วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 18:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2010, 12:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตะเกียงแก้ว เขียน:
กระทู้นี้ ได้มีการแก้ไขบิดเบือนข้อความ ทำให้เข้าใจผิด (จากใครบางคน)
คนทำก็ย่อมรู้แก่ใจดีว่าทำอะไรลงไป จนเราต้องเข้าไปแก้ไข
เราไม่อยากจะพูดมาก ให้มากเรื่องหรอก เพียงแต่รู้ไว้ว่า
วงการไหน แม้แต่เวปธรรมะ พูดเรื่องธรรมะ ก็มีเรื่องโกหกหลอกลวง
เพราะมีเรื่องของผลประโยชน์ ชื่อเสียง ลาภสักการะ ล่อคนโลภได้ง่ายๆ


คุณตะเกียงแก้วครับ คุณอย่าพาลไปทั่วมั่วไปเรื่อยแบบนี้ซิครับ คุณไปเถียงไปทะเลาะกับใครไว้
ก็ไปเคลียร์กับเขาซิครับ ผมไปเกี่ยวอะไรด้วยครับ แล้วกับเรื่องกติกาอะไรของคุณ
ผมอยากให้ให้คุณกลับไปดูด้วยว่า ผมทำอย่างที่คุณว่าหรือเปล่า ความเห็นผมส่วนใหญ่
ก็เป็นแก้ข้อกล่าวหาที่คุณมาใส่ไคร้พระสงฆ์

เรื่องโกหกหลอกลวงนี้ก็อีก ถามหน่อยใครเป็นคนนำเรื่องพวกนี้มาตั้งเป็นกระทู้ครับ
ใครเป็นคนสาธยายเรื่องราวต่างๆครับมันก็เป็นคุณทั้งนั้นนั้นแหล่ะ ผมเพียงแต่ไม่เชื่อเรื่องที่คุณเล่า
แล้วก็อธิบายเหตุผลให้ฟังเท่านั้น

ส่วนเรื่องลาภสักการะ คนโลภนี่ ทำไมคุณไม่ย้อนไปดูต้นเหตุว่า เป็นใครกัน
เป็นพระหรือโยม แต่ที่แน่ๆผมว่าเป็นโยมเสียล่ะมากกว่า เล่นเอาพระ เอาศาสนาไปหากิน
ได้ไปตั้งเยอะแล้ว แต่ที่เวลาจะเสียแค่นิดหน่อยก็ไม่ยอมทั้งๆที่เป็นเรื่องเป็นกิจการของตัวเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2010, 12:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตะเกียงแก้ว เขียน:
กระทู้นี้ คุณก็ควรจะเกรงใจเจ้าของกระทู้เขาด้วย ถ้าจะด่าเรา ท้าให้ไปตั้งกระทู้เลยไป
แล้วเราก็จะไปตอบคำถาม ที่เป็นข้อมูลจริงๆ ให้ฟัง ในทุกเรื่อง (ที่เกี่ยวกับพระและลูกศิษย์พระ)
ตะเกียงแก้ว เขียน:

ผมว่าเป็นคุณนั้นแหล่ะที่ต้องเกรงใจจขกท ที่ผมแสดงความเห็นไปในตอนแรกมันเกี่ยว
กับกระทู้โดยตรง คุณไปอ่านให้ดีว่ามันเกี่ยวมั้ย
จขกทเขาถามว่า ทำไมคนชอบทะเลาะกันเรื่องพุทธทาส คุณได้แสดงความเห็นมาว่า
ตะเกียงแก้ว เขียน:
คนที่ทานมะม่วงจากผลเดียวกัน ย่อมรู้รสของมะม่วง รู้จักมะ่ม่วงผลนั้น
คำพูดไม่สามารถบอกถึงรสชาดของมะม่วงที่ทุกคนลิ้มรส
แต่รสชาดที่สัมผัสลิ้นของแต่ละคน ไม่แตกต่างกัน รสเดียวกัน

รสของธรรมะก็เช่นเดียวกัน ถ้าสัมผัสจริงๆ ไม่ถกเถียงกันหรอก
ปล่อยให้เขาชนะ ให้เขาฉลาดไปเถอะ เราปิดหู ปิดตา ปิดปาก สบายกว่า ( :
ให้ธรรมะของท่านอาจารย์ เข้ามาอยู่ในเนื้อในตัว ในจิตใจ ดีกว่าไปทุ่มเถียงกัน

คุณแสดงความเห็นมาเหมือนกับสอนหรือแนะนำจขกท ในทำนองว่าอย่าไปทะเลาะหรือเถียงกัน
ดูแล้วเหมือนว่าตัวคุณเป็นคนดีเลิศ ไม่ชอบเอาเรื่องเอาราวกับใคร บอกให้จขกทอย่าไปเถียงกัน
ในเรื่องคำสอนของครูบาอาจารย์ ผมเห็นว่าคุณกำลังโกหกหลอกลวงจขกทอยู่
เพราะการที่ใครจะมาสอนคนได้นั้นตัวเองจะต้องทำในสิ่งที่ตัวเองสอนให้ได้เสียก่อน

แต่คุณไม่ใช่ครับ มันตรงกันข้ามกับตัวคุณ สอนเขาว่าอย่าทำแต่ตัวเองกำลังทำอยู่
แล้วการที่ผมอ้างกระทู้เก่าของคุณไม่ใช่ผมไม่จบ เพียงแต่มันเป็นหลักฐานอ้างอิง
ในสิ่งที่ผมกล่าวหาคุณ
สรุปมันเป็นเรื่องในกระทู้นี้ แต่เป็นตัวคุณเองที่พยายามโยงเรื่องไปหามันเอง


สิ่งที่คุณจะต้องแสดงความเห็น ในกระทู้นี้คือ ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ผมว่าคุณในกระทู้นี้
ที่ว่าสอนเขาแต่ตัวเองไม่ทำหรือ ทำในสิ่งตรงข้าม อันนี้ต่างหากที่คุณจะต้องแก้ข้อกล่าวหา
ไม่ใช่ไปแก้ตัวในเรื่องเก่าๆครับ ริจะตั้งกระทู้ด่าพระด่าเจ้าแต่ไม่มีวิจารณญาณ
ในการมองประเด็นกระทู้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2010, 12:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตะเกียงแก้ว เขียน:
กระทู้นี้ คุณก็ควรจะเกรงใจเจ้าของกระทู้เขาด้วย ถ้าจะด่าเรา ท้าให้ไปตั้งกระทู้เลยไป
แล้วเราก็จะไปตอบคำถาม ที่เป็นข้อมูลจริงๆ ให้ฟัง ในทุกเรื่อง (ที่เกี่ยวกับพระและลูกศิษย์พระ)

แต่มีกติกา
๑) อย่าโกหก อย่าสอดไส้ อย่าเล่นพวก อย่าเข้าไปแก้ไขข้อความที่เราโพสต์ไป ให้พูดตรงไปตรงมา รักษาศีลข้อ ๔ มุสาให้มั่นคง

๒) ให้คำนึงถึงประโยชน์ในทางธรรมของตัวคุณเองเป็นหลัก คนที่เข้ามาอ่าน เกิดประโยชน์อะไร ภาวนาก้าวหน้าขึ้น ฉลาดในทางธรรมมากขึ้น ก้าวหน้าในธรรมมากขึ้น นี่เป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับทุกคน อนุโมทนาในสิ่งที่คุณทำมาก สำหรับข้อนี้

๓) อย่าใช้อารมณ์ ให้ใช้สติปัญญาในการทำ ดูจิตตัวเองไปด้วย ถ้าจิตมืดจิตต่ำ จิตตก จิตอกุศล จะต้องด่าตะเกียงแก้วให้หายแค้นซักหน่อย ให้รีบหยุด เพราะถ้าไม่หยุด อาการทางจิตที่ถูกกิเลสครอบงำ จะยิ่งมากขึ้น คุณเองนั่นแหละ ที่จะได้รับผลกรรมนั้นเอง

๔) ให้เป็นสุภาพบุรุษ ใช้คำสุภาพ ใช้ความจริงใจ เปิดใจคุยกัน เยี่ยงกัลยาณมิตร
ให้สมกับเป็นสมาชิกลานธรรมจักร "ณ ที่แห่งนี้มีธรรมะและกัลยาณมิตร" ที่ทุกคนควรทำให้เกิดขึ้น
ถ้าคุณรักษากติกา ๔ ข้อนี้ได้ รวมถึงพวกของคุณด้วย เรายินดีจะไปสนทนาที่กระทู้ที่คุณตั้งขึ้น
แต่....ถ้าคุณไม่สามารถรักษากติกาได้ ให้สมกับเป็นลูกผู้ชาย ก็ขอที่จะไม่สนทนาใดๆด้วย


คุณนี้เพ้อเจ้อนะครับ ใครบอกว่าผมจะคุยกับคุณในเรื่องของพระสงฆ์ครับ โธ่อุตสาห์ตั้งกฎตั้งกติกา
ตัวเองอยากจะทำอกุศลแล้ว ยังมีการบังคับคนอื่นว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้อีก ดูแล้วให้คิดถึงคำพูด
ของผู้ใหญ่บางท่านที่ว่า มันจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว
ผมพูดได้คำเดียวครับว่าอยากหัวเราะให้ฟันร่วง
ตะเกียงแก้ว เขียน:
แม้แต่พระพุทธเจ้ายังมีคนด่า ท่านพุทธทาสยังมีคนด่า พระพุทธรูปนั่งนิ่งๆยังมีคนด่า
ตะเกียงแก้วเป็นใคร จะไม่โดนด่า ถูกด่าน่ะดีเราจะได้ทดสอบจิตใจตัวเราเองด้วย ไปถึงไหนแล้ว
เราจะได้ใช้เป็นวัตถุดิบในการภาวนาซะเลย ขอบคุณมากสละเวลามาทดสอบเรา :b4: :b1:

ผมอ่านข้อความคุณแล้ว คุณก็รู้ดีนี้ครับ แต่มันใช้ผิดที่ผิดตัวบุคคลครับ
คำพูดนี้มันใช้ไม่ได้กับคุณครับ มันต้องใช้กับพระสงฆ์ที่คุณไม่ด่าครับ
สำหรับตัวคุณไม่มีราคาค่างวดที่ผมจะไปด่าหรอกครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2010, 06:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


din เขียน:
ไม่รู้ว่าผมแปลกรึเปล่าที่เห็นคำสอนของท่านสอดคล้องกับครูบาอาจารย์ท่านๆอื่นๆ รูปแบบในการสอนหรือคำในการสอนอาจต่างกันไปตามวาสนาของครูบาอาจารย์แต่ละท่าน เหมือนมีรสอยู่รสๆหนึ่งซึ่งไม่มีรสใดในโลกเหมือน ผู้ที่ได้ชิมมาแล้วคนหนึ่งบอกว่ารสคล้ายมะม่วง อีกคนบอกว่าคล้ายหว้า อีกคนบอกว่าคล้ายขนุน ผมว่าท่านต่างๆเหล่านั้นบอกไม่ผิด ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ลิ้มรสนั้นถึงจะบอกตามว่ามะม่วง,หว้า,ขนุน ผมก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าท่านที่พูดตามถูก

คุณดินครับเรื่องตายเรื่องนิพาน มันจะสูญไม่สูญเราอย่าไปใส่ใจเลยครับ
เพราะไม่ว่าคนที่สอนหรือลูกศิษย์ในขณะที่บอกหรือสอนล้วนแล้วแต่ยังมีชีวิต
ยังต้องกิน ต้องนอน ต้องถ่ายเหมือนๆกับเรา

การทะเลาะหรือถกเถียงกัน เราต้องดูด้วยครับว่า เถียงกันด้วยเรื่องใด
ถ้าเป็นเรื่องธรรมวิธีการปฏิบัติ เราต้องเถียงต้องถกกันครับ ต้องแย้งและต้องหาสาเหตุ
มาแก้กันนั้นแหล่ะครับ เราจะได้ความรู้ที่เราช่วยกันกรองอย่างแท้จริง

คุณดินครับ สาเหตุที่เรามองคนที่เขาถกเถียงในเรื่องธรรม เป็นการทะเลาะกันนั้น
มันก็เป็นตัวเราเองนั้นแหล่ะครับ ที่เอาใจเอาจิตลงไปยึดมั่นมันเอง
เราไม่ชอบหรือชอบให้คนเขาทำหรือแสดงอย่างนั้น เราก็เลยปรุงไปตามจิตตามใจเรา
มันน่าขำมั้ยครับ กับการที่เราไปมองดูว่า เขากำลังทะเลาะกันเอาเฉพาะในเว็บบอร์ดนะครับ
ตัวตนเขาเราก็ไม่เห็นชื่อเสียงเขาเราก็ไม่รู้ และสิ่งที่เขาเถียงกัน เป็นสิ่งที่เขากำลังบอกถึงวิธีทำความดี

แต่ถ้าเป็นอย่างอื่น มันก็เป็นอีกเรื่องครับ อย่างเช่น เอาวิธีปฏิบัติมาอ้างเพื่อที่จะทำลาย
ตัวบุคคลผู้สอน นี่แหล่ะคือการเชิญชวนให้ผู้อื่นมาทะเลาะกับตัว

din เขียน:
พระท่านหนึ่งสอนผมไว้ว่าครูบาอาจารย์ต่างๆไม่ทะเลาะกันหรอกเพราะคำสอนก็ลงที่ธรรมเดียวกัน มีแต่ลูกศิษฐ์นี่สิที่-ดกันเอาเป็นเอาตาย

เรื่องครูบาอาจารย์ทะเลาะกัน ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องตัวบุคคลไม่มีหรอกครับ
แต่ถ้าเป็นเรื่อง ของวิธีปฏิบัติและผลที่ได้รับ มีครับที่ที่ถกเถียงกัน
มันก็เหมือนกับที่คุณตั้งกระทู้มานี่แหล่ะ บางท่านว่านิพพานแล้วสูญ บ้างว่าไม่สูญ
บ้างว่าจิตเกิดดับ บ้างว่าไม่เกิดดับ

ผมขอแนะนำครับ ถ้าคุณมีความรู้สึกว่าคนเขากำลังทะเลาะกันอยู่ คุณก็อย่าลงไปยุ่ง
อย่าไปแสดงความเห็นหรือแม้กระทั้งแสดงอาการห้ามปรามสั่งสอน
เพราะแค่คุณเข้าใจว่า เขากำลังทะเลาะกัน ใจคุณก็ไปร่วมทะเลาะกับเขาแล้ว
และถ้าขืนคุณลงไปแสดงความเห็นในทำนองห้ามหรือสอน นั้นแหล่ะคุณได้ลงไป
กระทำในสิ่งที่คุณกำลังว่าเขาแล้วล่ะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2010, 22:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ธ.ค. 2010, 14:56
โพสต์: 122

โฮมเพจ: chanachai20102553@gmail.com
แนวปฏิบัติ: ค้นหาธรรมของพุทธเจ้า
งานอดิเรก: มองธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่ม
ชื่อเล่น: แค่นามสมมุติ
อายุ: 32

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: ดูก่อนท่านทั้งหลาย................................

เราขอ ระงับอธิกรกันเทอญ...........
อย่าพึงสร้างกรรมอันพึงมี โทสะ โมหะ แม้เพียงน้อยนิดแต่หลายครั้งเข้าจะพึงเป็นบาปโดยไม่เจตนากันเปล่าๆ ท่านผู้เจริญทุกท่านเอ๋ย.........ทุกๆท่านพึงรู้ดีว่ากำลังทำอะไร
เราขอให้ทุกท่านพึงอโหสิ กันน่ะ


ขออำนาจแห่งบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้สั่งสมมา ได้มี เมตตาต่อกันเทอญฯ.........สาธุ

.....................................................
เราจักขออำนาจบุญกุศลที่ตัวเราได้กระทำไว้ในอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
จงแผ่อำนาจแห่งบุญกุศลทั้งหลายไปสู่ทั่วทั้งสากลโลก ทั้ง16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน วิญญาณที่มีรูป และ ไม่มีรูป ทั่วทั้งทุกอณูใน 3 โลกจงได้รับแห่งบุญกุศลที่เราได้จักกระทำไว้ด้วยเทอญ สาธุ.................................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2010, 23:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b5: พอจะเห็นตัวอย่างกันแล้ว เล่นเอากระทู้ผมเกือบร้อนกันเลยทีเดียว
โฮฮับ เขียน:
ผมขอแนะนำครับ ถ้าคุณมีความรู้สึกว่าคนเขากำลังทะเลาะกันอยู่ คุณก็อย่าลงไปยุ่ง
อย่าไปแสดงความเห็นหรือแม้กระทั้งแสดงอาการห้ามปรามสั่งสอน
เพราะแค่คุณเข้าใจว่า เขากำลังทะเลาะกัน ใจคุณก็ไปร่วมทะเลาะกับเขาแล้ว
และถ้าขืนคุณลงไปแสดงความเห็นในทำนองห้ามหรือสอน นั้นแหล่ะคุณได้ลงไป
กระทำในสิ่งที่คุณกำลังว่าเขาแล้วล่ะครับ

มันเป็นนิสัยที่ชอบหาเรื่องเสี่ยงของผมอย่างหนึ่ง ถ้าเห็นการทะเลาะมักจะเข้าไปขัดขวาง :b12:
ถ้าน้ำมันเชี่ยวจริง ผมก็ถอนดีกว่าเพราะอาจเป็นอย่างที่คุณว่าคือผมเข้าไปร่วมทะเลาะด้วย
มันจะกลายเป็นเพ่งคนอื่น แต่ไม่พิจารณาตน(อยากเป็นกรรมการแต่ไปตีมวยเอง :b13: )

ขออภัยมา ณ ที่นี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2010, 06:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


din เขียน:
:b5: พอจะเห็นตัวอย่างกันแล้ว เล่นเอากระทู้ผมเกือบร้อนกันเลยทีเดียว

ผมว่าคุณชอบน่ะที่จะให้คนเขาทะเลาะกัน ไม่งั้นคงไม่ตั้งกระทู้ประเภทนี้ขึ้นมาหรอกครับ
ไอ้กระทู้ของคุณ ชาวบ้านที่มีสมองหน่อยเขาเรียกกระทู้ล่อเป้า
ใจจริงผมไม่อยากมาต่อล้อต่อเถียงกับคุณ แต่เห็นวิธีแกล้งทำเนียนของคุณแล้ว อดสังเวชไม่ได้ครับ
เดี๋ยวคุณจะหลงตัวว่า ตัวเองฉลาดล่ำลึกสามารถหลอกให้ชาวบ้านทะเลาะกันเรื่อง ท่านพุทธทาสได้
นี่ดีน่ะเป็นเว็บธรรมจักร ถ้าเป็นเว็บเพื่อนบ้าน อย่างเช่น เว็บพลังบิด ปานนี้ผมว่ามันยังทะเลาะด่ากันไม่เลิก
กระทู้นี้ถ้าคนตั้งเป็นลูกผู้ชายหรือบริสุทธิ์ใจ มันต้องยกธรรมของท่านพุทธทาส มาถามเป็นข้อๆไปว่า
สงสัยตรงไหนไม่เชื่อตรงไหน ไอ้ประเภทแบบคุณ มันพวกบ่างช่างยุครับ แถมใจปลาซิวอีกต่างหาก
ไม่กล้าแม้กระทั่งแสดงจุดยืนตัวตนว่า คิดอย่างไรกับเรื่องนี้


din เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ผมขอแนะนำครับ ถ้าคุณมีความรู้สึกว่าคนเขากำลังทะเลาะกันอยู่ คุณก็อย่าลงไปยุ่ง
อย่าไปแสดงความเห็นหรือแม้กระทั้งแสดงอาการห้ามปรามสั่งสอน
เพราะแค่คุณเข้าใจว่า เขากำลังทะเลาะกัน ใจคุณก็ไปร่วมทะเลาะกับเขาแล้ว
และถ้าขืนคุณลงไปแสดงความเห็นในทำนองห้ามหรือสอน นั้นแหล่ะคุณได้ลงไป
กระทำในสิ่งที่คุณกำลังว่าเขาแล้วล่ะครับ

มันเป็นนิสัยที่ชอบหาเรื่องเสี่ยงของผมอย่างหนึ่ง ถ้าเห็นการทะเลาะมักจะเข้าไปขัดขวาง :b12:
ถ้าน้ำมันเชี่ยวจริง ผมก็ถอนดีกว่าเพราะอาจเป็นอย่างที่คุณว่าคือผมเข้าไปร่วมทะเลาะด้วย
มันจะกลายเป็นเพ่งคนอื่น แต่ไม่พิจารณาตน(อยากเป็นกรรมการแต่ไปตีมวยเอง :b13: )
ขออภัยมา ณ ที่นี้

น่าขันนะครับที่คุณบอกว่า ชอบห้ามหรือขัดขวางคนทะเลาะกัน ก็อย่างที่ผมบอกนั้นแหล่ะครับว่า..
อย่ามาทำเนียน ไอ้วิธีการแบบคุณ เขาเรียกผู้ดีจอมปลอมครับ ยุให้เขาทะเลาะกันแล้วแกล้งทำเป็น
พระเอกเป็นกรรมการห้าม ผมล่ะคลื่นไส้กับวิธีการแบบนี้จริง มันไม่การเมืองมากไปหน่อยหรือ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2010, 06:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


chanachai2010 เขียน:
:b42: ดูก่อนท่านทั้งหลาย................................
เราขอ ระงับอธิกรกันเทอญ...........
อย่าพึงสร้างกรรมอันพึงมี โทสะ โมหะ แม้เพียงน้อยนิดแต่หลายครั้งเข้าจะพึงเป็นบาปโดยไม่เจตนากันเปล่าๆ ท่านผู้เจริญทุกท่านเอ๋ย.........ทุกๆท่านพึงรู้ดีว่ากำลังทำอะไร
เราขอให้ทุกท่านพึงอโหสิ กันน่ะ

ขออำนาจแห่งบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้สั่งสมมา ได้มี เมตตาต่อกันเทอญฯ.........สาธุ

ท่านครับกระผมไม่ทราบว่า ท่านเป็นพระหรือฆราวาสนะครับ
แต่ที่แน่ๆผมกับคู่สนทนาอีกฝ่ายเป็นฆราวาสครับ
ผมก็ไม่ทราบว่า ท่านยกธรรมเรื่อง อธิกรณ์มาสอนมาห้าม ไม่รู้ว่าผมหรือท่านใครเข้าใจผิดใน
เนื้อหาหลักธรรมอันนี้ครับ......

อธิกรณ์ แปลว่า ภารกิจที่พึงทำให้สงบให้เรียบร้อยเหมาะสม
อธิกรณ์ หมายถึงสาเหตุ คดีเรื่องราว ปัญหา ความยุ่งยาก กิจกรรมที่เกิดขึ้นในหมู่สงฆ์
ที่สงฆ์ต้องจัดการสะสางหรือดำเนินการทำให้สงบหรือเป็นไปด้วยดี


อธิกรณ์ ในพระวินัยมี ๔ เรื่อง คือ เป็นชื่อแห่งเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องจัดต้องทำให้ลุล่วงไป
มี ๔ ประการ คือ

๑. วิวาทาธิกรณ์ คือวิวาท ได้แก่การเถียงกันปรารภพระธรรมวินัยนี้ จะต้องได้รับชี้ขาดว่าถูกว่าผิด
หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นการถกเถียงกันด้วยเรื่องพระธรรมวินัย
๒. อนุวาทาธิกรณ์ คือ ความโจทกล่าวหากันด้วยปรารภพระธรรมวินัยนี้จะต้องได้รับชี้ขาดว่าถูกว่าผิด
หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นการถกเถียงกันด้วยเรื่องอาบัติ
๓. อาปัตตาธิกรณ์ คือ กิริยาที่ต้องอาบัติหรือถูกปรับอาบัตินี้จะต้องทำคืน คือทำให้พ้นโทษ
หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นการถกเถียงกันด้วยเรื่องการปรับอาบัติและวิธีการออกหรือพ้นจากอาบัติ
๔. กิจจาธิกรณ์ คือกิจธุระที่สงฆ์จะพึงสามัคคีร่วมกันทำ เรียกว่า สังฆกรรม เช่นให้อุปสมบทนี้จะต้องทำให้สำเร็จ

สรุปว่าธรรมที่ท่านนำมาสอนมันผิดในตัวบุคคล ผิดสถานที่มั้ยครับท่าน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร