วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 19:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2010, 15:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผงธุลีดิน เขียน:
ขออนุญาติ พี่คนดีที่โลกลืม ครับ
คำกล่าวว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้ารูปนี้จักได้เป็นอัตตา(มีตัวตน หรือเป็นของตัวตน อย่างแท้จริง)แล้ว รูปนี้ไม่พึงเป็นเพื่ออาพาธ(ความเสื่อม ความเจ็บไข้ ความแปรปรวน) และบุคคลพึงได้(หมายถึง ย่อมบังคับบัญชาได้ตามปรารถนา)ในรูปว่า รูปของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย

และแสดงต่อด้วย
ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ก็เพราะรูปเป็นอนัตตา(ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ของตัวตน ตัวตนหรือกายที่เห็นหรือผัสสะได้ด้วยอายตนะใดๆนั้น เป็นเพียงกลุ่มหรือก้อนหรือฆนะของเหล่าเหตุที่มาเป็นปัจจัยประชุมปรุงแต่งกัน คือ ธาตุ ๔) ฉะนั้นรูปจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ(แปรปรวนด้วยอนิจจัง จึงเจ็บป่วย) และบุคคลย่อมไม่ได้(หมายถึง ย่อมบังคับบัญชาไม่ได้ตามปรารถนาเพราะว่ารูปขึ้นอยู่กับเหตุคือธาตุทั้ง ๔ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา) ในรูปว่า รูปของเรา จง(สวย จงงาม)เป็นอย่างนี้เถิด รูปของเรา อย่าได้(น่าเกลียด)เป็นอย่างนั้นเลย.

ขออนุญาติครับ


ใครบอกคุณล่ะว่า รูปที่เป็นกายเนื้อเป็นอัตตา

รูปที่เป็นกายเนื้อ เป็นสิ่งที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราต้องทิ้งไป เพื่อก้าวเข้าสู่อายตนะนิพพาน(ธรรมกาย)

อัตตา ที่พระพุทธเจ้ากล่าวถึง เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวนเจ็บตาย

ในปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร พระอวโลกิเตศวรจึงตรัสสอนพระสารีบุตรว่า

" ธรรมกาย ก็คือปรัชญาปารมิตาซึ่งเป็นสภาวธรรมแห่งพระตถาคตตรัสรู้ ก็คือ อายตนะนิพพานนั้นเอง ย่อมปราศจากการมาในอดีต ฤาการไปในอนาคต แลในปรัตยุบันกาลเล่าก็ปราศจากการตั้งอยู่มั่นคง "


แก้ไขล่าสุดโดย คนดีที่โลกลืม เมื่อ 17 พ.ค. 2010, 15:28, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2010, 15:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
จ้างก็ไม่บอก

แต่มาคิดบัญชีที่ผมได้


เตรียมข้าวสารเสกและน้ำมนต์ไว้รอแล้ว
:b32:


มารมันเที่ยวบอกว่าคนโน้น(enlighted)เลว
แต่มารมันไม่ดูตัวเองเลยว่า เลวกว่าคนอื่นมากมายเหลือเกิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2010, 16:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b20:
...สุ จิ ปุ ริ...การคิดพิจารณา...การตีความจากการอ่าน...การบรรจงเขียน...และการเรียบเรียง...
...ในสิ่งที่ศึกษาเรียนรู้มาให้จนแตกฉานเกิดสติปัญญานำมาถ่ายทอดได้ในแต่ละบุคคลมีไม่เท่ากัน...
...คิดแปลกแวกแนวก็ไม่ควรประมาทผู้อื่น...เพราะคิดว่าสิ่งที่ตนแสดงจะถูกเสมอไปและขัดแย้งไม่ได้...
...แตกต่างแต่ไม่แตกแยก...ควรเอากลับไปพิจารณาให้มากขึ้น...ว่าเขียนอะไรที่ไม่สมควร...ดีกว่าไหม...
:b6:
:b9: :b32:
:b55: :b55: :b55: :b55: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2010, 16:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คนดีที่โลกลืม เขียน:

มารมันเที่ยวบอกว่าคนโน้น(enlighted)เลว
แต่มารมันไม่ดูตัวเองเลยว่า เลวกว่าคนอื่นมากมายเหลือเกิน


ตกข่าวหรือเปล่าครับคุณพลศักดิ์
ผมประกาศว่าผมเป็น "พญามารตัวพ่อ " มาตั้งก่อนคุณจะพลศักดิ์จะ
อวตารมาใช้ชื่อ"คนดีโลกลืม" อีกนะครับ

ผมไม่มีอะไรจะเสียดอก กำไรอย่างเดียว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2010, 19:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คนดีที่โลกลืม เขียน:
(ต่อ) พุทธพจน์ที่โดนมารในเว็บนี้ลบทิ้ง ไม่ยอมให้ลง มารมันกลัวมากว่าคนจะไม่ตกนรกเป็นลูกสมุนของมันมั๊ง

ท่อนแรก

สาวกที่เลื่อมใสใน ศาสดา(พระพุทธเจ้า) นั้น กลับได้ความเห็นว่า สัตว์ที่เราฆ่ามี
อยู่ แม้เรา ก็ต้องไปอบาย ต้องตกนรก เขายังไม่ละวาจานั้น ยังไม่ละความคิดนั้น
ยังไม่ สละความเห็นนั้น ย่อมตั้งอยู่ในนรก เหมือนถูกนำมาขังไว้

= ถ้าเรายังไม่ทำการก้าวล่วงบาปกรรม คือ พูดและละการผิดศีล 5 ข้อนั้น เขาย่อมต้องไปนรก เหมือนถูกนำมาขังไว้

ท่อนหลัง

สาวกเป็นผู้เลื่อมใสในพระศาสดา(พระพุทธเจ้า)นั้น ก็สัตว์ที่เราฆ่ามีอยู่มากมาย ข้อที่เราฆ่าสัตว์ มากมายนั้น ไม่ดีไม่งาม ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า.......... ...........
เราแลพึงเดือดร้อนเพราะข้อนี้เป็นปัจจัยแท้ เราจักไม่ได้ทำ บาปกรรมนั้นหามิได้
เขาพิจารณาเห็นดังนี้แล้ว ย่อมละปาณาติบาตนั้นด้วย ย่อม งดเว้นจาก
ปาณาติบาตต่อไปด้วย เป็นอันว่าเขาละบาปกรรม

= เขาได้ทำการก้าวล่วงบาปกรรมแล้ว เขาย่อมไม่ตกนรก ตามที่ผมนำเสนอไปในอีกกระทู้หนึ่งแล้วว่า กรรมนั้นได้กลายเป็นเศษกรรมไป และเขาได้รับผลของเศษกรรมไปแล้วบนโลก ขณะนี้ เขาได้ละวาจานั้น ได้ละความคิดนั้น ได้สละความเห็นนั้นแล้ว เขาจึงไม่ตั้งอยู่ในนรก ที่เหมือนถูกนำมาขังไว้




คุณนี่มั่วได้ใจจริงๆเลยนะในเรื่องของการตีความ :b7:


คนดีที่โลกลืม เขียน:
ท่อนแรก

สาวกที่เลื่อมใสใน ศาสดา(พระพุทธเจ้า) นั้น กลับได้ความเห็นว่า สัตว์ที่เราฆ่ามี
อยู่ แม้เรา ก็ต้องไปอบาย ต้องตกนรก เขายังไม่ละวาจานั้น ยังไม่ละความคิดนั้น
ยังไม่ สละความเห็นนั้น ย่อมตั้งอยู่ในนรก เหมือนถูกนำมาขังไว้

= ถ้าเรายังไม่ทำการก้าวล่วงบาปกรรม คือ พูดและละการผิดศีล 5 ข้อนั้น เขาย่อมต้องไปนรก เหมือนถูกนำมาขังไว้




สรุปมาได้ไงคะ แบบนี้น่ะเห็นได้ชัดๆว่าคุณตีความเข้าข้างตัวเอง จะแกะให้อ่านทีละท่อนค่ะ


สาวกที่เลื่อมใสใน ศาสดา(พระพุทธเจ้า) นั้น กลับได้ความเห็นว่า สัตว์ที่เราฆ่ามี
อยู่ แม้เรา ก็ต้องไปอบาย ต้องตกนรก เขายังไม่ละวาจานั้น ยังไม่ละความคิดนั้น
ยังไม่ สละความเห็นนั้น ย่อมตั้งอยู่ในนรก เหมือนถูกนำมาขังไว้

สาวกที่เลื่อมใสใน ศาสดา(พระพุทธเจ้า) นั้น กลับได้ความเห็นว่า
ตรงนี้หมายถึง สาวกที่เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ที่มีความเห็นว่า


สัตว์ที่เราฆ่ามีอยู่ แม้เรา ก็ต้องไปอบาย ต้องตกนรก เขายังไม่ละวาจานั้น ยังไม่ละความคิดนั้น
ยังไม่ สละความเห็นนั้น ย่อมตั้งอยู่ในนรก เหมือนถูกนำมาขังไว้

ตรงนี้หมายถึง คนที่ทำผิดศิล จากคำกล่าวว่า สัตว์ที่เราฆ่าอยู่
แม้เราตกตายไป ต้องไปอบาย คือตกนรกอย่างแน่นอน

และถ้าเขายังไม่ละวาจานั้น ยังไม่ละความคิดนั้น ยังไม่สละความเห็นนั้น
คือ ยังไม่เลิกพูด ยังไม่เลิกคิด ยังไม่เลิกออกความคิดเห็นในเรื่องการฆ่าสัตว์
เขาคนนั้นย่อมเหมือนอยู่ในนรก เหมือนถูกขังไว้


กรุณากลับไปย้อนอ่านข้อคิดเห็นของคุณใหม่อีกครั้งว่ามันคนละความหมายกันเลย
กับสิ่งที่คุณกล่าวมา ต่างกันสุดขั้วเลย


ท่อนที่ 2

คนดีที่โลกลืม เขียน:
ท่อนหลัง

สาวกเป็นผู้เลื่อมใสในพระศาสดา(พระพุทธเจ้า)นั้น ก็สัตว์ที่เราฆ่ามีอยู่มากมาย ข้อที่เราฆ่าสัตว์ มากมายนั้น ไม่ดีไม่งาม ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า.......... ...........
เราแลพึงเดือดร้อนเพราะข้อนี้เป็นปัจจัยแท้ เราจักไม่ได้ทำ บาปกรรมนั้นหามิได้
เขาพิจารณาเห็นดังนี้แล้ว ย่อมละปาณาติบาตนั้นด้วย ย่อม งดเว้นจาก
ปาณาติบาตต่อไปด้วย เป็นอันว่าเขาละบาปกรรม

= เขาได้ทำการก้าวล่วงบาปกรรมแล้ว เขาย่อมไม่ตกนรก ตามที่ผมนำเสนอไปในอีกกระทู้หนึ่งแล้วว่า กรรมนั้นได้กลายเป็นเศษกรรมไป และเขาได้รับผลของเศษกรรมไปแล้วบนโลก ขณะนี้ เขาได้ละวาจานั้น ได้ละความคิดนั้น ได้สละความเห็นนั้นแล้ว เขาจึงไม่ตั้งอยู่ในนรก ที่เหมือนถูกนำมาขังไว้




ตรงนี้คุณก็ตีความแบบผิดๆ ทำไปได้


สาวกเป็นผู้เลื่อมใสในพระศาสดา(พระพุทธเจ้า)นั้น ก็สัตว์ที่เราฆ่ามีอยู่มากมาย
ข้อที่เราฆ่าสัตว์ มากมายนั้น ไม่ดีไม่งาม ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า..........

รูปประโยคเขียนออกจะชัดเจนว่า ไม่ได้ทำการก้าวล่วงอันใดเลย
ให้ดูจากคำว่า " ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า " เห็นไหมคะคำว่า " ย่อมพิจรณา "


เราแลพึงเดือดร้อนเพราะข้อนี้เป็นปัจจัยแท้ เราจักไม่ได้ทำ บาปกรรมนั้นหามิได้

เราเดือดร้อน ( ผล ) อย่างแน่นอนเพราะ ข้อนี้ ( การฆ่าสัตว์ )
เป็นปัจจัย ( เหตุ ) โดยแน่แท้ เราจะไม่ทำบาปกรรมนั้นก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้
( นี่คือเขากำลังพิจรณา )


เขาพิจารณาเห็นดังนี้แล้ว ย่อมละปาณาติบาตนั้นด้วย ย่อม งดเว้นจาก
ปาณาติบาตต่อไปด้วย เป็นอันว่าเขาละบาปกรรม

เมื่อเขาพิจรณาจนได้เห็นแบบนี้แล้ว
ในเรื่องเหตุที่กระทำ ( ฆ่าสัตว์ ) และเห็นผลที่จะต้องได้รับ ( ความเดือดร้อน )
เขาย่อมงดเว้นจากปานาติบาตต่อไปด้วย



คนดีที่โลกลืม เขียน:
ถ้าเรายังไม่ทำการก้าวล่วงบาปกรรม คือ
พูดและละการผิดศีล 5 ข้อนั้น เขาย่อมต้องไปนรก เหมือนถูกนำมาขังไว้



สงสัยจริงๆนะคะ ถ้าไม่ก้าวล่วงบาป ไม่ว่าจะทางกาย วจี และ ความคิด
จะเป็นการผิดศิลไปได้อย่างไรกัน ไม่ได้ผิดศิล แต่ดันตกนรก



คนดีที่โลกลืม เขียน:
เขาได้ทำการก้าวล่วงบาปกรรมแล้ว เขาย่อมไม่ตกนรก



แต่ทีกระทำบาป กลับบอกว่า ไม่ตกนรก

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2010, 19:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คนดีที่โลกลืม เขียน:

เมื่อทำการก้าวล่วงบาปกรรมแล้ว เขาย่อมไม่ตกนรก
ถ้าไม่ทำการก้าวล่วงบาปกรรม เขาย่อมตกนรก ตามปกติ





คุณน่ะเข้าใจผิดกับคำว่า " ก้าวล่วง " คือ ไม่ได้ทำ
" ล่วง " กับ ร่วง " คนละความหมายนะคะ

" ก้าวล่วง " คือ ได้กระทำลงไปแล้ว
ถ้ายังไม่เข้าใจนะคะ ให้ดูคำว่า " ล่วงเกิน " หมายถึง ได้กระทำการล่วงเกินต่อผู้อื่น
ถ้ายังไม่เข้าใจอีก ดูคำว่า " ล่วงหน้า " หมายถึง นำหน้าไปแล้ว

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 17 พ.ค. 2010, 19:27, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2010, 09:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b6:
...การแปลความพุทธพจน์ผิดไปจากความจริง...การปฏิบัติธรรมจะไม่ออกมาแนวเพี้ยนๆหรือคะ...
:b9: :b32:
:b13: :b13: :b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2010, 09:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
tongue
:b6:
...การแปลความพุทธพจน์ผิดไปจากความจริง...การปฏิบัติธรรมจะไม่ออกมาแนวเพี้ยนๆหรือคะ...
:b9: :b32:
:b13: :b13: :b13: :b13: :b13:



อิอิ

ถ้าแปลถูกเข้าใจ ก็หมดกิจ แล้วจะต้องไปปฎิบัติอะไร อีก

อิอิ


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 18 พ.ค. 2010, 18:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2010, 09:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
Rosarin เขียน:
tongue
:b6:
...การแปลความพุทธพจน์ผิดไปจากความจริง...การปฏิบัติธรรมจะไม่ออกมาแนวเพี้ยนๆหรือคะ...
:b9: :b32:
:b13: :b13: :b13: :b13: :b13:


อิอิ

ถ้าแปลถูกเข้าใจ ก็หมดกิจ แล้วจะต้องไปปฎิบัติอะไร อีก

อิอิ


เงาของจิตไม่เอาแล้วหรอ :b28:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 18 พ.ค. 2010, 18:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร