วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 15:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2010, 11:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ส.ค. 2010, 10:58
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรียนอาจารย์ดร.สนอง วรอุไร
อยากจะเรียนถามอาจารย์ว่าการที่คนเราป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนาน 1 เดือน โดยที่หมอไม่สามารถจะวินิจฉัยอาการได้ว่าเป็นโรคอะไร ในตอนช่วงเวลากลางวันกลับไม่มีอาการใดๆเลย แต่พอตกช่วงเวลากลางคืนกลับมีไข้ขึ้นสูง เป็นอย่างนี้อยู่ทุกคืน พอหมอบอกว่าให้กลับบ้านได้ อาการกลับทรุดหนักลงไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่พออีกวันหนึ่งอาการกลับดีขึ้น อยากเรียนถามอาจารย์ว่าเหตูลักษระแบบนี้เกี่ยวข้องกับเจ้ากรรมนายเวรของตนเองหรือไม่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2010, 13:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฺฐา มโนมยา
มนสา เจ ปทุฏเฐน ภาสติ วา กโรติ วา
ตโต นํ ทุกฺขมนฺเวติ จกฺกํ ว วหโต ปทํ


เหตุและผล กฏแห่งกรรม ในโลก
สุขหรือโศก กายจิต เกิดจากใจ
เป็นลูกน้อง เป็นหัวหน้า นำพาไป
แล้วอาศัย สุขทุกข์ รับผลกรรม


:b41: :b39:


การทำร้าย ทำลาย ถึงชีวิต
กรรมลิขิต หยิบผล ยุติธรรม
ทั้งคุณโทษ จ่ายสิ้น ไม่หลอกอำ
คืนทุกคำ จำเลยโจทย์ เ่ท่าเทียม


:b41: :b43:

ใส่บาตรพระ ให้ข้าวน้ำ มอบชีวิต
น้อมอุทิศ ผ้าไตร ให้เต็มเปรียม
บำบัดหนาว ร้อนเย็น อันยอดเยี่ยม
ให้ตระเตรียม ทานศีล ภาวนา


:b41: :b45:

ให้แจกจ่าย เติมเต็ม ให้คนเจ็บ
อย่าไปเก็บ จิตหลง งงมายา
สลัดทิ้ง ร้อนหนาว ไม่ห่วงหา
เอาธรรมมา ยึดเหนี่ยว เหนื่อสิ่งใด


:b41: :b46:

ตั้งสติ หมั่นสร้าง ทางกุศล
ช่วยเหลือคน บ่นทุกข์ สุขยากไร้
แล้วรอรับ อายุยิ่ง ผิวผ่องใส(อายุ วรรโณ)
สุขกว่าใคร พลังใจ จะกลับมา(สุขขัง พลัง)


:b50: :b48: :b47: :b45: :b47: :b48: :b49:




ธรรมบรรยาย โดย ดร. สนอง วรอุไร
http://www.kanlayanatam.com/voice/voice.htm
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jummaip&month=01-2008&date=26&group=9&gblog=537

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2010, 15:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เจ้ากรรมนายเวรของตนเองหรือไม่

จะเรียกว่าเป็นหรือไม่เป็นก้ได้นะคับ จะด่วนสรุปคงจะไม่ได้ ต้องอาศัยหลักเหตุและผลมาประกอบ
เป็นปัจจัยให้เกิดขึ้นด้วย จะร้ว่าเปนเพราะเจ้าเวรนายกรรมมาทวงหนี้ที่ค้างไว้นั้น คนที่ร้ได้ต้อง
ปฏิบัติกรรมฐานได้และเกิดตาทิพยเหนในสิ่งที่เร้นลับหรือเหนเปนนิมิตรในสมาธิเมื่อจิตเป้นสมาธิ
ระดับหนึ่ง ดังนั้นการทำกรรมฐานช่วยให้โรคที่เป้นอยู่หายได้โดยอาศัยกำลังใจจากสมาธิและความ
ไม่กลัวตายคือความอดทนเปนแรงขับให้จิตอยู่ในอำนาจกุศล เมื่อจิตเกิดกุศลเต้มที่เอาตรงส่วนนี้
แผ่ออกไปไม่มีประมาณรวมถึงให้เจ้ากรรมนายเวรที่คนชอบเรียกกัน แผ่ให้เขาด้วย ตอนนั้นโรคภัย
ที่เป็นอยู่จะหายได้ ก้ได้จากจิตทีมีพลังกุศลอันเกิดจากสมาธิช่วยๆผู้นั้นไว้ :b40: :b40:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ส.ค. 2010, 13:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


ตรี แก้วเกิด:

อ้างคำพูด:
การที่คนเราป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนาน 1 เดือน โดยที่หมอไม่สามารถจะวินิจฉัยอาการได้ว่าเป็นโรคอะไร ในตอนช่วงเวลากลางวันกลับไม่มีอาการใดๆเลย แต่พอตกช่วงเวลากลางคืนกลับมีไข้ขึ้นสูง เป็นอย่างนี้อยู่ทุกคืน พอหมอบอกว่าให้กลับบ้านได้ อาการกลับทรุดหนักลงไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่พออีกวันหนึ่งอาการกลับดีขึ้น อยากเรียนถามอาจารย์ว่าเหตูลักษระแบบนี้เกี่ยวข้องกับเจ้ากรรมนายเวรของตน เองหรือไม่


ขออนุญาตออกความเห็นเพิ่มจากท่านผู้รู้ที่ตอบข้างบนดังนี้..


คำว่าเจ้ากรรมนายเวรนั้น ไม่มีในพระพุทธศาสนาแต่ประการใด มีแต่คำว่า"คู่เวร"..อย่างในกรณีพระเทวทัตเป็น"คู่เวร"ของพระพุทธเจ้า.. ..หากพระพุทธเจ้าทรงยังมีพระชนม์ชีพอยู่ก็คงไม่สรรเสริญให้ชนทั้งหลายหวาดวิตกเรื่อง"เจ้ากรรมนายเวร"จนกลายเป็น talk of the countryอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจนเรียกได้ว่าเป็นความคิดติดสมองทุกหย่อมหญ้า น่าจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีความเชื่อเรื่องเจ้ากรรมฯอย่างหนาแน่น.. :b5: :b1: จนน่าประหลาดใจในคุณภาพและคุณสมบัติของการเป็น"ชาวพุทธ"ในประเทศนี้..

พระพุทธเจ้า ท่านทรงสอนเป็นอันมากว่า"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน"ความข้อนี้ย่อมชัดเจนอยู่แล้วในผู้ที่สามารถเข้าใจภาษาไทยได้ เมื่อสัตว์มีกรรมเป็นของตน ควรหรือที่เราจะตระเวณหา"เจ้ากรรมฯ"ที่ใหนๆ ? หรือเข้าใจว่าความเดือดร้อนประดามีของใครๆ เกิดจาก"เจ้ากรรมฯ"ที่เป็นอะไรสักอย่างที่คอยตามหรือจ้องทำลายใครๆอยู่ราวกะคนตกงานหรือว่างมาก.. :b23: ...แท้จริง สัตว์ทั้งหลาย ทำกรรมแล้วย่อมเป็นผู้เสวยวิบากหรือผลแห่งกรรมนั้นด้วยตนเอง หาได้มีใครอื่นที่ใหนสามารถมาทำให้ได้ไม่ ..คนอื่นเป็นได้เพียง"เครื่องมือ"ให้กรรม(คือเจตนา)ที่ตนทำไว้แล้ว มาปรากฏเป็นผลให้ตนได้รับเท่านั้น..

ต่อคำถามที่ถามมา(อยากเรียนถามอาจารย์ว่าเหตูลักษระแบบนี้เกี่ยวข้องกับเจ้ากรรมนายเวรของตน เองหรือไม่)จึงตอบได้ว่า...

พระพุทธองค์ตรัสว่า โรคภัยไข้เจ็บนั้น เกิดจากเหตุ ๔ ประการ

๑. กรรม คือเจตนาที่ตนเคยทำไว้มีการเบียดเบียนสัตว์อื่นมาก่อน เป็นต้น
๒. จิต คือสภาพจิตของคนป่วยเอง ที่อาจมีความกดดัน วิตกกังวลหรือสบายใจ ฯลฯ
๓. อุตุ ได้แก่อุณหภูมิ สภาพแวดล้อม ร้อนหนาวชื้น แห้ง ฯลฯสามารถมีอิทธิพลต่ออาการป่วยไข้ได้
๔. อาหาร เช่นได้อาหารแสลงโรค ทำให้ทรุด หรือได้อาหาร(รวมถึงยาด้วย)ถูกโรค อาการก็ดีขึ้นได้ เป็นต้น
..

ส่วนอาการที่เล่ามาก็ย่อมมีปัจจัยหลักคือกรรมเข้าเกี่ยวข้องแน่นอน การที่ได้รับเวทนาหรือผัสสะที่ดี ไม่ดีย่อมเป็นผลจากเหตุเก่า(กรรม)ที่ตนนั่นเองทำไว้ เหตุและผลย่อมสอดคล้องต้องกันเสมอ..

โดยสรุป ควรกลัว"เจตนา"(=กรรม)ของตนเองไว้ให้มาก ดีกว่าจะกลัวแต่เจ้ากรรมนายเวรที่ใหนๆและในคำสอนของพุทธศาสนา ผลทั้งหลายไม่ได้เกิดได้ด้วยเหตุใดเหตุเดียว แต่เกิดจากกาประชุมประกอบกันของปัจจัยมากมายหลายอย่างเสมอ...จึงไม่อาจมีเจ้ากรรมนายเวรที่ใหนมาทำให้ใครป่วยได้หากเขาคนนั้นไม่เคยเบียดเบียนทำร้ายสัตว์อื่นมาก่อน หรือหากอยู่ในสวรรค์ เจ้ากรรมฯเก่งอย่างไรก็ตามไปทำให้ป่วยไม่ได้ เป็นต้น

คนที่กลัวเจ้ากรรมฯแต่ไม่กลัวบาปกรรมของตน ย่อมไม่ขวนขวายในการประพฤติศีลเป็นต้น จึงน่าจะเป็นความเสี่ยงที่อันตรายยิ่งนักพึงพิจารณาด้วยเหตุผล ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องของพระพุทธเจ้าให้มากจะได้ไม่เชื่อคำเล่าขานอะไรๆที่ขาดเหตุผล ไม่เข้าถึงความเชื่อเรื่องที่ไม่มีที่มาที่ไปอย่างไร้ขอบเขตและสามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกตรง พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะควร.. :b46: :b47: :b48:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 30 ส.ค. 2010, 14:05, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2010, 11:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 12:21
โพสต์: 637

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า ทุกอย่างมีเหตุ เกิดแต่เหตุ

กรรมที่ทำไว้ ก่อเหตุนั้น จะมีการจองเวรด้วยหรือไม่ก็ได้

เมื่อทำดี หรือจะพ้นกรรมนั้น คุณหมอก็จะหาโรคเจอเอง และจะหาย
หรือไม่ ก็เป็นไปตามกรรม คือป่วยไปเรื่อยๆ จนร่างกายแตกดับไปครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร