วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 03:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2011, 06:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในปัจจุบันนี้ วัดในประเทศไทยมีเยอะ สำนักสงฆ์ก็มาก แนวทางการสอนเหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง แต่ที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ก็คือ ธรรมกาย สันติอโศก จนบัดนี้ยังหาข้อยุติไม่ได้ เพราะต่างก็มีผู้นับถือศรัทธา มีลูกศิษย์จำนวนมาก

ในอนาคตหากเมืองไทยมี ๑๐ สำนักพระภิษุณี จาก ๑๐ นิกาย ๑๐ ประเทศ เพิ่มขึ้นมา แนวทางการสอนย่อมต้องแตกต่างกันไป แต่ละสำนักต่างก็ต้องมีลูกศิษย์มีผู้สนับสนุนที่พร้อมจะเชิดชูอาจารย์ตนเหนือกว่าสำนักอื่นๆ ซึ่งต่อไปก็จะมีการเปรียบเทียบว่า พระวัดนั้นสอนไม่ดี หลวงปู่ฯ หลวงตาฯ วัดนั้นสอนไม่เป็น

สำนักนั้นนิกายนั้นทำผิดพระวินัย สู้สำนักภิกษุณีนี้ไม่ได้ สำนักภิกษุณีนิกายนี้จากประเทศนั้นสอนไม่เห็นได้เรื่อง สู้หลวงตาวัดนั้นไม่ได้ สู้สำนักภิกษุณีนี้ไม่ได้ ความขัดแย้งจะกระจายจากลูกศิษย์สู่สำนัก

ความขัดแย้งเหล่านี้ย่อมนำมาซึ่งวาทกรรม ยกย่องสำนักตน เหยียบย่ำสำนักอื่น กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างสำนัก ระหว่างนิกายไป และในอนาคตเราคงได้เห็นพระภิกษุกราบไหว้พระภิกษุณียกย่องเป็นพระอาจารย์ ฯลฯ

ความหวังดี ปรารถนาดีต่อพระธรรม ต้องการเชิดชูพระศาสนาให้แพร่หลายกว้างไกล เป็นจิตที่มีกุศลเป็นความดี แต่ว่าเมื่อเทียบกับผลที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าแล้วน่ากลัวกว่า เป็นความวุ่นวาย ลดทอนอายุของศาสนา เป็นอันตรายต่อพระสัทธรรมอย่างแท้จริง

เพื่อป้องกันพระสัทธรรม พระองค์จึงได้บัญญัติพระวินัยไว้ให้พุทธบริษัททั้ง ๔ ประพฤติปฏิบัติตาม ผู้ไม่ปฏิบัติตามย่อมเศร้าหมอง จิตที่เศร้าหมอง ย่อมไม่สามารถบรรลุคุณธรรมวิเศษอันเยี่ยมของพระพุทธศาสนาได้

แม่ชีในยุคปัจจุบันและเป็นที่รู้จักกันทั่วไป คือ แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ ลูกศิษย์หลวงปู่มั่นและหลวงตามหาบัว นั่นเอง

การรักษาพระศาสนานั้น ต้องอาศัยปัญญาเป็นสำคัญ เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาของปัญญา
ฝากให้ผู้ที่หวังดีปรารถนาดีต่อพระพุทศาสนาทุกท่านไว้ ให้คิดให้พิจารณา เป็นความคิดเห็นเฉพาะตัว ...ขอรับ :b8:

อานิสงส์ของพระวินัย อ่านที่นี้ครับ..ขอโมทนา :b8:
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=36150

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2011, 02:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่าความสงบเรียบร้อยจะรักษาไม่ว่าจะพุทธศาสนาแต่รวมไปถึงคนทั้งโลก

กิเลสที่เกิดขึ้นเพราะมีอวิชชาเป็นเกาะ

เมื่ออวิชชายังไม่หมดสิ้นไปก็ไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ที่มีความสงบ

เป้าหมายสูงสุดของเราคือความดับไปของอวิชชา นี่นคือเป็นปัญญาที่จะรักษาตัวเราให้รอดพ้นจากกระแสแห่งโลก

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2011, 07:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าจะพูดถึงเรื่องกิเลสในทางปฏิบัติแล้ว มันก็คือสังโยชน์10
กิเลสที่ว่านี้เราๆท่านๆคงรู้อยู่แล้วว่ามีอะไรบ้าง แต่มีอยู่ตัวหนึ่งเป็นกิเลสใน5ตัวสุดท้ายที่
อริยบุคคลขั้นพระอนาคามี ยังไม่สามารถละได้นั้นคือ มานะ

คนเป็นปุถุชนคนธรรมดา ฟังแล้วอาจเข้าใจว่า มานะก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
ขนาดพระอนาคามียังละไม่ได้ ใช่ครับมานะไม่เลวร้ายเท่าไร ถ้าเป็นมานะของอริยบุคคล
ที่ว่ามานะของอริยะไม่เลวร้าย ก็เพราะ เหล่าอริยบุคคลนั้น ปราศจากกิเลสตัวต้นๆแล้ว
มันก็เหมือนมีเชื้อไฟแต่ไม่มีไฟ มันไม่สามารถเผาไหม้อีกต่อไป

มานะของอริยบุคคลกับของปุถุชน เป็นตัวเดียวกัน
แต่ความร้ายกาจผิดกัน ไอ้ตัวมานะที่อยู่ในปุถุชนมันจะบงการกิเลสตัวอื่นๆให้
แสดงอาการออกมาในรูปแบบต่างๆ อย่าลืมครับว่า ปุถุชนยังมีกิเลสอยู่พร้อมมูล
ขอยกตัวอย่างมานะบางตัวให้ดูครับ คนที่มีมานะเมื่อรู้อะไรเป็นอะไรสักอย่าง
ก็จะยึดว่าดีกว่า สูงกว่า และจะมีอาการเหยียดหยามคนอื่นที่รู้หรือมีความดีที่ น้อยกว่า
มากกว่าหรือเสมอตนครับ

ที่ว่ามานะสามารถบงการกิเลสตัวอื่นเกิดเป็นการกระทำ อย่างเช่น ยกตนข่มท่าน
เหยียดหยามและกล่าวหาคนที่ไม่เหมือนตน พยายามให้อีกฝ่ายเป็นมารตัวเองเป็นพระ
ที่สำคัญมานะของปุถุชน สามารถทำลายล้างในสิ่งที่ตนไม่เห็นด้วย โดยอาศัยวิธีการต่างๆ
ที่เห็นอยู่บ่อยๆก็คือ เอาเหตุตามใจตัวเองแล้วตั้งเป็นกฎไปทำร้ายทำลายผู้อื่น

ที่สำคัญปุถุชนที่มีมานะ จะหลงไปว่า ตัวเองดีวิเศษวิโสกว่าคนอื่น
ผู้คนจะมองตัวเองในทางเกรงใจ ยกย่อง เป็นผู้ดี
แต่หาใช่เช่นนั้นไม่ สิ่งต่างที่เป็นอย่างนี้เพราะกิเลสมาบังตา
ทำให้ไม่รู้ว่า สิ่งที่ตัวแสดงออกไปคนอื่นเขารู้และดูออกครับ

มันมีตัวอย่างครับที่รู้ๆหาดูได้จากกระทู้นี้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2011, 07:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
ในปัจจุบันนี้ วัดในประเทศไทยมีเยอะ สำนักสงฆ์ก็มาก แนวทางการสอนเหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง แต่ที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ก็คือ
ธรรมกาย สันติอโศก จนบัดนี้ยังหาข้อยุติไม่ได้
เพราะต่างก็มีผู้นับถือศรัทธา มีลูกศิษย์จำนวนมาก

ท่านวิริยะครับ เรื่องความขัดแย้งนี้ผมว่า ถ้าเราจะมองแบบใช้ปัญญาแบบที่จั่วไว้ในหัวข้อกระทู้
เราต้องดูว่าความขัดแย้งการแสดงวิวาทะ มันเกิดที่ไหนและกับใครครับ มันล้วนแล้วเกิดกับชาวบ้าน
หรือฆราวาส ที่ว่าขัดแย้งไม่ได้กิดจากนักบวชที่ว่าดังนี้ เพราะท่านเหล่านั้นไม่ได้มาแสดงอาการดังว่า
ผมเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ที่ปุถุชนจะมาถกเถียงกัน มันก็เป็นของมันแบบนี้ มาแต่ไหนแต่ไร
คนดีเถียงกันเรื่องใครดีกว่า คนชั่วเถียงกันเรื่องใครชั่วกว่า สิ่งที่ว่านี้สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีกฎห้าม
หรือห้ามแต่เขาจะทำเสียอย่างก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะเขาเป็นปุถุชน
ถามหน่อยครับ ถ้าท่านเห็นคนชั่วมาเถียงกันเรื่องคนดี คนถือศีลห้ามาเถียงกันถึงเรื่อง
คนถือศีลสอง-สามร้อยข้อ ดูแล้วมันน่าชวนหัวมั้ยครับ

สรุปก็คือเราไปยึดถือในเรื่องที่มันไม่ใช่สาระในตัวครับ
เหมือนอาแปะข้างบ้าน แกว่าหลานตัวเล็กๆของแกว่า
บอกว่าพูกให้ชักๆ มังไม่ล่ายลั่งจายเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2011, 10:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
การรักษาพระศาสนานั้น ต้องอาศัยปัญญาเป็นสำคัญ เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาของปัญญา
ฝากให้ผู้ที่หวังดีปรารถนาดีต่อพระพุทศาสนาทุกท่านไว้ ให้คิดให้พิจารณา เป็นความคิดเห็นเฉพาะตัว ...ขอรับ :b8:

อานิสงส์ของพระวินัย อ่านที่นี้ครับ..ขอโมทนา :b8:
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=36150

การรักษาศาสนาต้องใช้ปัญญา ถูกครับ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของปัญญา ผิดครับ
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ต้องปฏิบัติให้เกิดปัญญาครับ
ถ้านับถือแต่ไม่เข้าใจด้วยเหตุและผล มันก็ไม่ใช่ปัญญาครับ


การรักษาพุทธศาสนาด้วยปัญญาก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า
การจะรักษาสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้ ให้อยู่ในสภาพเดิมๆ
เราต้องรู้จักและเข้าใจในสิ่งที่รักษาเป็นอย่างดีเสียก่อน
ไม่ใช่ว่าตัวเราเองก็ยังไม่รู้ไม่เข้าใจในสิ่งนั้นๆ หรือเข้าใจในสิ่งที่จะรักษาผิดไปจากเดิม
แล้วมาบอกว่า เราต้องรักษาพุทธศาสนาไว้ตามความเข้าใจผิดๆของตัวเอง

พุทธบริษัทสี่ พระพุทธองค์ทรงแยกแยะไว้ว่า ใครอยู่ในสถานะใด
และใครควรปฏิบัติอย่างไร พระภิกษุภิกษุณีก็เป็นนักบวช อุบาสกอุบาสิกาเป็นฆราวาส
ซึ่งนักบวชและฆราวาท มีแนวทางปฏิบัติและกฎข้อห้ามที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ดูได้จากพระพุทธองค์ทรงกำหนดไว้ว่า พระวินัยเป็นของพระสงฆ์ ศีลเป็นของฆราวาส
พระพุทธองค์ทรงกำหนดไว้ตายตัวเลยว่า พระวินัยถ้าเป็นสงฆ์ต้องทำ
แต่ศีลพระองค์ทรงแค่ชี้แนวทางให้ฆราวาสควรจะปฏิบัติไม่ทรงบังคับ เพียงแต่บอกว่า
เมื่อทำไปแล้วจะเกิดผลอย่างไร

เข้าประเด็นนะครับ คุณจขกท.ครับ เห็นคุณแสดงความเห็นเรื่องปัญญา
ผมใคร่ขอถามหน่อยครับ ที่คุณอ้างถึงอานิสงส์ของพระวินัย เหมือนกับจะชี้นำให้ศึกษาและปฏิบัติ
ถามจริงครับมันเกี่ยวอะไรกับสมาชิกในนี้ครับ หรือคุณเข้าใจว่าพวกผมหรือเพื่อนสมาชิก
เป็นพระสงฆ์กันครับ พระวินัยเขาไว้ใช้กับสงฆ์ครับ คุณว่ามันผิดที่ผิดทางหรือเปล่าครับ

สรุปว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเราเลยครับ ไอ้ที่ทะเลาะกันอยู่นี้ มันไม่ใช่เพราะการไปเอาสิ่งที่
ไม่เกี่ยวข้องกับเราทั้งทางโลกและธรรม มาทำให้มันมีเรื่องหรือครับ ต้องดูใหม่นะครับว่า
กำลังรักษาหรือกำลังทำลาย

นี่ไงครับผมถึงได้บอกว่า การจะรักษาสิ่งใดไว้เจ้าตัวจะต้องรู้และเข้าใจ
สิ่งนั้นเป็นอย่างดีแล้ว ไม่ใช่ตัวเองยังเข้าใจผิดอยู่แล้วมาชักนำให้คนอื่น กระทำในสิ่งที่ผิดครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร