วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 13:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 19:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


คนเกือบหลงทาง เขียน:
คุณFLAME อะ แต่ความจริงใช้คำว่าแล้วก็ได้
แต่พรของพระพุทธองค์ก็จมาแนวๆ นางวิสาขามหาอุบาสิกา ทูลขอพรพระพุทธเจ้านั่นก็เรียกว่าพรเนอะลืมไป



ช่วยขยายความหน่อยได้มั้ยครับ smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 19:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเกือบหลงทาง เขียน:
สำหรับคุณเสียงธรรมขอความกรุณาเปลี่ยนสีตัวอักษรได้ไหมครับ มันมองแล้วมันแสบตา หรือว่าเรามันแก่แล้วหนอ


สีอันไหนครับ สีลายเซนต์หรือสีข้อความครับ ผมว่าผมใช้สีข้อความมืดสุดแล้วนะสีเขียวเข้มน่ะ มันเป็นเอกลักษณ์ครับ มีแต่สีดำก็เบี่อครับ ถ้าใช้สีจ้าไปก็แสบตาอย่างคุณว่าแหละ หรือคุณอาจปรับหน้าจอคอมสว่างไปหรือเปล่านะ

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2011, 22:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุญาติแสดงความเห็นดังนี้นะครับ

ผมมองว่าการที่พระให้พรหลังจากรับบาตรนั้น ตอนนี้ดูจะกลายเป็นธรรมเนียมไปซะแล้ว และก็คงเป็นการยาก ที่เราจะพยายามปรับเปลี่ยนประเพณีที่ปฏิบัติกันมานานจนฝังลึกจากรุ่นสู่รุ่นแบบนั้น นอกจากนี้ การบอกพระว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ถูกต้อง ก็เป็นเรื่องที่ดูจะไม่ค่อยเหมาะสมนัก

ผมมองว่าทางที่ดีที่สุดคือวางใจเราเองให้ดี อย่าให้ตัวเองคาดหวังว่าพระต้องให้พรยาวๆ หรือบทที่ชอบ อย่าปล่อยให้ใจยินดีในพรที่พระท่านให้ อย่าเพ่งโทษพระที่ให้พร อย่าเพ่งโทษพระที่ไม่ให้พร มองซะว่าเป็นเพียงประเพณีที่เรารู้ทันแล้ว ใจเราก็จะเป็นกลาง สิ่งที่เราต้องการจากการใส่บาตร คือการลดความโลภของเราเอง คือการทำนุบำรุงพระศาสนา ให้พระสงฆ์ได้บริโภคอาหารที่เราถวายเพื่อศึกษาปฏิบัติธรรมต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เหมาะสมสำหรับฐานะของเรา เป็นสิ่งที่เราทำได้ และเราทำอย่างดีแล้ว คิดแบบนี้น่าจะได้ความสุขจากการใส่บาตรทุกครั้งครับ

เป็นความเห็นส่วนตัวครับ ผมยังประสบการณ์น้อย ผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยด้วยครับ

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร