรก เขาพูดด้วยวาจาสุภาพนะค่ะ ถ้าเป็นคุณจะทำยังไงค่ะ :b18: :b24: :b25: :b26: ?


ตรงที่ผมเน้นสีแดงหมายความว่ายังไงครับ เด็กไก่ทอดไม่ให้ จขกท.ไปคบกับเขา หรือ ไม่ให้ จขกท.ไปคบกับคนอื่นครับ เผอิญผมเป็นประเภทโง่เขลาเบาปัญญาน่ะครับ เข้าใจอะไรยาก ขนาดร้อยเข็มขัดผมยังร้อยไม่"ครบ"เลยครับ


ขอบคุณค่ะ

.....................................................
ทำไมต้องปล่อยว่าง
เพราะทุกอย่างมี ความว่าง มาแต่เดิม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 23:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 13:22
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉัน : ได้รับไก่ไม่คบโทรไปแจ้ง เพราะคิดว่าเราไม่ควรถูกเอาเปรียบ
พนักงานตอบรับ : เราได้ถามพนักงานแล้วเขาก็ตอบว่าจัดให้ครบนิค่ะ แต่เดียวทางเราจะตรวจสอบให้
เด็กส่งไก่ : ผ่านไปสักพักหนึ่ง ผมนำไก่มาส่งให้นะครับ ต้องขอโทษจริงๆ ไก่มันติดอยู่ที่ผมครับ
พี่ช่วยโทรไปบอกให้หน่อยได้ไหมครับ ว่าไก่อยู่ที่พี่ พี่หาเจอแล้ว ผมมาทำงานวันแรก ผมต้องโดนไล่ออกแน่ ถ้าพี่ไม่ช่วย
ดิฉัน : นั่งคิดอยู่สักพัก เราต้องโกหกเหรอ ดิฉันก็ตัดสินใจโทรแล้วพูดเพียงสั้นๆ ว่า ดิฉันเจอไก่แล้ว

.....................................................
ทำไมต้องปล่อยว่าง
เพราะทุกอย่างมี ความว่าง มาแต่เดิม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 23:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:
:b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 00:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 11:39
โพสต์: 85

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

ขอให้ศึกษา เรื่อง สีลพตปรามาส เพิ่มเติมครับ

อ่านนิทานเรื่องนี้ ประกอบด้วยครับ

หลวงพ่อตันซัน เป็นพระเซ็นที่มีความแตกฉานมาก ท่านมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 100 ปีมานี่เอง
ท่านเป็นอาจารย์สอนวิชาปรัชญาในมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลในโตเกียวด้วย


วันหนึ่ง ท่านได้ชวนท่านเอกิโด เพื่อนพระภิกษุซึ่งเคร่งครัดหยุมหยิมในระเบียบแบบแผนต่างๆ
ออกเดินธุดงค์ ระหว่างทาง พอมาถึงที่ต่ำเป็นแอ่งมีโคลนเฉอะแฉะ จะเดินอ้อมก็ไม่ได้

ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวเสียสวยงาม กำลังเก้ๆ กังๆ พยายามจะเดินข้ามตรงที่แฉะ แต่ไม่กล้า
เพราะกลัวเครื่องแต่งกายที่งดงามจะเปรอะเปื้อน ก่อนที่ท่านเอกิโดจะแปลกใจที่มีหญิงสาวแต่งตัวเสียสวยงามมาเดินอยู่ในป่าคนเดียว ก็ต้องตกตะลึง เพราะเห็นท่านตันซันก้าวเดินสวบๆ เข้าไปหาหญิงผู้นั้น แล้วช้อนร่างอุ้มเดินข้ามแอ่งโคลนไป พอพ้นก็วางลงเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสองเดินทางต่อไปโดยไม่ได้ปริปากพูดจากัน จนกระทั่งถึงเวลาหยุดพักค่ำวันนั้น เมื่อจัดเตรียมที่พักแล้ว

ท่านเอกิโดก็หลุดปากออกมาอย่างกลั้นใจจะไม่พูดไม่ไหว เป็นเชิงสั่งสอนท่านตันซัน ว่า

"พวกเราเป็นพระ น่าจะไม่เข้าใกล้ผู้หญิงจะดีกว่า ยิ่งแตะเนื้อต้องตัวด้วยแล้วยิ่งไม่ถูกต้อง ทำไมท่านถึงทำอย่างนั้น ?"

"ผมวางเด็กสาวคนนั้นลงไปตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว ท่านยังจะมาแบกเอาไว้จนถึงเดี๋ยวนี้อยู่อีกหรือ"
หลวงพ่อตันซันโปรดเพื่อนท่าน

โดนย้อนเพียงเท่านี้ ท่านเอกิโดก็สว่างโพลงขึ้นทันที ตัวท่านก้าวพ้นตมมาเมื่อเช้านี้ แต่จิตของท่านเพิ่งจะมาข้ามพ้นในขณะนั้นนั่นเอง

ต้องชั่งน้ำหนักครับ

ศีลอยู่ ศีลขาด ผลดี ผลเสีย


ศีล บางครั้งเราก็รักษายิ่งชีวิต

แต่คุณธรรม เราต้องสละชีวิตเข้ารักษา


เรื่องที่ ๒

สมมุติ เรากำลังยืนอยู่เฉย ๆ สักพัก มีชายคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบ ผ่านหน้าเราไป เข้าไปหลบ
ในร้านเรา สักครู่นึง มีคนถือมีดวิ่งตามไล่มา ปากร้องตะโกน "มึงไปไหน ๆ กูจะฆ่ามึง ๆ"

ถามเราว่า "เมื่อกี๊ เห็นคนวิ่งผ่านตรงนี้มั๊ย"
ท่านจะตอบว่าไง

ศีล ก็อยากรักษา คุณธรรม ยิ่งควรรักษา ทำไง ๆ ทีนี้

อาจารย์ ท่านแนะนำว่า

"ให้เราเดินขยับจากที่เดิมสัก หนึ่งก้าว แล้ว ตอบว่า
"ตั้งแต่ผมยืนอยู่ตรงนี้
ผมไม่เห็นใครวิ่งผ่านหน้าผมไปเลย"


ท่ากล่าวมุสามั๊ย ท่านบอกว่าไม่เชิง ศีลไม่ครบองค์ ด่างไปบ้าง ไม่ขาด
คนก็ไม่ตาย win win ทั้งสองฝ่าย

กรณีของท่าน ท่านตอบถูกแล้ว "ดิฉันเจอไก่แล้ว" เป็นผมจะโทรไปบอกเขาแค่นี้ว่า

"เมื่อกี๊ผมเห็นไก่ไม่ครบ ตอนนี้ผมเห็นครบแล้วครับ ขอบคุณครับ" แล้วก็วางโทรศัพท์

:b16: :b16: :b16:


แก้ไขล่าสุดโดย aswakos เมื่อ 02 มี.ค. 2010, 01:02, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 00:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 11:39
โพสต์: 85

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
อีกสักเรื่อง อ่านเล่น ๆ ขำ ๆ

เรื่องนี้ จำได้ลาง ๆ ว่าเกิดที่เกาะลังกา ไม่ได้มาในพระไตรปิฏก แต่มีในตำนานบาลีเก่า
จำชื่อพระราชา และเมืองไม่ได้ ดึกแล้ว ไม่มีเวลาค้น เอาเนื้อเรื่องก็แล้วกันครับ


สามีภรรยาคู่หนึ่ง เป็นคนยากจนมาก หาเลี้ยงชีพด้วยการขอทาน เดินทางมาอาศัยอยู่ที่ศาลาแห่งหนึ่ง
ซึ่งตั้งอยู่นอกกำแพงเมือง ในขณะที่พักอยู่นั้น ภรรยาซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ เกิดอาการแพ้ท้อง
อยากจะบริโภคอาหารที่พระราชาเสวย จึงอ้อนวอนสามีให้ไปหามาให้ บอกว่าหากมิได้บริโภค
อาหารที่ต้องการนี้จะต้องตายเป็นแน่แท้ ฝ่ายสามีผู้มีกรรมทนคำอ้อนวอนต่อไปไม่ไหว
และเกรงว่านางจักตาย จึงคิดอุบายปลอมตัวเป็นพระภิกษุ และด้วยความที่ปลอมตัวมาใหม่ๆ
จึงระมัดระวังตัวมาก ดูเหมือนเป็นผู้สำรวม เดินอุ้มบาตรไปในพระราชวัง เพื่อรับบิณฑบาต

ขณะนั้นเป็นเวลาที่พระราชาจักเสวยพระกระยาหารพอดี เมื่อทอดพระเนตรเห็นพระภิกษุ
เดินด้วยกิริยาอาการสำรวมมากเช่นนั้น ทรงจินตนาการว่า


" ภิกษุนี้มีกิริยาอาการสำรวมน่าเลื่อมใสเป็นหนักหนา คงเป็นพระที่ทรงคุณวิเศษสักอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นแม่นมั่น "
จึงเกิดพระราชศรัทธา ทรงนำพระกระยาหารอันเลิศรสที่จะเสวยใส่ลงในบาตรจนหมด
ด้วยจิตที่เลื่อมใสยิ่ง

เมื่อพระภิกษุปลอมรับอาหารแล้วเดินจากไป ด้วยความเลื่อมใสอันมีอยู่มากมายในพระทัย
ของพระราชาจึงรับสั่งอำมาตย์คนสนิท ให้รีบสะกิดรอยตามไป เพื่อให้รู้ว่าพระท่านมาจากไหน
จะไปพักที่ไหน เพื่อว่าวันต่อไปจะนิมนต์มารับบาตรในพระราชวังอีก

.......ฝ่ายพระ ภิกษุปลอมนั้น เมื่อได้อาหารเต็มบาตรสมความปรารถนาแล้วก็ดีใจ
รีบเดินไปจนสุดกำแพงพระราชวังเมื่อเห็นว่าปลอดผู้คนแล้ว จึงเปลื้องจีวรและสบงออก
เป็นเพศคฤหัสถ์ตามเดิม แล้วนำเอาพระกระยาหารนั้นไปให้ภรรยาแพ้ท้องบริโภคตามความประสงค์


อำมาตย์ ซึ่งสะกดรอยติดตามมาได้เห็นพฤติการณ์นั้นโดยตลอด ก็บังเกิดความตกใจ
และสังเวชใจคิดว่ามาเจอคนที่ปลอมตัวเป็นพระเสียแล้ว นี่ถ้าหากพระราชาทรงทราบเรื่องนี้เข้า
จะต้องเสียพระทัยเป็นอย่างมาก ชายผู้นี้จักต้องถูกประหาร และผลบุญ ที่ได้ก็จะตกหล่นไป
เพราะอปราปรเจตนา คือ เจตนาหลังจากที่ให้แล้วไม่สมบูรณ์ เมื่อคิดดังนี้แล้ว
ก็เดินทางกลับไปเฝ้าพระราชา

พระราชาจึงตรัสถามว่า " ได้ความว่าอย่างไร บอกมาเร็วๆ พระนั้นอยู่วัดไหน ? "

อำมาตย์จึงใช้กุศโลบายเพื่อรักษาศรัทธาของพระราชาไว้ กราบทูลว่า
" ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ข้าพระพุทธเจ้าได้สะกดรอยตามพระรูปนั้นไป จนออกนอกกำแพงพระราชวัง พอตามไปสุดพระราชวังโน้น พระท่านก็หายวับไปทันที "
( ในที่นี้หมายถึงหายจากความเป็นพระกลายเป็นคฤหัสถ์ไป )


พระราชาได้ฟัง ดังนั้นได้ตรัสว่า "ฉันว่าแล้ว ๆ ดูไม่ผิด" ทรงโสมนัสมาก มิได้ซักความเพิ่มเติมอีก
ทรงคิดเอาเองว่า

" บุญของเราแท้ๆ ที่ได้ถวายทานแด่พระอรหันต์ทรงคุณวิเศษ ท่านเป็นพระอรหันต์จริงๆ ปาฎิหาริย์หายตัวได้ทานที่ได้ถวายท่านในวันนี้มีอานิสงส์มาก เป็นทานที่ประเสริฐอย่างแน่ๆ "

พระราชาทรงบังเกิดความปีติเบิกบานใจในบุญที่ได้ทำเป็นยิ่งนัก
วันนั้น ทรงปลื้มปีติ ไม่เสวยพระกระยาหารทั้งวัน


:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b16:
...คุณคิดดี ทำดี พูดดี...การโกหกเป็นบาป...
...แต่เรื่องที่โกหกไม่ได้มีเจตนาร้าย...เราคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว...
...ก็แค่เรารู้สึกผิดนิดหน่อยเองไม่ได้เป็นกรรมหนักแต่ประการใด...
...เราทำเพื่อช่วยเขาและไม่ได้กลั่นแกล้งเขาเป็นเจตนาดีค่ะ...
:b27:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้โอกาสค่ะ อภัยให้เขาโดยไม่จำเป็นต้องถามเหตุผล แค่นี้เราก็สบายใจได้ เรื่องเล็กน้อยอย่าถือเอามาเป็นเรื่องกังวลใจเลยค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร