เราได้ยินคำกรอกหูบ่อยๆ ว่า ศาสนาทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี ในใจของเรายังลังเลอยู่ว่ามันเป็นจริงหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วในโลกนี้ก็คงมีคนดีเต็มโลกแล้วซี แต่นี้ไม่ใช่ไม่เห็นเป็นเช่นนั้น เช่นคำที่ว่า "ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี" เราคิดว่าเพราะความที่เข้าใจกันไม่ได้ เข้ากันไม่ได้ ในคำสอนและการปฏิบัติในแต่ละศาสนาที่แตกต่างกัน และตนเองก็ไม่เข้าใจศาสนาด้วยซ้ำไป จึงปลอบขวัญเอาใจกันเพื่อให้อยู่กันได้มากกว่า จึงพูดคำนี้ออกมา

ศาสนาก็เหมือนพ่อแม่นั่นแหละ พ่อแม่แต่ละคนก็สอนให้เป็นคนดี แต่บางคนก็ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ก็มีทั้งลูกดีบ้างลูกเลวบ้าง เป็นธรรมดา (เอาตามศาสนาที่สอนไม่ให้คนทำชั่วนะ)

น่าจะเป็นเรื่องจริงนะครับ แต่ว่าบทลงโทษนั้นกลับแตกต่างกันอย่างลิบลับตามความเชื่อในศาสนานั้นๆ อย่างพุทธศาสนาเรานั้น ศีล5 ถ้าทุกคนยึดถือปฏิบัติก็เพียงพอที่จะทำให้สังคมเกิดความสุขสงบ แต่หากทำผิดในข้อใดข้อหนึ่งพุทธเราไม่มีบทลงโทษโดยน้ำมือของตัวศาสนา แต่ผลของการกระทำย่อมได้รับคืนมาไม่วันใดก็วันหนึ่งไม่อาจเลี่ยงได้โดยกฏของปฏิจจสมุปบาท ผิดถูกอย่างไรขออภัยมา ณ ที่นี้

คำว่า "เป็นคนดี" มีความแตกต่างกันไปตามใจความของแต่ละศาสนา
เช่นชาวตะวันตก การล่าสัตว์ ถือว่าไม่บาป ไม่ผิด เพราะสัตว์เป็นอาหาร อย่างนี้ ก็เรียกว่าว่า"เป็นคนดี" ในเงื่อนไขของศาสนาหนึ่ง แต่"เป็นคนไม่ดี" ในเงื่อนไขของอีกศาสนาหนึ่ง

ถ้าเราเอามาตรฐานศาสนานี้ ไปวัดในคนในศาสนาโน้น มันก็จะเป็นปัญหา
ความ "เป็นคนดี" ในเงื่อนไขของชาวพุทธของเรา มีว่าอย่างไร ให้เราคุยไปตามนั้น

ขอเชิญชวนว่า สิ่งที่เราพูดคุยในเว็บนี้ เป็นสาธารณะ
ควรหลีกเลี่ยงการคุยเรื่องของศาสนาอื่น แม้ว่าจะมีจุดประสงค์เพื่อหาความรู้ หรือจุดประสงค์ดีปานใดก้ตาม
แต่ถ้าต้องการคุยเรื่องพวกนี้ ควรคุยเป็นการส่วนตัว การภายใน

คำว่า "คนดี" ในศาสนาพุทธเรา คือคนที่เป็น "สัปบุรุษ"
"สัปบุรุษ " คือคนที่ถือ "สัปปุริสธรรม"

การพูดตามหลักสัปปุริสธรรม 6 นั้น
สัปบุรุษ พึงควรรู้จักตนเอง รู้จักผู้ฟัง รู้จักสถานที่จะพูด รู้จักเรื่องที่จะพูด และเวลาที่ควรพูด
จึงจะนับว่า "สัปปบุรุษ"
อย่างพระพุทธเจ้าของเรา ท่านเลือกเรื่องที่จะพูด เลือกคนที่จะพูดด้วย เลือกเวลาที่จะพูดด้วย

แม้ว่าท่านมีเรื่องที่เป็นประโยชน์มากมายเต็มพระทัย แต่ว่า ถ้าสถานที่ไม่เหมาะ ผู้ฟังไม่เหมาะ ท่านจะไม่พูด
เราควรเจริญรอยตามท่าน

แต่คนสมัยนี้ พากันเชื่อว่า "เราต้องพูดความจริง" "ถ้าเป้นความจริงแล้ว เราต้องพูด" อะไรทำนองนี้
เพราะเชื่อว่าการพูดความจริงคือประโยชน์ คือวีรกรรม คือสิ่งสมควร
แต่ไม่ได้เฉลียวใจกันนักว่าเป็นประโยชน์ที่มีโทษ เป็นวีรกรรมที่มีต้นทุน มีผลกระทบ
เป็นคนดีที่สร้างความเดือดร้อน ซึ่งเข้าทำนอง "ทำดีได้ชั่ว"

"การทำดีได้ชั่ว" เป็นเรื่องผิดปกติในมาตรฐานของพระพุทธเจ้า
กล่าวคือ "ทำดี ต้องได้ดี" ทำกุศล ต้องไำด้กุศล
ไม่มีทางที่ทำกุศล จะกลายเป็นอกุศลไปได้

ถ้าเราคิดว่าเราทำดี ต้องคอยสังเกตุด้วยว่า มันให้ผลเป้นความดี ความสุข หรือเปล่า
ถ้าให้ผลเป็นความเดือดร้อน เราต้องมาพิจารณา "ความดี" ของเราใหม่ ว่ามันผิดพลาดตรงไหน

รู้แต่ว่า ศาสนาพุทธ สอนเรื่อง อนัตตา
การไม่มีตัวตน การไม่ใช่ตัวตน
การเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป แห่งขันธ์ทั้งหลาย

ทั้งรูปธรรม และนามธรรม เกิดขึ้นตั้งอยู่ และดับไป
ด้วยความรวดเร็ว ยิ่งกว่าสิ่งใดๆ
รูปที่เราเห็นเป็นกลุ่มเป็นก้อน แท้จริงแล้วมีลักษณะโปร่ง แทรกด้วยอากาศธาตุ
คือ ทะลุได้นั่นเอง
ถ้าทะลุไม่ได้ อิเลคตรอนคงวิ่งผ่านไม่ได้ รังสีต่างๆ คงผ่านไม่ได้

เพราะภาพที่ออกมาสวนกับคำพูด เลยเกิดความสงสัยว่าศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีจริงหรือ เช่นภาคใต้ หรือแถวๆๆตะวันออกกลาง ศาสนากับเป็นเครื่องมือสร้างความรักความสามัคคี แต่ทุกวันนี้คนกลับเอาศาสนาเป็นเครื่องมือสร้างความแตกแยก

คนมัน..ขี้ติดตูด...จะสวมเสื้อผ้า..ทำหน้าผมดีปานใด....มันก็เหม็นอยู่วันยังค่ำ

แล้วก็เจือก..ไปโทษเสื้อผ้า

มันหน้ามั้ยละ..

ศาาสนาเหมือนฝนทั่วฟ้า
ใจคนเหมือนภาชนะ มีรั่ว-มีผุ มีกว้าง-มีแคบ รองรับน้ำฝนไว้ได้ไม่เท่ากัน

เวลาทะเลาะกัน ปากก็ว่าทะเลาะกันเรื่องฝนทั้งฟ้า
แต่ความรู้ที่เอามาทะเลาะกัน มันก็เป็นเพียงน้ำในภาชนะของตน

คำสอนประเภทหนึ่ง สอนให้เว้นการฆ่า คำสอนประเภทหนึ่ง(คือศาสนา) สอนให้ฆ่า คำสอนทั้งสองอย่างเขาก็เรียกว่า คำสอน เราจึงมีความมั่นใจว่า ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนดีเหมือนกันนั้นไม่จริง เป็นเพียงคำพูดปลอบประโลมใจเท่านั้น นี้แค่เป็นตัวอย่าง และยังมีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ซ่อนเร้นอีกมากมายในภายใน
เพราะว่าลึกๆแล้ว ผู้นำองค์กรศาสนาบางพวกต้องการให้ได้คนมาเป็นขึ้ข้าบำรุงบำเรอตนให้อยู่ดีกินดีเท่านั้น มองอย่างนี้อาจข่อนข้างติดลบไปหน่อยก็จริง แต่มันก็ต้องยอมรับว่ามันมีอยู่จริงๆ ในโลกนี้

ใช่ครับที่ว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีนั้นไม่จริง

บางศาสนาก็บอกให้ฆ่าสัตว์บูชายัญ
บางศาสนาก็สอนให้เสพกาม แล้วจะหลุดพ้นเพราะเสพกาม
บางศาสนาก็สอนให้ทรมานตน
บางศาสนาก็สอนให้เป็นชีเปลือย
บางศาสนาก็สอนให้บูชาผีสาง บูชาเปรต
บางศาสนาก็สอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากมีผู้มีอำนาจบันดาล แสดงว่าคนจะดีจะชั่วก็เกิดจากผู้มีอำนาจบันดาล
บางศาสนาสอนว่าทุกอย่างเกิดจากกรรมเก่าบันดาล
บางศาสนาสอนว่าทุกสิ่งอย่างเป็นสิ่งขาดสูญ ไม่มีดีไม่มีชัวไม่มีกรรม อันนี้มิจฉาทิฏฐิขั้นรุนแรง
และ............................