วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 04:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2011, 14:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.พ. 2011, 13:22
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


กราบนมัสการพระคุณเจ้า และสวัสดีพี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิกทุกคนครับ ผมเพิ่งสมัครที่เว็บบอร์ดนี้ และเป็นโพสแรกครับ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวผมชื่อ "นพพล" ปัจจุบันอายุ 28 ปี เป็นคนพิการมาตั้งแต่กำเนิดครับ แขนซ้ายจะสั้นกว่าปกติ และไม่มีนิ้วโป้งด้านซ้ายครับ แต่ทำอะไรเช่นคนปกติได้ทุกอย่างครับ
ผมยังไม่เคยบวชครับเนื่องจากเข้าใจว่าคนพิการไม่สามารถบวชได้ และคุณพ่อ-คุณแม่ ท่านก็ได้พูดอยู่เสมอว่าถ้าเราทำตัวดีเป็นคนดี ไม่ทำให้ท่านต้องเดือดร้อนใจ ก็ถือเป็นกุศลแล้วก็เลยไม่ได้คิดเรื่องการบวชสักเท่าไร จนมาวันหนึ่งเกิดความผิดพลาดในการดำรงชีวิต รู้สึกเสียใจมากกับผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำโดยไม่ยั้งคิด แต่ก็ยังดีที่มีคุณพ่อ-คุณแม่ที่ยังคอยปลอบใจและให้สติเราว่า "เราน่ะมีความรู้ความสามารถ แต่จะทำอะไรให้ใช้สติ" ผมจึงคิดได้ว่า ผมมีวิชาความรู้ที่ได้จากการร่ำเรียน ใช้เพื่อประกอบอาชีพ ดำรงเลี้ยงชีพ แต่บางครั้งก็ยังขาด สติ สมาธิ อยู่มาก จึงประสงค์ที่ต้องการจะบวชเพื่อศึกษา ฝึกฝน บังคับตนให้อยู่ในสติ สมาธิ ละซึ่งกิเลส เพื่อที่จะนำมาใช้ในการดำรงชีวิตในภายภาคหน้า ก็เลยอยากจะทราบความเห็นว่าผมคิดอย่างนี้ผิดหรือไม่ครับ แล้วจากลักษณะของผมแล้ว บวชได้หรือไม่ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2011, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7880

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


dynamic เขียน:
ผมชื่อ "นพพล" ปัจจุบันอายุ 28 ปี เป็นคนพิการมาตั้งแต่กำเนิดครับ แขนซ้ายจะสั้นกว่าปกติ และไม่มีนิ้วโป้งด้านซ้ายครับ แต่ทำอะไรเช่นคนปกติได้ทุกอย่างครับ...แล้วจากลักษณะของผมแล้ว บวชได้หรือไม่ครับ


สามารถบวชพระได้ค่ะ
ความบกพร่องทางกายตามที่กล่าวมา
ไม่น่าจะเป็นอุปสรรคต่อการบวชแต่อย่างใดค่ะ


ขอให้ศึกษาเพิ่มเติมจากข้อมูลข้างล่างนี้นะค่ะ...


รูปภาพ

• เมื่อคิดจะบวช •

คุณสมบัติของผู้ที่จะบวชได้
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7819

การเตรียมตัวก่อนบวช
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7818

พิธีการบวชแบบมหานิกาย
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7817

พิธีการบวชแบบธรรมยุต
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7816

บทบัญญัติข้อห้ามและศีลของสมณเพศ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7813

บทกิจวัตร แสดงอาบัติ ลาสิกขา
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7810

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2011, 14:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7880

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


dynamic เขียน:
...ผมมีวิชาความรู้ที่ได้จากการร่ำเรียน ใช้เพื่อประกอบอาชีพ ดำรงเลี้ยงชีพ แต่บางครั้งก็ยังขาด สติ สมาธิ อยู่มาก จึงประสงค์ที่ต้องการจะบวชเพื่อศึกษา ฝึกฝน บังคับตนให้อยู่ในสติ สมาธิ ละซึ่งกิเลส เพื่อที่จะนำมาใช้ในการดำรงชีวิตในภายภาคหน้า ก็เลยอยากจะทราบความเห็นว่าผมคิดอย่างนี้ผิดหรือไม่ครับ


การมีความคิดตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นความคิดที่ดี ไม่ผิดหรอกค่ะ
แต่ขอให้พิจารณาเลือกวัดที่เราจะไปบวช-ครูบาอาจารย์ ให้ดีๆ
โดยขอให้เป็นวัดที่เอื้อต่อการบวชเรียน การปฏิบัติ และฝึกฝนตนนะค่ะ


เคยเห็นหลายท่าน เลือกที่จะบวชที่วัดใกล้บ้าน
เมื่อบวชเสร็จแล้ว ก็ขออนุญาตพระอุปัชฌาย์
ไปจำพรรษา-ปฏิบัติยังวัดที่ตนเลือกไว้ ในภายหลัง


จะขอแนะนำวัด 2 แห่งดังนี้ค่ะ

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2011, 14:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7880

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


*** วัดแห่งที่ 1 ***

รูปภาพ
ศาลาปฏิบัติธรรม สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต (หินกอง)
............................................................................



สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต (หินกอง)
หมู่ 1 สี่แยกหินกอง บนเขาเทพพนมยงค์
ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี 18230
โทรศัพท์ 036-379-428, 036-305-239


พระสุนทรธรรมภาณ (พระอาจารย์สมชาติ ธมฺมโชโต) ประธานสงฆ์

เมื่อปี พ.ศ. 2542 สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต ได้รับแต่งตั้งจากกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็น ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติประจำจังหวัดสระบุรี และเป็นสำนักฯ ที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามแนวนโยบายของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

แนวปฏิบัติ : เน้นให้ผู้ฝึกมีสติรู้ในอิริยาบท ภาวนาเจริญสติกำหนดในกายตน-จิตตน มองทุกอย่างให้เห็นว่าศีลอยู่ตรงไหน ศีลคืออะไร สมาธิจิตคืออะไร จิตสงบอย่างไร เป็นปัจจัตตัง เป็นจุดที่ต้องหาเหตุ

สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต ตั้งอยู่บนเขาเทพพนมยงค์ เส้นทางไปนครนายก ห่างจากสี่แยกหินกองประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวขวาก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ปตท. ทั้งนี้ จะมีรถบัสรับ-ส่งสาธุชนที่จะมาปฏิบัติธรรม ณ สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต ทุกๆ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 06.30 น. โดยรถบัสจะจอดรับในจุดดังต่อไปนี้

(1) อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้าร้านเซเว่น อีเลฟเวน ฝั่งรพ.พระมงกุฎฯ ตรงข้าม รพ.ราชวิถี
(2) หน้า ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน ด้านถนนพหลโยธิน
(3) ป้ายรถเมล์ตรงข้ามห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
(4) เฉพาะทุกวันอาทิตย์ เพิ่มรถรับ-ส่ง อีก 2 ที่ คือ
-- ตึกเหลือง วัดมหาธาตุ ตรงข้ามสนามหลวง
-- ป้ายรถเมล์หน้าห้างคาร์ฟูร์ บางใหญ่

เที่ยวกลับ.....รถออกจากสำนักฯ เวลา 15.50 น.

ทางสำนักฯ ได้จัดปฏิบัติธรรมอบรมภาวนาทุกวันเสาร์-อาทิตย์ สำหรับในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและวันสำคัญของชาติ อาทิเช่น วันมาฆบูชา, วันวิสาขบูชา, วันอาสาฬหบูชา, วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ, วันสงกรานต์ และวันปีใหม่ ฯลฯ จะมีการจัดอบรมฝึกวิปัสสนากรรมฐาน บวชชีพราหมณ์ บวชเนกขัมมะ (ศีล 8) สัมมาปฏิบัติ โดยจัดอบรมและปฏิบัติธรรมตลอดทั้งปีอย่างต่อเนื่อง

สภาพแวดล้อมและสถานที่ภายในสำนักฯ มีความสัปปายะ ปลอดภัย สะอาด สงบเย็น สงบเงียบ ร่มรื่น เป็นระเบียบเรียบร้อย ศาลาที่พักแยกเป็นสำหรับอุบาสก-อุบาสิกาต่างหากจากกัน ห้องน้ำสะอาด ปัจจุบันนี้ วันธรรมดาจะมีสาธุชนไปบวชปฏิบัติธรรม ในแต่ละวันประมาณ 100 กว่าคน (สำหรับคนทำงาน เราสามารถจะไปบวชวันเสาร์ แล้วลาบวช-กลับบ้านวันอาทิตย์ ทำแบบนี้ก็ได้)

ข้อวัตรที่ต้องปฏิบัติประจำวัน

วันจันทร์ - วันศุกร์
-- เวลา 03.30 - 05.30 น. ทำวัตรเช้า และปฏิบัติธรรม
-- เวลา 08.30 น. ช่วยกันทำความสะอาดศาลา ห้องน้ำ อาสนะ เสื่อ หมอน และผ้าห่ม ฯลฯ
-- เวลา 13.00 - 15.00 น. ปฏิบัติธรรม
-- เวลา 18.00 - 21.00 น. ทำวัตรเย็น และปฏิบัติธรรม

วันเสาร์ - วันอาทิตย์ และวันสำคัญต่างๆ ที่จัดปฏิบัติธรรม
-- เวลา 03.30 - 06.00 น. ทำวัตรเช้า และปฏิบัติธรรม
-- เวลา 09.00 - 11.00 น. ปฏิบัติธรรม
-- เวลา 13.00 - 15.30 น. ปฏิบัติธรรม
-- เวลา 18.00 - 21.00 น. ทำวัตรเย็น และปฏิบัติธรรม

ต้องขึ้นศาลาทำวัตรเช้า-เย็น และขึ้นปฏิบัติธรรมตามเวลาที่กำหนด
หากมีเหตุจำเป็นสุดวิสัย ไม่สามารถปฏิบัติได้ ขอให้แจ้งเจ้าเหน้าที่ทราบทุกครั้ง

*** ควรขึ้นศาลาก่อนถึงเวลาปฏิบัติธรรม ***

รูปภาพ
สาธุชนขณะปฏิบัติธรรมภายในศาลาปฏิบัติธรรม
สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต (หินกอง) จ.สระบุรี


รูปภาพ
สถานที่สำหรับนั่งสมาธิ-ทางเดินจงกรม ภายในสวนหย่อมอันร่มรื่น
ด้านข้างศาลาปฏิบัติธรรม สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต (หินกอง)

............................................................................



ระเบียบปฏิบัติสำหรับผู้ต้องการมาปฏิบัติธรรมถือบวชเนกขัมมะ

1. ผู้ที่มีความประสงค์จะอยู่ปฏิบัติธรรม ถือบวชเนกขัมมะ ให้แจ้งความประสงค์ที่จะขอบวช
ได้ที่เจ้าหน้าที่ของสำนักฯ ณ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 2 ศาลาบุญ และลงทะเบียนในแบบฟอร์มที่กำหนดให้
โดยต้องมีหลักฐานคือ บัตรประชาชนหรือบัตรข้าราชการหรือสำเนาทะเบียนบ้าน

2. อนุญาตให้อยู่ปฏิบัติธรรมได้ครั้งละไม่เกิน 9 วัน หากมีความประสงค์จะอยู่ต่อต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ของสำนักฯ
ให้ทราบล่วงหน้าก่อนครบกำหนด 1 วัน และจะพิจารณาอนุญาตให้อยู่ต่อเป็นรายๆ ไป ตามความเหมาะสม

3. ต้องเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ไม่วิกลจริต มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงช่วยเหลือตัวเองได้
ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เป็นโรคร้ายแรงหรือโรคติดต่อที่สังคมรังเกียจ

4. ต้องไม่เป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษทุกชนิด เช่น หมากพลู ยานัตถุ์ บุหรี่ สุรา ยาบ้า หรือยาเสพติดอื่นๆ

5. ห้ามนำเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด (เช่น กระติกน้ำร้อน วิทยุ เทป) มาใช้ในศาลา
ยกเว้น วิทยุซาวอเบาท์ และควรฟังเฉพาะรายการธรรม ห้ามฟังข่าวและเพลง

6. ห้ามนำของมีค่า และเครื่องรางของขลังทุกชนิดมาประดับตกแต่งร่างกาย

7. ต้องแต่งกายให้สะอาด สุภาพ เรียบร้อย ด้วยผ้าสีขาว

เพศหญิง

• นุ่งผ้าถุง หรือกระโปรงสีขาว ความยาวไม่น้อยกว่าครึ่งน่อง
• สวมเสื้อแขนยาว หรือครึ่งข้อศอก คอไม่กว้างเกินไป ถ้าผ้าบางควรสวมเสื้อซับในด้วย
• รวบผม หวีผม ให้ดูเรียบร้อย ไม่ควรปล่อยผมรุงรัง
• ไม่ควรนุ่งกางเกง ระหว่างขึ้นปฏิบัติธรรมบนศาลา

เพศชาย

• สวมกางเกงขายาวและเสื้อสีขาว ไม่ควรใช้ผ้าบางเกินไป

กฎระเบียบ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติขณะอยู่ปฏิบัติธรรม

1. ห้ามนำอาหาร และเครื่องดื่มทุกชนิด (ยกเว้น น้ำเปล่า) เข้าไปรับประทานในศาลาบุญโดยเด็ดขาด ให้รับประทานที่โรงทาน หรือในที่ที่สำนักฯ จัดไว้ให้ ควรสำรวมกาย วาจาและมีสติในขณะตักอาหารและรับประทานอาหาร ควรนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่มให้เรียบร้อย ไม่คุยกันในระหว่างรับประทานอาหาร

2. ควรสำรวมกาย วาจาและมีสติ ในขณะตักอาหารและรับประทานอาหาร
ควรนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่มให้เรียบร้อย ไม่คุยกันในระหว่างรับประทานอาหาร

3. ห้ามนำหนังสือพิมพ์ หรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ธรรมะมาอ่านในสำนักฯ โดยเด็ดขาด

4. ห้ามสูบบุหรี่ ดื่มสุรา กินหมาก เสพยาบ้า ยานัตถุ์ และสิ่งเสพติดทุกชนิด

5. ห้ามพูดคุยกันและสนทนาเสียงดังในระหว่างปฏิบัติธรรม ห้ามนำถุงพลาสติก (ถุงก็อบแก็บ)
ขึ้นบนศาลา และห้ามทำเสียงดังอื่นใด ที่อาจเป็นการรบกวนสมาธิผู้อื่นในขณะปฏิบัติธรรม

6. ห้ามนำของมาขาย บอกบุญเรี่ยไร ห้ามเป็นหมอดู หมอนวด
หมอเวทย์มนต์ เล่นไสยศาสตร์ ทรงเจ้าเข้าผี โดยเด็ดขาด

7. ห้ามซักเสื้อผ้าในห้องน้ำ ควรแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้องน้ำ ห้ามนุ่งกระโจมอก
หรือห่มผ้าสไบผืนเดียว หรือใส่เสื้อชั้นในตัวเดียวเดินในที่พัก บริเวณรอบที่พัก หรือบริเวณหน้าห้องน้ำ

8. ควรช่วยกันประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ ห้ามเปิดน้ำ-เปิดไฟทิ้งไว้ ให้ปิดไฟใต้ศาลาเวลา 22.00 น.
และเปิดไฟเวลา 03.15 น. ห้ามตั้งนาฬิกาปลุกก่อนเวลา 03.15 น. และหลังเวลา 22.00 น.
ควรรักษาความสงบ ห้ามพูดคุยและทำเสียงดังรบกวนผู้อื่น

9. ห้ามปัสสาวะหรืออุจจาระ และห้ามนำกระโถนมาปัสสาวะหรืออุจจาระในศาลาหรือบริเวณรอบๆ ศาลาโดยเด็ดขาด

10. ในระหว่างถือบวชเนกขัมมะ ห้ามออกนอกบริเวณสำนักฯ หรืออกไปนั่งคุยคลุกคลีที่ร้านค้า โดยไม่มีเหตุจำเป็น

11. เมื่อครบกำหนดการถือบวชเนกขัมมะแล้ว ต้องเก็บของใช้ส่วนตัวกลับให้หมด ห้ามทิ้งไว้ให้เป็นภาระผู้อื่น

12. ต้องเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ของสำนักฯ หากได้รับคำเตือน หากผู้ใดฝ่าฝืนกฎ ระเบียบ
และเห็นว่าเป็นเรื่องเสื่อมเสียต่อหมู่คณะ จะไม่อนุญาตให้อยู่ต่อโดดเด็ดขาด และต้องออกจากสำนักฯ โดยทันที

ปัจจุบันสำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต มีทั้งหมด 3 แห่งดังนี้

1. สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต (หินกอง)
หมู่ที่ 1 สี่แยกหินกอง ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี 18230
โทรศัพท์ 036-379-428, 036-305-239

2. สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต (วัดป่าสว่างวีรวงศ์)
บ้านสะพานโดม ต.แก่งโดม กิ่ง อ.สว่างวีรวงศ์ จ.อุบลราชธานี 34190
โทรศัพท์ 081-600-0848

3. สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต (สาขาปากช่อง)
หมู่ที่ 8 บ้านหนองตาแก้ว ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130
โทรศัพท์ 089-777-1625


เว็บไซต์สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต
http://www.sangdhamsongchevit.com/
http://www.sangdham3.com/

รูปภาพ
พระสุนทรธรรมภาณ (พระอาจารย์สมชาติ ธมฺมโชโต)


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

แผนที่สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต (หินกอง)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1387

ประวัติและปฏิปทาพระอาจารย์สมชาติ ธมฺมโชโต
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24981

รายการวิทยุธรรมะ (พระอาจารย์สมชาติ ธมฺมโชโต)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=5862

เสียงธรรมบรรยายพระอาจารย์สมชาติ ธมฺมโชโต
http://www.dhammajak.net/audio/dhamma/files/somchart.php

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2011, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7880

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


*** วัดแห่งที่ 2 ***

รูปภาพ
เจดีย์วัดหนองป่าพง
............................................................................



วัดหนองป่าพง
เลขที่ 46 หมู่ 10 บ้านพงสว่าง
ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี 34190
โทรศัพท์ 045-322-729, 045-268-084,
045-267-563, โทรสาร 045-268-084


พระราชภาวนาวิกรม (หลวงพ่อเลี่ยม ฐิตธมฺโม) เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน

พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท) อดีตเจ้าอาวาส


วัดหนองป่าพง ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุบลราชธานี แห่งที่ 1 ตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม โดยเป็นวัดป่าปฏิบัติสายพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)

รูปภาพ
หลวงพ่อชา สุภัทโท

รูปภาพ
หลวงพ่อเลี่ยม ฐิตธมฺโม

รูปภาพ
รอยมือ-รอยเท้าหลวงพ่อชา สุภัทโท


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ประวัติและปฏิปทาหลวงพ่อชา สุภทฺโท
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6753

รำลึกถึงอุปลมณี แก้วมณีแห่งเมืองอุบล (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=36250

จ.อุบลฯ จัดงานหลอมรวมศรัทธารำลึกหลวงพ่อชา สุภัทโท
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=36249

เว็บไซต์วัดหนองป่าพง
http://www.ajahn-chah.org/
http://www.watnongpahpong.org/

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

รูปภาพ
บรรยากาศงานรำลึกวันคล้ายวันมรณภาพหลวงพ่อชา สุภัทโท ในวันที่ ๑๖ ตุลาคม ของทุกปี

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2011, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7880

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขออนุญาตให้ข้อคิดก่อนจบสักนิดนะคะ

การจะมีโอกาสได้บวชในบวรพระพุทธศาสนา ไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้โดยง่าย
ดังนั้น เมื่อได้บวชเป็นพระภิกษุแล้ว ควรตั้งจิตตั้งใจ ตั้งสติให้ดี

:b8: ขอให้การบวช (แม้จะบวชชั่วคราวก็ตาม)
เป็นการบวชเรียนเพื่อฝึกฝนตน บวชเพื่อรักษาพระศาสนา
บวชเพื่อสืบต่ออายุพระศาสนา และบวชเพื่อปฏิบัติเจริญจิตตภาวนา
นะค่ะ


:b20: :b1: ขออวยพรให้คุณ dynamic โชคดี
พบแสงแห่งปัญญาในการดำเนินชีวิตสืบต่อไปด้วยค่ะ

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2011, 15:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.พ. 2011, 13:22
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคุณสาวิกาน้อยมากๆ เลยครับ สำหรับข้อมูลดีๆ และข้อคิดดีๆ ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2011, 15:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
เห็นภาพพระเถระ ศิษย์หลวงปู่ชาแล้วรู้สึกปีติค่ะ


สาวิกาน้อย เขียน:
ขออนุญาตให้ข้อคิดก่อนจบสักนิดนะค่ะ

การจะมีโอกาสได้บวชในบวรพระพุทธศาสนา ไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้โดยง่าย
ดังนั้น เมื่อได้บวชเป็นพระภิกษุแล้ว ควรตั้งจิตตั้งใจ ตั้งสติให้ดี

:b8: ขอให้การบวช (แม้จะบวชชั่วคราวก็ตาม)
เป็นการบวชเรียนเพื่อฝึกฝนตน บวชเพื่อรักษาพระศาสนา
บวชเพื่อสืบต่ออายุพระศาสนา และบวชเพื่อปฏิบัติเจริญจิตตภาวนา
นะคะ


:b20: :b1: ขออวยพรให้คุณ dynamic โชคดี
พบแสงแห่งปัญญาในการดำเนินชีวิตสืบต่อไปด้วยค่ะ

:b8: :b20: อ่านแล้วน้ำตาจะไหล
ขออนุโมทนาสาธุกับท่าน จขกท. และท่านสาวิกาน้อยค่ะ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2011, 00:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2011, 01:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


บวชแล้วไปเรียน ไม่ไม่ถูกต้องนะครับ บวชเรียนจริงๆ ไม่ควรจะมี ควรจะเรียนให้ดีก่อนไปบวช

พระสารีบุตรบอกว่า การได้บวชปฏิบัติในธรรมวินัยนี้เป็นเรื่องยากที่สุด ที่ยากไปกว่านั้นก็คือ การรักษาความบริสุทธิ์ในเพศสมณะเป็นเรื่องยากยิ่งกว่า โดยเฉพาะ ศีลใหญ่ ศีลหลวง หรือ ปาราชิกศีล ถ้าไม่ได้ศึกษาจนกระจ่าง บางรูป บวชวันแรกก็ปาราชิกแล้ว ....

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2011, 17:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2010, 08:25
โพสต์: 326


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: สาธุ สาธุ สาธุ ร่วมอนุโมทนาด้วยค่ะ
บวชได้ค่ะ ขอให้ตั้งใจปฏิบัตินะคะ
:b8: :b8: :b8:

อานิสงส์ของการบวชพระ

องค์สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสว่า การอุปสมบทบรรพชามีอานิสงฆ์พิเศษ ซึ่งสมเด็จพระบรมศาสดาตรัสว่า อานิสงส์อย่างอื่น มีการสร้างวิหารก็ดี การถวายสังฆทานก็ดี ทอดกฐินผ้าป่าก็ดี จัดว่าเป็นอานิสงส์สำคัญ แต่อานิสงส์นั้น บุคคลที่จะพึงได้ต้องโมทนาก่อน แต่ว่าการอุปสมบทบรรพชานี้แปลกกว่านั้น องค์สมเด็จพระทรงธรรมบรมศาสดาสัมมามัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า "สมมติว่าบุตรชายของท่านผู้ใดออกจากครรภ์มารดาวันนั้น บิดามารดาก็จากกัน ลูกกับพ่อแม่ย่อมไม่รู้จักกัน เวลาที่อุปสมบทบรรพชานั้น บิดามารดาไม่ทราบจึงไม่ได้โมทนา แต่บิดามารดาย่อมได้อานิสงส์นั้นโดยสมบูรณ์ การอุปสมบทบรรพชาจึงจัดว่าเป็นกุศลพิเศษ"

คำว่า "บรรพชา" หมายความว่า บวชเป็นเณร คำว่า "อุปสมบท" หมายความว่า บวชเป็นพระ

ท่านที่บรรพชาในพระพุทธศาสนาเป็นสามเณร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ท่านผู้บรรพชาเอง คือ เณร ถ้าประพฤติปฏิบัติดีก็เป็นการลงทุนซื้อสวรรค์ ถ้าปฏิบัติเลว การบวชพระบวชเณรก็ถือว่าเป็นการซื้อนรก ท่านที่บวชเป็นเณรเข้ามาในพระพุทธศาสนาแล้วประพฤติปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามระบอบพระธรรมวินัย สำหรับท่านผู้เป็นเณรนั้น ย่อมมีอานิสงส์ถ้าตายจากความเป็นคน ถ้าจิตของตนมีกุศลธรรมดา ไม่สามารถจะทรงจิตเป็นฌาน ท่านผู้นั้นจะเสวยความสุขบนสวรรค์ได้ถึง 30 กัป ถ้าหากว่าทำจิตของตนเกือบเป็นฌาน ได้ฌานสมาบัติ ตายจากความเป็นคนจะเกิดเป็นพรหม มีอายุอยู่ถึง 30 กัปเช่นเดียวกัน

อายุเทวดาหรือพรหมย่อมมีกำหนดไม่ถึง 30 กัป ก็หมายความว่า เมื่อหมดอายุแล้วก็จะเกิดเป็นเทวดาใหม่ เกิดเป็นพรหมใหม่อยู่บนนั้นไปจนกว่าจะถึง 30 กัปหรือมิฉะนั้นก็ต้องเข้าพระนิพพานก่อน
บิดามารดาของสามเณร ย่อมได้อานิสงส์คนละ 15 กัป ครึ่งหนึ่งของเณร

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสต่อไปว่า บุคคลผู้มีวาสนาบารมี คือมีศรัทธาแก่กล้า ตั้งใจอุปสมบทในพระพุทธศาสนาเป็นพระสงส์ แต่ว่าเมื่อบวชแล้วก็ต้องปฏิบัติชอบ ประกอบไปด้วยคุณธรรม คือ มีพระธรรมวินัยเป็นสำคัญ ท่านที่บวชเป็นพระด้วยตนเอง จะมีอานิสงส์อยู่เป็นเทวดาหรือพรหม 60 กัป บิดามารดาจะได้คนละ 30 กัป นี่เป็นอานิสงส์พิเศษ

แต่ทว่าภิกษุสามเณรท่านใดทำผิดบทบัญญัติในพระพุทธศาสนา ก็พึงทราบว่าเมื่อเวลาตายก็มีอเวจีเป็นที่ไปเหมือนกันอานิสงส์ที่พึงได้ใหญ่เพียงใดโทษก็มีเพียงนั้น

สำหรับผู้ที่ช่วยในการบวช การอุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนา คือบำเพ็ญกุศลร่วมกับเขา ด้วยจตุปัจจัยมากบ้างน้อยบ้าง ช่วยขวนขวายในกิจการงานในการที่จะอุปสมบทบ้าง อย่างนี้องค์สมเด็จพระบรมศาสดากล่าวว่า ท่านผู้นั้นจะมีอานิสงส์เสวยความสุขอยู่บนสวรรค์ หรือในพรหมโลกคนละ 8 กัป

อานิสงส์กุศลบุญบารมี ที่เราจะพึงได้สำหรับท่านผู้เป็นเจ้าภาพ ในฐานะคนที่บวชไม่ได้เป็นบุตรของเรา แต่ว่าเราเป็นผู้จัดการขวนขวายในการอุปสมบทบรรพชาให้ อันนี้องค์สมเด็จพระบรมศาสดากล่าวว่า ท่านผู้จัดการบวชจะได้อานิสงส์ 12 กัป จะมีผลลดหลั่นซึ่งกันและกัน

การที่นำเอาอานิสงส์บรรพชากุลบุตรกุลธิดาในพระพุทธศาสนามาแสดงแก่บรรดาท่านพุทธบริษัท เพราะเห็นว่าในเวลานี้ บรรดาพุทธบริษัททั้งหลายยังไม่ค่อยจะมีความเข้าใจคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในข้อนี้ อีกประการหนึ่ง การจะบวชลูกหลานเข้าไว้ในพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจจะเอาบุญ ถือทำกันตามประเพณีเป็นสำคัญ พอเริ่มการจัดงานก็มีการฆ่าไก่บ้าง ฆ่าปลาบ้าง ฆ่าหมูบ้าง ฆ่าวัวฆ่าควายบ้าง เอาสุราเบียร์เข้ามาเลี้ยงกันบ้าง ถ้าทำกันตามประเพณีแบบนี้ก็จะได้ชื่อว่า ไม่มีอานิสงส์กุศลบุญทานอะไรเลย เพราะมีเจตนาชั่ว คือเริ่มต้นก็ทำบาปก่อนแล้ว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า ถ้าจิตเป็นอกุศล กุศลใดๆ ที่ตนคิดว่าจะทำมันก็ไม่ปรากฏ
ฉะนั้น ในการใด ถ้าเราจะบำเพ็ญกุศลบุญทานให้ปรากฏเป็นผลดี ก็ขอให้การนั้นเป็นการที่บำเพ็ญกุศลจริงๆ จงเว้นกรรมที่เป็นอกุศลเสียให้หมด งดสิ่งที่เป็นความชั่วทุกประการ ตั้งใจไว้เฉพาะบำเพ็ญกุศลบุญทานเท่านั้น

กุลบุตรที่บวชในพระพุทธศาสนา ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ความผ่องใสของท่านผู้บวชก็มีขึ้น คือ จิตผ่องใสปราศจากอารมณ์ที่เป็นกิเลส ต่อมาปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือเจริญสมถกรรมฐานวิปัสสนากรรมฐาน จนอารมณ์ชื่นบานเข้าถึงธรรมปีติ คำว่า ธรรมปีติ หมายความว่า ยินดีในการปฏิบัติความดีในด้านพระธรรมวินัยอย่างหนึ่ง ยินดีในการเจริญสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา อานิสงส์กุศลบุญบารมีก็เกิดขึ้น

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเปรียบเทียบไว้ว่า ผู้ใดอุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนาแล้ว วันหนึ่งทำจิตใจว่างจากกิเลสเพียงวันละชั่วขณะจิตเดียว เวลานอกนั้นจิตก็ฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ต่างๆ แต่พยายามควบคุมกำลังใจไม่พลาดพลั้งจากพระธรรมวินัย ท่านผู้บวชเข้ามาแม้แต่วันเดียว ก็ย่อมมีอานิสงส์ดีกว่าพระที่บวชตั้ง 100 ปี มีศีลบริสุทธิ์ แต่ไม่เคยเจริญสมาธิจิต คือ ทำจิตว่างจากกิเลสวันหนึ่งชั่วขณะจิตเดียว มีรัศมีกายสว่างไสวกว่า

รวมความว่า การอุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนา ย่อมเป็นปัจจัยเข้าถึงพระนิพพาน และมีอานิสงส์เป็นสามัญผล คือผลที่เสมอกัน คนที่บวชในพระพุทธศาสนาจะลูกผู้ดีหรือยากจนเข็ญใจย่อมมีสิทธิเสมอกันในการทรงสิกขาบท และในการกำหนดจิตปฏิบัติสมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน

.....................................................
สุดปลายฟ้า... เชื่อมั่นและสัทธาในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ผู้รู้แจ้ง เห็นจริง ยึดถือพระองค์เป็นสรณะ อย่างไม่มีสิ่งใดเหนือกว่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2011, 17:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


๕. สิกขสูตร

[๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป ลาสิกขาสึกออกมาเป็นคฤหัสถ์ เธอย่อมถึงฐานะอันน่าติเตียน ซึ่งถูกกล่าวหาอันชอบแก่เหตุ ๕ประการในปัจจุบัน ๕ ประการเป็นไฉน คือ ท่านไม่มีแม้ศรัทธาในกุศลธรรม ๑ไม่มีแม้หิริในกุศลธรรม ๑ ไม่มีแม้โอตตัปปะในกุศลธรรม ๑ ไม่มีแม้ความเพียรในกุศลธรรม ๑ ไม่มีแม้ปัญญาในกุศลธรรม ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป ลาสิกขาสึกออกมาเป็นคฤหัสถ์ เธอย่อมถึงฐานะอันน่าติเตียน ซึ่งถูกกล่าวหาอันชอบแก่เหตุ ๕ ประการนี้แลในปัจจุบัน

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป แม้มีทุกข์ โทมนัส มีหน้านองด้วยน้ำตา ร้องไห้อยู่ ย่อมประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ เธอย่อมถึงฐานะอันน่าสรรเสริญที่ชอบแก่เหตุ ๕ ประการในปัจจุบัน ๕ ประการเป็นไฉน คือ เธอมีศรัทธาในกุศลธรรม ๑มีหิริในกุศลธรรม ๑ มีโอตตัปปะในกุศลธรรม ๑ มีความเพียรในกุศลธรรม ๑มีปัญญาในกุศลธรรม ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป แม้มีทุกข์โทมนัส มีหน้านองด้วยน้ำตา ร้องไห้อยู่ ย่อมประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ เธอย่อมถึงฐานะอันน่าสรรเสริญที่ชอบแก่เหตุ ๕ ประการนี้แลในปัจจุบัน

-----------------

ฯลฯ

ดูกรสุนักขัตตะ ก็ความตายนี้ในวินัยของพระอริยะ ได้แก่ลักษณะที่ภิกษุบอกคืนสิกขาแล้วเวียนมาเพื่อหีนเพศ ส่วนทุกข์ปางตายนี้ ได้แก่ลักษณะที่ภิกษุต้องอาบัติมัวหมองข้อใดข้อหนึ่ง ฯ

ฯลฯ

พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2011, 20:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


dynamic เขียน:
แล้วจากลักษณะของผมแล้ว บวชได้หรือไม่ครับ

โมทนาสาธุ..กับกุศลเจตนาด้วยนะครับผม.. :b8: :b8:

dynamic เขียน:
ก็เลยอยากจะทราบความเห็นว่าผมคิดอย่างนี้ผิดหรือไม่ครับ

อย่าไปกังวลไปให้มากเลยครับ...

ความถูกต้องของเด็ก ป. 1...อาจไม่ถูกต้องสำหรับเด็ก ม.6
ความถูกต้องของเด็ก ม.6....อาจไม่ถูกต้องสำหรับผู้ที่จะจบ ป.ตรี...
..ก็ได้..

สำหรับในชั้นของท่าน..จขกท...ขั้นนี้ก็ถือว่าถูกต้องดีแล้ว..ไม่ผิด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 17:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2011, 09:16
โพสต์: 158

แนวปฏิบัติ: พุธโท
งานอดิเรก: นั่งสมาธิ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปรัชญา
ชื่อเล่น: T^^T
อายุ: 23
ที่อยู่: ลำปาง

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามว่าบวชได้ไหมถ้าว่าตามพระวินัยไม่สามารถบวชได้ บวชได้แต่เณร แต่เนื่องจากในสมัยปัจจุบันด้วยความย่อย่อนพระวินัยก็บวชได้ตามปกติ แต่บางวัดอาจไม่ได้ เราเคยเห็นพระรูปหนึ่งท่านเก่งมาก แต่ไม่สามารถบวชพระได้เพราะแขนพิการสองข้าง ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละวัดว่าจะให้บวชหรอไม่ ยกตัวอย่างเช่น คนที่เป็นกระเทย ในพระวินัยบัญญัติไว้เลยว่าไม่สามารถจะบวชได้ แต่ในในปัจจุบันนี้ พระตุ๊ด เณรแต๋ว มีมากมาย แต่ถ้าเป็นวัดธรรมยุตจะไม่ให้บวช นอกจากพวกไม่แสดงอาการออกมา

.....................................................
ดูก่อu!!!ภิกษุทั้งหลาย!!!คนพาลเขากลัวยากจนจึงไม่รู้จักขวนขวายในการให้ทาน!!!ส่วนบัณฑิตชนเขากลัวยากจนจึงรู้ขวนขวายในการให้ทาน!!!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 19:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เป็นคนพิการมาตั้งแต่กำเนิดครับ แขนซ้ายจะสั้นกว่าปกติ และไม่มีนิ้วโป้งด้านซ้ายครับ แต่ทำอะไรเช่นคนปกติได้ทุกอย่างครับ


ก็ต้องถามคนจะบวชให้นั้นแหละครับว่า...แค่นี้เรียกว่าพิการแล้วหรือ???

แขนมี..ก็แค่สั้นกว่าอีกข้าง...นิ้วมี..แต่ขาดไปเล็กน้อย

ไม่ถึงกับแขนขาดสักหน่อย

ต้องให้ผู้จะบวชให้ตัดสินดีที่สุด...ถ้าว่าไม่..ก็ให้ไปหาผู้ตัดสินคนต่อไป... :b12:

ถึงที่สุด...หากไม่ได้บวชกาย...กระผมก็จะชวนท่านมาบวชใจกัน

ไม่ว่าจะครองความเป็นคนอยู่ในรูปกายหยาบ ๆ นี้ในลักษณะใด...ศีล..สมาธิ..ภาวนา..ก็ยังสามารถทำให้ท่านพ้นทุกข์ได้...ไม่มีเกี่ยงงอน

ท่านเชื่อหรือไม???

:b12: :b12:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร