วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 02:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 98 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2011, 16:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


แรกเริ่มฉันไม่มีเงินเลย

ปัจจุบันฉันมีเงิน

เงินเป็นสิ่งสมมุติ

เมื่อฉันไม่มีเงินฉันก็ไม่มีสิ่งสมมุติ


จึงขออนุมานว่า


เมื่อเราเกิด คือเกิดอัตตา

แต่อัตตาทั้งหลายเป็นอนัตตา

นิพพานเป็นสภาวะธรรมที่ไม่เกิดอีก

จึงไม่เป็นอัตตา

เมื่อไม่มีอัตตาก็ไม่มีอนัตตา



นิพพานเป็นธรรมธาตุ ไม่ใช่อัตตา และ อนัตตา

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2011, 23:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 21:59
โพสต์: 234

สิ่งที่ชื่นชอบ: ในตัวเอง
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพราะตีความหมาย คำว่าอนัตตาผิดๆ จึงมีความเข้าใจว่า นิพพาน ไม่ใช่อนัตตา

และเพราะยังไม่รู้จริงว่านิพพานแท้จริงนั้นเป็นอย่างไร จึงมีความเข้าใจว่านิพพานไม่ใช่ทั้งอัตตาไม่ใช่ทั้งอนัตตา

เพราะ เข้าใจสับสน ระหว่างสมมุติ และ สมมุติบัญญัติ จึงเอามาปนเปวกวนรวมกัน

เพราะห่างพระไตรปิฎก จึงมีความเห็นไปได้ว่า นิพพานไม่ใช่อนัตตา


:b41: :b41: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2011, 23:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 09:39
โพสต์: 219

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่พอจะทราบความได้ ก็มี
นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพพานัง ปรมัง สุญญัง
ก็ไม่เห็นจะปรากฏเป็นอื่นเสียอย่างใด

.....................................................
.................................................ธ ทรงครองแผ่นดินโดยทศพิธราชธรรม
........................................................พระปฐมบรมราชโองการว่า
.......................“ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม “

........................ขอพ่อเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญ มีพระชนย์มายุ ยิ่งยืนนาน พระพุทธเจ้าข้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2011, 23:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


สุญญัง นั่น สุญจากกิเลส only ! หรือผงดินธุลี จะหมายเอาว่า นิพพานสูญ :b32:

มิเช่นนั้น จักขัดกับอีกหลายๆพระสูตร

และเท่าที่อ่านในพุทธพจน์ กับคำสอนหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็ไม่ได้เจอ คำว่า นิพพาน เป็นอัตตา หรืออนัตตาแต่อย่างใด!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2011, 23:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 09:39
โพสต์: 219

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากรู้ก็ลองทายใจผมดูสิน่า ท่านหลับอยู่ :b1:

.....................................................
.................................................ธ ทรงครองแผ่นดินโดยทศพิธราชธรรม
........................................................พระปฐมบรมราชโองการว่า
.......................“ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม “

........................ขอพ่อเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญ มีพระชนย์มายุ ยิ่งยืนนาน พระพุทธเจ้าข้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2011, 00:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: ครั้งหนึ่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่ภูเขาคิชฌกูฏ กรุงราชคฤห์ฯ ครั้งนั้นพระองค์ได้ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า เราจักแสดงอปริหานิยธรรม ๗ ประการให้ฟัง เธอทั้งหลายจงตั้งใจฟังให้ดี เราจักแสดงให้ฟังในบัดนี้ฯ ภิกษุทั้งหลายก็ทูลรับว่า พระเจ้าข้าฯ สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า อปริหานิยธรรม ๗ ประการนั้น คือ ประการใดบ้าง คือภิกษุทั้งหลายจักประชุมกันเนืองๆ จักมากด้วยการประชุมตราบใด ต้องหวังได้ความเจริญอยู่ตราบนั้น ไม่มีความเสื่อมเลยฯ ภิกษุทั้งหลายจะพร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม พร้อมเพรียงกันทำสิ่งที่ควรทำตราบใด ต้องหวังได้ความเจริญอยู่ตราบนั้น ไม่มีความเสื่อมเลย ภิกษุทั้งหลายจักไม่บัญญัติสิ่งที่เราไม่ได้บัญญัติไว้ จักไม่เลิกถอนสิ่งที่เราบัญญัติไว้แล้ว จักศึกษามั่นอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ตามที่เราบัญญัติไว้แล้วอยู่ตราบใด ต้องหวังได้ความเจริญตราบนั้น ไม่มีความเสื่อมเลยฯ ภิกษุที่เป็นพระเถระที่รู้ราตรี คือที่บวชนาน ที่เป็นบิดาสงฆ์ ที่เป็นปรินายกสงฆ์ เหล่าใดมีอยู่ ภิกษุทั้งหลายจักสักการะเคารพนับถือบูชาเชื่อฟัง ภิกษุผู้เป็นเถระเหล่านั้นอยู่ตราบใด ภิกษุต้องหวังได้ความเจริญอยู่ตราบนั้น ไม่มีความเสื่อมเลยฯ ภิกษุทั้งหลายจักไม่อยู่ในอำนาจตัณหา อันทำให้เกิดอีกอยู่ตราบใด ต้องหวังได้ความเจริญอยู่ตราบนั้น ไม่มีความเสื่อมเลยฯ ภิกษุทั้งหลายจักยินดีในเสนาสนะป่าอยู่ตราบใด ต้องหวังได้ความเจริญอยู่ตราบนั้น ไม่มีความเสื่อมเลยฯ ภิกษุทั้งหลายจักตั้งสติไว้ในตนว่า ทำอย่างไรเพื่อนพรหมจรรย์ที่มีศีลน่ารักซึ่งยังไม่มาก็จักมา ที่มาแล้วก็จักอยู่เป็นสุขอยู่ตราบใดคือหวังได้ความเจริญอยู่ตราบนั้น ไม่มีความเสื่อมเลยฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อปริหานิยธรรมทั้ง ๗ นี้ จักอยู่ในภิกษุทั้งหลายอยู่ตราบใด ภิกษุทั้งหลายจักเห็นดี เห็นชอบ อยู่ในอปริหานิยธรรมทั้ง ๗ นี้ ตราบใดต้องหวังได้ความเจริญอยู่ตราบนั้น ไม่มีความเสื่อมเลย

:b8: :b8: :b8:
ที่มา http://board.palungjit.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2011, 00:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


กิเลสบางอย่างย่อมไม่ไปตามในโลก


Quote Tipitaka:
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๗๔๘ - ๗๙๘. หน้าที่ ๓๓ - ๓๕.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... &pagebreak


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2011, 00:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ผงธุลีดิน เขียน:
อยากรู้ก็ลองทายใจผมดูสิน่า ท่านหลับอยู่ :b1:



ขอเดาว่า คุณขี้เกียจ ภาวนา :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2011, 01:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ความสิ้นสุด และดับลง ย่อมเป็นอนัตตา นิพพานในความเข้าใจของผมเองก็คืออนัตตา แต่เป็นสภาวะที่ไม่มีห่วงเกี่ยวพัน ดับสูญลงไม่ไปปรากฏที่แห่งไหนอีกเลย

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2011, 02:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ผงธุลีดิน เขียน:
....
นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพพานัง ปรมัง สุญญัง
.....

นิพพาน..สุขอย่างยิ่ง....นิพพาน..ว่างอย่างยิ่ง..

ที..ปรมัง สุขัง...ยังแปลว่า...สุขอย่างยิ่ง
แล้วทำไม...ปรมัง สุญญัง...ไม่ยอมแปล...

ยังจะคงคำว่า..สูญ..อยู่อีกทำไม...ทำไมไม่แปลว่า..ว่าง

ละคุณ..นักเรียน :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2011, 07:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


จางบางลางเลือน เขียน:
เพราะตีความหมาย คำว่าอนัตตาผิดๆ จึงมีความเข้าใจว่า นิพพาน ไม่ใช่อนัตตา

และเพราะยังไม่รู้จริงว่านิพพานแท้จริงนั้นเป็นอย่างไร จึงมีความเข้าใจว่านิพพานไม่ใช่ทั้งอัตตาไม่ใช่ทั้งอนัตตา

เพราะ เข้าใจสับสน ระหว่างสมมุติ และ สมมุติบัญญัติ จึงเอามาปนเปวกวนรวมกัน

เพราะห่างพระไตรปิฎก จึงมีความเห็นไปได้ว่า นิพพานไม่ใช่อนัตตา


:b41: :b41: :b41:


อัตตาจริงๆ ไม่มี

มีเหตุเหตุปัจจัย หรือ อิทัปปัจจยตา

ตามกระบวนการปฏิจจสมุปบาทสมุทยวาร

ในเมื่อทุกอย่างเป็นเพียงกระแสเหตุปัจจัยจึงไม่มีอัตตา

อัตตาที่เรายึดเป็นเพียงอุปาทานเท่านั้น

เมื่อเกิดอัตตาที่เรายึดว่าเป็นตัวตนจึงเกิดอนัตตาขึ้นมาเพื่ออธิบายสิ่งที่ตรงข้ามกับที่คนยึดว่าเป็นอัตตา

อย่างนี้แล้วยังจะปนเปวกวนอีกหรือไม่ครับ



.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2011, 07:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
ความสิ้นสุด และดับลง ย่อมเป็นอนัตตา นิพพานในความเข้าใจของผมเองก็คืออนัตตา แต่เป็นสภาวะที่ไม่มีห่วงเกี่ยวพัน ดับสูญลงไม่ไปปรากฏที่แห่งไหนอีกเลย


จริงๆไม่มีอะไรสูญ

มิเช่นนั้นจะเข้าติดกับดักอุจเฉจทิฎฐิ

เมื่อนำไม้มาเลื่อยเป็นแผ่นเป็นท่อน แล้วประกอบเป็นโต๊ะ

ตัวโต๊ะจึงเกิดตามปัจจัยที่เรานำเอาไม้กระดานแผ่นมาต่อขาสี่ขาเข้าด้วยกัน

มาวันหนึ่ง

โต๊ะตัวนั้นถูกรื้อ

แผ่นไม่กระดานที่เป็นพื้นโต๊ะยังอยู่ ขาทั้งสี่ก็ยังอยู่ครบ

ไม่มีอะไรสูญ

แต่ตัวโต๊ะ ไม่มี

เมือนำมาประกอบเข้าด้วยกันใหม่อีกครั้ง ก็เป็นโต๊ะตัวใหม่แล้ว ไม่ใช่ตัวเก่าก่อนการรื้อ

ครับ





.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2011, 07:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
สุญญัง นั่น สุญจากกิเลส only ! หรือผงดินธุลี จะหมายเอาว่า นิพพานสูญ :b32:

มิเช่นนั้น จักขัดกับอีกหลายๆพระสูตร

และเท่าที่อ่านในพุทธพจน์ กับคำสอนหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็ไม่ได้เจอ คำว่า นิพพาน เป็นอัตตา หรืออนัตตาแต่อย่างใด!


ความหมายที่แท้จริงของนิพพานคือ

หลุดพ้นจากกิเลส


ที่ว่าสูญนั้นคือกิเลสครับ

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2011, 07:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
mes เขียน
จริงๆไม่มีอะไรสูญ

มิเช่นนั้นจะเข้าติดกับดักอุจเฉจทิฎฐิ

เมื่อนำไม้มาเลื่อยเป็นแผ่นเป็นท่อน แล้วประกอบเป็นโต๊ะ

ตัวโต๊ะจึงเกิดตามปัจจัยที่เรานำเอาไม้กระดานแผ่นมาต่อขาสี่ขาเข้าด้วยกัน

มาวันหนึ่ง

โต๊ะตัวนั้นถูกรื้อ

แผ่นไม่กระดานที่เป็นพื้นโต๊ะยังอยู่ ขาทั้งสี่ก็ยังอยู่ครบ

ไม่มีอะไรสูญ

แต่ตัวโต๊ะ ไม่มี

เมือนำมาประกอบเข้าด้วยกันใหม่อีกครั้ง ก็เป็นโต๊ะตัวใหม่แล้ว ไม่ใช่ตัวเก่าก่อนการรื้อ

ครับ

หากว่าไม่สูญ แสดงว่าพระนิพพานของพระพุทธเจ้ายังอยู่ เช่นพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ เป็นฐานะที่ขัดกับกฎของพระไตรลักษณ์

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2011, 07:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
สุญญัง นั่น สุญจากกิเลส only ! หรือผงดินธุลี จะหมายเอาว่า นิพพานสูญ :b32:

มิเช่นนั้น จักขัดกับอีกหลายๆพระสูตร

และเท่าที่อ่านในพุทธพจน์ กับคำสอนหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็ไม่ได้เจอ คำว่า นิพพาน เป็นอัตตา หรืออนัตตาแต่อย่างใด!


หลวงพ่อปากน้ำท่านเป็นพระอริยะสงฆ์

ธัมมชโยดึงท่านลงมาเล่นจนเสียหาย

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 98 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron