ผมอ่านประวัติพระสงฆ์ของบ้านเรา ลงไปได้ชั้นที่มีกะทะทองแดง มีบ่อน้ำร้อนมาลวก คือถอดจิตลงไป เช่นหลวงตาบัวท่านลงไปช่วยโยมบิดา

แ้ล้วสามารถลงไปได้ลึกกว่านี้ไหมครับ

ดูก่อนท่านทั้งหลาย.......................

จิตแห่งธรรมตั้งใจไว้ณ.ที่แห่งใด จิตก็จะไปในที่แห่งนั้น
เปรียบเสมือนการส่งจดหมาย ส่งให้ที่ไหน ก็ต้องถึงที่จ่าหน้าไว้
ท่านเอ๋ย...................พึงปฏิบัติเทอญ แล้วจะรู้ว่าเป็นเช่นใด.

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม.................

ใครกลั่นหายใจได้นานกว่า..คนนั้นก็จะดำน้ำได้ลึกกว่า..
นี้มันเรื่องของโลก..

นรกลึก..นรกตื้น..มันแค่สมมุติให้คนในโลก..เข้าใจแบบสมมุติเปรียบเทียบ..นะครับ

ของจริง..ไม่ได้มีตำแหน่ง..มีระยะ..แยกกันเป็นขั้นเป็นชั้น..หรอกครับ..มันต่างกันที่สภาวะ

เรื่องที่ควรจะสนใจกว่า คือทำอย่างไรถึงจะปิดทางลงไปนรกไม่ว่าขุมไหนก็ตาม

สมมุติมีเหตุต้องลงไปช่วยวิญญาณคุณพ่อของพี่ที่ลงนรก พี่จะไปใหมครับ เหมือนที่หลวงตาบัวท่านลงไปช่วยพ่อ

แล้วถ้าคิดแบบนี้ ก็ต้องบอกด้วยว่าต้องไปปิดทางไปสวรรค์ด้วย เพราะสวรรค์ก็คือกิเลสอย่างละเอียด ส่วนนรกกิเลสอย่างหยาบ

ทางไปสวรรค์ เป็นกรรมขาว เป็นส่วนของจิตเปนกุศล ถึงแม้ว่าไม่ต้องไปปิด ก้ไปยากอยู่แล้ว
ไม่ของง่าย และก้ไม่ใช่ของยากแต่ถ้าไม่ทำก้ไปไม่ได้ ส่วนอบายภูมิทำตามอำนาจกิเลสตัณหา
กามราคะ ภวตัณหา วิภวตัณหา เมื่อทำผิดก้ทำให้จิตใจเศร้าหมองมีหนทางแห่งทุคติเปนที่ไปแน่นอน

ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าฌานแก่กล้าจริงน่าจะลงได้ถึงอเวจีมหานรก แต่ว่าคงอย่ได้แปปเดียวเพราะไฟนรกร้อนแรงมาก
ต้องฌานที่เข้าขั้นเปนพระอรหันต์แล้วถึงจะสามารถลงไปขุมต่อขุมไหนเท่าที่ใจปรารถนาอย่างนี้ถึงจะทำได้

จริงๆจะช่วยญาติที่ตกนรก เราต้องทำบุญทำทานในระดับที่เปนมหากุศลก้พอจะช่วยได้ หรือให้ดีกว่านั้นก้คือ
รักษาศีล8 แล้วสวดมนต์ทุกวัน สวดเสร็จให้ทำสมาธิในท่าไหนก้ได้จนกระทั่งจิตสงบ เมื่อถอนสมาธิออกมาจิตสบายแล้วก้ให้แผ่เมตตาแก่ญาติผู้นั้น เท่านี้ก้ช่วยได้เช่นกันและดีด้วย

.."กราบพระเป็น สวดมนต์เป็น รักษาศีลเป็น ทำจิตสงบเป็น แผ่เมตตาเป็น จะช่วยญาติที่ตกนรกได้ครับ

เข้าฌานไปไหนไม่ได้เลยนะ.....นั่งตัวแข็งทื่ออยู่กลางลานนั่นแหละ อิอิ

ขอบคุณครับ แต่เรื่องอุทิศบุญกุศลไปให้ในนรก แล้วเขาจะอนุโมทนารับบุญอย่างไรครับ ในเมื่อจิตถูกทรมานแบบไม่มีวินาทีพักผ่อนเลย

ดูก่อนท่านทั้งหลาย..........................

นรก..นั้นความผิด ความร้อน ความเจ็บ ความปวด ความทรมาณ ทั้งหลายเหล่านี้แล
ล้วนเป็นของบุคคลคนๆนั้นที่ได้กระทำบาปไม่มีผู้ใดรับแทนได้ โอนก็ไม่ได้
ส่วนในบุญกุศลที่ตัวท่านให้เขาเหล่านั้นก็ช่วยได้ในส่วนหนึ่งเสมือนลมที่พัดต้องกายเท่านั้นเอง...........
ขอให้ท่านทั้งหลายพึงได้รู้ อย่าพึงกระทำบาปเลย.

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม.............

สวัสดีค่ะ คุณแม่จริม

จิต มีธรรมชาติเป็นพลังงานชนิดหนึ่งที่มีความเป็นอมตะเป็นพลังงานที่เกิดดับเร็วที่สุด
มีความถี่ช่วงคลื่นสั้นที่สุด เคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดไม่มีสิ่งกีดขวางใด สามารถขวางกั้นการเดินทาง
ของจิตได้
จิตที่พัฒนาดีแล้ว สามารถแสดงปาฏิหาริย์ได้
1.อิทธิปาฏิหาริย์ แสดงฤทธิ์ได้
2.อาเทศนาปาฏิหาริย์ รอบรู้กระบวนการของจิต อ่านความคิดและรู้อุปนิสัยของผู้อื่นได้
3.อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คำสอนที่มีผลจริงเป็นอัศจรรย์ สามารถปริวรรตจิตวิญญาณของมนุษย์
และเทวดา จากความเป็นปุถุชนให้เป็นอริยบุคคลได้

"มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา"
จิตเป็นรากฐานของสิ่งทั้งหลายจิตประเสริฐ กว่าสิ่งทั้งหลาย สิ่งทั้งหลายสำเร็จด้วยจิต

ดังนั้นการเดินทางของจิตโดยใช้อิทธิปาฏิหาริย์นั้นน่าจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของจิต
ว่าจิตนั้นพัฒนาดีแล้วถึงขั้นใด

ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม