วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 00:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2010, 20:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


บทความนี้ ต้องขออนุญาต กับทีมงาน เป็นการเฉพาะ หากเห็นว่า ไม่สมควร ก็ลงขยะได้เลยขอรับ

บทความเรื่อง "ศีลธรรมทางศาสนา กับ นักการเมือง" นี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่เกี่ยวกับ เสื้อเหลือง หรือเสื้อแดง แต่เกี่ยวข้องกับประชาชน ทั้งหลาย เกี่ยวข้องกับ บุคคลที่เป็นนักการเมือง และมีบทบาทหน้าที่ ในอันที่จะสร้างหรือแบ่งปันทรัพยากร ให้กับประชาชนอย่าง เท่าเทียม ทั่วถึง
แต่ข้าพเจ้าได้เห็น ได้ยิน นักการเมือง ที่มีบทบาทหน้าที่ กล่าวข่มขู่ประชาชน ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง กำลังขาดน้ำใช้ในการดำรงชีพ อย่างขาดจริยธรรม ข้าพเจ้าเองนึกไม่ถึง คาดไม่ถึง ว่าจะได้เห็นได้ยิน จากนักการเมืองผู้มีบทบาทหน้าที่คนนั้น ทั้งๆที่เป็นหน้าที่ที่เขาและคณะของเขาจะได้คิดแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือประชาชน ให้ได้ประกอบอาชีพ ดำรงชีวิต อย่างปกติสุข แต่กลับถูกนักการเมืองผู้มีบทบาทหน้าที่ผู้นั้นข่มขู่ ว่า จะไม่ช่วยเหลือ ประชาชนที่ฝ่าฝืน ประกอบอาชีพที่ต้องใช้น้ำ ในยามขาดแคลนน้ำ หรือประสบปัญาภัยแล้งเหล่านั้น

ข้าพเจ้าจึงเขึียนบทความนี้ขึ้นมา และขอสั่งการ (ขอสั่งแทนผู้มีบทบาทหน้าที่ )ไปทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกตำบล ให้ช่วยเหลือประชาชนที่ต้องประกอบอาชีพอันอาศัยน้ำเป็นปัจจัยสำคัญ ด้วยการหาแหล่งน้ำ เช่น ขุดบ่อน้ำ เจาะน้ำบาดาล เพื่อช่วยให้ประชาชนเหล่านั้น ได้ประกอบอาชีพจนประสบผลสำเร็จ

ประชาชนเหล่านั้น ถ้าไม่ประกอบอาชีพอันอาศัยน้ำเป็นปัจจัย แล้วพวกเขาจะเอาอะไรมารับประทาน เอาอะไรมาใช้หนี้สิน พวกเขาเหล่านั้นมีศีลธรรมทางศาสนาอยู่เต็มเปี่ยม ทั้งมีความกตัญญู กตเวที ทั้งมีความขยันหมั่นเพียร ในทางสุจริต อันหมายถึงการประพฤติชอบ ประกอบการงานชอบ แต่เมื่อพวกเขาประสบปัญหาภัยแล้ง และจำเป็นที่จะต้องประกอบอาชีพ กลับถูกนักการเมือง ผู้มีบทบาทและหน้าที่ ข่มขู่ไปในทำนองว่า จะไม่ช่วยเหลือ แสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจ ความคิด ของนักการเมืองผู้นั้นว่า ขาดศีลธรรม ขาดจริยธรรม ไม่สร้างความรัก ความสามัคคี ให้กับประชาชน

ศีลธรรมทางศาสนา สำหรับนักการเมืองนั้น นอกเหนือจาก ศีล ๕(สำหรับศาสนาพุทธ) ซึ่ง นักการเมืองทั้งหลาย ควรได้ยึดถืออย่างเคร่งครัด เพราะสามารถสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับ การเมืองการปกครอง สร้างความเชื่อมั่นของพรรคการเมือง และนักการเมือง ต่อประชาชนทั้งหลาย ว่าพรรคการเมือง และนักการเมือง จะซื่อตรง ไม่คดโกง คอรัปชั่น เห็นประโยชน์บ้านเมือง เห็นประโยชน์ของประชาชน เป็นที่ตั้ง ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ฯลฯ และนอกเหนือจากศีล ๕ แล้ว นักการเมืองทั้งหลาย ควรได้ ศึกษาโมกษะธรรม ตามไปด้วย เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจถึงการดำรงชีวิตของประชาชน เกิดความรู้ ความเข้าใจในความต้องการของประชาชน และที่สำคัญ เหล่านักการเมือง ก็จักได้รู้จักบทบาทหน้าที่ของตัวเองว่า ควรประพฤติ พูด ปฏิบัติ ทาน ฯ อย่างไรกันบ้าง และที่สำคัญ หากนักการเมืองทั้งหลายเหล่านั้น ยึดถือศีล และ โมกษะธรรม ดีแล้ว สภาพสภาวะจิตใจ ไม่ว่าจะเป็น พรหมวิหารสี่ ,สัปปุริสธรรม ๗, อิทธิบาท ๔, กตัญญู กตเวทิตา และอื่น ย่อมเกิดขึ้นในจิตใจและความคิดของพวกท่าน

บทความนี้ลงชื่อเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และที่ไม่ใส่ชื่อนักการเมืองผู้แสดงบทบาทหน้าที่เลวร้าย ก็เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา

จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ ทูลพันธ์ (ผู้เขียนบทความ )
๑๘ มีนาคม ๒๕๕๓


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2010, 20:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


สั่งการไปเลยคับ จ้าวววนายยยยยย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2010, 09:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




p5.jpg
p5.jpg [ 22.16 KiB | เปิดดู 5186 ครั้ง ]
น้ำเป็นปัจจัยสำคัญดังที่ท่านว่า

อ้างคำพูด:
บุคคลที่เป็นนักการเมือง และมีบทบาทหน้าที่ ในอันที่จะสร้างหรือแบ่งปันทรัพยากร ให้กับประชาชนอย่าง เท่าเทียม ทั่วถึง
แต่ข้าพเจ้าได้เห็น ได้ยิน นักการเมือง ที่มีบทบาทหน้าที่ กล่าวข่มขู่ประชาชน ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง กำลังขาดน้ำใช้ในการดำรงชีพ อย่างขาดจริยธรรม ข้าพเจ้าเองนึกไม่ถึง คาดไม่ถึง ว่าจะได้เห็นได้ยิน จากนักการเมืองผู้มีบทบาทหน้าที่คนนั้น ทั้งๆที่เป็นหน้าที่ที่เขาและคณะของเขาจะได้คิดแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือประชาชน ให้ได้ประกอบอาชีพ ดำรงชีวิต อย่างปกติสุข แต่กลับถูกนักการเมืองผู้มีบทบาทหน้าที่ผู้นั้นข่มขู่ ว่า จะไม่ช่วยเหลือ ประชาชนที่ฝ่าฝืน ประกอบอาชีพที่ต้องใช้น้ำ ในยามขาดแคลนน้ำ หรือประสบปัญาภัยแล้งเหล่านั้น



ท่านมีแผนที่จะเก็บกักน้ำยังไงขอรับ แม้แต่น้ำในแม่น้ำโขงยังแห้งขอรับ เพราะประเทศจีนทำเขื่อนกักน้ำ

เสร็จแล้วสองเขื่อน

ประเด็นต่อมา อยากถามท่านว่า ชั่วชีวิตท่าน เคยมีครั้งไหนบ้างขอรับ ที่ประชาชนคนไทยแตกแยกกัน

เหมือนครั้งนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 19 มี.ค. 2010, 19:56, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2010, 09:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b5: :b5: :b5: :b5: :b5:

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2010, 10:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 00:29
โพสต์: 15

งานอดิเรก: ศึกษา
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอให้ท่านทำได้สำเร็จ
อนุโมทนาครับท่าน :b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2010, 14:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้านักการเมืองไทย มีเพียงแค่ศีล ๕ รักษาศีลเบื้องต้นแค่นี้ทุกๆท่าน ประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้าทั้งทางโลกและทางธรรม กว่าที่เป็นอยู่นี้ ประชาชนจะอยู่ร่มเย็นไม่เบียดเบียนกันเหมือนทุกวันนี้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2010, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

แม่น้ำโขงไหลผ่านประเทศต่างๆ


ผลกระทบของการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง

แม่น้ำโขง เริ่มต้นจากที่ราบสูงธิเบตในประเทศจีน บริเวณเทือกเขาหิมาลัย มีชื่อเรียกว่า “ลานซางเจียง” ไหลผ่านประเทศพม่า เมื่อเข้าสู่เขตแดนไทย ลาว เรียกว่า แม่น้ำของหรือ แม่น้ำโขง
เมื่อไหลลงไปถึงกัมพูชา จะไหลรวมกับแม่น้ำโตนเลสาป และ ไหลไปสู่ทะเลสาบเขมร
หลังจากนั้น แม่น้ำโขงไหลสู่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ที่ประเทศเวียตนาม ก่อนไหลลงสู่ทะเลจีนใต้
คนเวียตนามเรียกแม่น้ำโขงว่า “เกาลอง” หรือ ”เก้ามังกร”

ความยาวของแม่น้ำโขง จากต้นกำเนิด ถึงบริเวณที่แม่น้ำไหลออกสู่ทะเลจีนใต้ มีความยาวถึง 7,121 กิโลเมตร เฉพาะในลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง มีพื้นที่รวมกันประมาณ 606,000 ตารางกิโลเมตร โดยมีปริมาณน้ำไหลลงสู่ทะเลจีนใต้เฉลี่ย 475,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
แม่น้ำโขง เป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่ยิ่งใหญ่ของโลก

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า แม่น้ำโขง เป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำที่มี ความหลากหลายทางชีวภาพสูง
มีการสำรวจพบพันธุ์ปลา 1,300 ชนิด สัตว์น้ำเหล่านั้นมีความสำคัญต่อความมั่นคง ในวิถีชีวิตของประชาชนกว่า 70 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในลุ่มแม่น้ำโขง

ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ลุ่มแม่น้ำแห่งนี้ถูกเปลี่ยนแปลงและถูกทำให้เสื่อมสภาพลงโดยการพัฒนา สภาพแวดล้อม
ตามธรรมชาติทั้งในบริเวณลำน้ำและที่ราบน้ำท่วมถึง แหล่งจับปลาและป่าไม้ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลัก
ของประชาชนลุ่มน้ำโขงเปลี่ยนไป

บริษัทพลังงานของจีนผลิตไฟฟ้าเอกชน ได้รับสิทธิในการสร้างเขื่อนแม่น้ำ หลานชาง โครงการประกอบด้วยเขื่อน ๘ แห่ง เขื่อนมานวาน สร้างแล้วเสร็จเป็นแห่งแรก
เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙ เขื่อนอีก ๒ แห่ง คือ เขื่อนเซี่ยวหวาน และ เขื่อนด้าเฉาชาน กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ส่วนเขื่อนอีก ๕ แห่ง อยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษา เขื่อนทั้งหมดนี้ สร้างเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าแก่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และประเทศไทย
เขื่อนจิงหง กำลังผลิตติดตั้ง ๑,๕๐๐ เมกกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มสร้างเร็วๆ นี้จะผลิตไฟฟ้าขายแก่ประเทศไทย

http://board.lru.ac.th/index.php?topic=453.0

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

"สองฝั่งโขง" :b31:

http://video.aol.ca/video-detail/-/2192946276

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 19 มี.ค. 2010, 20:20, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2010, 20:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
น้ำเป็นปัจจัยสำคัญดังที่ท่านว่า

อ้างคำพูด:
บุคคลที่เป็นนักการเมือง และมีบทบาทหน้าที่ ในอันที่จะสร้างหรือแบ่งปันทรัพยากร ให้กับประชาชนอย่าง เท่าเทียม ทั่วถึง
แต่ข้าพเจ้าได้เห็น ได้ยิน นักการเมือง ที่มีบทบาทหน้าที่ กล่าวข่มขู่ประชาชน ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง กำลังขาดน้ำใช้ในการดำรงชีพ อย่างขาดจริยธรรม ข้าพเจ้าเองนึกไม่ถึง คาดไม่ถึง ว่าจะได้เห็นได้ยิน จากนักการเมืองผู้มีบทบาทหน้าที่คนนั้น ทั้งๆที่เป็นหน้าที่ที่เขาและคณะของเขาจะได้คิดแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือประชาชน ให้ได้ประกอบอาชีพ ดำรงชีวิต อย่างปกติสุข แต่กลับถูกนักการเมืองผู้มีบทบาทหน้าที่ผู้นั้นข่มขู่ ว่า จะไม่ช่วยเหลือ ประชาชนที่ฝ่าฝืน ประกอบอาชีพที่ต้องใช้น้ำ ในยามขาดแคลนน้ำ หรือประสบปัญาภัยแล้งเหล่านั้น



ท่านมีแผนที่จะเก็บกักน้ำยังไงขอรับ แม้แต่น้ำในแม่น้ำโขงยังแห้งขอรับ เพราะประเทศจีนทำเขื่อนกักน้ำ

เสร็จแล้วสองเขื่อน

ประเด็นต่อมา อยากถามท่านว่า ชั่วชีวิตท่าน เคยมีครั้งไหนบ้างขอรับ ที่ประชาชนคนไทยแตกแยกกัน

เหมือนครั้งนี้


ฮั่นแน่ ถามแบบลองภูมิ ซะจริงเลยนะเจ้าผู้ใช้ชื่อว่า กรัชกาย
ตอนนี้ข้าพเจ้า สั่งการแทน เพื่อแก้ป้ญหาเฉพาะหน้า
ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว นั้น ความจริง ทางรัฐบาลชุด อดีตนายกรัฐมนตรีนายสมัคร สุนทรเวช ก็มีโครงการ เกี่ยวกับการผ้นน้ำจากลำน้ำโขง อยู่แล้ว และยังมีวิธีการอื่นๆอีกมากมาย เกี่ยวกับลำน้ำโขง ในที่นี้ไม่บอกขอรับ เพราะตัวอย่างมีอยู่เยอะแยะ
เขื่อนที่ประเทศจีนแม้สร้างได้ทั้งหมดก็จะสามารถ เก็บน้ำได้เพียง ๑๕ % ของน้ำทั้งหมดในลำน้ำโขง (ข้อมูลนี้เอามาจาก การชมรายโทรทัศน์ จำชื่อไม่ได้ขอรับ) ดังนั้น เขื่อนที่ประเทศจีน มีผลต่อด้านล่างเขื่อนเพียง ๑๕% นอกเหนือจากนั้น ๘๕ % ไหลลงทะเลไปหมด อันนี้ต้องให้นักวิชาการ ,วิศวกร ไปทำการสำรวจ หาเหตุผล และแก้ไข ไม่ยากดอกขอรับ

ข้อสองที่เจ้าถามมา ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า เจ้าถามทำไม ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย ใครแตกแยกใคร ก็เห็นกันอยู่

ขออนุญาต เวบมาสเตอร์ และทีมงานเขียนสักหน่อยได้ไหมว่า

ใครก็ตาม ที่คิดล้มล้าง สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย มันผู้นั้น ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ดอกนะ
ถ้าพวกมันคิดล้มล้าง ระบบอำมาตย์ อะไรที่พวกมันกล่าวไว้ได้ ต่อไป พวกมันจะคิดล้มล้างอะไรเป็นขั้นตอนต่อไปขอรับ
เพราะ เหล่า "องคมนตรี " หรือที่พวกก่อความไม่สงบเรียกว่า "อำมาตย์" นั้น ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวการเมืองอยู่แล้ว และ องคมนครี ทั้งหลายเหล่านั้น ก็ได้รับการแต่งตั้งจาก "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ทรงแต่งตั้ง เพื่อไว้เป็นที่ปรึกษาในโครงการหลวงบ้าง ใช้เป็นผู้แทนพระองค์ไปในพิธีหรืองานต่างๆบ้าง
เจ้าพวกนั้น มันคิดของมันเอง ว่า องคมนตรี เข้าไปก้าวก่าย การเมือง สั่งให้ทหารปฏิวัติบ้าง ไม่จริงดอกขอรับ
ข้ออ้าง มากกว่า
ข้าพเจ้ากล่าวในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับ เสื้อสีต่างๆนะขอรับ


แก้ไขล่าสุดโดย จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ เมื่อ 19 มี.ค. 2010, 21:07, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2010, 21:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบเหมือนกัน
ว่าทำไมรัฐบาลชอบสื่อว่าจะมีคนล้มล้างพระมหากษัตริย์

ตอนคนเสื้อแดงจะมา ประกาศว่าอารักขาโรงบาลศิริราชระดับสูงสุด
นี่พยามจะสื่ออะไร

อย่างวันนี้เรื่องเจรจาเสื้อแดง นายกก็ตั้งเงื่อนไขว่า
ต้องไม่ล้มล้างสถาบัน ถึงจะคุย
เราก็เอ๊ะ ทำไมพูดอย่างนี้

เราว่านายกคนนี้ วุฒิภาวะไม่ไหว เขาว่าเหมือนเด็ก
ข้าพเจ้าก็เห้นจะจริงตามนั้น

ไหนจะโฆษณาทีวีก็ทำประหนึ่งว่าเสื้อแดงเป้นพวกล้มเจ้า
แถมสั่งให้พวกข้าราชการต่างจังหวัดจัดกิจกรรมปฏิญานตนว่าจะจงรักภักดี
นี่รัฐบาลเขาเชื่อจริงๆว่าจะมีคนล้มสถาบัน แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเชื่อใครในประเด็นนี้เลย

บัลลังก์ของในหลวงนั้น ไม่ใช่บัลลังก์ทองที่เป็นวัสดุ
แต่เป็นบัลลังก์ในหัวใจประชาชน
ข้าพเจ้าไม่เชื่อเลยว่าเสื้อแดงจะรักคุณทักษินยิ่งกว่าในหลวง

คนที่คิดจะล้มล้างสถาบันนี่ ถ้าไม่โง่สุดๆ ก็ต้องบ้าชนิดหาที่สุดมิได้
ใครก้ตามบอกว่าจะล้มสถาบัน รับรองว่าไม่มีใครสนับสนุนเลย

และต่อให้ใครทำสำเร็จ คนนั้นก็จะอยู่ไม่ได้เลย
ญาติพี่น้องเหล่าตระกูล อยู่ไม่ได้เลยสักคนเดียว
มหาชนเขาไม่มีทางยอมหรอก

ข้าพเจ้าไม่เคยเชื่อเรื่องล้มสถาบันเลยนะ
มีแต่สร้างกระแส แล้วก็ไปกล่าวหาเขา
แล้วก้มาเทียวพูดให้คนสามมัคคี
ข้าพเจ้าไม่เข้าใจจริงๆ


ถ้าอยากจะให้คนสามัคคี ต้องเปลี่ยนนายก
พูดหวานแต่แอบแขวะคนทุกทีๆ นิสัยแบบนี้เป็นผู้นำไม่ได้หรอก
เหมือนเด็กอย่างเขาว่าจริงๆนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 08:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การเกิดขึ้นแห่งอาชญากรรม และความชั่วร้าย ความทุกข์เดือดร้อนต่างๆ ในสังคม

ตามแนวปัจจยาการ



ผู้ปกครองประเทศ =>ไม่จัดสรรปันทรัพย์ให้แก่เหล่าชนผู้ไร้ทรัพย์ =>ความยากจนระบาด =>อทินนาทานระบาด

ทั่ว => การใช้อาวุธระบาดทั่ว =>ปาณาติบาต (การฆ่าฟันกันในหมู่มนุษย์ระบาดทั่ว => มุสาวาทระบาด –

การส่อเสียด – กาเมสุมิจฉาจาร - ผรุสวาทและสัมผัปปลาป- อภิชฌา และ พยาบาท – มิจฉาทิฐิ –

อธรรมราคะ ความละโมบ มิจฉาธรรม – ความไม่นับถือพ่อแม่สมณพราหมณ์ และการไม่เคารพนับถือกัน

ตามฐานะระบาดทั่ว => อายุวรรณะเสื่อม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 10:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบเหมือนกัน
ว่าทำไมรัฐบาลชอบสื่อว่าจะมีคนล้มล้างพระมหากษัตริย์

ตอนคนเสื้อแดงจะมา ประกาศว่าอารักขาโรงบาลศิริราชระดับสูงสุด
นี่พยามจะสื่ออะไร

อย่างวันนี้เรื่องเจรจาเสื้อแดง นายกก็ตั้งเงื่อนไขว่า
ต้องไม่ล้มล้างสถาบัน ถึงจะคุย
เราก็เอ๊ะ ทำไมพูดอย่างนี้

เราว่านายกคนนี้ วุฒิภาวะไม่ไหว เขาว่าเหมือนเด็ก
ข้าพเจ้าก็เห้นจะจริงตามนั้น

ไหนจะโฆษณาทีวีก็ทำประหนึ่งว่าเสื้อแดงเป้นพวกล้มเจ้า
แถมสั่งให้พวกข้าราชการต่างจังหวัดจัดกิจกรรมปฏิญานตนว่าจะจงรักภักดี
นี่รัฐบาลเขาเชื่อจริงๆว่าจะมีคนล้มสถาบัน แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเชื่อใครในประเด็นนี้เลย

บัลลังก์ของในหลวงนั้น ไม่ใช่บัลลังก์ทองที่เป็นวัสดุ
แต่เป็นบัลลังก์ในหัวใจประชาชน
ข้าพเจ้าไม่เชื่อเลยว่าเสื้อแดงจะรักคุณทักษินยิ่งกว่าในหลวง

คนที่คิดจะล้มล้างสถาบันนี่ ถ้าไม่โง่สุดๆ ก็ต้องบ้าชนิดหาที่สุดมิได้
ใครก้ตามบอกว่าจะล้มสถาบัน รับรองว่าไม่มีใครสนับสนุนเลย

และต่อให้ใครทำสำเร็จ คนนั้นก็จะอยู่ไม่ได้เลย
ญาติพี่น้องเหล่าตระกูล อยู่ไม่ได้เลยสักคนเดียว
มหาชนเขาไม่มีทางยอมหรอก

ข้าพเจ้าไม่เคยเชื่อเรื่องล้มสถาบันเลยนะ
มีแต่สร้างกระแส แล้วก็ไปกล่าวหาเขา
แล้วก้มาเทียวพูดให้คนสามมัคคี
ข้าพเจ้าไม่เข้าใจจริงๆ


ถ้าอยากจะให้คนสามัคคี ต้องเปลี่ยนนายก
พูดหวานแต่แอบแขวะคนทุกทีๆ นิสัยแบบนี้เป็นผู้นำไม่ได้หรอก
เหมือนเด็กอย่างเขาว่าจริงๆนะ


ถูกต้องงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2010, 20:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านทั้งหลายก่อนที่ท่านทั้งหลายจะอ่านข้อแสดงความคิดเห็นต่อไปนี้ ต้องทำความเข้าใจไว้ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นการ อธิบาย ให้ท่านทั้งหลายที่ยังไม่เข้าใจ ได้เกิดความเข้าใจไว้ว่า

รัฐบาลทุกรัฐบาล เป็นรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

ไม่มีคำว่า รัฐบาลอำมาตย์

อำมาตย์ หรือหากจะหมายถึง เหล่า องคมนตรี ทั้งหลาย จะเปรียบไปก็เหมือนหนึ่งหน่วยงานใน สถาบันพระมหากษัตริย์ บุคคลใด หรือกลุ่มบุคคลใด จาบจ้าง ขับไล่ หรือกระทำการใดใด อันคิดล้มล้าง หรือเป็นปรปักษ์ต่อ เหล่าองคมนตรี หรือ ที่คนบางกลุ่มเรียกว่า "อำมาตย์" ก็เท่ากับ จาบจ้วง องค์พระมหากษัตริย์

ข้าพเจ้าเป็นเพียงอธิบายให้เกิดความเข้าใจไว้ ประชาชนที่ไม่รู้ แต่ไปหลงเชื่อคำยุยงปลุกปั่นในทางที่ไม่ถูกต้อง โดยไม่รู้ตัว

และยังมีกลุ่มบุคคลอีกประเภทหนึ่ง ชอบใส่หมวก ดาวแดง ข้าพเจ้าก็อยากจะขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง เชิญพวกเขาไปในประเทศที่ใช้หมวกดาวแดงซะ เพราะที่นี้ประเทศไทย มีความกตัญญู รู้คุณ และกตเวที ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอรับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร