| วันเวลาปัจจุบัน 24 ต.ค. 2025, 19:12 |
|
เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 9 |
[ 123 โพสต์ ] | ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 9 ต่อไป
|
|
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14 โพสต์: 829
อายุ: 0 |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40 โพสต์: 1769
แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา งานอดิเรก: ปลุกคน สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka ชื่อเล่น: สมสีสี อายุ: 0 ที่อยู่: overseas |
|
|||||
|
|
|||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43 โพสต์: 12232
|
|
||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14 โพสต์: 829
อายุ: 0 |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41 โพสต์: 5636
แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ ชื่อเล่น: เจ อายุ: 0 ที่อยู่: USA |
|
|||||
|
|
|||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43 โพสต์: 12232
|
|
||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14 โพสต์: 829
อายุ: 0 |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14 โพสต์: 829
อายุ: 0 |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14 โพสต์: 829
อายุ: 0 |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ส.ค. 2007, 09:17 โพสต์: 239 ที่อยู่: สุโขทัยธานี |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41 โพสต์: 5636
แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ ชื่อเล่น: เจ อายุ: 0 ที่อยู่: USA |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14 โพสต์: 829
อายุ: 0 |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41 โพสต์: 5636
แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ ชื่อเล่น: เจ อายุ: 0 ที่อยู่: USA |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 20:24 โพสต์: 43
อายุ: 0 |
|
|||||
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 9 |
[ 123 โพสต์ ] | ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 9 ต่อไป |
|
เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
ผู้ใช้งานขณะนี้ |
่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน |
| ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้ ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้ ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้ ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้ ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้ |
|








พระยามารที่ไม่ตกนรกนั้น เพราะเป็นพยามารที่เป็นปุคคลาธิฐานา คือเป็นอุปมาว่าพระพุทธเจ้าทรงผจญด้วยมารและเสนามาร คือพยามารได้แก่กิเลสตัณหาอย่างหนักและเสนามารคือกิเลสตัณหา อย่างเล็กๆน้อยๆ เมื่อพยามารทำไม่สำเร็จ ก็มีลูกสาวมามาอีกคือ ตัณหา ราคา อรตี ก็ลองดูชื่อเอาเหอะ ตัณหาคือ ความอยาก ราคา คือราคะความใคร่ อรตี ความยินดีในอารมณืที่อยากน่าใคร่ โบราณท่านทำเป็นอุปมาให้ดูเป็นรูปธรรมครับ ในการผจญมารน่าจะเป็นการแค่ทวงที่ประทับก่อนตรัสรู้ แล้วอรรถกถาจารย์หรือท่านอาจารย์รุ่นหลังท่านรจนาเสริมเข้าไป ฉะนั่น(ตามความเห็นผม)มารที่พระพุทธเจ้าทรงผจญก่นอตรัสรู้นั้น น่าจะเป็น กิเลสตัณหา ต่างที่มารุ่มเร้าในขณะนั้นนั่นเอง อาจจะคิดได้อีกว่าการทวงที่ประทับของมารนั้น หมายถึงจิตของพระองค์ก่อนตรัสรู้ต้องต่อสู้กับกิเลสต่างๆอย่างหนักคือต้องเลือกเอาระหว่างโพธิญานกับ ความสุขในราชสมบัติเดิมอันสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทองบุตรภรรยา เป็นต้น(ไม่รับรองว่าจะถูกต้องตามนี้ อ่านให้พิเคราะห์นะ ) 
