หรอครับ เห็นแต่งตัวด้วยชุดสีขาวนั่งสงบเย็นอยู่บนก้อนหิน คิดว่าเป็นโยคี ผู้ประกอบควาเพียร ใช่รูปคุณแพรไหมครับน่า หากใช่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลยแต่สนใจทางธรรมนะครับสาธุ

ไม่รู้จะเชื่อรึเปล่าคะว่าปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่อายุ 17 ปีค่ะ ตอนนี้ก็ 24 อิอิ ไม่อยากบอกอายุเลยอ่ะ ฮ่าๆๆ

พระอาจารย์ท่านอายุไม่มากหรอกค่ะอายุท่านแค่ 33 ปีเองค่ะแต่ท่านก็บวชมาตั้งแต่เด็กเลย ไปนั่งสมาธิตอนที่ท่านพาปฏิบัติ พอออกจากสมาธิให้จะสอนเราว่าทำไมเวลานั่งสมาธิตั้งคิดเรื่องงานเรื่องอื่นๆๆ เรายังไม่ได้พูดซักคำเลยท่านรู้ได้ยังไง วัดกับบ้านแพรเนี๊ญะห่างประมาณเจ็ดสิบกิโล ไปเืกือบทุกวันพระ วัดอื่นก็เคยไปค่ะแต่ไม่ค่อยถูกกับจริตคือไปแล้วมันไม่สงบว่างั้นเถอะ อิิอิ ตอนแรกพระอาจารย์ก็จะพูดว่าที่นี่เทวดาเยอะนะำทำอะไรมีเทวดาดูอยู่จะพูดอะไรต้องระมัดระวังแม้แต่ความคิด แพรก็ไม่ค่อยเชื่อหรอกไม่เชื่อเลยก็ว่าได้แต่เชื่อว่าผีมีจริงเพราะเคยเห็นบ่อยและพอจะสัมผัสได้มาตั้งแต่ครั้งที่เริ่มปฏิบัติ แต่ไม่เคยเห็นเทวดา พระอาจารย์ท่านนี้บารมีท่านเยอะนะคะคือสามารถดูแลคนที่มาปฏิบัติถึงแม้ท่านจะอยู่ข้างล่างเขาแต่ถ้าเราปฏิับัติอยู่บนเขาท่านก็สามารถแยกจิตไปดูแลเราไ้ด้ ประมาณนั้น อันนี้เชื่อเพราะสัมผัสได้ว่าจริง

วันนี้ง่วงแล้วค่ะเด๋วพรุ่งนี้มาเล่าใหม่นะคะ

พรุ่งนี้เล่าต่ออีกนะครับกำลังสนุก

เชื่อครับว่าปฏิบัติมานานแล้ว นี่นะครับสาธุ

ค้นหาวัดไม่เจอครับ ทำไงล่ะ

คุณแพรใช่ที่นี่ไหมครับ

พุทธวิเวกสถาน เขาพรหมโพธิสัตว์
ม.๒๐ บ้านเนินน้อย ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา

หากใช่คุณแพรคงได้ยินชื่อหลวงปู่เณรคำแน่ๆ เหมือนเคยไปแสดงธรรมที่นี่นี่

ใช่ค่ะวัดนี้แหละค่ะ หลวงปู่เณรคำรู้จักก็เพราะวัดนี้แหละและก็ติดตามประวัติท่านอ่านหนังสือฟังเทศน์ของท่าน ก็รู้สึกดีค่ะดีนะที่พอมีบุญเ่ก่าให้ได้เจอท่านบ้าง อืม ถ้าสนใจจริงๆขอคุยทางเอ็มดีกว่าค่ะ สามารถคุยได้ถ้าเรื่องธรรมะล้วนๆๆ ยินดีเสมอถ้ามุ่งปฏิบัติธรรมะจริงๆแล้วเอาประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนกัน

แพรเองก็เป็นคนธรรมดานี่แหละถึงแม้จะปฏิับัติมาก็นานแต่ก็ธรรมดาไม่มีอะไรเห็นอะไรก็ไม่มีอะไรเป็นปกติของคนธรรมดายิ่งปฏิับัติมันยิ่งเป็นอันเดียวกันกับธรรมชาติดีก็ธรรมชาติชั่วก็ธรรมชาติความคิดที่เห็นตรงกันก็เป็นธรรมชาติคนที่เึ้ค้าไม่คิดตรงกับเรามันก็ธรรมชาติ ตอนนี้แพรก็พยายามปฏิบัติโดยมุ่งมั่นลดละการยึดมั่นถือมั่นตัวเราของเราให้มันว่างเปล่าเหมือนตอนที่มันมา ธาตุทั้งสี่ธาตุดินน้ำลมไฟในตัวเราก็ส่งคืนให้กับธรรมชาติพยายามอย่างที่สุดจะไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่ได้ต้องการจะเอาชนะใครในทัศนะคติของใครต่างก็ไม่เหมือนกันนั่นก็คือธรรมชาติ ว้าๆๆๆ ว่าจะพูดน้อยๆๆ เอาซะเยอะเลย

ครับๆจริงครับ

กรัชกายชอบคำพูดตรงนี้ครับ ว่าอาจารย์สำนักเขาพรหมโพธิสัตว์สอนปฏิบัติเพื่อการดับทุกข์ ใช่ไหมครับ ดับทุกข์ได้ยังไงครับ คุณแพรบอกได้ไหมครับ

อาจารย์ที่สอนกรรมฐานคุณแพรชื่อ พระอาจารย์วิชัย ชาครธัมโม นี่ใช่ไหมครับ

ค่ะใช่ค่ะ พระอาจารย์วิชัย ท่านจะรับทำน้ำมนต์สะเดาห์เคราะต่อชะตาไม่ดูดวงชะตาให้ใครไม่ทำอะไรเกี่ยวกับเครื่องลางของขลัง ไม่เจิมรถ แต่บอกให้ขับระมัดระวังและตรวจสอบเครื่องยนต์ดีๆนะ ฮ่าๆๆๆ ไม่มีอะไรมาเป็นเครื่องล่อให้คนทำบุญ ใครศรัทธาก็ทำใครไม่มีเงินก็ไม่ต้องทำ แต่ค่าใช้จ่ายที่วัดท่านก็เยอะนะคะตกประมาณเดือนละเจ็ดหมื่นบาทแต่ก็มีคนเอาเงินมาถวายท่านเรื่อยๆค่ะ แพรเองก็ได้ทำเรื่อยๆไม่มากเท่าไรอยากมีปัจจัยเยอะๆค่ะอยากช่วยพระอาจารย์สร้างถ้ำเพื่อทำกรรมฐานให้พระ และสร้างถ้ำเพื่อทำกรรมฐานให้แม่ชี ถ้ำนี่ไม่มีไฟฟ้าและเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆๆ และท่านก็ทุ่มทุนสร้างกุฏิให้ผู้ที่ต้องการมาปฏิบัติธรรมจริงๆเพื่อมาปฏิับัติ อาหารท่านมีให้ทานมากมายเลยค่ะคือท่านไม่หวงเรื่องนี้เลยแต่ให้ทานแต่มื้อเดียวเท่านั้น ศีลแปดนี่ต้องเคร่งค่ะ ตอนแรกๆๆก็หิวมากแต่พออยู่ไปเรื่อยๆก็เริ่มชินและรู้สึกดี คือ มันเบาตัวดีนั่งสมาธิก็สบายไม่อึดอัด

พระอาจารย์ท่านจะสอนให้ดับทุกข์ที่ใจนี่แหละคะ ท่านก็บอกว่าที่เราต้องนั่งสมาธิ นั่งวิปัสสนากรรมฐานเพื่อที่จะให้เราพิจารณาสังขารร่างกายของตนเพื่อที่จะให้เรารู้ตัวเองให้มากที่สุด เพราะรู้ไปข้างนอกมันก็ไม่เป้นเหตุแห่งการดับทุกข์เพราะทุกข์มันอยู่กับเรา เช่นถ้าเรามีปัญหากับใครกับคนที่ทำงานกับคนในครอบครัวเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้วมันส่งผลต่อจิตของเราทำให้จิตใจของเราเป็นทุกข์เหตุของทุกข์คือการเอาสิ่งภายนอกมาปรุงแต่งให้เกิดความโกรธ เครียด ไม่พอใจ พอมันเกิดทุกข์ในใจแล้วเราก็อยากจะหนีจากที่นั่นเพราะที่นั่นมันทำให้เราเกิดทุกข์หรือเมื่อเราอกหักแล้วเราไม่อยากเจออยากเห็นหน้าแฟนเก่าเราไม่อยากเห็นสถานที่ๆเคยไปด้วยกัน แล้วอยากหนีไปให้ไกลๆๆ พอหนีไปแล้วใจมันก็ยังทุกข์อยู่ ทุกข์มันอยู่กับเราทุกขณะลมหายใจ เหตุของทุกข์คือจิตที่มันไปปรุงแต่งยึดมั่นถือมั่น นั่นแฟนเรา นั่นบ้านเรา นั่นเงินเรา นั่นรถเรา นั่นของๆเรา นี่มันร่างกายของเรา นี่ตัวเราของเราคนอื่นจะมาว่าเราไม่ได้เพราะเราต้องถูกต้องดีเสมอ พอมันอะไรๆมันไม่ตรงกับใจที่เราอยากให้มันเป็นเราก็เป็นทุกข์ เหตุของทุกข์คือความยึดมั่นถือมั่น การไปนั่งสมาธิทำให้เรามีสติเิกิดปัญญา พอปัญญาเกิดมันก็ทำให้เรารู้ต้นเหตุของทุกข์ในใจเราอย่างแท้จริงพอเจอเหตุของทุกข์นั้นก็เข้าไปดับที่เหตุมันนั่นแหละคะ

แพรคงไม่ได้เ้ข้ามาโพสแล้วอ่ะ ไงก็คุยกันทางเอ็มแล้วกันค่ะ prachompoo_narak@hotmail.com แพร

อนุโมทนา สาธุ กับการสนทนาธรรม ทั้งสองท่านน่ะครับ
ต้องบอกว่าสำหรับท่านกรัชกาย นี้ผมเป็นแฟนพันธ์แท้ของท่านเลยล่ะครับ เคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับการนั่งสมาธิให้คุณกรัชกายกัยท่านเฉลิมศักดิ์ช่วยชี้แนะอยู่ครั่งหนึ่งอ่ะครับ ไม่ทราบว่ายังจำได้หรือป่าว
แต่นานมาแล้วล่ะครับ แล้วก็ยังได้ติดตามกระทู้หรือคำตอบดีๆจากท่านตลอด มาวันนี้ก็เลยอยากจะทักทายบ้างอ่ะครับ เห็นว่าเป็นกระทู้ที่ไม่ได้ชีเรียสอะไร เหมือนกับการคุยกันทั่วไปอ่ะครับ ก็เลยอยากพูดคุยด้วย ช่วงนี้ผมก็นั่งสมาธิเช่นเดียวกันครับ แต่ค่อนข้างที่จะเวลามากกว่าเดิม เพราะว่ามาทำงานที่ต่างประเทศอ่ะครับ เช้าก็เข้าแลป เย็นก็เข้าห้องนอน เลยมีเวลาว่างค่อนข้างเยอะ ก็เลยได้มีโอกาสได้อ่านพระไตรปิฎก ด้วยอ่ะครับ ยิ่งอ่านแล้วยิ่งซาบซึ่งน่ะครับ เห็นพระอัจริยะภาพในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จริงครับ ทุกคำที่เขียนไว้ชั่งจริงแท้แล้วก็แน่นอน แล้วก็ยังสามรถใช้กับปัจจุบันโดยไม่มีตกยุคเลย เลยทำให้เกิดความปราบปลื้มใจที่ได้เกิดแล้วพบเจอกับพุทธศาสนาครับ แต่ก่อนนี้ถ้าได้มีโอกาสได้ว่าพระขอพรกับสิ่งศักย์สิทธ์ ผมก็จะขอนั้นขอนี้มากมายครับ อยากให้ตัวเองเป็นแบบนั้น อยากให้ตัวเองได้แบบนี้ แต่พอได้เข้ามาศึกษาธรรมมะบางแล้ว ทำให้คำขอของผมเหลือเพียงว่า หากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้ได้เกิดมาผมกับพระพุธศาสนาอีกครับแล้วก็สามารถทำบุญได้ตามสมควรโดยไม่เดือนร้อนอะไรเท่านั้นเองอ่ะครับ แล้วเป้าหมายของชีวิตผมก็เปลี่ยนไปเยอะอ่ะครับจากที่ต้องเป็นที่สุดก็เหลือเพียงว่าในอนาคตเพียงแค่สามารถดูแลพ่อแม่ท่านให้มีความสุขแล้วก็มีโอกาสได้เข้าไปปฏิบัติธรรมบ่อยๆก็งจะดีพอแล้ว (แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหนเพราะว่าสายงานผมอย่างมากก็เป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนเท่านั้นเอง อาจทำให้ไม่มีโอกาส) ช่วงนี่มีโอกาสก็เลยอยากทำให้เต็มที่ครับ เลยว่าจะถือศิลห้า แล้วก็ถือศิลแปดในวันพระด้วยครับ เพราะว่าอาจจะเป็นอีกสิ่งที่ทำให้เราเข้าใกล้สมาธิมากขึ้นครับ เพราะทำมาแล้วคิดว่าตัวเองยังไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่เลยครับ แล้วอีกอย่างผมก้สนใจในเรื่องที่ท่านสนทนากันครับ คือเรื่องภพภูมิที่ท่านพูดถึงกัน ผมค่อนข้างที่จะสนใจเรื่องพวกนี้อ่ะครับ แต่ก็ไม่เคยพบเจอน่ะครับ แต่ค่อนข้างเชื่อว่ามีจริง และมันคงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ผมสนใจธรรมะด้วยแหละครับ ก็เลยอยากทราบจากประสบการณ์ของท่านทั่งสองบ้างน่ะครับ คืออยากรู้อยากเห็น ครับ

ขอบคุณมากครับ

จำได้ครับ ขอบพระคุณนะครับ ที่เป็นแฟนประจำ

ทำงานได้เงินแล้วเก็บเงินไว้เยอะๆครับแล้วกลับบ้านเรา

ก็หมายถึงใจที่ไม่เอียงเอนไปตามสัญญา(ความจำหมาย)ที่มีอยู่ เช่นว่า เคยมีความเข้าใจว่าอย่างไร ก็อย่าไปยึดมั่นว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้น

ขอคุณสำหรับเพลงที่มอบให้น่ะครับ (ผมก็ชอบก๊อกเหมือนกันครับ )

ยินดีที่ได้เป็นกัลยานมิตรกับท่านกรัชกายน่ะครับ